ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 5)
โดย merveillesxx
PART 1 PART 2 PART 3 PART 4
ข้อความต่อไปนี้ COPY มาจากกระทู้ //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=22781
24 OCT 2005
หนังที่ได้ดูวันนี้
1. Naruto the Movie (2004, Tensai Okamura, B+) เป็นหนังการ์ตูนที่สนุกดี เหมาะกับคนที่ชอบอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ / เด็กมาดูเยอะมาก สำหรับท่านที่หวาดผวาเด็กเล็กกรุณาหลีกเลี่ยงไปดูรอบที่คนเขาไม่ค่อยมาดูกัน
2. Flightplan (2005, Robert Schwentke, A) หนังเรื่องนี้ดีมาตลอด เสียดายว่ามุกเฉลยของหนังดู คิดการใหญ่ ไปหน่อย / สิ่งที่ชอบในหนังก็คือการเล่นกับ สถานที่
3. The Wayward Cloud (2005, ไฉ้หมิงเลี่ยง, ไต้หวัน, A+++++++++++++++++++++++++)
//www.worldfilmbkk.com/films/index.php?cid=01&id=110
-- วันนี้ตอนแรกคาดว่างานในวันนี้จะต้องวุ่นวายแน่ๆ เพราะมันเป็น Closing film ซึ่งฉายในโรงใหญ่ คนดูมากมาย แต่ก็ผิดคาด เพราะไม่มีเหตุการณ์อะไรมากวนใจเท่าไร แล้วหนังก็ฉายไม่เลทมากด้วย แต่ที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ คนดูที่เดินสวนสนามเข้าออกโรงเป็นว่าเล่น
-- ก่อนจะเข้าโรงเจอพี่ไฉ้ในระยะใกล้ 0.01 เซนติเมตร อยากเข้าไปขอลายเซ็นเหมือนกัน แต่คนรุมล้อมพี่แกเยอะพอควร แต่ที่ฮาก็คือ แว่นดำที่พี่แกใส่มานั่นแหละ ไม่รู้ไม่มีใครเตือนแกบ้างหรือยังไงว่ามันไม่ได้เข้ากับหน้าแกสักเท่าไร
-- ก่อนจะฉายหนังก็มีการพูดคุยกับ ไฉ้หมิงเลี่ยง เล็กน้อย เรื่องที่น่าสนใจก็ เช่น
1. พี่ไฉ้บอกว่าก่อนจะเข้ามาในโรงมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เขามากมาย แล้วเขาก็บอกนักข่าวทุกคนว่า This film is DANGEROUS (ฮา) 2. พี่ไฉ้ได้ดูหนังบางเรื่องในเทศกาล เขาบอกว่าชอบหนังสั้น TSUNAMI มาก เขาดีใจที่เมืองไทยมีผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้
3. The Wayward Cloud ได้ฉายในไต้หวันโดยไม่มีการตัดทอนหรือเซนเซอร์แม้แต่นิดเดียว
4. เขาบอกว่าคนไต้หวันค่อนข้างจะ conservative มากกว่าคนไทย เพราะฉะนั้นคนไทยน่าจะรับได้กับหนังเรื่องนี้ และเขาหวังให้ The Wayward Cloud ฉายให้คนไทยดูในโรงทั่วไปด้วย (พี่ไฉ้คงต้องรออีกนานหน่อยล่ะครับ แหะแหะ)
ส่วนหลี่คังเซิง ที่ท่าทางดูเมาๆ (สงสัยตื่นคน) ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเท่าไร (ขอยืนยันว่าเขายังไม่ได้เป็นใบ้ เขายังพูดได้ตามปกติ) ส่วนใหญ่ก็พูดอะไรไปตามพิธี แต่ตอนจบก็แอบน่ารักพูดคำว่า ขอบคุณครับ (แต่ดาราต่างชาติคนไหนที่มาไทยแล้วพอกลับไปยังพูดคำว่า ขอบคุณครับ ไม่เป็น นี่ต้องพิจารณาตัวเองอย่างด่วน)
-- พูดถึงตัวหนังแล้ว การดูใน The Wayward Cloud ในโรงใหญ่ (ซึ่งโรงนี้มันใหญ่ก็จริง แต่ไหงจอก็มันเล็กๆ หว่า) ถือเป็นการปิดเทศกาลหนังที่สวยงามมาก เพราะนี่เป็นหนังที่ผมชอบสุดๆ
-- ได้ดูหนังของพี่ไฉ้ยังไม่ครบทุกเรื่อง แต่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังที่ดูง่ายที่สุดของเขาแล้ว แถมมันยังดูสนุกมากด้วย (แม้จะยังมีฉากแช่กล้องอยู่มากมายก็ตาม)
-- อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่ฮาแตกสุดๆ แล้วก็ดันมีฉากร้องเพลงแทรกอยู่เป็นระยะ แต่เข้าใจว่าธีมของหนังพี่ไฉ้ของยังไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การพูดถึงสภาพสังคมคนเมืองใหญ่
-- สิ่งที่รุนแรงที่สุดของหนังเรื่องนี้คือ ฉากจบ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่จุกอก (บางคนอาจจะ จุกปาก) ทั้งอึดอัด ตลก และเศร้า ตอนแรกผมก็รู้สึกสับสนทางอารมณ์มากกับฉากนี้ แต่พอเพลง The Wayward Cloud ขึ้นมาตอนท้าย ผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่าผมรู้สึก เศร้า (อย่างรุนแรง)
-- Many audience members left the theater during the final scene at the Berlin International Film Festival's screening. (imdb.com)
-- นี่เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของ เฉิงเซียงฉี (นางเอก) ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้ได้ (เข้าใจว่าเธอเก็บกดจากการเล่นบทใบ้ๆ ในหนังของพี่ไฉ้มานาน เรื่องนี้เธอเล่นปล่อยพลังสุดฤทธิ์สุดเดช)
-- ส่วนตัวประกอบที่เป็น พยาบาลนมยักษ์ ก็น่ายกรางวัล ตัวประกอบสปิริตแรงกล้าแห่งปีให้เธอไปเลย
-- หนังจากดู The Wayward Cloud ไปแล้ว ทำให้
1. เวลากินแตงโมแล้วจะจินตนาการอะไรแปลกๆ
2. รวมถึงเวลาเห็นลูกแตงโมตามตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย
3. ต่อจากไปนี้พูดคำว่า แตงโม จะไม่ได้นึกถึง แตงโม-ภัทรธิดา เป็นอย่างแรก แต่จะนึกถึงหนังเรื่อง The Wayward Cloud ก่อน
4. ไม่ค่อยอยากกินแตงโม (เฉพาะอันที่เป็น ผลไม้ ไม่ใช่อันที่เป็นดารา) 5. เวลาดูหนังโป๊ญี่ปุ่นแล้วต้องปิดเสียง
-- ต่อไปนี้เป็นการรวบรวมฉากที่ชอบในหนังเรื่อง The Wayward Cloud
**********แน่นอนมี SPOILER*********
1. ฉากต้นเรื่อง ตำแหน่งของแตงโมที่ไม่คิดเลยว่ามันจะไปอยู่ตรงนั้นได้
2. ฉากน้ำแตงโมละเลงหน้าพยาบาลสาว (นี่เป็นการกัดหนังโป๊ญี่ปุ่นที่ฮาและแสบมาก)
3. แล้วอยู่ดีๆ พระเอกก็เอาแตงโมไปใส่หัว ในขณะที่กำลังร่วมรัก (มันช่วยอะไรได้เหรอ?)
4. หลี่คังเซิงกลายร่างเป็นมังกร (????)
5. ยิ่งไปกว่านั้นพี่หลี่ยังต่อด้วยการใส่กระโปรงเต้นระบำ (!)
6. ต่อด้วยระบำร่มแตงโม
7. และปิดท้ายด้วยระบำกระจู๋ยักษ์!
8. คิโยชิ คุโรซาว่า (Bright Future) จะคิดอย่างไรกับฉากแตงโมลอยน้ำ?
9. ฉากสุดโรแมนติกกับการสูบบุหรี่ด้วยเท้า (ซึ่งลบเลือนฉากสูบบุหรี่ทั้งหลายในหนังของหว่องกาไวไปเลย)
10. การสูบบุหรี่ทำให้ท้องได้ เพราะหลังจากนั้นนางเอกเธอก็คลอดลูกออกมาเป็นแตงโม
11. แต่จริงๆ แล้วเธอาจจะท้องเพราะไปเลียเปลือกแตงโมในตู้เย็นมากกว่า
12. ฉากที่พระนางไล่จับปูในห้อง นี่คือฉากที่ โหวกเหวกโวยวาย มากที่สุดเท่าที่เคยมามีในหนังพี่ไฉ้
13. ผัดหมี่ไฟลุก (เพราะความรักอันเร่าร้อนหรือนี่?)
14. พยาบาลสาวกำลังช่วยตัวเอง มองไกลๆ นึกว่าเธอกำลังใช้ดิลโด้ แต่ความจริงมันคือ ขวดพลาสติก
15. แล้วฝาขวดเจ้ากรรมก็ดันเข้าไปติดข้างใน (!)
16. ฉากที่นางเอกจ้องทีวีดูหนังโป๊ที่พระเอกเล่น พี่ไฉ้ใจร้ายมากที่ลองเทคฉากนี้ เพราะเข้าใจว่านางเอกอาจจะตาเหล่ไปสองวัน
17. นักแสดงหนังโป๊มืออาชีพ แม้นางเอกหนังจะเป็นลมหมดสติ เราก็สามารถถ่ายหนังต่อได้
18. ใบหน้าของหลี่คังเซิงในช่วงใกล้ฉากจบ
19. เฉิงเซียงฉีที่ยืนมองพระเอกอยู่ที่หน้าต่าง แล้วอยู่ดีๆ เธอก็ของขึ้นร้องโหยหวนขึ้นมา
20. ฉากจบที่นางเอกร้องไห้ออกมา แม้ว่าจะยังมีอะไรคาปากอยู่ก็ตาม (สุดยอดมาก ฉากนี้)
-- ดูหนังจบแล้วก็เลยเข้าใจเลยว่าทำไมพี่ไฉ้ถึงไม่ยอมอยู่ Q&A เพราะคงมีคำถามมากมายล้านแปดที่คนดูอยากถาม และตอนออกมาก็เห็นนักข่าวมากมายรุมทึ้งพี่แก และหลี่คังเซิงอยู่หน้าโรง
-- BIOSCOPE เล่มที่เคยลงเรื่องของ The Wayward Cloud คือ เล่มที่ 40, 41 และ 46
mer' ADORABLE ACTOR หลี่คังเซิง (The Wayward Cloud)
mers ADORABLE ACTRESS เฉิงเซียงฉี (The Wayward Cloud)
mers ADORABLE DIRECTOR ไฉ้หมิงเลี่ยง (The Wayward Cloud)
mers ADORABLE ENDING SCENE The Wayward Cloud
สรุป
เทศกาล 3rd World Film Festival of Bangkok ได้ดูหนังยาวทั้งหมด 30 เรื่อง หนังสั้น 27 เรื่อง ขอสรุปอันดับความชอบต่อหนังทั้งหมดดังต่อไปนี้ (จากมากไปน้อย)
**เกรดหนังอาจจะเปลี่ยนไปจากที่เคยให้ในครั้งแรก และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเสมอในภายภาคหน้า
-หนังยาว-
01. 4 (2004, Ilya Khrzhanovsky, รัสเซีย, A++++++++++)
02. The Wayward Cloud (2005, ไฉ้หมิงเลี่ยง, ไต้หวัน, A+++++++)
03. Battle in Heaven (2005, Carlos Reygadas, เม็กซิโก, A+)
04. Freak Orlando (1981, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)
05. Angels Fall (2004, Semih Kaplanoglu, ตุรกี, A+)
06. The Forsaken Land (2005, Vimukthi Jayasundara, ศรีลังกา, A+)
07. The Moustache (2005, Emmanuel Carrere, ฝรั่งเศส, A+)
08. It's All Gone Pete Tong (2004, Michael Dowse, อังกฤษ, A+)
09. Dorian Gray in the Mirror of Yellow Press (1981, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)
10. Madame X: An Absolute Ruler (1977, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)
11. Grand Voyage (2004, Ismael Ferrouji, โมร็อคโค, A+)
12. Innocence เด็กโต๋ (2005, นิสา คงศรี + อารียา ชุมสาย, A+)
13. Bens Biography (2003, Dan Wolman, อิสราเอล, A+)
14. The Imp (2005, Tomas Vorel, สาธารณรัฐเช็ค, A)
15. The Shop on the Main Street (1965, Elmar Klos + Jan Kadar, สาธารณรัฐเช็ค, A)
16. And the Fifth Rider is Fear (1964, Zbynek Brynych, สาธารณรัฐเช็ค, A-)
17. I Am A S-e-x Addict (2005, Caveh Zahedi, อเมริกา, A-)
18. Girlie (2002, Benjamin Tucek, สาธารณรัฐเช็ค, A-)
19. The Girl with the Red Scarf (1977, Atif Yilmaz, ตุรกี, A-)
20. The Tenth Planet: A Single Life in Bagdad (2004, Melis Birder, ตุรกี, A-)
21. Not on the Lips (2003, Alain Resnais, ฝรั่งเศส, B+)
22. New Life (2005, Brice Pedroletti, ญี่ปุ่น-ฝรั่งเศส, B+)
23. Larks on a String (1968, Jiri Menzel, สาธารณรัฐเช็ค, B)
24. The Journey (2005, Ligy J. Pullappally, อินเดีย, B)
25. In Transit (2004, Berke Bas, ตุรกี, B)
26. Werner at Work (2005, Beat Prssser, สวิตเซอร์แลนด์, B)
27. Heart of Jesus (2004, Marcos Loayza, โบลิเวีย, B-)
28. Gallipoli (2005, Tolga Ornek, ตุรกี, C+)
29. Twelve Chairs (2004, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, ?) งดแสดงความคิดเห็น เพราะไม่มีซับไตเติ้ล
30. Johanna dArc of Mongolia (1989, Ulrike Ottinger, ?) งดแสดงความคิดเห็น เพราะไม่มีซับไตเติ้ล
-หนังสั้น-
01. Afternoon ยามบ่าย (2005, ภูพาน สรวิศมงคล, A+++++++)
02. Tsu สึ (2005, ปราโมทย์ แสงศร, A+)
03. Tune In สุดทางรัก (2005, พิมผกา โตวิระ, A+)
04. After Shock วันฟ้าสวย (2005, ธัญสก พันสิทธิวรกุล, A+)
05. To Infinity & Beyond ลอยฟ้า (2004, สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์, A+)
06. Vous Vous Souviens de Moi? วันที่ฝนตกลงมาเป็นคูสคูส (2005, ธัญสก พันสิทธิวรกุล, A+)
07. Tits & Bums นมตูด (2005, สันติ แต้พานิช, A+)
08. Adaman อันดามัน (2005, สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์, A+)
09. Opportunities โอกาส (2005, นิติพงศ์ ถิ่นทัพไทย, A+)
10. Relativity plus quantum สัมพัทธภาพบนความไม่แน่นอน (2004, ศาสตร์ ตันเจริญ, A)
11. Smiles of the Fifth Night รอยยิ้มในคืนที่ห้า (2005, สนธยา ทรัพย์เย็น, A)
12. Ghost of Asia (2005, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล + Christelle Lheureux, A)
13. Pillow Talk (2004, Araya Suriharn, A)
14. Trail of Love รอยรัก (2005, สุชาดา ศิริธนาวุฒิ, A-)
15. Forget It (2005, สมคิด ธรรมเนียมดี, A-)
16. World Priceless Day (2005, เล็ก มานนท์, A-)
17. Our Child ยังเยาว์ (2004, ธวัชพงศ์ ตั้งสัจจะพจน์, A-)
18. Student (2005, James Prutwarasin, B+)
19. Love
? (2005, จตุภัทร เพชรนนท์, B+)
20. Waves of Souls คลื่นวิญญาณ (2005, พิภพ พานิชภักดิ์, B+)
21. Little Garuda ครุฑน้อย (2005, Suporn Decharin, B+)
22. Lie Beneath (2005, Margaret BONG CHEW JEN, มาเลเชีย, B+)
23. 12 (2005, Visit Ontanalai, B)
24. The Helping Hand (2005, Folke Ryden, สวีเดน, B)
25. My Brown Shoes รองเท้าของผม (2005, Supat + Chatchai + Ekkawit, B-)
26. The Way ทางเดิน (2005, Uruphong Raksasad, C+)
27. Space ที่ว่าง (2005, สถิต ศัตรศาสตร์, ?) งดแสดงความคิดเห็น เนื่องจาก ดูไม่ทัน (หนังมันสั้นแค่ 2 นาที)
mers AWARDS : 3rd World Film Festival of Bangkok
(แต่ละรางวัลจะให้สามอันดับ เรียงจากชอบมากไปน้อย)
-BEST FILM- 4 The Wayward Cloud Battle in Heaven
-BEST SHORTFILM- Afternoon ยามบ่าย Tsu สึ Tune In สุดทางรัก -BEST ACTOR- Marcos Hernandez (Battle in Heaven) หลี่คังเซิง (The Wayward Cloud)
-BEST ACTRESS- เฉิงเซียงฉี (The Wayward Cloud) Tulin Ozen (Angels Fall) Mariia Vovchenko (4)
-BEST DIRECTOR- Ilya Khrzhanovsky (4) Vimukthi Jayasundara (The Forsaken Land) Carlos Reygadas (Battle in Heaven)
-BEST SCREENPLAY- Jarome Beaujour (The Moustache) Ulrike Ottinger (Freak Orlando) ไฉ้หมิงเลี่ยง (The Wayward Cloud)
-BEST CINEMATOGRAPHY- Alisher Khamidkhodzhaev (4) Channa Deshapriya (The Forsaken Land) Eyup Tekand (Angels Fall)
-BEST ART DIRECTION-SET DECORATION- Shavlat Abdusalamov (4) Freak Orlando
-BEST COSTUME DESIGN- Freak Orlando Madame X: An Absolute Ruler The Wayward Cloud
-BEST SOUND- Krill Vasilenko (4) ธัญสก พันสิทธิวรกุล (After Shock) Ramon Moreira (Battle in Heaven)
-BEST EDITING- Igor Malakhov (4) Miroslav Hajek (And the Fifth Rider is Fear) Adoracion G. Elipe + Daniela Schnaider (Battle in Heaven)
-BEST MUSIC, ORIGINAL SONG- ทุกเพลงใน Its All Gone Pete Tong ฉันรักผัวเขา (Tits & Bums นมตูด) High (Vous Vous Souviens de Moi? วันที่ฝนตกลงมาเป็นคูสคูส)
-BEST MUSIC, ORIGINAL SCORE- Philip Glass (The Moustache)
-BEST SCENE- การเดินทางอันยาวนานของหญิงสาว (4)
พระเจ้าที่ร้องโอเปร่าไปพร้อมกับงิ้ว (Freak Orlando)
เมื่อฉันคลอดลูกเป็นแตงโม + ระบำร่มแตงโม + ระบำจู๋ยักษ์ (The Wayward Cloud)
ฉากไคลแม็กซ์ (Battle in Heaven)
เด็กโต๋ลงทะเล (Innocence เด็กโต๋)
-BEST OPENING SCENE- 4 Angels Fall Battle in Heaven
-BEST ENDING SCENE- The Wayward Cloud Angels Fall Tune In (ฉากก่อนขึ้น end credit) Grand Voyage
-รางวัลพิเศษ หนังเฮี้ยน ดีเด่น- 4 Freak Orlando Battle in Heaven
พบกันใหม่ครั้งหน้าในงาน 4th World Film Festival of Bangkok
และเร็วๆนี้ พบกับบล็อก "ตะลุยเทศกาล Japanese Film Festival" จ้า (งานจะมีวันที่ 4-11 พ.ย. และ 15 พ.ย.-9 ธ.ค.)
ขอบคุณ ทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตลอดครับ
Create Date : 26 ตุลาคม 2548 |
|
24 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 4:04:08 น. |
Counter : 3801 Pageviews. |
|
|
|
ส่วน PART 5 จะเป็น หนังที่ได้ดูในวันที่ 24 (The Wayward Cloud) สรุปเกรดหนัง และประกาศรางวัล mer's AWARDS (สถานบันไหนเนี่ย...)
------------------------------------------------
ส่วนอันนี้เป็นผลรางวัลของทางเทศกาลเขาครับ
//www.nationmultimedia.com/search/page.arcview.php?clid=2&id=122285&date=2005-10-24&usrsess=
//www.popcornmag.com/index.php?option=content&task=view&id=398&Itemid=2
The Forsaken Land -- Harvest Talent Award for Best Film
4 -- Artistic Direction Award
Days of Santiago -- Best Script
Turn Left at the End of the World -- Jury Award
Grand Voyage -- Peoples Choice Award