http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

The Descent : ถ้ำแดงเดือด

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง




(คำเตือน : บทความนี้เปิดเผยเนื้อเรื่องและตอนจบของภาพยนตร์ โปรดหาหนังมาดูก่อน หนังมีแผ่นลิขสิทธิ์หาซื้อ/เช่าได้ทั่วไปจ้ะ)



ช่วงปลายปี 2548 ประเทศไทยมีหนังสยองขวัญที่เกี่ยวกับ “ถ้ำ” เข้าฉายในเวลาไร่เลี่ยกัน นั่นคือ The Cave (2005, บรูซ ฮันต์) และ The Descent (2005, นีล มาร์แชล) ต่างกันที่ว่าเรื่องแรกเป็นผลผลิตจากฮอลลีวู้ด ส่วนเรื่องหลังเป็นหนังสัญชาติอังกฤษ (ถ้าจะมีอะไรที่เหมือนกันก็คงเป็นชื่อไทยที่เว่อร์พอๆกัน อย่าง “ถ้ำอสูรสังหาร” และ “หวีด มฤตยูขย้ำโลก” ตามลำดับ)

ตัวผมนั้นไม่ได้ดู The Cave แต่เท่าที่ฟังจากเสียงคนรอบข้างหรือตามอ่านเอาจากบทวิจารณ์ ผลออกมากลางๆ จนถึงค่อนไปทางลบ ส่วนใหญ่บอกว่ามันเป็นหนังที่ไม่มีอะไร เดินออกจากโรงก็ลืมไปหมดแล้ว กลับกันกับ The Descent ที่หลายคนบอกว่ามีประเด็นอะไรให้คิดมากมาย และการที่นิตยสารอย่าง Film Comment ยังมีบทความถึงหนังเรื่องนี้ ย่อมแสดงว่า The Descent คงไม่ใช่หนังดาดๆ แน่นอน

หนังเปิดเรื่องด้วยหญิงสาว 3 คน ซาร่าห์ จูโน่ และเบธ ล่องเรือท้าเสียวกันอย่างสนุกสนาน โดยมีสามีและลูกสาวของซาร่าห์รอรับอยู่ที่ปลายทาง ฉากเปิดนี้ถือเป็นฉากที่บอกอะไรกับคนดูอย่างดีเยี่ยม เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ กับพฤติกรรมบางอย่างของตัวละคร เราสามารถเห็นภาพความสัมพันธ์ของสามสาวได้อย่างชัดเจน และยังรู้ด้วยว่าจูโน่เป็นชู้กับสามีของซาร่าห์

ระหว่างขับรถกลับซาร่าห์เองก็รู้สึกได้ถึงท่าทีแปลกๆ ของสามี แต่ยังไม่ทันจะถามไถ่อะไรกันชัดเจน รถของพวกเขาก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ซาร่าห์รอดตายหวุดหวิด แต่สามีกับลูกของเธอเสียชีวิต




หนังตัดมายังเหตุการณ์ใน 1 ปีถัดมา กลุ่มสาวๆ นัดรวมตัวกันอีกครั้ง (โดยมีสมาชิกเพิ่มมาอีกรวมทั้งสิ้นเป็น 6 คน) เพื่อจะไปออกทริปสำรวจถ้ำด้วยกัน ทุกคนพยายามทำตัวร่าเริงเพื่อให้ซาร่าห์สบายใจ แต่เราก็ยังเห็นว่าเธอยังไม่อาจลืมเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ เธอเปราะบางและหวั่นไหวต่อสิ่งรอบข้างได้ง่ายมากๆ อย่างไรก็ดี อารมณ์ของหนังในช่วงนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่น ทั้งหกสาวหลอกล้อกันอย่างสนุกสนาน บ้านพักเจือไปด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก

ในขณะซาร่าห์ดูอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม จูโน่ก็ดูจะแข็งแกร่งที่สุด บุคลิกของเธอออกจะเป็นผู้หญิงลุยๆ ไม่กลัวอะไรง่ายๆ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่เชี่ยวชาญการสำรวจถ้ำมากที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอทำตัวเป็นผู้นำตลอดการเดินทาง และที่สำคัญก็คือเธอเป็นตัวตั้งตัวตีของทริปครั้งนี้ด้วย

การผจญภัยในถ้ำดูจะเป็นไปด้วยดี ทั้ง 6 คนต่างตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามอันลึกลับของถ้ำแห่งนี้ จะมีปัญหานิดหน่อยตรงที่ซาร่าห์มองเห็น “บางสิ่ง” ที่ดูผิดแปลกประหลาดเป็นพักๆ แต่นั่นก็ดูจะไม่ใช่ปัญหาอะไรมากมาย พวกเธอยังคงมุ่งหน้าลงลึกสู่ชั้นล่างของถ้ำต่อไป

จุดเริ่มต้นของความหายนะเริ่มขึ้น เมื่อซาร่าห์ดันไปติดกับช่องหินเข้า(ตรงนี้ก็เป็นการตอกน้ำความอ่อนแอของเธออีกครั้ง) ซาร่าห์รอดจากการถูกถ้ำถล่มทับอย่างหวุดหวิด แต่ซากหินก็ได้ปิดทางออกจนมิดสนิท พวกเธอทั้งหกจึงถูกขังในถ้ำไปโดยปริยาย …สมาชิกคนหนึ่งพูดด้วยความหวังว่าเดี๋ยวก็มีเจ้าหน้าที่มาช่วยพวกเธอแน่นอน แต่จูโน่ก็เปิดเผยความจริงอันน่าสะพรึงกลัวว่า ถ้ำแห่งนี้ไม่ใช่ถ้ำที่จูโน่เคยบอกเพื่อนๆ ไว้ แต่มันเป็นถ้าที่ยังไม่เคยมีใครมาสำรวจต่างหาก!

ช่วงกลางเรื่องของ The Descent ยังคงเป็นหนังแนวที่ให้คนดูลุ้นระทึกว่าพวกสาวๆ จะเอาชีวิตรอดออกจากถ้ำนี้ได้หรือไม่ สถานที่ปิดอันคับแคบ แสงเงามืดสลัวยิ่งสร้างความกดดันให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสถานการณ์ก็ยิ่งแย่หนักลงไปอีก เมื่อหนึ่งสมาชิกในกลุ่มเกิดขาหักขึ้นมา ในขณะเดียวกันซาร่าห์ก็พยายามบอกกับเพื่อนๆ ว่าเธอเห็นบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับ “คน”

ไม่กี่นาทีถัดมา เหล่าตัวละครและคนดูก็ได้ทราบพร้อมกันว่า สิ่งนั้นไม่ใช่คน แต่มันตัวประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว ที่บุกโจมตีพวกเธอโดยไม่รู้ตัว




จากจุดนี้ไป หนังเปลี่ยนแนวเป็นหนังสยองขวัญทันที สัตว์ประหลาดที่ว่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ปลิดชีพเหยื่อด้วยวิธีการอันโหดเหี้ยม สภาพการณ์ในถ้ำเป็นพื้นที่จำกัด แถมยังมืดจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้อารมณ์ระทึกของหนังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความสนุกของหนังยังอยู่ที่ลูกเล่นฉลาดๆ เช่น การที่ตัวประหลาดตาบอด แต่จับการเคลื่อนไหวของเหยื่อจากเสียง หรือฉากที่ตัวละครมองผ่านกล้องไนท์โหมดที่ทำเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้อง นอกจากนั้นการได้เห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ขึ้นมาสู้อย่างไม่คิดชีวิตก็เป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ทีเดียว

อย่างไรก็ดี หาก The Descent มีความโดดเด่นเพียงด้านนี้ มันก็คงเป็นเพียง “หนังสัตว์ประหลาด” อีกเรื่องหนึ่งที่จะหลุดพ้นจากห้วงสำนึกของผู้ชมไปอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าสนใจมากก็คือ หนังมีประเด็นที่เข้มแข็งมากกับการสำรวจ “ผู้หญิง”

การเดินเข้าถ้ำลึกเข้าไปเรื่อยๆ ก็เปรียบเหมือนการที่หนังเริ่มลงลึกสำรวจถึงจิตใจของตัวละครมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงในใจของซาร่าห์

จุดพลิกผันของเรื่องอยู่ที่ตอนที่จูโน่ทำร้ายเบธอย่างไม่ตั้งใจ เธอปล่อยเบธทิ้งไว้ (โดยอาจจะตั้งใจ หรือเข้าใจว่าเบธตายแล้ว) ภายหลังซาร่าห์มาพบกับเบธเข้า เบธบอกซาร่าห์ว่าอย่าไว้ใจจูโน่ (เราสังเกตได้ว่า เบธกับจูโน่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก) ทั้งยังบอกความจริงเรื่องที่จูโน่เป็นชู้กับสามีของเธอด้วย สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เบธขอร้องให้ซาร่าห์ทำ “การุณยฆาต” แก่เธอ

หลังจากนั้น ซาร่าห์เริ่มบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่หนีหัวซุกหัวซุน เธอเริ่มหันมาสู้กับพวกตัวประหลาด วีธีการต่อสู้ของเธอไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่า ราวกับว่าสัญชาตญาณดิบของเธอได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ส่วนทางด้านจูโน่นั้นก็ยืนยันกับเพื่อนว่าเธอจะไม่ออกจากถ้ำนี้เด็ดขาด ถ้าไม่มีซาร่าห์ไปด้วย ราวกับว่าเธอเริ่มจะสำนึกผิดที่พาเพื่อนๆ มาตายที่ถ้ำนี้ และอาจรวมถึงเรื่องที่เป็นชู้กับสามีของซาร่าห์ด้วย

การเปลี่ยนแปลงของซาร่าห์กับจูโน่ดูจะเป็นการสลับขั้วกันอย่างสิ้นเชิง โดยซาร่าห์จากเดิมที่ดูเป็นผู้หญิงอ่อนแอ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ แต่ท้ายสุดเธอกลับดูน่ากลัวไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาดพวกนั้น ในขณะที่จูโน่ที่คนดูมองว่าเธอเป็นตัวร้าย ภายหลังเธอกลับพยายามช่วยเหลือเพื่อนและไม่ยอมทอดทิ้งซาร่าห์

มีอยู่ฉากหนึ่งที่อุปมาถึงการเปลี่ยนแปลงของทั้งสองคนได้อย่างน่าสนใจ นั่นคือ ฉากที่ทั้งคู่ตกลงไปในน้ำ ในขณะที่ซาร่าห์ตกลงไปบ่อน้ำสีแดงสด (เหมือนเลือด) จูโน่นั้นตกลงไปในน้ำใส (ซึ่งชวนให้นึกถึงพิธีศีลจุ่มล้างบาป) หรือถ้าสังเกตดูในช่วงท้ายของหนัง เราจะเห็นว่าซาร่าห์ถือคบไฟสีแดง (โทนร้อน) ส่วนจูโน่ถือไฟนีออนสีเขียว (โทนเย็น) ทั้งสองสียังเป็นสีที่ตรงข้ามกันด้วย



แผนภาพการกลับขั้วของ ซาร่าห์ และ จูโน่



ในที่สุด ถ้ำแห่งนี้ก็เหลือเพียงซาร่าห์กับจูโน่ที่ยังรอดชีวิต ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง จูโน่ตกตะลึงกับสภาพของอีกฝ่าย จนหลุดปากออกมาว่า “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” เนื้อตัวของซาร่าเปรอะไปด้วยสีแดงฉานดั่งเลือด แต่อะไรก็ไม่เท่ากับสายตาของเธอ เพราะมันคือสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง (ต้องขอชื่นชม ชอว์น่า แม็กโดนัลด์ ที่ทำสีหน้าได้น่ากลัวมาก)

ทั้งสองร่วมกันต่อสู้กับเหล่ากองทัพตัวประหลาดอย่างดุเดือด แต่เมื่อเป้าหมายตายสิ้นไปหมดแล้ว ซาร่าห์กลับยังไม่หยุดแค่นั้น เธอจ้องมองจูโน่ด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย ฉากนี้เป็นฉากที่น่ากลัวเอามากๆ เพราะในขณะนั้น พวกสัตว์ประหลาดเข้ามารายล้อมซาร่าห์อีกระลอก แต่สำหรับตอนนี้ศัตรูของเธอคือ จูโน่ เท่านั้น

ซาร่าห์แผลงความอำมหิตที่ช็อคคนดูด้วยการทำร้ายเข้าที่ขาของจูโน่ ราวกับมุ่งหมายว่าจะไม่ให้หนีไปไหนได้ จากนั้นเธอก็วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย ซึ่งแท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้น เพราะในฉากเปิดเรื่อง เราได้เห็นซาร่าห์แกล้งผลักจูโน่ตกน้ำ แต่เธอก็ไม่คิดจะหันกลับไปช่วยเพื่อนสักนิด ซาร่าห์เดินขึ้นฝั่งอย่างหน้าตาเฉย ส่วนคนที่ไปช่วยจูโน่กลับเป็นสามีของซาร่าห์

การกระทำของซาร่าห์ทำให้เราต้องนิยามคำว่า “สัตว์ประหลาด” กันใหม่อีกครั้ง เพราะหากลองนึกดีๆ ตัวประหลาดในหนังก็ล่าเหยื่อไปตามสัญชาตญาณของมัน พวกมนุษย์ด้วยซ้ำที่ไปบุกรุกพื้นที่ของมันเข้า แต่สิ่งที่ซาร่าห์ทำคือการทำลายเส้นแบ่งของมนุษย์กับสัตว์ประหลาด ความแค้นและความเกลียดชังทำให้หญิงสาวที่น่าทะนุถนอมราวกับนางฟ้าเปลี่ยนแปลงเป็นปิศาจเลือดเย็นได้ในที่สุด




หนังยังมีโมทีฟ (Motif - ภาพที่ปรากฏบ่อยครั้ง) ที่น่าสนใจคือ ภาพเค้กในงานวันเกิดลูกสาวของซาร่าห์ เพราะหนังพูดถึงการตายของจิตวิญญาณมนุษย์ และการเกิดใหม่ในคราบปิศาจของซาร่าห์ โพรงถ้ำยังชวนให้นึกถึงมดลูกของเพศหญิง โดยเฉพาะฉากที่ซาร่าห์หนีออกมาจากถ้ำพร้อมด้วยเลือดเปรอะไปทั้งร่าง ก็เหมือนเด็กเกิดใหม่ไม่มีผิด

ตอนจบของหนัง เราเห็นซาร่าห์เป็นผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวจากถ้ำแห่งนั้น แต่สภาพของเธอก็น่าสมเพชจนเกินพรรณนา และเมื่อกลับสู่โลกบนดินอีกครั้ง สิ่งที่รอเธออยู่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเอาเสียเลย อย่างไรก็ดี หนังเฉลยให้เราทราบว่านั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน ซาร่าห์ยังคงติดอยู่ถ้ำต่อไป ภาพลูกสาวที่เธอเห็นตรงหน้าเป็นเพียงภาพหลอน ทุกสิ่งทุกอย่างว่างเปล่า มีเพียงเสียงกรีดร้องชวนสยองของสิ่งมีชีวิตปริศนา

ราวกับว่าหนังต้องการฉายภาพให้เห็นว่าหลังจากนี้ไปไม่ว่าซาร่าห์จะอยู่เหนือพื้นดิน หรือใต้พื้นโลก เธอก็จะพบเพียงแต่นรกเท่านั้น

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะแท้จริงแล้วนรกอยู่ในใจของเธอต่างหาก







 

Create Date : 19 กันยายน 2550
63 comments
Last Update : 19 กันยายน 2550 1:44:49 น.
Counter : 16189 Pageviews.

 

Films seen between 10-17 Sep 2007

Feature films (in theatre)




01. สายลับจับบ้านเล็ก (2007, คมกฤษ ตรีวิมล, B+)

I think Bedside Detective is not too bad. Ok, it is not a good one, just another PLAYSAFE movie from GTH. But some people may have a heavy bias on GTH’s product. Anyway, the leading actress is the best thing in the film, from my masculine aesthetic point of view. (I like her in still picture format because when she spoke, she looked like a fake-innocent one. But her acting is quite good, so I have a positive view to her again)





02. 2 Days in Paris (2007, Julie Delpy, A+)

This film is so intellectual, charming and sentimental. I was in the right place and in the right time when I’ve seen it. 2 Days in Paris projected my current relationship situation on the screen. It’s like a vicious cycle that we fall in love, we have a fight, and then we break up, but we return to in love again in a short period, and so forth. This is a permanent stupidity of mankind. (Anyway, I still hunger to watch Scenes from a Marriage (1973, Ingmar Bergman))

There were two scenes almost break my heart. First, the couples argued about “Can someone be friend with his or her ex?” Double conflicts suddenly emerged in my mind because I always think like Marion (She usually befriended with her ex) but what I have really done is like Jack (He can’t do this to his ex.) Another heart-breaking scene is in the edge of the film, Marion and Jack have a big fight and they’re nearly climbing to “break-up point”. The voice-over (Marion’s) in this scene is like those words which run through my head in every thought, every moment for the whole week. Finally, I cried but I don’t know anymore, which one I cry for…Marion? Jack? or me?

I feel like the ending made a little flaw to the film, but it still acceptable for me.





03. Spider Lilies (2007, Zero Chou, A)

The film may use too much back-and-forth storyline, but I think it is suitable with the theme, “remembrance and forgetfulness.” I also like the issue about difference between “physical reality” and “visual reality” which is present via cyber world. Some characters who used the internet as a hidden place made me think of All About Lily Chou-Chou (2001, Shunji Iwai) and Kairo (2001, Kiyoshi Kurosawa). (My remarkable point is these two films release in 2001, one year after Y2K phenomenon.)

At the first time, my major reason for watching Spider Lilies is Isabella Leong (I deeply fall in love with her from Isabella (2006, Pang Ho-Cheung)) But at the end, I think Rainie Yang’s role is more interesting. Leong’s tomboy character is not attractive for me. (Certainly, it made a great impact on girly audiences.)

In fact, I’m a single son but Spider Lilies drived me such a strong desire to have an older sister like Isabella Leong and a younger brother like John Shen (even he has a mental retardation syndrome.)





04. เพื่อน กูรักมึงว่ะ (2007, พจน์ อานนท์, B+)

Actually, this film did well as we think of Poj Arnon’s previous works. The tagline on the poster which said “Bangkok Love Story is the best film of Poj Arnon” is just not a propaganda but It is the truthful advertisement but has sarcastic agenda in itself.

The cinematography is extremely beautiful; I undeniably give a big applause to Tiwa Metaisong (Sorry for misspelling). The funny question is why he didn’t use these stylish pictures in The Sisters (ผีช่องแอร์).

Besides the tremendously unnatural conversation, Bangkok Love Story also has a unique humor which is unintentional, accidental and awkward. For example, I have a set of non-sense questions like these…

1) The abduction scene: Why Cloud (Mek) has to do such a big thing like that? Will the panic crowd support the stylish movement in this scene?

2) The rooftop scene: Where the hell is the wooden tank come from?

3) Stone (It) went to his home wearing only his underwear, why the police didn’t arrest him for obscenity in public?

4) The ending: Where is Stone? Why it has a snow-falling? Does he move to South Korea? Or the director has an inspiration from the ending of Spring Snow (2005, Isao Yukisada)

From no.4, I think it may a hidden agenda from the film. The director has predicted that Bangkok in 2032 A.D. will have a snow because global warming. Oh! Such a brilliant warning sign! (Well, he might be inspired by An Inconvenient Truth)

If I’m not wrong, Bangkok Love Story is “a tribute” for many films, especially Happy Together (1997, Wong Kar Wai) and The Classic (2003, Kwak Jae-Young)

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 1:49:33 น.  

 


Feature films (on DVD)




05. Ratcatcher (1999, Lynne Ramsay, A+)
I should call Ratcatcher as a classic version of All About Lily Chou-Chou.





06. The Descent (2005, Neil Marshall, A+)
It’s not just another horror film. The Descent clearly described the deep feminine vengeance and how someone who looked like an angel became the devil at last.





07. Paprika (2006, Satoshi Kon, A)
I like Paprika more than Tokyo Godfather but less than Perfect Blue and Millennium Actress. Anyway, I have to respect Satoshi Kon for his visionary images which melt the line between real life and dream life. I also like the theme song very much.





08. The Buried Forest (2005, Kohei Oguri, A+)

This film contains a lot of fragment. We can’t tell which one is a movie, or which one is a tale. And we don’t know anymore where the main story is. I’m very exhausted while I watch it. But when the film comes to an end, I was a little bit shock.

I’m not sure that I completely get the message from The Buried Forest. In my opinion, it told us about two sides; the beauty of imagination and the cruelty of real world. Surely, I can’t distinguish the fantasy scene from the real life scene but the face of the leading actress and the music in the final scene put me through the deeply mournfulness. I think the girl finally realize that she has to come back to the real world. Possibly, the buried forest, the whale balloon, the camel are all just illusions.

It makes me think of Haruki Murakami’s quote in Sputnik Sweetheart. It said “Someday, the real world will pull us back to our old world.”


Note: The Buried Forest has shown in Bangkok International Film Festival 2006. P’Vespertine and P’Mds have given a comment to this one.

1) Vespertine: “The Buried Forest (A++++) หนังญี่ปุ่นที่เหวอที่สุดตั้งแต่เคยดูมา”

2) Mds

“THE BURIED FOREST (2005, KOHEI OGURI, A+)

เป็นหนังที่พิศวงงงวยมากๆ และมีฉากที่เฮี้ยนมากๆหลายฉาก แต่ในขณะที่ฉากเฮี้ยนในหนังเรื่องอื่นๆมักให้อารมณ์ที่รุนแรง ฉากเฮี้ยนๆในหนังเรื่องนี้กลับให้อารมณ์ที่นิ่งสงบมากๆ ยกตัวอย่างเช่นฉากประชาชนแห่กันไปดูป่าที่ถูกฝังและฉากบอลลูนรูปปลาวาฬใน THE BURIED FOREST ต่างก็เป็นฉากที่ให้ความรู้สึกสงบและสวยงาม ในขณะที่ฉาก “ฝูงชน” และ “ปลาวาฬ” ใน WERCKMEISTER HARMONIES (2000, BELA TARR, A+) กลับให้ความรู้สึกน่าพรั่นพรึงและชั่วร้ายมาก

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เหมาะดูมากกว่าหนึ่งรอบ เพราะหนังเล่าเรื่องหลายๆเรื่องที่อาจจะมีบางจุดเชื่อมโยงกัน โครงสร้างของหนังเรื่องนี้ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวย่อยๆมากมายทำให้นึกถึงหนังโมร็อกโกเรื่อง THREADS (2003, HAKIM BELABBES, B+) แต่รู้สึกว่า THE BURIED FOREST ลงตัวกว่ามาก

ชอบวิธีการอธิบายถึงที่มาของป่าที่ถูกฝังไว้ โดยใช้เพียงภาพวาดบนกระดานดำในห้องเรียน แทนที่จะให้ตัวละครมาพูดบรรยาย”

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 1:55:33 น.  

 


Short films




09. Penguin (2007, นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, A+)

A new film from Nawapol (his film, SEE, was my most favorite short film of the year 2006), it is a fictional film. Penguin is similar to Haruki Murakami’s A Wild Sheep Chase in some aspects. It is a trip to find something that they’re not sure of its existence. It is such an empty journey and full of absurdity.

Briefly, the cinematography of Penguin is like a magic. It’s useless to describe in words. The audiences have to sense it with their eyes.

I think Penguin is a next step of Nawapol’s artistic approach. He released himself from family issue. I can feel the depth in this one.



10. Spirit of Christmas (2007, ปวิตร ตรีเมฆ, C+)
This film presses too much Christian moral to the audience.


11. Europa 2005 - 27 octobre (2006, Jean-Marie Straub + Daniele Huillet, A+)
If you know the background of this film, it will be very powerful.

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 1:58:01 น.  

 

กรี๊ด ยังอ่านไม่ได้ ยังไม่ได้ดู
มาลงชื่อแปะไว้ก่อน

 

โดย: nanoguy 19 กันยายน 2550 2:21:55 น.  

 

สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้ดูแล้ว จขบ. ตีความนหนังได้เก่งจริงๆ
ตัวเองดูหนังเพื่อความบันเทิงมากกว่าที่จะคิดอย่างลึกซึ้งได้เท่ากับ จขบ. ค่ะ

 

โดย: หอมกร 19 กันยายน 2550 7:57:24 น.  

 

- สายลับจับบ้านเล็ก

From my feminine aesthetic point of view the leading actor is the best thing in the film .
( กร๊าก เฟมินิสต์ต้องมาโจมตีอิชั้นแน่ๆ เลย )

มีหลายมุกขำเพราะหน้าตาซันนี่เลยนะ ส่วนน้องนางเอกอยากให้เธอ "แอ๊บแบ๊ว" มากกว่านี้น่ะ บทเธอดูก่ำกึ่งไปหน่อย ตามประสาหนัง playsafe แบบที่ จขบ.ว่า คือ แอ๊บแบ๊วอยู่ดีๆ ก็เกิดคิดได้ขึ้นมา ( ไม่สิ ฟังเทปพระเอกแล้วคิดได้ ) เลยกลับตัวกลับใจหันมาทำงานดีๆ เหมือนคนอื่น หนังมันคงต้องคิดเผื่อ Moralist ทั้งหลายน่ะ ตอนจบก็ต้องให้น้องนางเอกเป็นคนดี ไม่ทำร้ายครอบครัวใคร

พี่ว่าถ้าให้หนังมันจบแค่ตอนน้องหมาออกมาเล่าตอนจบ ไม่มีฉากแฮปปิ้งเอนดิ้งในฉากต่อมา จะเด็ดมากสำหรับพี่ ผู้ชอบอิจฉาหนังแฮปปี้เอนดิ้ง ทั้งหลาย อิอิ

แต่อย่างน้อยชั้นขำไปหลายมุกเลย สำหรับหนังเรื่องนี้

- 2 Days in Paris

ชอบเกือบหมดยกเว้นตอนจบ ( แต่หลังจากอ่านที่คุณ vespertine วิเคราะห์ตอนจบไว้ อาจต้องคิดใหม่ ) แต่ดูหนังเรื่องนี้แล้วพบว่า หนังที่ Julie Delpy เล่น ชอบ Before Sunset ที่สุด ดู 2 Days in Paris จบแล้ว คิดถึง Before Sunset อย่างรุนแรง

- Penguin

เห็นด้วยว่าภาพจากหนังเรื่องนี้มีมนต์สะกดบางอย่าง ดูด้วยความตื่นตะลึง แล้วก็ชอบมากที่จขบ. ดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดถึงแกะรอยแกะดาว เวลาใครเปรียบเทียบหนังกับหนังสืออ่านแล้วมีความสุข โดยเฉพาะเมื่อหนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่เราชอบมาก

 

โดย: grappa 19 กันยายน 2550 8:49:38 น.  

 

The Descent เคยดูนานนนนนละ
อ่านแล้ว รู้สึกดี..

 

โดย: renton_renton 19 กันยายน 2550 9:00:12 น.  

 

1.อาจจะเป็นเพราะกูเป็นคนเส้นตื้นง่ายมาก พอดูสายลับจับบ้านเล็กเลยทำให้หัวเราะดังมากแบบที่เพื่อนข้างๆ กลัว เพราะมุขหลายๆอันทำกูตบเข่าฉาดใหญ่ไปหลายฉาด ประทับใจในหลายๆ มุข แทบจะเรียกว่าทั้งหมดเลยก็ว่าได้ มันกวนตีนดี แต่ที่มึงบอกว่าดูเสร็จแล้วมีคนจับมือกันออกไป กูก็ไมได้สังเกตนะว่ารอบกูเป็นมั๊ย แต่มันทำให้กูนึกขึ้นได้ว่าเอาเข้าจริง ฉากซึ้งแต่ละฉากกูไม่ซึ้งตามเลย ขำตลอด เหมือนกับดูตลกมาตลอดแล้วก็อยากดูแต่ตลกไปจนจบ

2.Spider Lilies
กูไม่เคยดูหนังของ Isabella leong มาก่อน ทำให้กูรู้สึกเสียดายมากกก เพราะอยู่ดีๆ ก็มารู้สึกว่าแม่งไม่น่าประทับใจเธอในบทบาทนี้เป็นบทบาทแรกเลยหว่ะ เพราะมันจะกลายเป็นภาพติดตา เมื่อกูได้ดูเรื่องต่อไปกูแอบกลัวภาพทอมบอยแม่งจะมาติดในหัวแล้วแม่งเอาไปเปรียบเทียบกัน พอคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้กูรู้สึกเหมือนโดนมึงด่าโดนที่อ่าน Dance Dance Dance จบก่อนที่จะอ่าน สดับลมขับขาน, พินบอล, แกะรอยแกะดาว ทันที 555

อีกอย่างคือหนังเรื่องนี้ทำให้กูสับสนทางเพศอย่างหนัก 555 ชอบตัวละครทั้งสองตัวอย่างมากกกกกก รวมทั้งประเด็นขัดแย้งในเรื่องที่มึงพูดไป แม้หนังจะไม่จี๊ดหัวใจกูเท่าไหร่ แต่หลายๆ อย่างที่มาปะติดปะต่อกันเป็นหนังมันทำให้กูชอบเรื่องนี้มากทีเดียว

3.2 days in Paris อันนี้พึ่งไปดูมาเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ แอบเวียนหัวกับภาพนิดหน่อย ดูจบมันเลยมึนๆ พอเห็นหน้า Julie Delpy แล้วคำพูดที่ออกจากปากกูอย่างแรกคือ "แก่ไปมากหว่ะ" พี่ความเห็นข้างบนบอกว่าคิดถึงเรื่อง Before Sunset ส่วนกูก็คิดถึง Before Sunrise เช่นเดียวกัน เพราะกูไม่เคยดู Before Sunset มาก่อน แต่กูก็ชอบ Before Sunrise มากกว่าเรื่องนี้อยู่ดี คงเพราะกูยังไม่เข้าถึงควาสัมพันธ์ขั้นที่ดำเนินความรักไปจนเกือบสุดท้าย ชีวิตกูมันมักจะมีแต่เรื่องเริ่มต้น และจบโดยที่ยังไม่ได้เดินต่อเป็นส่วนใหญ่ เลยชอบเรื่อง Before sunrise มากกว่า

ปล.เพื่อนกูรักมึงหว่ะ นี่ไม่ได้ดู กูแปลกใจเล็กน้อยที่มีคนมาชวนดูหลายคนแล้วทั้งๆ ที่ ไม่ค่อยมีใครจะชวนกูไปดูหนังเท่าไหร่ ประหลาดดี แต่ตอนนี้กูก็ยังไม่อยากดูอยู่ดี อคติยังมีอยู่กับพจน์ อานนท์ 555

 

โดย: Nomorebrain IP: 124.120.17.94 19 กันยายน 2550 10:32:06 น.  

 

เขียนจบได้ถึงใจมากค่ะ


ทำให้ต้องมานึกว่า จริงๆ แล้ว ถ้ำที่ว่านี้ อยู่ในใจเราหรือเปล่านะ...

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 19 กันยายน 2550 10:43:30 น.  

 

ยังไม่ได้ดูอะ
ไปหามาดูก่อนแล้วค่อยมาอ่านเน้อ

 

โดย: ennisdelmar IP: 125.24.28.239 19 กันยายน 2550 11:17:43 น.  

 

อ่านจบแล้ว เพราะคิดว่าเป็นหนังผีแน่นอน
ตีความได้ล้ำลึกมากเหมือนเดิมเลยนะ รักษาสุขภาพด้วย เมืองไทยฝนตกบ่อย ส่วนที่นี่เย็นสบายสุดๆ อิอิ

 

โดย: Mint@da{-"-} 19 กันยายน 2550 12:03:46 น.  

 

แวะมาถามเมอร์ว่าได้ดู Bug ถึงจบ end credit หรือเปล่าครับ
เห็นใน imdb มีคีย์เวิร์ดว่า "Surprise After End Credits"

ผมไม่ได้ดูน่ะ

 

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ 19 กันยายน 2550 13:55:27 น.  

 

ปาปริกาน่าดูจัง การ์ตูนอย่างนี้ชอบๆ

 

โดย: ส้มโอ IP: 203.131.220.50 19 กันยายน 2550 14:47:22 น.  

 




จากฉาก "หัวนมสยบความเป็นชาย" ทำให้คิดได้ว่า หนังเรื่อง เพื่อนกูรักมึงว่ะ น่าเปลี่ยนชื่อเป็น

เพื่อน กู รุก มึงว่ะ มากกว่า 55555





รักแห่งสยาม


หลังจากภาพโปรโมทนี้ไปปรากฏในพันทิป กระทู้นั้นก็แตกทันที (ฮา)

ตลกมาก ทีคนทักว่านับวัน มะเดี่ยว ยิ่งเหมือน เสี่ยเจียง







lullabye before i wake...


มันคือ หนังอะไรก็ไม่รู้แหละ แต่โปสเตอร์สวยดี คนไทยกำกับ แต่ดาราเป็นฝรั่งซะงั้น

ดูตัวอย่างหนัง (ที่ออกจะแหม่งๆ) ได้ที่
//www.lbiwake.com/

อ้อ หนังยังเก๋ที่ใช้เพลง Lullabye ของวง Oblivion Dust เป็นเพลงธีมด้วยแหละ

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 15:58:34 น.  

 

ตอบ พี่ grappa

-- วันที่ดู "สายลับจับบ้านเล็ก" แอบ FAIL มาก เพราะคนดูส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนกัน ดูจบก็เดินจับมือกันออกไปหลายคู่ (ชั้นล่ะสงสัยจริงๆ ทำไมคนไทยอินกับง๊ายง่าย หรือว่าชั้นผิดปกติ) แต่พอดู 2 Days in Paris ที่ house ก็รู้สึกดีขึ้นทันที เพราะมีคนดูแค่ 3 คน และทุกคนมาคนเดียว แทบจะตะโกนออกมากลางโรงว่า "โอ้ นี่แหละโลกของช้านนนน" (ฮา)

-- คิดว่า ซันนี่ พอโอเคกับบทตลกนะ แต่เราว่าเค้าเหมาะกับบทหน้านิ่งๆ มึนๆ งงๆ มากกว่า เพราะตัวจริงเค้าก็ดูงงๆ เหมือนกัน แฟนๆ ขอลายเซ็น หรือลากไปถ่ายรูป แกก็ยอมหมด อืม มิน่าล่ะ ถึงถูกป้าแก่ๆ ปากห้อยคนนั้นหลอกเอาได้ (อุ๊ปส์!)

-- ตอนดู "สายลับจับบ้านเล็ก" ก็แอบลุ้นให้ พระเอก-นางเอก พรากจากกันเหมือนกัน แต่ก็รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าหนังต้องจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง อย่างไรก็ตาม ชอบตอนจบของหนังนะ คือมันก็ไม่ได้หน่อมแน้มจนเกินไป สีหน้านักแสดง (โดยเฉพาะซันนี่) จังหวะนั้นก็เอาอยู่เหมือนกัน แต่จะชอบกว่านี้ถ้าไม่มีบทพูดอะไรเลย (ในขณะเดียวกัน "เพื่อนกูรุกมึงว่ะ" ก็อาจจะเป้นหนังติสต์แตกไปเลย ถ้าหนังทำตัวเป็นหนังใบ้ 555555)

อนึ่ง เวลาคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ดิฉันชอบคิดตอนจบใหม่ให้หนังอยู่เสมอ และตอนจบของดิฉันมักจะชั่วๆทรามๆ อย่างเช่น ถ้าดิฉันเป็นคนเขียนบท สายลับฯ ดิฉันจะให้น้ำปั่นกลายเป็นเมียน้อยฟรีแลนซ์ระดับโปรเพรสชั่นแนล ส่วนซันนี่กลายเป็นแมงดาประจำตัว (แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง Bad Guy ของคิมคีดุ๊ก)

หรือวันก่อน พอได้ดูตัวอย่างหนังเรื่อง "บอดี้ศพ #19" ดิฉันก็ค่อนข้างแปลกใจมาก ที่หนังให้ เป้ วง Slur กับ แป้ง-อรจิรา เป็นพี่น้องกัน ดิฉันเลยหันไปพูดกับเพื่อนว่า "ถ้าเป็นกู กูจะเขียนให้ เป้ วง Slur ปล้ำ แป้ง-อรจิรา และผีที่มันเเจอก็คือ อาการประสาทหลอนจากการ incest กัน" (แรงบันดาลใจจากหนัง Pola X ของ ลีโอ การาซ) เพื่อนดิฉันเลยพูดกลับมาว่า "ดีแล้วที่มึงไม่คิดจะทำหนังสั้นแบบชาวบ้านเค้า" (ฮา)


Bad Guy (2002, Kim Ki-duk)


Pola X (1999, Leos Carax)




ตอบ Nomorebrain

-- อาจเป็นเรื่องดีแล้วที่มึงรู้จัก อิซาเบลล่า เหลียง จากเรื่อง Spider Lillies เพราะก่อนหน้านี้เธอก็ได้เล่นแต่ "หนังโสๆ" ทั้งสิ้น อย่างเช่น The Eye 10 (หนังผีที่ตลกที่สุดในโลก) หรือ Bug Me Not (หนังแมลงน่ารักห่าอะไรสักอย่าง) เป็นต้น เธอเพิ่งมามีสติเล่นหนังดีๆ ก็ตอนเรื่อง Isabella นั่นแหละ แต่หลังจากนั้นเธอกลับไปเล่นหนังเรื่อง Diary ให้พี่น้องแปงอีก ...โอ๊ย กูจะบ้า!

ส่วนเรื่องสับสนทางเพศ หลังจากดูหนังเลสเบี้ยนอย่าง Spider Lilies กูก็ขอแนะนำวิธีแก้ โดยให้ดูหนังเกย์ (เรื่องแรกของประเทศไทยซะด้วยนะ - เค้าบอกมาอีกที อิอิ) อย่าง "เพื่อนกูรุกมึงว่ะ" แล้วกัน จะได้ balance ไงมึง



ตอบ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

เอ่อ คือเรื่อง Bug หนูไม่ได้ดูอ่ะค่ะ (ได้ดูแต่ Bug Me Not ฮ่าๆๆ)

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 16:48:57 น.  

 

ถ้ำแดงเดือดนี่ ได้ดูไปโดยไม่ตั้งใจค่ะ ฮ่าๆๆ
เปิดทีวีแล้วเจอพอดี รู้สึกว่า มันต้องเป็นหนังน่าสนใจเลยดู

พอดูแล้วก็ จริงๆด้วย ตื่นเต้น ลุ้นระทึก
ที่ซาน่าห์ตกลงไปในบ่อนั่น น่ากลัวจริงๆค่ะ
แดงเดือดมากๆ ><

สุดท้ายก็...เฮ้ออออ

 

โดย: Dare IP: 61.7.182.16 19 กันยายน 2550 20:06:38 น.  

 

จะบอกว่าผมจำผิดอะ
A Bright Summer Day ไม่มีแผ่นครับ
-_-'
ผมไปจำอีกเรื่องนึงคือ In the Heat of the Sun
พอดีมันออกมาติดๆกันเลยเข้าใจผิด โทษทีๆ

ส่วนหนังของเดวิท ลินซ์ รู้สึกจะทำนะครับ
แต่ที่เสร็จแล้วก็หนังเรื่องล่าสุดของ อากิ คอริสมากิ
สไลต์เดิม ฮ่าๆ

พูดถึง 2 Days in Paris แล้วเศร้า
เศร้าเพราะไปดูผิดเรื่อง -_-'

 

โดย: ;y= (วัชเจียเหว่ย ) 19 กันยายน 2550 20:55:05 น.  

 

เรื่องเพื่อน นี่มันภาพสวยจริงๆนะ เวลาเห็นโฆษณษในทีวีเล่นเอาเคลิ้มเลย
แต่มันยังรับภาพชาย-ชายไม่ได้ 555 น้ำเน่าก็ไม่ชอบ

the Descent เคยเช่ามาให้พ่อดูอ่ะ แต่ตัวเองไม่เคยดู
ก็อ่านที่แกเขียนจบไปเรียบร้อย ฮ่าาๆ

 

โดย: เส IP: 124.121.163.95 19 กันยายน 2550 22:49:48 น.  

 

^
^
เส แม่ง sexual racism นี่หว่า... อิอิอิ

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 23:17:08 น.  

 

ช่วงนี้ไม่ได้ดูหนังอะไรเลยคับนอกจากบ้านผีสิงเรื่องเดียว แต่ว่าอยากดู The Buried Forest มากๆๆๆๆๆ เลย โอย อดใจไม่ไหวแล้ว

ชอบชื่อเรื่อง "กูรุกมึง" มากๆๆๆ คิดได้ไงเนี่ย ส่วนภาพจาก "รักแห่งสยาม" นั้น ถ้าหลุดไปอยู่ในสกรีนเอาท์ก็อาจจะกระทู้แตกได้ เพราะว่าน้องมาริโอ มาวเรอร์ เค้าแบบว่า.....ใสปิ๊งมากๆ แหะแหะแหะ

ปล. เดี๋ยวนี้น้องเมอร์เขียนวิจารณ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยหรือครับ ดีจังอยากให้ฝรั่งมาเจอบทวิจารณ์หนังไทยที่เป็นภาษาอังกฤษ :)

 

โดย: black forest IP: 125.24.161.210 19 กันยายน 2550 23:21:33 น.  

 

^
^
ฝากพี่ป่าดำ เอารูป รักแห่งสยาม ไปปล่อยในบอร์ด สกรีนเอาท์ แล้วกันนะจ๊ะ หนูไม่ได้แวะเข้าไปเลย บอกว่าเป้นของขวัญจากน้องเมอร์แล้วกัน

The Buried Forest พี่ต้องดูนะ หนูว่าพี่น่าจะชอบ แล้วดูรู้เรื่องยังไงช่วยบอกอธิบายให้ฟังด้วย ฮ่าๆ

ส่วนที่เขียนเป็นภาษาปะกิด ก็แบบเห็น มาดามแมดเดอลีนเธอเขียนภาษาอังกิดน่ะค่ะ ก็เลยช่วยกันโกอินเตอร์ เพื่อความแร่ดอันฉุดไม่อยู่ (ฮา) (จริงๆ มันแล้วแต่อารมณ์อ่ะครับ บางทีเหนื่อยๆ ก็เขียนไม่ไหวหรอก)

 

โดย: merveillesxx 19 กันยายน 2550 23:31:07 น.  

 

อย่ามาว่า พิยะ(ตุ๊ด) ของผมนะ!!!

เคยคิดตอนจบใหม่ Midnight Sun เหมือนกัน
คือให้มันสองคนโดนรถไฟทับตายห่าไปเลย
ชอบไปยืนดีนัก

 

โดย: nanoguy 19 กันยายน 2550 23:32:28 น.  

 

เวลาดูหนังโหดๆนิผมไม่ค่อยคิดไรเลยน่ะ นอกจากขอมันส์ ขอไหลไปกับสไตล์มัน

อ่านแล้วก็อืม ดีแหะ ทำให้เราพบว่ไอ้พวกหนังโหดพวกนี้ เมื่อชำแหละเนื้อหนังออกมา ต้นตอแรงบันดาลใจของผกก. ก็มีอะไรดีๆต้องการสื่อให้เห็นนิเอง

 

โดย: AguileraAnimato 19 กันยายน 2550 23:55:32 น.  

 


เพื่อนกูรักมึงว่ะ (ต่อ)

จากเวบบอร์ดไบโอสโคป

Mds กล่าวว่า

"ดิฉันคิดว่าคุณมณฑล อารยางกูรมีความสามารถด้านการเลือกดนตรีประกอบด้วย เพราะดนตรีประกอบของทั้ง “ผีคนเป็น” และ “บ้านผีสิง” นี่ไม่ธรรมดาทั้งสองเรื่อง

ส่วนด้านฝีมือในการกำกับการแสดงนั้น คุณมณฑลก็เก่งมากๆเหมือนกัน เห็นได้ชัดจากคุณฌัชชา รุจินานนท์ ซึ่งดูสง่ามากๆใน “บ้านผีสิง” แต่ดูไพร่มากๆใน เพื่อนกูรักมึงว่ะ"




Vespertine กล่าวว่า

"เห็นด้วยว่า ฌัชชา รุจินานนท์ ไพร่มากๆ ใน "เพื่อน กูรักมึงว่ะ" สงสารเธอเหลือเกินที่ผู้กำกับทำให้เธอดูไม่ดีมากๆ บนจอหนัง

ฉากแรกที่สะดุดเธอมากๆ คือ ฉากคุยโทรศัพท์ที่มีการ split screen เป็น 2 ฝั่ง ฉากแบบนี้ทำให้รู้ว่านอกจากรสนิยมที่หลุดโลกของพจน์แล้ว เขายังไม่มีความละเอียดรอบคอบในอารมณ์ด้วย เข้าใจว่าฉากแบบนี้คงถ่ายไม่พร้อมกัน แต่ผู้กำกับหรือคอนทินิวก็ไม่ได้ดูความสมดุล เหมือนกับว่าพระเอกพูดโทรศัพท์ด้วยดีกรี 2/10 แต่ฌัชชาพูดแบบ 11/10 เธอเลยเหมือนคนบ้ามาก (ในรอบที่ดู มีเกย์ที่นั่งห่างจากผมไป 4 เก้าอี้ พูดออกมาเลยว่า "อีนี่")

ฉากต่อมา ฌัชชาถูกวางให้เป็นจุดไคลแมกซ์ของความไร้สติ เริ่มตั้งแต่พระเอก (หรือนางเอก) เดินใส่กางเกงในตัวเดียวกลับบ้าน เขาเศร้าไปเรื่อยๆ แบบหว่องกาไว แต่เมื่อถึงบ้าน อารมณ์ (ความน่าขัน) ก็มาถึงจุดสุดยอด เพราะแทนที่ภรรยาเขาจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงแต่งตัวอย่างนั้น เธอกลับพูดกับเขาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนร่างกายอันเปลือยเปล่าของเขาเลย เธอเอาแต่ถามว่า 'คุณหายไปไหนมา คุณหายไปไหนมา' แทนที่จะถามหรือช็อคกับสภาพผัวที่เหลือแต่กกน.

ฉากต่อมาคงเป็นฉาก "นาฬิกาของเราเดินไม่ตรงกันแล้ว" ตอนฟังประโยคนี้แล้วรู้สึกว่ามันถึงจุดสุดยอดจริงๆ

ตรงข้ามกับฌัชชา...เรารู้สึกว่า รัชนู บุญชูดวง คือสิ่งที่ดีที่สุดใน เพื่อน จริงๆ เธอเล่นเป็นเมียของ ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง แล้วคุณรัชนูเล่นดีทุกฉากจริงๆ เธอสามารถ handle ประโยคน่าเบื่อๆ ประเภท "คุณจะทำอะไรน่ะ" ได้มีอารมณ์มากๆ รู้สึกเลยว่านี่สิคือนักแสดงทีเก่งกาจจริงๆ"



และ merveillesxx กล่าวว่า

ฉากหนึ่งใน เพื่อนฯ ทำให้นึกถึง นิยายคู่ BLU & ROSSO (ที่เล่มแรกเล่าโดนมุมมองผู้ชาย ส่วนอีกเล่มเป้นผู้หญิง) ซึ่งมีชื่อไทยว่า "ระหว่างความเยือกเย็นและร้อนแรง"

นั่นคือ ฉากที่อิฐโทรกลับบ้านไปหาทราย (หญิง ฌัชชา)


อิฐ : ฮัลโหล ทราย เหรอ... (เสียงเรียบ)

ทราย : อิฐ! อิฐ! นั่น อิฐ ใช่มั้ยคะ! คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย! (เสียงตื่นตระหนก)

อิฐ : ไม่ต้องห่วงนะ ผมไม่สบายดี... (เสียงเรียบเท่าเดิม)

ทราย : อิฐ คุณอยู่ไหนคะเนี่ย! เป็นอะไรรึป่าว! (เสียงตื่นตระหนกมากกว่าเดิม)

อิฐ : ทราบไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ ผมสบายดี แค่นี้ก่อนนะ... (แล้วก็วางสายไป)

ทราย : อิฐ อิฐ อิ๊ดดดดดดดดดดดด!!!!



อนึ่ง ผมได้ลองทำโพลสำรวจดูดังนี้

merveillesxx's poll

(on the phone กับเพื่อนผู้หญิง)

เมอร์ : "ถ้าแกจับได้ว่าผัวตัวเองเป็นเกย์ แกจะพูดอะไรกับเค้า"

เพื่อนผู้หญิง 1 : "ทำไมต้องหลอกกันด้วย"

เพื่อนผู้หญิง 2 : "ไปไกลๆ TEEN กูเลย"

เพื่อนผู้หญิง 3 : "คิดไม่ออกว่ะ คงอึ้งๆ ก่อน จากนั้นก็คงโวยวาย"

เพื่อนผู้หญิง 4 : "จากนี้ไปอย่ามายุ่งกับชั้นอีก"


เมอร์ : "แล้วแกรู้มั้ย ในหนังเรื่อง เพื่อนกูรักมึงว่ะ มันพูดว่าอะไร"

เพื่อนทุกคน : "ว่าไง??"

เมอร์ : "ดูเหมือนนาฬิกาของเราจะเดินไม่ตรงกันแล้ว"

เพื่อนทุกคน : !@#$%^&*

 

โดย: merveillesxx 20 กันยายน 2550 3:52:55 น.  

 

2 days in paris นี่ว่าจะเขียนถึงอยู่เหมือนกันนะคะ ดูแล้วชอบแต่มันก็ไม่สุด แต่ถือว่ามีแวว คิดว่า delpy เอาดีด้านการกำกับหนังได้ดีกว่าการทำเพลงมากๆ

เรื่องอื่นคงยังไม่มีโอกาสได้ดูในอนาคตอันใกล้อ่ะจ้ะ

 

โดย: DropAtearInMyWineGlass 20 กันยายน 2550 6:45:44 น.  

 

ขอขอบคุณที่ร่วมเป็นพยานรักเราคะ เป็นคนชอบหนัวสยองขวัญมาก ยิ่งเรื่องไหนดูไปกรี๊ดไปนี่... ดูสองสามรอบเลย พอดีเลย.... ต้องขอแว่บมาเยี่ยมบ่อยๆ เพื่อหาข้อมูลหนังไปดูคะ

 

โดย: noot (thangthai_ladypink ) 20 กันยายน 2550 7:39:15 น.  

 

ต่ออะ เขียนรีวิวเป็นภาษาอั้งกฤษ แปลไม่ออกเลย

 

โดย: cobaltbluetint IP: 58.8.83.252 20 กันยายน 2550 9:01:55 น.  

 

อยากดู "Spider Lilies" อ่ะ ไม่มีเวลาดูสักที รู้สึกว่าที่เฮาส์จะเหลือ 3-4 รอบเอง แล้วดันมีรอบบ่ายอีก กว่าจะเลิกงานก็เที่ยงคืน เซ็งมากๆ

"เพื่อน กูรักมึงว่ะ" ดูมาแล้วหละตัว ภาพสวยดี เราว่าเนื้อเรื่องก็ดีน่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าตัวละครที่ชื่อ "อิฐ" จะพูดจาไพเราะทำไมทะงเรื่อง ฟังแล้วแปลกๆ แหะ

เรื่องของเรื่องคือเมื่อวันอาทิตย์ อยากดูหนังไทยอยู่ 2 เรื่อง คือสายลับจับบ้านเล็ก กับ เพื่อน กูรักมึงว่ะ หลังจากเถียงกันอยู่นสุดท้ายเลยโยนหัวก้อย เลยได้ดูเรื่องเพื่อน ไปพร้อมกับคู่เกย์ข้างๆที่หนุ่งหนิงกันทั้งเรื่อง


ปล. ดีเมอร์เห็นนายรับปริญญาแล้วอิจฉา เพราะเรารับกุมภาแหนะ แต่บางทีก็ไม่อยากรับ หลังจากไปงานเพื่อนที่ธรรมศาสตร์น่าจะวันเดียวกับนาย เห็นคนแล้ว ยอมรับเลยว่า ไม่ไหวเลยทีเดียว

 

โดย: penguinbear IP: 61.90.147.248 20 กันยายน 2550 12:23:47 น.  

 

ตอบคุณ merv
ที่จริง อิสเหลียงแสดงเรื่อง Diary ของพี่น้องแปงก่อนหนังเรื่อง Spider lilies เสียอีก ดูแล้วบอกได้เลยว่าสุดๆ เรียกว่าเป็นผลงานคืนฟอร์ม(หลังจาทำฉันโคตรเซ็งเป็ดกับคนเห็นตี๋10)ดูในเทศกาลบางกอกฟิล์ม
บอกได้เลยว่าทึ่งการแสดงของเหลียงสุดๆ ชนิดที่ว่าลองเปรียบเทียบกับเธอในแมงมุมลิลี่ซิ

Hong Kong Film Awards (2007)
1. Best Actress for Isabella
2. Best Supporting Actress for Diary

โห เข้าชิง 2 รางวัลซ้อน
...................................................
Golden Bauhinia Awards (2007)

Best Supporting Actress for Diary
Best New Performer for Isabella (ชนะ)

 

โดย: initial A IP: 161.200.255.162 20 กันยายน 2550 14:33:32 น.  

 

อ่านจบแล้ว รู้สึกอยากดูขึ้นมาซะงั้น...

 

โดย: คนทับแก้ว 20 กันยายน 2550 15:05:45 น.  

 

อ่านไม่ได้เช่นเดียวกัน เพราะยังไม่ได้ดู

ชอบชื่อ "เพื่อน กูรุกมึงว่ะ" จัง, ฮาได้ใจดีมาก

"2 Days in Paris" ก็ชอบในระดับหนึ่ง ตอนจบอาจยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ แต่ชอบบรรยากาศที่รู้สึกเจ็บปวดที่ซ่อนตัวอยู่ในตอนท้าย รวมถึงชอบอาการ "ไม่มั่นใจ ไม่มั่นคง" ที่ตัวของแจ็ค รู้สึก

รู้สึกว่าในทุกความสัมพันธ์มักเป็นแบบนี้
เรามักจะรู้สึกไม่มั่นคง และไม่มั่นใจเสมอ
แม้กระทั่งจะเป็นคู่ที่แต่งงานกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วก็เหอะ


:)

 

โดย: tiktokthailand 20 กันยายน 2550 17:30:19 น.  

 

ได้ชมแล้วค่ะ ตื้นเต้นดี กะน่ากลัว ปนสยองนิดหน่อยคะ


 

โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) 20 กันยายน 2550 19:37:24 น.  

 

จะไปดูเรื่องเพื่อน แต่สุดอยากดู สายลับ

สรุปไม่ได้ไปทั้ง 2 เรื่อง ไปดูหนังสั้น Fat พรุ่งนี้แทน ซะงั้น 555+

 

โดย: n_an IP: 124.121.222.8 20 กันยายน 2550 21:19:33 น.  

 

แนนชวนเราไปดูเรื่องเพื่อน แต่เราถามแนนกลับว่าไม่อยากดูสายลับแล้วเหรอ

แนนบอกว่าขอไปเช็ครอบก่อน แล้วก็บอกเราว่าแกไม่อยากดูเรื่อง ensemble c'est tout ที่เคยคุยกันวันก่อนเหรอ

เราบอกงั้นเรื่องนี้ก็ได้ ให้แนนไปเช็ครอบ
สักพัก แนนกลับมาบอกว่ามันออกจากโรงไปแล้ว

และก็เอาตารางเวลาเรื่องอื่นๆมาให้เราซักดู3-4โรงได้
แล้วก็บอกว่าจะมาดูแถวบ้านเรา

เราบอกว่าถ้าลำบากก็ไม่ต้องมา
มันบอกไม่ลำบาก...จะมา
เราบอกตามใจจะมาก็มา

สักพักมันบอกว่าแต่พรุ่งนี้เราก็ไปเที่ยวกันแล้วนะ
เราบอกว่า เออ งั้นไม่ต้องดู จบ


งงชีวิตเราป่ะ เมอ???

แล้วสรุปถ้าเราดูเราจะดูเรื่องไร และเรื่องไหนเป็นเรื่องที่เราอยากดู???

 

โดย: สุด IP: 58.8.51.164 20 กันยายน 2550 22:54:01 น.  

 

เรื่องแรกน่าสยองจังเลยแต่ไม่ชอบหนังทำนองนี้ ส่วนสองวันในปารีสนี่ชอบนางเอกเค้าน่ารักดี แต่พระเอก เอออ หน้าเหมือนเจ้านายเก่าไม่อยากนึกถึงเลย

 

โดย: Special Ed. 21 กันยายน 2550 4:45:31 น.  

 

เขียรรีวิวได้เยี่ยมากเลยครับ เดี๋ยวต้องหามาดูบ้างครับ

วันก่อนเพิ่งดู the Reaping รู้สึกเสียดาย30 บาทค่าเช่า DVD มากเลย
หนังดีจนมาถึงกลางๆเรื่อง แต่พอตอนใกล้ๆจบ ห่วยแตก
หักจบเหมือนหมดมุข

อาทิตย์นี้ว่าจะไปดูสายลับจับบ้านเล็ก ลึกกลัวจะแป๊กมากๆ
ทำไงได้แฟนอยากดู

 

โดย: Mesia_82 IP: 203.144.224.162 21 กันยายน 2550 10:47:52 น.  

 


Those who hunger to see film list of this year World Film Festival, please go to this


In that forum, I have given a brief comment about Ghibli's films.

Ghibli Studio's works in my fluctuated preferential order



1. Whispers of the Heart (1995, Yoshifumi Kondo, A+++++)
The ending of this film was so beautiful, but also very sad. It's a little absurd that my most favorite film of ghibli was neither directed by Miyasaki nor Takahata.

2. Grave of the Fireflies (1988, Isao Takahata, A+++++)
This film made me cry like a river.

3. My Neighbor Totoro (1988, Hayao Miyazaki, A+)
Normally, I'm allergic to innocent element in the film but this one is exceptional.

4. Princess Mononoke (1997, Hayao Miyazaki, A+)

5. Spirited Away (2001, Hayao Miyazaki, A)
Sometimes, I think this film was overrated.

6. The Ocean Waves (1993, Tomomitu Motiduki, A)

7. Kiki's Delivery Service (1989, Hayao Miyazaki, A)

8. The Cat Returns (2003, Hiroyuki Morita, A)

9. Only Yesterday (1991, Isao Takahata, A-)

10. Howl's Moving Castle (2004, Hayao Miyazaki, A-)
I'm so disappointed with Howl.

11. Laputa Castle in the Sky (1986, Hayao Miyazaki, A-)

12. Nausicaa of the Valley of the Wind (1984, Hayao Miyazaki, A-)


I have not yet seen Pom Poko (1994, Isao Takahata) / Porco Rosso (1992, Hayao Miyazaki) / My Neighbors the Yamada (1999, Isao Takahata) / Tales from Earthsea (2006, Goro Miyazaki)


Ghibli's Films may seperate in two groups: Most of Isao Takahata's works are about beauy of youth and nostalgia, while Miyakazi's relate to spirit of nature and eastern philosophy. I prefer Takahata because of his simplicity and sincerity.

 

โดย: merveillesxx 21 กันยายน 2550 13:54:29 น.  

 

อยากดูเพนกวินอ่ะ

 

โดย: I will see U in the next life. 21 กันยายน 2550 14:57:15 น.  

 

โอ้...ใฝ่ฝันอยากดูการ์ตูนของ Ghibli มานานแสนนาน ^^

 

โดย: aggressive red rabbit 21 กันยายน 2550 15:04:33 น.  

 

ได้ข่าวว่าจะมีการนำหนังของกิบบิมาฉายทางโรงภาพยนตร์เร็วๆ นี้ครับ สามเรื่องหลักน่าจะเป็น Whispers of the Hearts, My Neighbor Totoro และ Kiki's Delivery Service ส่วนจะมีตามมาอีกสักสองหรือสามเรื่องหรือเปล่าคงต้องติดตามกันต่อไป ฉายแบบจำกัดโรงครับ คาดว่าน่าจะเป็นลิโด้

 

โดย: Riverdale IP: 58.8.6.165 21 กันยายน 2550 15:12:00 น.  

 

ช่วงนี้หนังเข้าเยอะมาก ไม่มีเวลาดู จะสอบแล้วด้วย
แต่ก็ยังอยากไปดูหนังฝรั่งเศสสองเรื่องที่เข้าโรงอยู่
หนังไทยก็อยากดู เห้อ สงสัยต้องรอแผ่นเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่รีวิว อ่านแล้วอยากดูอะ อันนี้คงหาเช่าไม่ยากนะ
ไว้สอบเสดเมือ่ไหร่ คงได้ดู

ปล. ว่าจะไปดูเพนกวินล่ะ

 

โดย: blastnest IP: 58.64.66.151 21 กันยายน 2550 15:41:37 น.  

 

พี่เข้าไปดูตัวอย่าง I ' am not there แล้ว ตื่นเต้นนะ
โดยเฉพาะ Cate Blanchett อ่ะ สุดยอด
แล้วก็อยากดูทุกคนที่เล่นเป็น บ็อบ ดีแลน หมดเลย

 

โดย: grappa IP: 58.9.221.2 21 กันยายน 2550 23:13:59 น.  

 

I ' m not there ดิ
ไม่ใช่ I ' am not there

วันนี้เลยนั่งฟังเพลงของ บ็อบ ดีแลน ใหญ่เลย
ชอบๆ

 

โดย: grappa IP: 58.9.183.47 22 กันยายน 2550 1:27:03 น.  

 




Absolute Garbage (2007)

ฮ่าๆๆๆ พี่ grappa ฟัง Bob Dylan ส่วนเราตอนนี้ฟังแต่ อัลบั้มรวมฮิต Garbage อ่ะ วงนี้เกิดมาเพื่อเราจริงๆ แฮะ โอย อยากดูคอนเสิร์ต

 

โดย: merveillesxx 22 กันยายน 2550 2:46:00 น.  

 

ที่เขียนๆ มาเนี่ย ยังไม่เคยดูสักกะเรื่อง

 

โดย: fonkoon 22 กันยายน 2550 9:29:52 น.  

 

ชอบตอนจบของหนังเรื่องที่พี่เมอร์ฯรีวิวจังเลยค่ะ
นรกอยู่ในใจ ไปที่ไหนๆก็เหมือนอยู่ในนรก
คนเราก็ต้องมีด้านมืดในตัวบ้างล่ะน้า
แต่ถ้ามืดจนไม่มีแสงสว่างแบบนี้คงไม่ค่อยไหว -"-
ปล* พี่เมอร์ฯดู Howl's moving castle รึยังคะ ?
หนูเพิ่งได้ดูอ่าค่ะ ชอบมากกกกก
(เพราะฮาวล์หล่อ >__< 555+)

 

โดย: a r i t s u m e m o o n 22 กันยายน 2550 13:20:19 น.  

 

coconight มั๊ย

 

โดย: Nomorebrain IP: 124.120.17.15 22 กันยายน 2550 14:36:46 น.  

 

เรื่องนี้สนุกนะ ไม่ค่อยเหมือนหนังสัตว์ประหลาดทั่วๆไป มันมีปมบางอย่างที่แฝงอยู่ ขอยคุณน้องเมอร์ที่ช่วยตีความให้กระจ่างอีกที

 

โดย: Ploffy 22 กันยายน 2550 23:57:36 น.  

 

พี่เตเต้บอกว่ามีคนลอกบล๊อกพี่ไปทำรายงานด้วยแหละ

 

โดย: nanoguy 23 กันยายน 2550 5:23:29 น.  

 

เราโคตรชอบ Ghibli เลยแก

อ้อ ชั้นมีคนไปดูเทนนิสเป็นเพื่อนแล้วนะ ฮ่าๆ
แล้วก็ได้รูปรับปริญญาวันซ้อมมาแล้ว เดี๋ยวส่งให้ แล้วของแกอ่ะ ได้ยัง

 

โดย: เสจัง IP: 124.121.163.82 23 กันยายน 2550 18:45:45 น.  

 

เออเราซื้อ CMYK มาแร้วว แฮ่ะๆ
วันเสาร์เจอน้องจ๋า ผกก.ดนตรีสนาม ในงานฟิ้วแค้มป์ เธอฮ็อตมาก มีคนรุมแย่งหนังเธอกันเกือบสิบคน (แต่เธอดันเอามาแผ่นเดียว...ฮ่า) ปรากฏได้ไบโอไป

 

โดย: ennisdelmar IP: 124.120.179.220 23 กันยายน 2550 23:57:57 น.  

 

^
^
มันออกแล้วเหรอฟะ เราเดินตามหามา 3 อาทิตย์แล้วเนี่ยยยยยยยยยยยย!!!

 

โดย: merveillesxx 24 กันยายน 2550 2:27:38 น.  

 

^
^
ที่ดอกหญ้าสยามเค้ารับมาขายแล้วนะ!!!!!

 

โดย: nanoguy 24 กันยายน 2550 10:27:19 น.  

 

โคดสนุกครับเรื่องนี้

enjoy your day

 

โดย: Holden Caulfield 24 กันยายน 2550 15:28:13 น.  

 

ทำไมในคอมเมนต์1ต้องเขียนเป้นภาษาอังกฤษด้วยย่ะต่อ ขี้เว่อร์อีกละ ช่วงนี้ยิ่งเอียนๆENGอยู่..

เออ ไว้จาส่งรูปที่งานรัญปริญญาไปให้ดู ไมต่อชอบหลับตาก้อไม่รู้แฮะ ยังดีช่างกล้องกดหลายครั้ง เลยมีหลายภาพ แล้วเราถ่ายกะฟ้าไว้ด้วย เด๊ยวจาเมลไปให้ดูเน้อ

 

โดย: ปุ้ย IP: 124.120.164.27 24 กันยายน 2550 15:34:15 น.  

 

อืมน่าดู

 

โดย: อวดดี (auwddee ) 24 กันยายน 2550 22:08:09 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดครับ ขอให้มีความสุขในทุกๆวันและขอเชิญแวะเข้ามาดื่ม casablanca cocktail ได้ที่ blog นะครับ

 

โดย: veerar 25 กันยายน 2550 0:46:04 น.  

 

แวะมาอ่านนะครับ ไม่ได้มาเสียนาน โห เด๋วนี้วิจารณ์กันแบบอินเตอร์ไปซะแล้ว เก๋กู๊ดจริงๆครับ ขออนุญาติก๊อปไปแปะแถวๆเฉลิมไทยนะครับ ฮ่าๆๆๆ

พอดีเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคุณmer ก็ขออวยพรซะเลยละกัน ไม่รู้พรุ่งนี้อัพบล็อคฉลองวันเกิดอ๊ะป่าว ก็ขอให้มีความสุขมากๆๆๆๆๆ คิดหวังสิ่งใดสมปรารถนานะครับ ขอให้มีแฟนไวๆครับ ( ถ้ายังไม่มี ) ถ้ามีแล้วก็ขอให้รักกันมั่กๆๆครับ


โดย: joblovenuk 25 กันยายน 2550 1:36:04 น.

 

โดย: merveillesxx 25 กันยายน 2550 2:04:50 น.  

 


ความคิดเห็นที่ 3

...ตอนดูในโรง ช่วงสิบนาทีแรกของหนัง นึกว่าโดนหลอกดักมาเสียตังค์ซะแล้ว นึกในใจว่า นี่นะหรอหนังโหดฮาร์ดคอร์ที่เขาร่ำลือ

แต่หลังจากนั้น เต็มไปด้วย เลือด เลือด เลือด จนสาสมใจคอซาดิสม์ลาบเลือดมั่กๆ

แถมบทหนังยังมี 'อะไร' ดีๆมากไปกว่า สัตว์ประหลาดโรคจิตวิ่งไล่ฟัดสาวๆ ตามที่ จขกท. เขียนมา เลยทำให้ชอบหนังเรื่องนี้เข้าไปอีก

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 19 ก.ย. 50 02:47:00 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ผมยังจำความมัน หายใจไม่ทั่วท้อง ความลุ้น ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ แทบจะได้กลิ่นคาวเลือดออกมานอกจอเลยครับ

3.5 ดาว สำหรับหนังเอามัน เอาสนุก เอาสะใจเรื่องนี้

จากคุณ : pichet152 - [ 19 ก.ย. 50 03:04:16 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ฮะ ฮะ ลงทั้ง Blog ลงทั้งกระทู้เลยเหรอ อิอิ









จากคุณ : หอมกร - [ 19 ก.ย. 50 08:20:23 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ตอนนั้นหนังเข้าไม่กี่โรงผมจำได้ ผมไปดูกับแฟน2คน ที่century

ปรากฎว่ารอบนั้นมีคนดูอยู่2คนเท่านั้น แฟนผมกลัวจนตัวสั่นดิ๊กๆเลยล่ะ

จากคุณ : zemos - [ 19 ก.ย. 50 08:58:16 ]






ความคิดเห็นที่ 7

เรื่องนี้ดูที่เมกาครับ ถูกใจกันทั้งคนเมกันแล้วก็คนไทยอย่างผมเลย น่ากลัว ปรึ๋ยยยยย

จากคุณ : Aekio - [ 19 ก.ย. 50 13:16:42 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ขอบคุณครับ
อ่านบทความแล้วสงสารจูโน่แฮะ
เธอผิดที่เป็นชู้ ส่วนกรณีปล่อยเพื่อนไว้ มันน่าจะสุดวิสัย

จากคุณ : คนหนอคน - [ 19 ก.ย. 50 15:52:11 ]






ความคิดเห็นที่ 9

อืมดูแล้ว ตอนนู้นดู century เหมือนกัน

จากคุณ : TOTCHI - [ 19 ก.ย. 50 16:09:02 ]






ความคิดเห็นที่ 10

ชอบมากเลยหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์หนังยังคิดในใจ
อีกแล้วหนังแนวนี้ไม่น่าดูหรอก แต่พอเช่ามาดู............

โห้! โดนสุด ๆ ชอบมาก หนังไม่ใช่หนังแหวะธรรมดาทั่วไป
ดูแล้วชอบอ่ะ

จากคุณ : นางมารหน้าหยก - [ 19 ก.ย. 50 16:13:59 ]






ความคิดเห็นที่ 11

ดูเรื่องนี้แล้วชอบอ่ะ
อึดอัดดีแท้ ๆ

จากคุณ : tae (tae:) - [ 19 ก.ย. 50 20:43:49 ]






ความคิดเห็นที่ 12

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" ยังเป็นความจริง 55

ผู้หญิงเป็นได้ทั้งนางฟ้าและปีศาจ

จากคุณ : mooyo - [ 19 ก.ย. 50 22:38:47 ]






ความคิดเห็นที่ 13

หนังเรื่องนี้ทำให้ผมหันกลับมามองหนังเกรดบีซะใหม่

ดูเพลินจริงเลยเรื่องนี้









จากคุณ : CLINT EASTWOOD - [ 23 ก.ย. 50 21:13:11 ]

 

โดย: merveillesxx 25 กันยายน 2550 3:15:46 น.  

 

อยากดูหนังเรื่องรักแห่งสยามครับ
เดี๋ยววันเสาร์นี้แหละจะเข้าไปดู
ไปรำลึกถึงวัยละอ่อน(ที่ผ่านมาหลายปีดีดัก)

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพด้วยน่ะครับ

 

โดย: Dr.Manta 1 พฤศจิกายน 2550 16:19:41 น.  

 

ตอนนั้นกล่อมเพื่อนอีก 2 คนให้ไปดูด้วย ซึ่งแต่ละคนสบประมาณว่าหนังอะไร ไม่เห็นน่าสนใจ ไม่เคยได้ยิน แต่ส่วนตัวเคยดูหนังของผู้กำกับหญิงคนนี้มาแล้ว นั้นคือ Dog Soliders (ชื่อเหมือนหนังการ์ตูน) ว่าด้วยเรื่องราวของหน่วยทหารที่ถูกส่งไปฝึกกลางป่าแล้วเจอกับมนุษย์หมาป่า หนังก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหนังแนวๆ นี้ แต่ทีสะใจก็คือ ทุกอย่างถึงเลือดถึงเนื้อ แบบเน้นๆ (สังเกตว่าหนังแนวสยองขวัญหรือแนวแบบนี้ ระหว่างฝั่งอเมริกากับฝั่งยุโรปจะแตกต่างกัน ในขณะที่ฝรั่งอเมริกาจะไม่ค่อยเน้นแบบถึงเลือดถึงเนื้อกับอารมณ์ แต่ฝั่งยุโรป แ_'งใส่กันแบบถึงลูกคนถึงคน ลองหาหนังเรื่อง สับ สับ สับ มาดูแล้วจะรู้)

เพื่อน 2 คนที่เหลือนั่งดูไป ลืมหายใจไป (มีเพื่อนคนหนึ่งทนฉากที่มุดถ้ำไม่ได้ เพราะมันกลัวที่แคบ ตลอดเวลาของฉากที่ว่า มันนั่งกดที่เท้าแขนและนั่งเกร็งไปทั้งตัว) ดูจบออกมา เพื่อน 2 คนที่ตอนแรกไม่พอใจ ชอบมาก (ชนะแบบคะแนนเป็นเอกฉันท์)

เรื่องนี้บ้านเราได้ดูก่อนอเมริกาเกือบปี และเมื่อออกฉายในอเมริกาก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีหนังห่วยๆ อย่าง The Cave (ก็ดูนะ แล้วก็รู้สึกเสียดายตังค์) ออกมาดัก คนดูเลยไม่อยากเสี่ยง อีกทั้งตอนจบที่ไม่ประนีประนอมกับคนดู ทำให้ตัวเลขออกมาไม่สวย (แต่ไปได้ดีในแถบยุโรปและหลายๆ ประเทศ)

อย่างที่เจ้าของกระทู้บอก หนังมีอะไรให้คิดเยอะมาก โดยเฉพาะในตอนจบและการปรากฎกายของตัวประหลาด ทำให้เราต้องตั้งคำถามว่าจริงๆ แล้วตัวประหลาดที่ว่ามันมีจริงหรือว่าเป็นเพราะตัวซาราห์สติแตกแล้วจัดการเก็บเพื่อนที่ละคนๆ มากกว่าเป็นฝีมือของเจ้าตัวประหลาดในถ้ำที่ว่านั้กันแน่ อันนี้แล้วแต่การตีความของแต่ละคนนะครับ

 

โดย: chubbymature IP: 58.8.40.28 16 ธันวาคม 2550 21:04:16 น.  

 

เรื่องTHE DESCENTสนุกมากๆตื่นเต้นหนูดูมาแล้ว

 

โดย: อ้อน IP: 118.172.155.198 13 กันยายน 2554 9:11:18 น.  

 

Can you please send me the code for this script or please tell me in detail about this script?
portafogli economici Louis Vuitton //www.hotelvillalauri.com/images/servizi/nklf.asp

 

โดย: portafogli economici Louis Vuitton IP: 94.23.252.21 21 สิงหาคม 2557 10:19:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.