http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
26 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

ตะลุยเทศกาลหนัง 3rd World Film Festival of Bangkok (PART 5)

โดย merveillesxx


PART 1
PART 2
PART 3
PART 4


ข้อความต่อไปนี้ COPY มาจากกระทู้ //www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=22781


24 OCT 2005

หนังที่ได้ดูวันนี้

1. Naruto the Movie (2004, Tensai Okamura, B+)
เป็นหนังการ์ตูนที่สนุกดี เหมาะกับคนที่ชอบอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ / เด็กมาดูเยอะมาก สำหรับท่านที่หวาดผวาเด็กเล็กกรุณาหลีกเลี่ยงไปดูรอบที่คนเขาไม่ค่อยมาดูกัน


2. Flightplan (2005, Robert Schwentke, A)
หนังเรื่องนี้ดีมาตลอด เสียดายว่ามุกเฉลยของหนังดู “คิดการใหญ่” ไปหน่อย / สิ่งที่ชอบในหนังก็คือการเล่นกับ “สถานที่”





3. The Wayward Cloud (2005, ไฉ้หมิงเลี่ยง, ไต้หวัน, A+++++++++++++++++++++++++)

//www.worldfilmbkk.com/films/index.php?cid=01&id=110

-- วันนี้ตอนแรกคาดว่างานในวันนี้จะต้องวุ่นวายแน่ๆ เพราะมันเป็น Closing film ซึ่งฉายในโรงใหญ่ คนดูมากมาย แต่ก็ผิดคาด เพราะไม่มีเหตุการณ์อะไรมากวนใจเท่าไร แล้วหนังก็ฉายไม่เลทมากด้วย แต่ที่น่ารำคาญที่สุดก็คือ คนดูที่เดินสวนสนามเข้าออกโรงเป็นว่าเล่น

-- ก่อนจะเข้าโรงเจอพี่ไฉ้ในระยะใกล้ 0.01 เซนติเมตร อยากเข้าไปขอลายเซ็นเหมือนกัน แต่คนรุมล้อมพี่แกเยอะพอควร แต่ที่ฮาก็คือ แว่นดำที่พี่แกใส่มานั่นแหละ ไม่รู้ไม่มีใครเตือนแกบ้างหรือยังไงว่ามันไม่ได้เข้ากับหน้าแกสักเท่าไร

-- ก่อนจะฉายหนังก็มีการพูดคุยกับ ไฉ้หมิงเลี่ยง เล็กน้อย เรื่องที่น่าสนใจก็ เช่น

1. พี่ไฉ้บอกว่าก่อนจะเข้ามาในโรงมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เขามากมาย แล้วเขาก็บอกนักข่าวทุกคนว่า “This film is DANGEROUS” (ฮา)

2. พี่ไฉ้ได้ดูหนังบางเรื่องในเทศกาล เขาบอกว่าชอบหนังสั้น TSUNAMI มาก เขาดีใจที่เมืองไทยมีผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงแบบนี้

3. The Wayward Cloud ได้ฉายในไต้หวันโดยไม่มีการตัดทอนหรือเซนเซอร์แม้แต่นิดเดียว

4. เขาบอกว่าคนไต้หวันค่อนข้างจะ conservative มากกว่าคนไทย เพราะฉะนั้นคนไทยน่าจะรับได้กับหนังเรื่องนี้ และเขาหวังให้ The Wayward Cloud ฉายให้คนไทยดูในโรงทั่วไปด้วย (พี่ไฉ้คงต้องรออีกนานหน่อยล่ะครับ แหะแหะ)

ส่วนหลี่คังเซิง ที่ท่าทางดูเมาๆ (สงสัยตื่นคน) ก็ไม่ได้พูดอะไรมากเท่าไร (ขอยืนยันว่าเขายังไม่ได้เป็นใบ้ เขายังพูดได้ตามปกติ) ส่วนใหญ่ก็พูดอะไรไปตามพิธี แต่ตอนจบก็แอบน่ารักพูดคำว่า “ขอบคุณครับ” (แต่ดาราต่างชาติคนไหนที่มาไทยแล้วพอกลับไปยังพูดคำว่า “ขอบคุณครับ” ไม่เป็น นี่ต้องพิจารณาตัวเองอย่างด่วน)

-- พูดถึงตัวหนังแล้ว การดูใน The Wayward Cloud ในโรงใหญ่ (ซึ่งโรงนี้มันใหญ่ก็จริง แต่ไหงจอก็มันเล็กๆ หว่า) ถือเป็นการปิดเทศกาลหนังที่สวยงามมาก เพราะนี่เป็นหนังที่ผมชอบสุดๆ

-- ได้ดูหนังของพี่ไฉ้ยังไม่ครบทุกเรื่อง แต่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังที่ดูง่ายที่สุดของเขาแล้ว แถมมันยังดูสนุกมากด้วย (แม้จะยังมีฉากแช่กล้องอยู่มากมายก็ตาม)

-- อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่ฮาแตกสุดๆ แล้วก็ดันมีฉากร้องเพลงแทรกอยู่เป็นระยะ แต่เข้าใจว่าธีมของหนังพี่ไฉ้ของยังไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ การพูดถึงสภาพสังคมคนเมืองใหญ่

-- สิ่งที่รุนแรงที่สุดของหนังเรื่องนี้คือ “ฉากจบ” เพราะมันเป็นความรู้สึกที่จุกอก (บางคนอาจจะ “จุกปาก”) ทั้งอึดอัด ตลก และเศร้า ตอนแรกผมก็รู้สึกสับสนทางอารมณ์มากกับฉากนี้ แต่พอเพลง The Wayward Cloud ขึ้นมาตอนท้าย ผมก็ตัดสินใจได้แล้วว่าผมรู้สึก “เศร้า” (อย่างรุนแรง)

-- Many audience members left the theater during the final scene at the Berlin International Film Festival's screening. (imdb.com)

-- นี่เป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของ เฉิงเซียงฉี (นางเอก) ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้ได้ (เข้าใจว่าเธอเก็บกดจากการเล่นบทใบ้ๆ ในหนังของพี่ไฉ้มานาน เรื่องนี้เธอเล่นปล่อยพลังสุดฤทธิ์สุดเดช)

-- ส่วนตัวประกอบที่เป็น พยาบาลนมยักษ์ ก็น่ายกรางวัล ตัวประกอบสปิริตแรงกล้าแห่งปีให้เธอไปเลย

-- หนังจากดู The Wayward Cloud ไปแล้ว ทำให้

1. เวลากินแตงโมแล้วจะจินตนาการอะไรแปลกๆ

2. รวมถึงเวลาเห็นลูกแตงโมตามตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย

3. ต่อจากไปนี้พูดคำว่า “แตงโม” จะไม่ได้นึกถึง แตงโม-ภัทรธิดา เป็นอย่างแรก แต่จะนึกถึงหนังเรื่อง The Wayward Cloud ก่อน

4. ไม่ค่อยอยากกินแตงโม (เฉพาะอันที่เป็น ผลไม้ ไม่ใช่อันที่เป็นดารา)

5. เวลาดูหนังโป๊ญี่ปุ่นแล้วต้องปิดเสียง

-- ต่อไปนี้เป็นการรวบรวมฉากที่ชอบในหนังเรื่อง The Wayward Cloud


**********แน่นอนมี SPOILER*********

1. ฉากต้นเรื่อง ตำแหน่งของแตงโมที่ไม่คิดเลยว่ามันจะไปอยู่ตรงนั้นได้

2. ฉากน้ำแตงโมละเลงหน้าพยาบาลสาว (นี่เป็นการกัดหนังโป๊ญี่ปุ่นที่ฮาและแสบมาก)

3. แล้วอยู่ดีๆ พระเอกก็เอาแตงโมไปใส่หัว ในขณะที่กำลังร่วมรัก (มันช่วยอะไรได้เหรอ?)

4. หลี่คังเซิงกลายร่างเป็นมังกร (????)

5. ยิ่งไปกว่านั้นพี่หลี่ยังต่อด้วยการใส่กระโปรงเต้นระบำ (!)

6. ต่อด้วยระบำร่มแตงโม

7. และปิดท้ายด้วยระบำกระจู๋ยักษ์!

8. คิโยชิ คุโรซาว่า (Bright Future) จะคิดอย่างไรกับฉากแตงโมลอยน้ำ?

9. ฉากสุดโรแมนติกกับการสูบบุหรี่ด้วยเท้า (ซึ่งลบเลือนฉากสูบบุหรี่ทั้งหลายในหนังของหว่องกาไวไปเลย)

10. การสูบบุหรี่ทำให้ท้องได้ เพราะหลังจากนั้นนางเอกเธอก็คลอดลูกออกมาเป็นแตงโม

11. แต่จริงๆ แล้วเธอาจจะท้องเพราะไปเลียเปลือกแตงโมในตู้เย็นมากกว่า

12. ฉากที่พระนางไล่จับปูในห้อง นี่คือฉากที่ “โหวกเหวกโวยวาย” มากที่สุดเท่าที่เคยมามีในหนังพี่ไฉ้

13. ผัดหมี่ไฟลุก (เพราะความรักอันเร่าร้อนหรือนี่?)

14. พยาบาลสาวกำลังช่วยตัวเอง มองไกลๆ นึกว่าเธอกำลังใช้ดิลโด้ แต่ความจริงมันคือ ขวดพลาสติก

15. แล้วฝาขวดเจ้ากรรมก็ดันเข้าไปติดข้างใน (!)

16. ฉากที่นางเอกจ้องทีวีดูหนังโป๊ที่พระเอกเล่น พี่ไฉ้ใจร้ายมากที่ลองเทคฉากนี้ เพราะเข้าใจว่านางเอกอาจจะตาเหล่ไปสองวัน

17. นักแสดงหนังโป๊มืออาชีพ แม้นางเอกหนังจะเป็นลมหมดสติ เราก็สามารถถ่ายหนังต่อได้

18. ใบหน้าของหลี่คังเซิงในช่วงใกล้ฉากจบ

19. เฉิงเซียงฉีที่ยืนมองพระเอกอยู่ที่หน้าต่าง แล้วอยู่ดีๆ เธอก็ของขึ้นร้องโหยหวนขึ้นมา

20. ฉากจบที่นางเอกร้องไห้ออกมา แม้ว่าจะยังมีอะไรคาปากอยู่ก็ตาม (สุดยอดมาก ฉากนี้)

-- ดูหนังจบแล้วก็เลยเข้าใจเลยว่าทำไมพี่ไฉ้ถึงไม่ยอมอยู่ Q&A เพราะคงมีคำถามมากมายล้านแปดที่คนดูอยากถาม และตอนออกมาก็เห็นนักข่าวมากมายรุมทึ้งพี่แก และหลี่คังเซิงอยู่หน้าโรง

-- BIOSCOPE เล่มที่เคยลงเรื่องของ The Wayward Cloud คือ เล่มที่ 40, 41 และ 46


mer' ADORABLE ACTOR
หลี่คังเซิง (The Wayward Cloud)

mer’s ADORABLE ACTRESS
เฉิงเซียงฉี (The Wayward Cloud)

mer’s ADORABLE DIRECTOR
ไฉ้หมิงเลี่ยง (The Wayward Cloud)

mer’s ADORABLE ENDING SCENE
The Wayward Cloud




สรุป

เทศกาล 3rd World Film Festival of Bangkok ได้ดูหนังยาวทั้งหมด 30 เรื่อง หนังสั้น 27 เรื่อง ขอสรุปอันดับความชอบต่อหนังทั้งหมดดังต่อไปนี้ (จากมากไปน้อย)

**เกรดหนังอาจจะเปลี่ยนไปจากที่เคยให้ในครั้งแรก และพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเสมอในภายภาคหน้า


-หนังยาว-

01. “4” (2004, Ilya Khrzhanovsky, รัสเซีย, A++++++++++)

02. The Wayward Cloud (2005, ไฉ้หมิงเลี่ยง, ไต้หวัน, A+++++++)

03. Battle in Heaven (2005, Carlos Reygadas, เม็กซิโก, A+)

04. Freak Orlando (1981, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)

05. Angel’s Fall (2004, Semih Kaplanoglu, ตุรกี, A+)

06. The Forsaken Land (2005, Vimukthi Jayasundara, ศรีลังกา, A+)

07. The Moustache (2005, Emmanuel Carrere, ฝรั่งเศส, A+)

08. It's All Gone Pete Tong (2004, Michael Dowse, อังกฤษ, A+)

09. Dorian Gray in the Mirror of Yellow Press (1981, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)

10. Madame X: An Absolute Ruler (1977, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, A+)

11. Grand Voyage (2004, Ismael Ferrouji, โมร็อคโค, A+)

12. Innocence เด็กโต๋ (2005, นิสา คงศรี + อารียา ชุมสาย, A+)

13. Ben’s Biography (2003, Dan Wolman, อิสราเอล, A+)

14. The Imp (2005, Tomas Vorel, สาธารณรัฐเช็ค, A)

15. The Shop on the Main Street (1965, Elmar Klos + Jan Kadar, สาธารณรัฐเช็ค, A)

16. And the Fifth Rider is Fear (1964, Zbynek Brynych, สาธารณรัฐเช็ค, A-)

17. I Am A S-e-x Addict (2005, Caveh Zahedi, อเมริกา, A-)

18. Girlie (2002, Benjamin Tucek, สาธารณรัฐเช็ค, A-)

19. The Girl with the Red Scarf (1977, Atif Yilmaz, ตุรกี, A-)

20. The Tenth Planet: A Single Life in Bagdad (2004, Melis Birder, ตุรกี, A-)

21. Not on the Lips (2003, Alain Resnais, ฝรั่งเศส, B+)

22. New Life (2005, Brice Pedroletti, ญี่ปุ่น-ฝรั่งเศส, B+)

23. Larks on a String (1968, Jiri Menzel, สาธารณรัฐเช็ค, B)

24. The Journey (2005, Ligy J. Pullappally, อินเดีย, B)

25. In Transit (2004, Berke Bas, ตุรกี, B)

26. Werner at Work (2005, Beat Prssser, สวิตเซอร์แลนด์, B)

27. Heart of Jesus (2004, Marcos Loayza, โบลิเวีย, B-)

28. Gallipoli (2005, Tolga Ornek, ตุรกี, C+)

29. Twelve Chairs (2004, Ulrike Ottinger, เยอรมัน, ?) งดแสดงความคิดเห็น เพราะไม่มีซับไตเติ้ล

30. Johanna d’Arc of Mongolia (1989, Ulrike Ottinger, ?) งดแสดงความคิดเห็น เพราะไม่มีซับไตเติ้ล



-หนังสั้น-

01. Afternoon ยามบ่าย (2005, ภูพาน สรวิศมงคล, A+++++++)

02. Tsu สึ (2005, ปราโมทย์ แสงศร, A+)

03. Tune In สุดทางรัก (2005, พิมผกา โตวิระ, A+)

04. After Shock วันฟ้าสวย (2005, ธัญสก พันสิทธิวรกุล, A+)

05. To Infinity & Beyond ลอยฟ้า (2004, สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์, A+)

06. Vous Vous Souviens de Moi? วันที่ฝนตกลงมาเป็นคูสคูส (2005, ธัญสก พันสิทธิวรกุล, A+)

07. Tits & Bums นมตูด (2005, สันติ แต้พานิช, A+)

08. Adaman อันดามัน (2005, สมพจน์ ชิตเกษรพงศ์, A+)

09. Opportunities โอกาส (2005, นิติพงศ์ ถิ่นทัพไทย, A+)

10. Relativity plus quantum สัมพัทธภาพบนความไม่แน่นอน (2004, ศาสตร์ ตันเจริญ, A)

11. Smiles of the Fifth Night รอยยิ้มในคืนที่ห้า (2005, สนธยา ทรัพย์เย็น, A)

12. Ghost of Asia (2005, อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล + Christelle Lheureux, A)

13. Pillow Talk (2004, Araya Suriharn, A)

14. Trail of Love รอยรัก (2005, สุชาดา ศิริธนาวุฒิ, A-)

15. Forget It (2005, สมคิด ธรรมเนียมดี, A-)

16. World Priceless Day (2005, เล็ก มานนท์, A-)

17. Our Child ยังเยาว์ (2004, ธวัชพงศ์ ตั้งสัจจะพจน์, A-)

18. Student (2005, James Prutwarasin, B+)

19. Love…? (2005, จตุภัทร เพชรนนท์, B+)

20. Waves of Souls คลื่นวิญญาณ (2005, พิภพ พานิชภักดิ์, B+)

21. Little Garuda ครุฑน้อย (2005, Suporn Decharin, B+)

22. Lie Beneath (2005, Margaret BONG CHEW JEN, มาเลเชีย, B+)

23. 12 (2005, Visit Ontanalai, B)

24. The Helping Hand (2005, Folke Ryden, สวีเดน, B)

25. My Brown Shoes รองเท้าของผม (2005, Supat + Chatchai + Ekkawit, B-)

26. The Way ทางเดิน (2005, Uruphong Raksasad, C+)

27. Space ที่ว่าง (2005, สถิต ศัตรศาสตร์, ?) งดแสดงความคิดเห็น เนื่องจาก “ดูไม่ทัน” (หนังมันสั้นแค่ 2 นาที)




mer’s AWARDS : 3rd World Film Festival of Bangkok

(แต่ละรางวัลจะให้สามอันดับ เรียงจากชอบมากไปน้อย)

-BEST FILM-
“4”
The Wayward Cloud
Battle in Heaven

-BEST SHORTFILM-
Afternoon ยามบ่าย
Tsu สึ
Tune In สุดทางรัก

-BEST ACTOR-
Marcos Hernandez (Battle in Heaven)
หลี่คังเซิง (The Wayward Cloud)

-BEST ACTRESS-
เฉิงเซียงฉี (The Wayward Cloud)
Tulin Ozen (Angel’s Fall)
Mariia Vovchenko (4)

-BEST DIRECTOR-
Ilya Khrzhanovsky (4)
Vimukthi Jayasundara (The Forsaken Land)
Carlos Reygadas (Battle in Heaven)

-BEST SCREENPLAY-
Jarome Beaujour (The Moustache)
Ulrike Ottinger (Freak Orlando)
ไฉ้หมิงเลี่ยง (The Wayward Cloud)

-BEST CINEMATOGRAPHY-
Alisher Khamidkhodzhaev (4)
Channa Deshapriya (The Forsaken Land)
Eyup Tekand (Angel’s Fall)

-BEST ART DIRECTION-SET DECORATION-
Shavlat Abdusalamov (4)
Freak Orlando

-BEST COSTUME DESIGN-
Freak Orlando
Madame X: An Absolute Ruler
The Wayward Cloud

-BEST SOUND-
Krill Vasilenko (4)
ธัญสก พันสิทธิวรกุล (After Shock)
Ramon Moreira (Battle in Heaven)

-BEST EDITING-
Igor Malakhov (4)
Miroslav Hajek (And the Fifth Rider is Fear)
Adoracion G. Elipe + Daniela Schnaider (Battle in Heaven)

-BEST MUSIC, ORIGINAL SONG-
ทุกเพลงใน It’s All Gone Pete Tong
“ฉันรักผัวเขา” (Tits & Bums นมตูด)
“High” (Vous Vous Souviens de Moi? วันที่ฝนตกลงมาเป็นคูสคูส)

-BEST MUSIC, ORIGINAL SCORE-
Philip Glass (The Moustache)

-BEST SCENE-
การเดินทางอันยาวนานของหญิงสาว (4)

พระเจ้าที่ร้องโอเปร่าไปพร้อมกับงิ้ว (Freak Orlando)

เมื่อฉันคลอดลูกเป็นแตงโม + ระบำร่มแตงโม + ระบำจู๋ยักษ์ (The Wayward Cloud)

ฉากไคลแม็กซ์ (Battle in Heaven)

เด็กโต๋ลงทะเล (Innocence เด็กโต๋)

-BEST OPENING SCENE-
“4”
Angel’s Fall
Battle in Heaven

-BEST ENDING SCENE-
The Wayward Cloud
Angel’s Fall
Tune In (ฉากก่อนขึ้น end credit)
Grand Voyage

-รางวัลพิเศษ “หนังเฮี้ยน” ดีเด่น-
“4”
Freak Orlando
Battle in Heaven




พบกันใหม่ครั้งหน้าในงาน 4th World Film Festival of Bangkok

และเร็วๆนี้ พบกับบล็อก "ตะลุยเทศกาล Japanese Film Festival" จ้า (งานจะมีวันที่ 4-11 พ.ย. และ 15 พ.ย.-9 ธ.ค.)

ขอบคุณ ทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตลอดครับ




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2548
24 comments
Last Update : 26 ตุลาคม 2548 4:04:08 น.
Counter : 3801 Pageviews.

 

หนังที่ดูในวันที่ 23 ตุลาคม (ได้แก่ The Forsaken Land, New Life, Werner at Work, Girlie และ Larks on a String) จะอยู่ใน PART 4 นะครับ

ส่วน PART 5 จะเป็น หนังที่ได้ดูในวันที่ 24 (The Wayward Cloud) สรุปเกรดหนัง และประกาศรางวัล mer's AWARDS (สถานบันไหนเนี่ย...)

------------------------------------------------

ส่วนอันนี้เป็นผลรางวัลของทางเทศกาลเขาครับ

//www.nationmultimedia.com/search/page.arcview.php?clid=2&id=122285&date=2005-10-24&usrsess=

//www.popcornmag.com/index.php?option=content&task=view&id=398&Itemid=2


The Forsaken Land -- Harvest Talent Award for Best Film

“4” -- Artistic Direction Award

Days of Santiago -- Best Script

Turn Left at the End of the World -- Jury Award

Grand Voyage -- People’s Choice Award

 

โดย: merveillesxx 26 ตุลาคม 2548 4:01:58 น.  

 

ตอบ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จาก PART 4


ตอบ คุณสาวไกด์ใจซื่อ

แหะแหะ ไม่ได้วางแผนทางเงินเก่งแต่อย่างไรครับ พอดีว่ามี "กองทุน มก." สนับสนุน (ซึ่งจริงๆแล้ว กองทุน มก. ก็เอาเงินมาจาก กองทุน พก. อีกทีนึง)

ผมเอก เศรษฐศาสตร์ โท Finance แต่ผมใช้เงินได้ฉิบหายวายป่วงสุดๆ เลยครับ

---------------------------------

ตอบ พี่ grappa + พี่ I will see U in the next life.

ดีใจที่พี่ทั้งสองได้ดู Ticket of no Return แต่เสียดายแทนที่ไม่ได้ดูหนัง โคตรเฮี้ยน อีก 3 เรื่องที่เหลือของเธอ

ที่น่าสนใจก็คือ ลำดับการฉายหนังของเธอ เหมือนกับว่าจะเรียงจากเฮี้ยนน้อยไปมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น

1. Madame X: An Absolute Ruler
อันนี้อาจจะยังไม่มีอะไรมากเพราะสถานที่กำจัดเหตุแค่บนเรือ แต่ก็มีอะไรเหวอมากมาย เพราะตัวละครคือ "ผู้หญิง 8 คน" กับ "กะเทย 1 คน"


2. Dorian Gray in the Mirror of the Yellow Press
อันนี้เหวอมากเพราะมีช่วงหนึ่งของหนังที่ยัยบอสหญิงพาพระเอกไปตะลุยแดนใต้ดิน และ Ottinger ก็แผลงฤทธิ์เดชตรงนี้เต็มที่

นอกจากนั้นยังมีฉากร้องเพลงโอเปร่าบนหินผาแทรกมาเป็นระยะๆ (??)


3. Freak Orlando
เรื่องนี้เป็นสุดยอด เพราะแค่ชื่อก็ "บ้า" แล้ว

ออกจากโรงมาเจอคุณแมดเดอลีน เธอบอกว่า "หนังเรื่องไม่มีคำว่าบันยะบันยังอีกต่อไปแล้ว" ซึ่งเป็นคำนิยามที่เหมาะเจาะที่สุดแล้วสำหรับหนังเรื่องนี้

หนังทั้ง 3 เรื่อง มีคนเดินออกเยอะมาก (Freak Orlando อาจจะน้อยหน่อย เพราะคนดูไม่ค่อยเยอะตั้งแต่แรก) เป็นปรากฏการณ์คนเดินออกจากโรงที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

จะแอบเสียดายหน่อยๆ ตรงที่หนังยุคหลังๆ ของเธอไม่ค่อยเน้นลูกบ้าเท่าไรแล้ว (ซึ่งก็คงเป็นไปตามกาลเวลาและสังขาร)

สรุปแล้วการได้ดูหนังของ Ulrike Ottinger เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาก ดีใจเหมือนกันที่หนังเทศกาลเอาหนังของเธอมาฉาย (แต่คงจะดีกว่านี้ถ้ามันมี ซับไตเติ้ลด้วย เพราะได้ยินว่า บทสนทนาในหนังของเธอก็มีอะไร บ้าๆ เยอะ)

อ้อ รู้สึกว่า Ottinger ชอบไปโผล่ในหนังตัวเองบ่อยเหมือนกัน อย่างเช่น Madame X เธอเล่นเป็นผู้หญิงที่อ่านหนังสือ Orlando ของ เวอร์จิเนีย วูล์ฟ อยู่บนเรือ (????) ส่วน Dorian Gray รู้สึกว่าเธอจะเล่นเป็น "สปาย" ที่เฝ้าอยู่หน้าบ้านพระเอก

 

โดย: merveillesxx 26 ตุลาคม 2548 4:19:00 น.  

 


เพิ่งมารู้ตัว 10 วันที่ตะลุยอยู่ในดินแดนของเทศหนัง World Film นี่เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลย เพราะไม่รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองใดใดทั้งสิ้น เช่น

- ไม่ได้รับโทรศัพท์เพื่อนประมาณ 10 คน

- mail box ระเบิด

- เพิ่งมารู้วันหลังๆ ว่าหวัดนกคัมแบ็กกลับมาแล้ว ซึ่งตอนดูเทศกาลก็กินแต่พวก KFC, Chester's Grill

- เพิ่งมารู้ว่าเค้าจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ AF2 แถมก็ขายบัตรกันไปเกลี้ยงแล้ว ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลาก่อน พัดชา ที่รัก

แต่ถึงยังไงก็คงไปดู AF2 ไม่ได้ เพราะมันมีวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งดันชนกับ FaT Festival 5 พอดี นอกจากนั้นวันนี้ยังมีเทศกาลหนังญี่ปุ่นด้วย ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี ?___?

- เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองซื้อบัตร คอนเสิร์ตพี่นภ เอาไว้ เกือบลืมไปดูแล้วนะเนี่ย (ว่าแต่ทำไมบัตรพี่นภมันเหลือเยอะแยะขนาดนั้นล่ะเนี่ย)

เฮ้อ ปิดเทอมของเราหายไปครึ่งนึงเสียแล้ว

 

โดย: merveillesxx 26 ตุลาคม 2548 4:29:52 น.  

 

ตอนนี้ทาง Japan Foundation ได้อัพเดทข้อมูลภาษาไทยของ เทศกาลภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2005 แล้วครับ (ตารางฉายและเรื่องย่อ)

อ่านที่ //www.jfbkk.or.th/event/jff2005_th.html

เทศกาลนี้มีหนังฉายทั้งหมด 17 เรื่อง แบ่งเป็น 2 PART

1. ฉายหนัง 10 เรื่อง (ฟิล์ม 35 mm / ซับอังกฤษ)

4-11 พ.ย.
ฉายที่ Major WTC โรง 5 กับ EGV Metropolis โรง 8 (โรงเดียวกับงาน World Film เลย)

**วิธีการติดต่อรับบัตรเข้าชม**
ท่านสามารถรับบัตรเข้าชมได้ "ฟรี" ที่โต๊ะประชาสัมพันธ์พิเศษของเจแปนฟาวน์เดชั่นที่หน้าโรง โดยรับบัตรได้เฉพาะในวันที่ฉายเท่านั้น ไม่มีการรับบัตรล่วงหน้า โดยสามารถรับได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนเวลาฉาย หนึ่งท่านสามารถรับบัตรได้เพียงหนึ่งที่นั่ง และไม่สามารถเลือกที่นั่งได้ เจ้าหน้าที่จะจัดที่นั่งให้ตามลำดับการมารับก่อนหลัง


2. ฉายหนัง 7 เรื่อง (ฟิล์ม 16 mm / ซับไทย)

15 พ.ย. - 9 ธ.ค.
ฉายที่ห้องประชุมใหญ่ เจแปนฟาวน์เดชั่น ชั้น 10 ตึกเสริมมิตรทาวเวอร์ สุขุมวิท 21 (ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก หรือรถใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท)

แล้วเจอกันครับ...

 

โดย: merveillesxx 26 ตุลาคม 2548 6:20:23 น.  

 

ได้รายละเอียดครบถ้วน ข้อมูลและคำวิจารณ์เยี่ยมยอดมากครับ
นับถือๆ

 

โดย: Zantha 26 ตุลาคม 2548 10:30:11 น.  

 

ตามมาอ่านค่ะ

เหตุการณ์นี้คงเป็นอีกเหตุการณ์ที่สอนเราเรื่องการใช้เงิน

ว่า..ควรแบ่งส่วนไว้สำหรับส่วนอื่น และใจแข็งให้มากๆ เข้าไว้

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 26 ตุลาคม 2548 11:21:11 น.  

 

อืม... เทศกาลหนังญี่ปุ่น
ฉายฟรีอีกแล้ว ดีจัง
หุหุ


คราวนี้จะได้ดูให้ครบสิบเรื่องไปเลย
555

 

โดย: it ซียู IP: 161.200.255.163 26 ตุลาคม 2548 13:32:25 น.  

 

ง่า...
วันนี้เปนบล็อกที่คุ้มค่ากะการนั่งอ่านจิงๆ
นับถืออีกแล้วคุนเมอ
ได้ฟังก็รู้สึกร่วมไปในบรรยากาศได้ด้วย...

 

โดย: rinasan IP: 202.28.169.165 26 ตุลาคม 2548 20:42:15 น.  

 

ต่อ พี่รบกวนถามครับ

พอรู้บ้างไหมว่ามีบทสัมภาษณ์เป็นเอกเกี่ยวกับหนังเรื่องมนต์รักทรานซิสเตอร์ กับอินธิสุนทร กับโหมโรง ทั้งไทยและอังกฤษบ้างไหมครับ

พี่เสิร์ชหาดู ให้ตายสิ มีแต่โฆษณาขายดีวีดี

 

โดย: I will see U in the next life. 26 ตุลาคม 2548 21:40:15 น.  

 

แหง่ววว ผมก็ค้นเจอแต่ภาษาไทยง่ะ สงสัยพวกนี้พี่มีแล้วแน่เลย

--บทสัมภาษณ์--

1. BIOSCOPE ฉบับที่ 8 / หน้าปก "มนต์รักเป็นเอก" (เป็นเอก - มนต์รักทรานซิสเตอร์)

2. BIOSCOPE ฉบับที่ 27 หน้าปก "ทวิภพ" (อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์ - โหมโรง)


--บทวิจารณ์ "โหมโรง"--

1. PULP ฉบับที่ 9 / หน้าปก "Lost in Tranlation" (โดย คุณกำพล วีระกุล)

2. บทวิจารณ์ของพี่ธิดา ในเวบผู้จัดการ
//www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=4719443795084

3. บทวิจารณ์ของพี่เจ้าชายน้อย
//www.bioscopemagazine.com/review/index-in.php?id=6333

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 6:22:57 น.  

 


Innocence เด็กโต๋ -- ฉาย 19-20 พ.ย. ที่ลิโด้ เพียง 10 รอบ (ห้ามพลาด!)

ข้อมูลจาก a day ฉบับที่ 62 - ตุลาคม 2548 หน้า 38)

Innocence เด็กโต๋

ภาพยนตร์โดย นิสา คงศรี และป๊อป อารียา

เพียง 10 รอบฉาย ที่โรงภาพยนตร์ลิโด้ 2

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2548
เวลา 14.20 16.30 18.45 21.00

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2548
เวลา 10.00 12.10 14.20 16.30 18.45 21.00

**เป็นรอบการกุศลให้คนเข้ามาดูฟรี โดยมีกล่องรับบริจาคตามจิตศรัทธา ทุกบาททุกสตางค์มอบให้โรงเรียนบ้านแม่โต๋ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ทั้งหมด

(หลังจากที่ผมได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเด็กบ้านแม่โต๋จากการดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาล World Film ไปแล้ว เห็นสมควรว่าควรบริจาคด้วยจิตศรัทธา "แรงๆ" ครับ)

**มีรอบพิเศษของ a day และ Hamburger ในวันเสาร์ที่ 19 พ.ย. รอบ 11.00 ที่จะได้พูดคุยกับผู้กำกับสองสาว ติดตามรายละเอียดได้ใน a day ปก นักเขียนซีไรต์ และ Hamburger ปก พี่นภ+แพนเค้ก

ย้ำอีกที...ห้ามพลาดเด็ดขาด! นะจ๊ะ


เวบไซต์ของ Innocence เด็กโต๋
//www.pigonine.com/

อ่านเรื่องราวของ "เด็กโต๋" ได้ใน
1. BIOSCOPE ฉบับที่ 47
2. a day ฉบับที่ 62

อ่านความรู้สึกของผมที่มีต่อหนังเรื่อง "เด็กโต๋" ได้ที่
//www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=22529 (ความเห็นหมายเลข 22598)


ปล. a day เล่มใหม่ก็น่าสนใจเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องราวของนักเขียนซีไรต์ ไม่ได้ซื้อ a day มานานมากๆ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันลดขนาดลงแล้ว


 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 6:24:16 น.  

 


จาก a day เล่ม 62 หน้า 55

"โลกแม่โต๋เป็นโลกที่ใสบริสุทธิ์ เราไม่เคยสัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต ความที่เป็นคนเมือง พวกเราแข่งขันกันจนบางครั้งก็ลืมความบริสุทธิ์ที่เคยมีในวัยเด็ก การได้มาทำตรงนี้เหมือนเรากลับไปอยู่ในโลกใบเดิมที่ใสสะอาด และอยากนำมาให้ทุกคนได้สัมผัส การอยู่ในเมืองใหญ่ ทำให้บางสิ่งในตัวเราหายไปโดยที่ไม่รู้ตัว หนังเรื่องนี้ทำให้เราสองคนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ซึ่งทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เฮ้ย! มนุษย์อย่างนี้ยังมีอยู่นะ เราหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะสะกิดให้คุณรู้สึกมีกำลังใจและได้ความรู้สึกบางอย่างกลับคืนมา" -- นิสา


"พวกเขาจนด้านวัตถุ แต่ด้านจิตใจเขารวยกว่าเรา ตอนจะทำหนังเรื่องนี้เราก็คิดว่าชาวเขาน่าสงสาร แต่เชื่อไหมว่าพ่อของเด็กคนหนึ่งมาสงสารพวกเรา บอกว่าคนเมืองน่าสงสารจัง ต้องซื้อแอร์หายใจ ต้องซื้อน้ำดื่ม ต้องกินผักฉีดสารพิษ เราก็สะดุดเลย กลับมากรุงเทพฯ ก็รู้สึกว่ารอบตัวมีสิ่งมากมายที่เราไม่เห็นค่าของมัน เห็นค่าของน้ำอุ่นที่ออกมาจากฝักบัวมากๆ และเห็นค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไปหมด" -- ป๊อป


"นี่คือ 1 ใน 10 หนังยอดเยี่ยมของปีนี้" -- mer (ใครวะ ??????)

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 6:25:04 น.  

 


หนังเข้าใหม่สัปดาห์นี้ (27 ต.ค.)

** = mer's RECOMMEND

** Proof (บวก ลบ คูณ หาร สมการชีวิต)

All About Love (หัวใจเธอ หัวใจอีกเธอ และความรักเรา)

Hooligans (ฮูลิแกนส์ อันธพาล ลูกหนัง)

The Legend of Zorro (ศึกตำนานหน้ากากโซโร)

เสือคาบดาบ (The Tiger Blade)


แล้วก็อย่าลืมเทศกาลหนังม่านรูด 2 ที่ house วันที่ 28-29-30 ต.ค. นะจ๊ะ อ่านรายละเอียดที่ //aidsaccess.com/sf.htm

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 8:54:03 น.  

 

อ่าน A Day เล่มใหม่ อย่าลืมดูหน้าบรรดาหนุ่ม ๆ Glico Quest น่ะ (ฮาๆ โปรโมทให้เพื่อนจริง ๆ)

 

โดย: I will see U in the next life. 27 ตุลาคม 2548 9:21:51 น.  

 


เมื่อวานออกไปช็อปที่เซ็นทรัลลาดพร้าวมา จริงๆ กะแวบไปแค่ชั่วโมงเดียว เพื่อซื้ออัลบั้ม a man of smiles ของพี่นภ (จะไปดูคอนเสิร์ตเค้าวันศุกร์นี้อยู่แล้ว เพิ่งจะมาซื้อ เลวจริงๆ) แต่ไปๆมาๆ ก็เดินล่อไปสองชั่วโมง แต่ก็ถือเป็นการอัพเดทนู่นนี่ไปในตัวละกัน


แผงหนังสือ

-- a day เล่มใหม่น่าสนใจดี เป็นเกี่ยวกับ 25 นักเขียนซีไรต์ ไม่ได้ซื้อ a day มานานมากกกกกกกกกก เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเค้าลดขนาดลงแล้ว (ซึ่งดีมาก)

-- In Magazine เล่มใหม่ปกโดดเด้งดี เป็น วีเจจ๋า กับ อนันดา ไปถ่ายคู่กันที่ศรีลังกา (ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ใช่ อั้ม-อธิชาติ ช่วงนี้เห็นขนหน้าอกหมอนี่บ่อยกว่าหน้าเพื่อนๆ บางคนเสียอีก) แต่เปิดข้างในแล้วเฉยๆ ก็เลยไม่ได้ซื้อมา

-- PULP เล่มใหม่ ยังไม่ออก (ฮา)



แผงเทป-ซีดี

-- อัลบั้มใหม่ Depeche Mode ออกแล้ว! เซ็งอย่างแรงไม่มีตังค์ซื้อ (เพราะเอาไปซื้ออย่างอื่น ดูข้างล่าง)

-- David Usher (คนที่ร้องภาษาไทยไม่ค่อยชัด แต่ดังขึ้นมา คนนั้นไง) ชุดใหม่ก็ออก (อีกแล้วเหรอ?) ที่มันชุดที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ออกถี่จังวุ้ย

-- Ayumi Hamasaki จะออกอัลบั้มชุดใหม่แล้ว (เย้ๆๆๆ) ออก 1 มกราคม 2006 นู่นเลย (วันฤกษ์ดีประจำของเธอล่ะ เธอชอบ release อัลบั้มวันนี้ทุกปี)

-- เมื่อวานซื้อซีดีมา 3 แผ่น ได้แก่

1. Utada Hikaru - single "BE MY LAST" (2005, A+)

เพลงนี้ยิ่งฟังแล้ว ยิ่งเศร้า เสียดายยอดขายที่ญี่ปุ่นแป้กสุดๆ


2. นภ พรชำนิ - a man of smiles (2005, B+)

มันเลี่ยนๆ ง่ะ ไม่ค่อยถูกหูผมเลย


3. Academy Fantasia 2 - ปฏิบัติการ เร่ขายฝัน (2005, C)

และแล้ว UBC ก็ทำอัลบั้มนี้ออกมาตามสำนวน "ตีเหล็กเมื่อยังร้อน" อีกจนได้ แต่หารู้ไม่ว่าตีลวกๆ เหล็กมันก็ "แตก" ได้

อัลบั้มนี้ไม่ต่างไปจาก "อัลบั้มคาราโอเกะ" ที่เปิดโปรแกรมมิ่งแล้วก็ให้นักร้องกรอกเสียงใส่ลงไป

โปรมแกรมมิ่งของทำนองเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้น่าจะเป็นการรวมอะไรที่ "เฉิ่ม" และ "เชย" ที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีคนใช้โปรแกรมมิ่งเห่ยๆ แบบนี้อยู่

เชื่อหรือไม่ว่า โปรมแกรมมิ่งในเพลง GOSSIP ของ Girly Berry ยังนำหน้าอะไรๆ ในอัลบั้มนี้ไปหลายร้อยลี้เชียวล่ะ

แค่เปิดมาเพลงแรก "ออกมาเต้น" ที่ร้องโดย บอย V8 ก็เจ๊งสนั่นแล้ว ทำนองเพลงเสร่อๆ แบบนี้ ต่อให้บอยหล่อขนาดไหน ก็ร้องไม่ขึ้น ซ้ำร้ายยังเทียบไม่ติดแม้ปลายขี้เล็บในเวอร์ชั่นที่เฮียติ๊ก ชิโร่ ทำเอาไว้ (ใครได้ไปดูคอนเสิร์ต โจอี้ บอย บ้าง ตอนเฮียแกขึ้นมาร้องเพลงนี้ นี่ขอบอกว่าสุดยอด)

แม้แต่เพลง "เชื่อฉัน" (แจ้-ดนุพล) ที่ร้องโดย ออฟ V4 ที่กะว่าต้องเพราะแน่ๆ คนทำเพลงก็ยังอุตส่าห์ใส่ซาวด์เห่ยๆ ลงไปอีก สงสัยเค้ากะจะให้มัน "เดิร์น" แต่ผมว่ามัน "เดี้ยง" มากกว่านะครับ

อันที่พอไปไหวหน่อยก็ "ก่อน" (โมเดิร์นด็อก) ของพัดชา V6 (สุดที่รัก อิอิ) ที่เรียบเรียงเป็นออเครสตร้าหรูหราอลังการสุดๆ แล้วก็ "คืนนี้ขอหอม" (โป้ โยคีเพลย์บอย) ที่ทำนองพอไปได้ แต่เสียงร้องของพาส V9 ก็ไม่ผ่านอย่างแรง

เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้ว ปฏิบัติการ เร่ขายฝัน ในครั้งนี้ถือเป็น "ปฏิบัติการ" ที่ล้มเหลวครับ

ประสบความสำเร็จเพียงภารกิจเดียวคือ การครองตำแหน่ง "อัลบั้มน่าผิดหวัง" แห่งปี (แต่หวังจริงก็ไม่ควรหวังอะไรกับอัลบั้ม "ตามน้ำ" แบบนี้อยู่แล้วนิ จริงมั้ย?)

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 9:24:07 น.  

 


**ข่าวฝากจากค่าย smallroom : CD ที่จะวางขายในงาน FaT Festival 5 นี่จ้า**

(จนแน่ๆ กรู)


CD ใหม่ๆที่ Booth Smallroom @ Fat Fest 5

Booth ของ Smallroom ปีนี้ จะมี CD ออกใหม่ดังต่อไปนี้ค่ะ

1. Goose “20 guns pointing in your face!”

อัลบั้มเต็มอัลบั้มที่ 2 ของวง Goose ที่คราวนี้มาออกกับสังกัดของเราค่ะ 12 บทเพลงเท่ๆแนว Goose ชุดนี้หนุ่มๆชาว Goose รับบทหนักทำทุกอย่าง..ตั้งแต่เพลง ไปจนถึงปกอัลบั้มและ Music Video ราคาขายที่งาน 200 บาท (ปก 250 บาท)


2. Smallworld 001 “Bangpop!”

Compilation อัลบั้มแรกจาก Smallworld ค่ะ รวม 17 เพลงจากศิลปินหลากหลายประเทศ อาทิเช่น Popsicle (วงเก๋ๆจาก Sweden ที่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว), Ivy (US), Hideki Kaji (Japan), Remington Super 60 (Norway), April March (France), Brave captain(งานเดี่ยวของ Martin Carr อดีตสมาชิกวง The Boo Radleys - UK), Stars (Canada), Jean Jacques Perrey (ศิลปิน Electronica รุ่นแรกของโลก - FRANCE) แล้วก็ YMCK (ที่จะมาร่วมงาน Fat Fest ครั้งนี้ด้วย -Japan) เป็นต้นค่ะ ราคาขายที่งาน 350 บาท (ปก 390 บาท) ถ้าเป็นไปได้ (มีเวลาพอ) จะมีเพลงให้ฟังก่อนที่หน้า Pop Music ของเราค่ะ


3. Moving Image “1st Issue”

DVD รวม Music Video ชุดแรกของ Smallroom ประกอบไปด้วย 20 ผลงานที่ผ่านมาของเรา ตั้งแต่ Smallroom 001 ไปจนถึง Armchair, Penguin Villa, Superbaker, death of a salesman, Cyndi Seui, Orwell และอีกเยอะแยะ แล้วก็มีเพลงใหม่ล่าสุดจาก Cyndi Seui ที่ยังไม่เคยออกอากาศที่ไหนมาก่อน แล้วก็เพลงประกอบ “สัตว์ประหลาด” ที่คุณเจ้ยให้หนังมาตัดต่อใหม่ สำหรับ DVD ชุดแรกของเราโดยเฉพาะ เป็น DVD ที่ควรมีไว้ใน Collection จริงๆนะคะ ราคาขายที่งาน 260 บาท (ปก 299 บาท)


4. Montonn Jira EP 3 “Three Love Songs”

เสร็จทันงาน Fat พอดี มาช่วยกู้หน้า Armchair ที่ยังไม่เสร็จ (55555) 3 บทเพลงแนว Micro House เนื้อร้องเป็นภาษาไทยด้วย รีบสะสมกันต่อโดยด่วนค่ะ ทั้งเพลงและปก EP เค้าเริ่ดมากๆ ราคาขายที่งาน 100 บาท (ปก 155 บาท)


5. Grass Show (SW 106)

ศิลปินจากประเทศ Sweden เป็นอัลบั้มต่างประเทศชุดที่ 6 แล้วของ Smallworld ชุดนี้ “Vertigo” มีดีตรงที่เรา Import แผ่นโดยตรงมาจากญี่ปุ่น เป็น Japan Release version มี Tracks พิเศษเพียบ แถม Video Clip ด้วย คุ้มสุดคุ้ม ราคาขายที่งาน 350 บาท (ปก 390 บาท) อ้อ เรามีเพลงของ Grass Show รวมอยู่ใน Smallworld 001 ด้วยนะคะ ลองไปฟังกันก่อนได้แล้วที่หน้า Pop Music ค่ะ


6. Le Futur Pompiste (SW107)

วงชื่อแปลก (แต่เพลงเพราะมากๆ) จากประเทศ Finland ชุดนี้เราก็ Import มาจากญี่ปุ่นเหมือนกันค่ะ เป็นผลงานลำดับที่ 7 แล้วของ Smallworld ไปลองฟังกันก่อนว่าเพราะแค่ไหนได้ที่หน้า Pop Music ชุดนี้มีจำนวนน้อยมากๆ (หลักสิบ) ต้องรีบแล้วค่ะ เดี๋ยวหมด..อดเลย!! ราคาขายที่งาน 350 บาท (ปก 390 บาท)


7. Corncan อัลบั้ม กรุงเทพ

เพิ่งวางแผงไปไม่นาน ถือว่าเป็นอัลบั้มใหม่ด้วยแล้วกันนะคะ มีให้ฟังแล้วที่หน้า Pop Music เหมือนเดิม เพลงเค้ามันส์จริงๆ ราคาขายที่งาน 160 บาท (ปก 190 บาท)

ส่วน CD อื่นๆก็มี
Smallroom 001-005
Armchair “Spring”
Superbaker”Beautiful Day”&“Joy”
Cyndi Seui”Micro Bitz Life”
Penguin Villa “ออกไปข้างนอก”
Montonn Jira “1” & “2” (จำนวนน้อยที่สุด)
Stylish Nonsense
Death Live!
Orwell “Des Lendemains” & “Archipel’
Melting Holidays “7 Favorites”
Mocca”friends”
Hockee “Peculiar Story”

ตามนี้เลยค่ะ ราคาถูกกว่าตามท้องตลาดแน่นอนค่ะ ขอเชิญทุกๆท่านที่ Booth ของเรานะคะ แล้วเจอกันค่ะ

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 10:40:30 น.  

 

^
^
^

ไม่จริงเลยที่ว่าขายถูกกว่าท้องตลาด

พี่ไปซื้อ ขอนแก่น ที่คลองถมมา ราคาเท่ากันเด๊ะ

ค่ายซีดีฟันกันเน๊าะ ๆ ไม่ผ่านยี่ปั๊วน่าจะถูกกว่านี้น่ะ

 

โดย: I will see U in the next life. 27 ตุลาคม 2548 11:45:10 น.  

 



โว้ย! ค่ะ โว้ย!

ทำไมช่วง ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ นี้ มันถึงมีงานร้อยแปดประการขนาดคะเนี่ย! ไม่ไหวแล้วววววว!!!

1. ศุกร์ 28 ตุลาคม
SONNY & NOR PARTY
อ่าน //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3832300/A3832300.html


2. เสาร์ 29 - อาทิตย์ 30 ตุลาคม
Asahi Music Fest : Taste Of Synth
อ่าน //www.asahibeer-thailand.com/music.html

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 11:47:49 น.  

 



ถ้าใครไปงานของ Asahi ดิฉันฝากดู พี่ทวนแห่ง Death Trip เล่นด้วยนะคะ (เค้าเล่นวันเสาร์ 22.30 เวที มิยาบิ ค่ะ) ดีใจค่ะที่เขาไม่หลงไปกับ "เดย์ ทริปเปอร์ เวอร์ชัน อากู๋" จนลืม "ด้านมืด" ของตัวเอง

หมายเหตุ - Death Trip เป็นโปรเจคต์ของคุณทวน มือกีต้าร์วง Day Tripper ค่ะ เพลงของเขาเป็นแบบ NOISE MUSIC ออกมาแล้ว 3 ชุด จ้า

สงสัยงานนี้จะไม่ได้ไปดู แบบว่าเบื่อคนเยอะง่ะ -_-'

 

โดย: merveillesxx 27 ตุลาคม 2548 11:53:51 น.  

 

"TSU" ( the short movie) was beautiful ....keep up the good work!!!!!!well done

 

โดย: man IP: 58.8.243.169 28 ตุลาคม 2548 1:49:33 น.  

 

- อืม.. ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ นี้มีโปรแกรมเยอะจริงๆ ด้วย
น่าสนใจๆ

- ช่วงนี้มีอัลบั้มใหม่ออกมาเยอะมากกกครับ
ตามซื้อไม่ทัน
ทั้งแนวป็อบแจ๊สอย่าง Jamie Cullum, Katie Melua
แนวร็อคแดนซ์ (ขอเรียกอย่างงี้เหอะ เพราะเพลงมันเป็นอย่างนี้จริงๆ) อย่าง Franz Ferdinand (ฟังหลายๆ รอบก็เพราะดีนะ)
หรือจะเป็นพวกอเมริกัน ร็อคอย่าง Nickelback, Lifehouse
แล้วไหนจะอัลบั้มใหม่เจ๊แม่อย่าง Confessions of a dancefloor อีก

โอ๊ย เยอะจริงๆ
(แต่ Depeche Mode โหลดจาก Bit Torrent มาแล้วครับ แหะๆ)

- MV Hung Up Premiere ไปแล้ว
เจ๋งสุดๆ
ชอบมากกก
(แต่คนอื่น อาจไม่ชอบ ไม่รู้เหมือนกัน)

 

โดย: it ซียู 28 ตุลาคม 2548 11:40:49 น.  

 

ทวนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนประสานมิตรอ่ะ เมื่อก่อนอ้วนมาก เดี๋ยวนี้เจอกันอีกทีแล้วตกใจ เพราะหล่อลาก อยากได้มาก ซร้วบ ขอบเดย์ทริปชุดแรก ๆ อ่ะ

 

โดย: ปุ่น IP: 58.8.26.116 29 ตุลาคม 2548 5:02:15 น.  

 

นี่คืออาการพักผ่อนหลังเทศกาลหนังรึ แบบว่า หายไปเลย

//thunska13.exteen.com/

 

โดย: ปุ่น IP: 58.8.101.247 29 ตุลาคม 2548 22:20:31 น.  

 

มั่ยค่อยจะหนุกเท่าหรั่ยเลย แต่ก้อ ดูแล้วเพิน DDDDD เหมือนกันกั๊บโผม

 

โดย: kikjung IP: 202.28.50.6 2 กรกฎาคม 2550 18:56:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.