|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Here Comes Metal: Incredible Metal Album of the Year 2005 (Part III)
Sentenced-The Funeral Album (Gothic metal/rock)
สรรพเสียงท่อนริฟกระชากวิญญาณกับเทมโปและโซโล่ชวนโยกหัวของ May Today Become The Day เพลงเปิดอัลบั้มก็โคตรจะร็อคเลยครับ เพลงถัดมา (Ever-Frost) ก็ได้อารมณ์ต่อเนื่องอย่างยิ่ง ก่อนที่จะผ่อนลงด้วย We Are But Falling Leaves บัลลาดเศร้า ๆ ที่คืออีกหนึ่งบทกวีของเมทัเฮด อัลบั้มนี้สดจริง ๆ ครับ สำหรับขุนพลเมทัลหัวหอกจากฟินแลนด์วงนี้พวกเขายังคงซาวน์ดที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์อยู่เสมอตั้งแต่พวกเขาหันหลังให้กลับเดธเมทัลแล้วมาเอาดีกับเมทัลสาขานี้ ดนตรีมีส่วนผสมของ emotion และซาวน์ดแห่งความมืดหม่นในแบบฉบับของพวก goth ครับ ระหว่างที่ฟังได้อารณ์เคลิ้มอยู่ดี ๆ พวกเขากลับเล่นสนุกหรืออย่างไรไม่ทราบแม่งพอขึ้นเพลง Where Waters Fall Frozen เท่านั้นล่ะครับดนตรีอัดกระหน่ำกันเป็นเมโลดิกเดธ/แบล็คกันเฉยเลย แต่ก็แค่ห้าสิบเก้าวินาทีเท่านั้นครับ เพราะหลังจากนั้นเสียง Harmonica ก็แว่วเข้ามาในอินโทรของเพลงถัดมา (Despair-Ridden Hearts) ที่เป็นเฮฟวี่เมทัลเยี่ยม ๆ เพลงหนึ่งในอัลบั้มครับ กีตาร์โซโล่เด็ด ๆ ยาวพอควรให้อารมณ์ฮึกเหิมใช่ย่อย พวกเขาเป็นวงชั้นหัวแถวที่แข็งแกร่งมาก ๆ ของ Century Media ในเวลานี้ครับและ The Funeral Album ก็คืองานเมทัลเจ๋ง ๆ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมของ 2005 ครับ
Sentenced ออกงานเดโมแรกในสไตล์เดธเมทัลเมื่อปี 1990 โน่นแน่ะครับ จนปัจจุบันรวมสิบห้าปีที่พวกเขาเดินบนเส้นทางสายเมทัลหนักกระโหลกจนกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดวงเมทัลระดับตำนานจากดินแดนไวกิ้ง เป็นที่น่าเศร้าอย่างยิ่งครับที่อัลบั้มนี้คืออัลบั้มสุดท้ายของพวกเขาเพราะหลังจากนี้ไปแล้วพวกเขาจะก็จะยุบวงกันแล้วครับ แทร็คสุดท้ายของอัลบั้ม End Of The Road อันแสนมืดหม่นในแบบ gothic/doom metal ก็คือสิ่งที่พวกเขาอยากจะบอกลานั่นเองครับ นับได้ว่าเป็นการก้าวลงจากบัลลังก์ที่สง่างามยิ่งนักกับงานระดับมาสเตอร์พีซที่คุณ ๆ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดทั้งเพื่อความบันเทิงแก่หูเหล็กของคุณและเพื่อเป็นความทรงจำที่ดีครับ
Cryptic Wintermoon-Of Shadows...And The Dark
อัลบั้มลำดับที่สามของวงแบล็คเมทัลหกชิ้น (ห้าหนุ่มกับหนึ่งสาวสวย) จากเยอรมัน ซึ่ง จริง ๆ แล้วผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับวงนี้เท่าไหร่นักครับ แต่หากพูดถึงดนตรีที่พวกเขาทำออกมาแล้วล่ะก็ อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ฟังง่ายซาวน์ดเคลียร์คมชัด ไม่รกชัฏปั่นยิก ๆ โหดเหี้ยมเหมือนพวกโอสคูลด์ฟาสต์ครับ ดนตรียืนกรานด้วยรากฐานแบบเฮฟวี่/แธรชเมทัลริฟครับ จริง ๆ แล้ววงนี้ซาวน์ดกระเดียดไปทาง melodic/symphonic black metal ซึ่งเป็นที่มาหลัก ๆ จากเสียงคีย์บอร์ด ที่ช่วยให้หูของคุณผ่อนคลายได้อย่างดีเยี่ยมครับ ผมเองก็ไม่อยากเฉพาะเจาะจงลงไปขนาดนั้นครับว่าเป็นแนวอะไรแน่ 12 เพลงในอัลบั้มมีทั้งเร็ว ปานกลาง และช้าปะปนกันไปครับ เสียงร้องแบบเคลียร์ก็มีอยู่ทั่วไปรวมถึงกลิ่นไอของพวก Goth จากเสียงร้องของมือคีย์บอร์ดสาวฟังแล้วไม่เอียนครับ ที่ฟังแล้วรู้สึกติดหูก็มีอยู่สี่ห้าเพลงครับเช่น Thrashomanic Overdrive (ช่ายครับอิทธิพลของดนตรีแธรชแจ่ม ๆ ก็เพลงนี้ล่ะ)Where The Oceans Melt Eternity, Heavy Armed Assault, Bonegrinder 1916 (เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สาม) และ Gave Without A Name โดยคร่าว ๆ แล้วอัลบั้มนี้ถือว่าเป็นงานเมทัลระดับคุณภาพครับ แม้ว่าชื่อเสียงของทางวงจะไม่โด่งดังอะไรมากทั้ง ๆ ที่ออกผลงานมาถึงสามอัลบั้มแล้ว แต่แนะนำมา ณ ที่นี้ก็เพราะเป็นงานดนตรีที่น่าถวิลหานั่นเองครับ
Nevermore - This Godless Endeavor (Nevermore metal style)
ปี 2005 นับได้ว่าเป็นปีทองของพวกเขาเลยครับ วงจากซีแอตเทิ้ลวงนี้ได้รับการวิจารณ์ในทางบวกอย่างกว้างขวางสำหรับอัลบั้มล่าสุดนี้ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกที่ได้ Steve Smyth (ex-Testament, Dragonloard) มารับตำแหน่งมือกีตาร์ ผมเองไม่สามารถระบุได้ว่า Nevermore อยู่ในเมทัลสาขาใด เพราะว่าซาวน์ดของพวกเขามีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร Warrel Dane ยังคงยึดหลักการร้องในสไตล์เคลียร์แบบเมโลดิก/เพาเวอร์ที่ให้ความสำคัญกับการคอรัสอยู่ตลอดเช่นเคยครับ ขณะที่ดนตรีนั้นยืนพื้นด้วยเมโลดิกแธรช โพรเกสซีฟที่มีเทคนิคซับซ้อน ไปจนเดธเมทัลดุ ๆ ที่บรรจุไปด้วยริฟกีตาร์แปดร้อยเล่มเกวียน ดนตรีโดยเฉพาะภาคกีตาร์ริฟหนา ๆ ตึ๊บ ๆ ที่ซับซ้อนขโยกกันไปมาระหว่าง กับ Steve Jeff (Loomis) สร้างสีสรรค์ได้อย่างเยี่ยมยอด ขณะที่กระเดื่องโหดของ Van Williams นั้นทำให้ดนตรีดุดันขึ้นไม่เลี่ยนเอียนไปกับเมโลดี้ที่มีอยู่ตลอดทั่วพื้นที่อัลบั้มครับ Godless นี้มาแปลกครับเพราะว่ามีเพลงบัลลาดด้วยในแทร็คที่ห้า (Sentient 6) และแปด (Sell My Heart For Stones) ซึ่งทำได้เจ๋งเป้งเลยทีเดียวครับ ส่วนเพลงไตเติ้ลแทร็คเป็น epic metal ความยาวเก้านาที น่าจะเป็น abstract ของอัลบั้มก็ว่าได้ Godless Endeavor คืองานมาสเตอร์พีซอย่างไม่มีข้อกังขาครับ ไม่เชื่อลองได้ด้วยตัวคุณเองครับ
Despised Icon-The Healing Process (Deathcore/grindcore)
อัลบั้มสุดมันส์จากหกหนุ่มเมทัลเฮดไฟแรงแห่งประเทศแคนาดาที่เติบโตมากับดนตรีฮาร์ดคอร์และเดธเมทัล ดนตรีของพวกเขาจึงเป็นประเภท deathcore โจ๊ะ ๆ แต่ผสมผสานความอลหม่านอื้ออึงในท่วงทำนองแห่ง grindcore หากคุณนึกไม่ออกก็ลองนึกถึงวงอเมริกันอย่าง Dying Fetus หรือSkinless ได้ครับ อัลบั้มนี้มีความเข้มข้นทั้งด้านเนื้อหาและดนตรีครับ น้องร้องนำสองคนผลัดกันแหกปากสำรอกในแบบฮาร์ดคอร์และเดธเมทัล/ไกรน์ด ดนตรีก็เช่นกันครับนอกจากจะมีท่อนริฟโจ๊ะ ๆ มันส์ ๆ อย่างฮาร์ดคอร์แล้ว ยังผสมผสานไปด้วยเทคนิคัลบรูตัลเดธ/ไกรน์ดที่มากฝีมือครับ พวกเขาเริ่มโด่งดังมาจากการเป็นวงอันเดอร์กราวนด์และออกอัลบั้มมาแล้วสี่ชุดด้วยกัน อัลบั้มล่าสุดนี้เข้ามาอยู่กับสังกัดใหญ่อย่าง Century Media ทำให้ทางวงเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในหมู่เมทัลเฮดและฮาร์ดคอร์ครับ ดนตรีจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพวก mosher โดยความคิดเห็นของผมนะ ดนตรีประเภทนี้ดูแล้วมันจิ๊กโก๋ ๆ ยังงัยไม่รู้ว่ะเหมือนพวกหาแนวทางของตัวเองไม่เจออะไรประมาณนั้น อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับพวกที่ชอบอวดอ้างว่ากุของแท้เก๋าเกมส์.....อืม....ใครเกลียดก็เกลียดไปละกันแต่ให้ตายเหอะผมโคตรชอบเลยครับ
Deathchain-Deatharsh Assault (Thrash/death metal)
God Dethroned The Lair Of The White Worm (Death metal)
ขุนพลเดธเมทัลจากฮอลแลนด์ที่โผล่ขึ้นมาจากนรกตั้งแต่ช่วงยุค 90 ออกผลงานเจ๋ง ๆ มาหลายอัลบั้มด้วยกันเล่นกันหลุด ๆ รั่ว ๆ ให้เค้าด่ากันมาก้หลายครั้งเช่นกัน กระทั่งอัลบั้ม Into The Lungs Of Hell ที่ออกมาเมื่อ 2003 นั้นทำให้ Metallurgist เริ่มทำความรู้จักกับพวกเขามากขึ้นเพราะอัลบั้มมาสเตอร์พีซดังกล่าวนั้นมันคือสุดยอดแห่งเดธเมทัลที่สาวกกระโหลกเหล็กต้องก้มหัวคาราวะอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และแล้วในปีนี้เองพวกเขากลับมาพร้อมกับความสด โหด และเก๋าเกมส์อีกครั้งกับ The Lair Of White Worm ภายใต้ชายคาของ Metal Blade Records เช่นเคยครับ มีการเปลี่ยนแปลงไลน์อัพกันบางส่วนครับ อัลบั้มอาร์ทเวิร์คขาว ๆ เนียน ๆ นี้อวบอิ่มไปด้วยดนตรีแห่งความตายท่ามกลางความมืดหม่น การเลือก Nihilism ให้เป็นเพลงเปิดอัลบั้มนั้นคือกลยุทธ์พิชิตใจสาวกได้อย่างดีเยี่ยมด้วย double kick ที่ทำให้ผมจุกอกสมองเต้นตึ๊บ ๆ ไปได้พักใหญ่ก่อนจะหายมึนแล้วใช้สมาธิในการฟังอยางตั้งอกตั้งใจครับ เกือบทุก ๆ เพลงในอัลบั้มตัวหนอนนี้เป็นเดธเมทัลโหด ๆ แต่แฝงไปด้วยเมโลดี้และโซโล่งาม ๆ เพียบ ๆ ไว้ให้ได้หายใจหายคอกันครับ เนื้อหาสาระนั้นก็มีปะปนคละเคล้ากันไปทั้งการทำลายล้าง สงคราม ประวัติศาสตร์ epic และศาสนา ด้านมืดอะไรประมาณนั้น ถึงแม้จะไม่ได้จรรโลงสร้างสรรค์สังคม แต่ก็อย่าไปสนใจมันครับ ดนตรีแน่นไปด้วยฝีมือโปรดักชั่นเจ๋งแบบนี้คืออีกหนึ่งงาน Death Metal of the Year อย่างไม่ต้องใช้เส้นสาย นอกจากนี้ช่างน่าภูมิใจยิ่งนัก ผมซื้อซีดีอัลบั้มนี้มาจากร้านมือสองแค่ครึ่งราคาเองรักโคตร ๆ ครับ
PS: This blog is under the construction of a variety of metal stuffs such as The Black Dahlia Murder, Cephalic Carnage, Kill The Client, Cryptopsy, In Flames, Act Of God, The Gatthering, Sonata Actica and many more.
Create Date : 05 ธันวาคม 2548 |
|
9 comments |
Last Update : 15 ธันวาคม 2548 1:08:42 น. |
Counter : 1151 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Nutjung 14 ธันวาคม 2548 21:25:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก๊วกกี้ IP: 210.246.70.31 14 ธันวาคม 2548 21:38:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Doraemyung IP: 58.10.7.21 14 ธันวาคม 2548 23:46:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: saaxx IP: 202.5.83.15 15 ธันวาคม 2548 0:33:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: blueframe IP: 61.7.138.109 15 ธันวาคม 2548 16:23:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: blueframe IP: 61.7.138.109 15 ธันวาคม 2548 16:23:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nutjung 17 ธันวาคม 2548 2:32:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|