http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
25 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
THE RHYTHM & BOYd alumni – งานเลี้ยงรุ่นที่กร่อยไปหน่อย

โดย merveillesxx




“แกจะไปดูคอนเสิร์ตบอยรึป่าว?” นังเห็ดถามผม (ส่วนนังเห็ดจะเป็นใคร ตอนนี้ช่างมันก่อนแล้วกัน เอาเป็นว่ามันคือเพื่อนคนนึง)

“ไม่รู้ว่ะ เออ แล้วมันจัดที่ไหนนะ” ผมถามกลับ

“สนามจุ๊บ”

“หา อะไรนะ สนามจุ๊บเนี่ยนะ”

“เออ ใช่ สนามจุ๊บนี่แหละ”

โถ…ใครจะไปนึกว่าสนามที่ไว้จัดงานกีฬาสีโรงเรียนตัวเอง จะกลายเป็นสนามจัด “คอนเสิร์ตเลี้ยงรุ่น” ของศิลปินระดับประเทศอย่างบอย โกสิยพงษ์ไปได้

ก็นั่นแหละ ช่วงเดือนที่ผ่าน เจอหน้าใคร ก็ต้องถามผมว่า “แกจะไปดูคอนเสิร์ตบอยรึป่าว?”

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

จริงๆ ตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากดูคอนเสิร์ตนี้สักเท่าไรหรอก เพราะหลังๆ รู้สึกว่าเพลงของพี่บอยเนี่ยมันเลี่ยนๆ กับชีวิตตัวเองเกินไปยังไงไม่รู้ มาหลังๆ นี่ชอบอะไรฮาๆ แบบเพลง “เลี้ยงส่ง” ของ So Cool หรือไม่ก็เพลงขำๆ แบบ “Love Love” ของโฟร์-มด อะไรงี้น่ะ …นี่ยังกะเลยว่าจะรอซื้ออัลบั้มชุดสองของ พี่ฟิล์ม-รัฐภูมิ อยู่เลย ดั๊นมาเจอเจ๊อู๊ด เอ๊ย! เสี่ยอู๊ดสกัดดาวรุ่งเสียก่อน แหม สงสัยต้องฟังเพลง “เด็กเลี้ยงแกะ” ของอัสนีย์-วสันต์ ไปก่อนละมั้งเนี่ย (โฮะโฮะโฮะ)

เหตุที่ตัดสินใจไปดูคอนเสิร์ตนี้ในที่สุดก็เพราะ “ชื่อ” คอนเสิร์ตน่ะ คิดว่ามันคงเน้นไปที่อัลบั้ม RHYTHM & BOYd (1994) ซึ่งเป็นอัลบั้มของพี่บอยที่เราชอบมากที่สุดน่ะ ประกอบวันที่ไปดูหนังรอบพิเศษเรื่อง Basic Instinct 2 กับ Bioscope ที่เมเจอร์รัชโยธิน วันนั้นรวยผิดปกติ (??) ก็เลยซัดบัตร 3000 ไปโลด (งานนี้มันขายบัตรที่เมเจอร์)

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


อาทิตย์ 23 เมษายน 2549

ร้อน…ร้อน…ร้อนชิบหาย ร้อนมหาสังคโลก…ร้อนโว้ยยย

นี่แหละ มันร้อนซะขนาดนี้ เราก็เลยอ้อยอิ่งไม่ออกจากบ้านซะที รอให้แดดมันหมดก่อน สรุปไปถึงหน้างานประมาณ 18.45 นู่นแน่ะ (ในบัตรเค้าบอกว่าคอนเสิร์ตเริ่ม 19.00) ไอ้เราก็เลยรีบวิ่งๆ ดูบูธหน้างาน พอเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไร ก็เดินตาลีตาเหลือกวนหาประตูเข้าอยู่ตั้งนาน กว่าจะหาเจอเล่นเสียเหงื่อไปเกือบสิบลิตรประหนึ่งเพิ่งไปดูคอนเสิร์ตวง Ebola มา

แล้วก็ตามเคยแหละ คอนเสิร์ตก็เลทไปเกือบชั่วโมง …ถึงตรงนี้ก็จะพูดถึงบรรยากาศงานแบบรวมๆ แล้วกันนะ Shot ประทับใจเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

เรารู้สึกว่าคอนเสิร์ตนี้มัน “ทะเยอทะยาน” มากเลยนะ เริ่มตั้งแต่เวที 360 องศาเลย ซึ่งมันก็แปลกดี ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนในบ้านเรา จริงๆ แล้วข้อดีของมันน่าจะเป็นการช่วยเพิ่มความใกล้ชิดกับคนดู เพราะเวทีอยู่เป็นจุดศูนย์กลาง (ไม่เหมือนสมัยงาน B.Day ที่สนามราชมังคลา ขนาดอิชั้นซื้อบัตร 3000 บาท ยังเห็นตัวเท่าหอยมด)

แต่มันเป็นดาบสองคมน่ะ เพราะศิลปินก็ต้องคอยเดินวนๆ รอบเวที เพื่อเทคแคร์คนดูให้ทั่ว แล้วนั่นแหละ ความชิบหายแรกก็เกิดขึ้นเพราะคนดูบางคนก็น้อยเนื้อต่ำใจ บอกว่านักร้องไม่ค่อยเดินมาทางนี้เลย ทางนั้นเลย ทางนู้นเลย

แถมบัตร 3000 อย่างข้าพเจ้าก็อยู่ข้างหน้าๆ จนเห็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของวงกลม งานนี้หลายคนเลยลงความเห็นว่าซื้อบัตร 1000 ที่อยู่ข้างบนอัฒจันทร์ยังจะดีซะกว่า เพราะเห็นเวทีครอบคลุมหมด (แต่บางรายก็ซวยถูกไฟสปอตไลท์แยงตาอีก)

ความชิบหายที่สองของเวทีวงกลมก็คือ มันเหนื่อยอ่ะดิ เพราะต้องวิ่งๆ วนๆ ไปรอบๆ เวที …คิดดูขนาด น้อย วงพรู วิทยายุทธสูงส่งขนาดนั้น ยังหายใจหอบแฮ่กๆ เลย ส่วนพี่บอยอ่ะเหรอ แค่สองเพลงแรกก็ไปแล้ว (ฮา)

แต่ก็ต้องชมว่าเวทีออกแบบได้สวยมาก เรื่องแสง-สี นี่ก็สวยพอดูเลยล่ะ (เสียแต่ว่ามันน่าตื่นตาตื่นใจแค่ 3-4 เพลงแรกน่ะ หลังจากนั้นก็เฉยๆ แล้ว จริงๆ น่าจะใช้ประโยชน์กับตรงนี้ให้คุ้มหน่อยนะ) แต่ที่สุดยอดของสุดยอดของสุดยอดก็คือ ระบบเสียงครับ นี่คือคอนเสิร์ตของศิลปินไทยที่ระบบเสียงดีที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมาเลยล่ะ …ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเพราะอิมพอร์ตซาวนด์ เอนจิเนียร์มาจากแดนปลาดิบ มีดีกรีถึงขั้นเคยทำงานกับวง X-JAPAN มาแล้ว (วงนี้ก็ขวัญใจวัยเยาว์ของน้องเมอร์อีกวงนึง)

ดังนั้นในแง่ production แล้ว เห็นได้ชัดว่าคอนเสิร์ตนี้พยายามตั้งใจจะทำตัวเองให้เป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ซึ่งเราว่าอาจจะไม่ถึงขั้นนั้นหรอกนะ แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่น่าพอใจ

มาพูดที่ตัวนักร้องกันบ้าง …ถ้าใครติดตามผลงานพี่บอยมาตลอดก็จะรู้ว่าพี่บอยแกเป็นคนขี้อายมาก ในคอนเสิร์ตที่ผ่านๆ มาแกก็แทบจะไม่ได้พูดอะไรเลย (เล่นลูกเดียว) แต่วันนี้แกมาทำหน้าที่ MC เองเลย ประมาณว่าเป็น “เจ้าบ้าน” ที่ดีว่างั้นเหอะ

พิธีกรจำเป็นอย่างพี่บอยก็ทำหน้าที่ได้ดีนะ แกปล่อยมุกเรียกเสียงฮาจากคนดูได้อยู่เรื่อยๆ แถมยังถือโพยขึ้นไปบนเวทีชนิดไม่ต้องปิดบัง อาจจะมีหลุดๆ script บ้าง แต่ก็ดูเป็นธรรมชาติดี …แกมีความตั้งใจที่ดีนะที่จะชวนศิลปินแต่ละคนคุยเยอะๆ แต่คนดูบางคนมันก็เบื่อน่ะ แล้วมันก็ทำให้คอนเสิร์ต “ยืด” ด้วย ตอนหลังๆ แกก็เลยบอกว่า “เขาสั่งมาให้คุยน้อยๆ ครับ” (ฮา)

แต่ไอ้ที่ตลกที่สุดก็คือ การที่แกต้องพาศิลปินเดินวนรอบเวทีพร้อมกับคุยไปเนี่ยแหละ (เพื่อให้คนดูทั้งงานเห็นทั่วถึง) เอ้อ ดูไปแล้วเหมือนเดินจงกรม

จุดที่ขัดใจหน่อยๆ ก็คือ พี่บอยพยาย๊ามมม…พยายามจะดันศิลปินเลือดใหม่ทั้ง 11 คนเหลือเกิ๊นนน เออ เข้าใจครับพี่ว่าคอนเสิร์ตนี้มันก็ต้องขายของด้วย แต่พี่ก็น่าจะรู้นะครับว่าคนเค้าก็อยากมาฟังเพลงชุดแรกๆ ทั้งนั้นแหละ จะมีสักกี่คนฟะที่ร้องชุดใหม่ได้เนี่ย (แล้วแผ่นมันก็ยังไม่วางขาย ให้ไปโหลดในเวบอะไรก็ไม่รู้)

แต่จุดที่ขัดใจจริงๆ ก็คือ รูปแบบของเพลงที่ร้องในงานนี้มากกว่า รู้สึกเหมือนว่ามันไม่ใช่ THE RHYTHM & BOYd alumni เลยอ่ะ มันเหมือน Boyd Kosiyabong’s Retrospective มากกว่า ถึงแม้เพลงในอัลบั้มชุด RHYTHM & BOYd จะถูกร้องเกือบครบก็เถอะ แต่มันก็ดูไม่มีความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่มันควรจะเป็นไฮไลต์ของงานนี้เลยนะ

แถมบางช่วงที่แว่บไปเล่นเพลงที่พี่บอยไปแต่งให้คนอื่นน่ะ (เช่น ทุกสิ่งของ Pru, ฮอร์โมน ของ Groove Riders) คือปกติเราก็ชอบเพลงพวกนี้มากนะ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่รูปแบบงานที่เราจินตนาการไว้น่ะ วันนี้เราก็เลยไม่มีอารมณ์ร่วมกับเพลงพวกนี้เลย

มาถึงตรงนี้เราก็เลยคิดได้ว่า คอนเสิร์ตนี้มันก็คล้ายๆ “B.Day ฉบับย่อส่วน” นั่นแหละ

คือเพลงมันก็เดิมๆ pattern ก็คล้ายๆ เดิม ยิ่งไอ้ตรง B5 มาร้องโหยหวนนี่ก็ใช่ หรือตอน “3 ดาวค้างฟ้า” ป้ากมลากับ Live & Learn, อาต้อย-เศรษฐา กับเพลง “เหมือนเคย” และพี่ปุ๊-อัญชลี กับเพลง “ห่างไกลเหลือเกิน” โอ้โห ไอ้พวกนี้แหละเหมือน B.Day เป๊ะๆ …แถมตอนจบก็จุดพลุอลังการ…เหมือนเดิมเด๊ะ

มันก็คงเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ยึดติดกับ first impression น่ะ อะไรที่เคยพีคไปแล้ว มันก็ยากที่จะให้พีคอีกครั้ง หรือถึงจะพีคมันก็ไม่เท่าเดิมหรอก

จริงๆ ตรงนี้ก็อาจจะไม่ใช่ความผิดของทางนู้นเค้าก็ได้ เพราะไอ้เพลงหรือรูปแบบพวกนี้มันก็เข้าขั้น “ไฟต์บังคับ” คือจะให้ป้ากมลามาครวญเพลง “ใคร” มันก็คงสยองหูอยู่ หรือจะให้ตอนจบเป็นพี่บอยโหนสลิงไปรอบสนามจุ๊บนี่ก็ใช่เรื่อง

แต่นั่นแหละ เราก็ยังรู้สึกว่างานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้มันกร่อยๆ ไปหน่อย

อ้อ แล้วอีกสาเหตุนึงที่เราไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก…ใช่แล้วครับ…ใช่แล้ว…มันมาอีกแล้ว…ไอ้พวกคนดูเต่าถุยนั่นเอง

ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมชีวิตเราจะต้องพัวพันกับอีพวกสมองหมาปัญญากระบือพวกนี้อยู่เรื่อย คราวนี้เป็นแบบอีพวก “หนูอยากกลับบ้าน” น่ะ คือยัยเจ๊ข้างๆ มากับผู้ชายอีกสองคน แล้วเจ๊แกก็บ่นตลอดงานเลย หิวข้าวบ้าง จะหลับบ้าง เบื่อบ้าง อยากกลับบ้านแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ บลาบลาบลา…คือมึงช่วยศึกษามาสักนี้ดส์ก่อนได้มะ ว่านี่มันคอนเสิร์ตพี่บอยนะโว้ย ไม่ใช่ก๊อบมั้ย เอ๊ย! กอล์ฟ-ไมค์ จะได้เต้นกันกระจายทั้งงาน

แล้วถ้ามึงอยากจะกลับบ้านเนี่ย กูก็ไม่เห็นจะมีใครสักคนดึงขามึงไว้เล้ย คือมึงกลับไปเนี่ยนะ คอนเสิร์ตเค้าก็ยังเล่นต่อได้น่ะ โอ๊ย อิชั้นล่ะเครียดจริงๆ เมื่อไรอีพวกรวยแต่ไร้สมองมันจะหมดจากประเทศไทยไปซะทีคะเนี่ย!

นี่แหละค่ะ คอนเสิร์ตนี้เลยยิ่งกร่อยคูณสอง…

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


คอนเสิร์ตเลิกประมาณ 23.40 …ทำให้เราแสนสุดจะเซ็งเพราะคงวิ่งไปขึ้นรถใต้ดินไม่ทันแน่นอน (ทีหลังช่วยเลิกแบบให้ขึ้นรถใต้ดิน-รถไฟฟ้าทันได้มะ) ว่าแล้วก็เลยเดินไปซื้อ wristband ของงานนี้ ซึ่งก็ต้องเดินฝ่าฝูงชนอ้อมสนามจุ๊บไปค่อนโลก

ไปถึงบูธก็เห็นคนกำลังตบตีแย่งซื้อกันมากมาย และเราก็ต้องเจอมันอีกแล้ว…มันมาอีกแล้ว…อีพวกสวยไร้สมอง คือหน้าตาพวกหล่อนก็ดีๆ ทั้งนั้นแหละนะ แต่ไม่ทราบว่าเวลาอยู่โรงเรียนเอาเวลาไปคุยเรื่องผู้ชาย หรือไปทำนมจนซิลิโคนมันไปตันสมองก็ไม่รู้ คือช่วยต่อคิวกันหน่อยไม่ได้เหรอไงวะ นี่แย่งซื้อกันอย่างเด็กที่เอธิโอเปียแย่งอาการกันกิน …มันน่าเอา wristband ดีดใส่หน้านักเชียว!

ก็ใช้เวลาอยู่นานแหละกว่าจะซื้อได้ wristband อันนี้มันจะมีสองสี ฟ้ากับแดง เขียนว่า THE RHYTHM & BOYD ALUMNI 2006 ขายอันละ 65 บาท …เราซื้อสีฟ้าไปฝากจ๋าดำ (คนเดียวกับใน “ไดอารี่ฝึกงาน”) อันนึง คือสีแดงคงไม่เหมาะกับมันน่ะนะ เดี๋ยวจะเข้าข่าย “อีกาคาดพริก” ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เดินออกมาที่ถนนใหญ่ก็เห็นผู้คนมากมายกำลังแย่ง taxi กันอยู่ โชคดีว่าแถวนี้ถิ่นเราก็เลยพอรู้ลู่ทาง ตัดสินใจเดินไปเรียก taxi แถวหน้า World Trade ได้รถประมาณเที่ยงคืนครึ่ง รถไม่ติดเลย 20 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว

ตอนเดินเข้าห้องตัวเอง แล้วยังไม่ได้เปิดไฟ เพิ่งมาค้นพบว่า wristband ที่ซื้อมานี่มันเรืองแสงได้ด้วย กิ๊บเก๋ซะไม่มี …อืม wristband อันนี้มันก็ทำให้เรารู้สึกดีกับคอนเสิร์ตขึ้นมาเหมือนกันนะ อย่างน้อยเราก็ดีใจที่พี่บอยจัดงานเลี้ยงรุ่นนี้ขึ้นมา และพูดไว้ในคอนเสิร์ตว่าจะมีเลี้ยงรุ่นครั้งต่อๆ ไป

ประโยคนึงที่เราประทับใจที่สุดคือที่สุกี้เล่าว่า ช่วงที่กำลังซ้อมคอนเสิร์ต บอยเดินเข้ามาถามสุกี้ว่า “ยูว่าไอจะทำเพลงต่อดีมั้ยวะ”

สุกี้ตอบว่า “ยูจะบ้าเหรอ แล้วถ้ายูไม่ทำเพลง แล้วยูจะทำอะไร”

นั่นสิพี่บอย…พี่จะบ้าเหรอ?


ปล. เช้าวันจันทร์ที่ 24 เราใส่ wristband สีฟ้าไปทำงาน …นี่เป็นครั้งแรกที่เราใส่ wristband

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


16 ช็อตประทับใจจากงานเลี้ยงรุ่น

1. พี่ฮาร์ทออกมาร้องเพลง “คลั่ง” ให้ฟังกันสดๆ เพลงนี้ไม่เคยเล่นสดมาก่อน และนี่คือเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้ม RHYTHM & BOYd

2. สรรธร + มาริสา มาคู่กันในเพลง “เก็บดาว” นี่คือเพลงดูเอทแบบ high-concept ที่สำคัญที่สุดเพลงหนึ่งในวงการเพลงไทย ฟังสดๆ แล้วขนลุกมาก

3. “จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ” เวอร์ชัน บอย + ธีร์ ไชยเดข

4. คนดูร่วมปรบมือส่งกำลังใจให้คุณแม่ของพี่ธีร์หายป่วย

5. ช็อคสุดๆ! หลังจากร้องเพลง “ทุกสิ่ง” วง Pru ก็ประกาศพักวงไม่มีกำหนด

6. น้อยพูดว่า “ผมเขียนเพลงเป็นภาษาไทยไม่ได้ มีแค่บอยคนเดียวเท่านั้นที่ถ่ายทอดความคิดของผมออกมาได้ วงพรูคงไม่มีทางถึงจุดนี้ได้ ถ้าไม่มีบอย ถ้าวันไหนวงพรูกลับมา ขอให้ยูอยู่กับพวกเรานะ” …ฟังแล้วร้องไห้เลย (พี่บอยแต่งเนื้อเพลงให้วงพรูเยอะมาก)

7. ห้าอภินิหาร B5 ออกมา “ฆ่า” เลือดใหม่ทั้ง 11 คน ชนิดตายสนิท …โหยหวนได้ใจของจริง ต้องห้าคนนี้เท่านั้น

8. บุรินทร์ เต้นสะแด่วในเพลง ฮอร์โมน ได้มันมากๆ

9. แอบเซ็งนิดๆ ที่ไม่ได้ฟังเพลง “ลมหายใจ” ในเวอร์ชัน Ballad ซึ้งๆ ซะที แต่เจ๊รัดเกล้า (วันนี้เป็น “นางพญาสายรุ้ง”) ก็ยังร้องเพลงนี้ให้เวอร์ชันแดนซ์กระจายได้สุดยอดมากๆ ขอกราบงามๆ สามทีรวด

10. สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ แอบแง้มว่าหนังสือ KATCH อาจจะกลับมาเร็วๆ นี้ …เอ้า! กรี๊ด (เอ่อ ว่าแต่เมื่อไรคุณพี่จะออกอัลบั้มใหม่ซะทีขอรับ รอจนเหงือกแห้งแล้ว)

11. พี่ป๊อดออกมาร้องเพลง “รักคุณเข้าแล้ว” นี่คือครั้งแรกกับไลฟ์เวอร์ชันของเพลงนี้!

12. ต่อด้วยเพลง “เจ้าหญิง” …ตายสนิทเลย

13. พี่บอยหมดมุกไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว อยู่ดีๆ ก็ตะโกน “ผมรักคุณนะครับ” ให้คนดูซะงั้น

14. จากนั้นก็ขอบคุณภรรยาต่อหน้าคนดูสามหมื่นคน

15. คุณสันติ ลุนเผ่ กับเพลง Pass The Love Forward …ฟังแล้วขนลุก กับท่อนที่ว่า “ให้จักรวาลแห่งนี้มีแต่ความรัก” …อืม อยากให้คนไทยยรักกันเข้าไว้นะ

16. จบด้วยเพลงชาติ “ฤดูที่แตกต่าง” และพลุไฟอลังการปิดท้าย

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


SETLIST

~ ดุริยางค์
~ Amazing Grace
01. เพลงรัก (นภ)
02. อยากจะรู้ (นภ)
03. สัญญา (บุรินทร์)
04. คลั่ง (ฮาร์ท)
05. หัวใจผูกกัน (บอย peacemaker)
06. ตัดสินใจ (THE RHYTHM & BOYd E1EVEN1H)
07. คืนนี้ (น้อย Pru)
08. เก็บดาว (สรรธร + มาริสา)
~ Band Introducing
09. Medley (THE RHYTHM & BOYd E1EVEN1H)
10. จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ (บอย + ธีร์ ไชยเดช + Pru)
11. ทุกสิ่ง (Pru)
12. Medley (B5)
- ในคืนที่เราเจอะเจอกันครั้งแรก
- คะแนนแห่งชีวิต
- ข่าวของเธอ
- ถ้าฉันไม่ตื่น
- คนข้างล่าง
- I’m free
- Now & Forever
- ช่วงชีวิต
13. ใกล้ (เบน ชลาทิศ)
14. ที่แห่งนี้ (บอย ตรัย + P.O.P)
15. Home (ปั่น)
16. เที่ยงคืน (โป้)
17. ฮอร์โมน (Groove Riders)
18. ลมหายใจ (รัดเกล้า)
19. รักคุณเข้าแล้ว (ป๊อด)
20. เจ้าหญิง (ป๊อด)
21. Live & Learn (กมลา)
22. เหมือนเคย (เศรษฐา)
23. ห่างไกลเหลือเกิน (ปุ๊-อัญชลี)
24. ใคร (ป๊อด)
25. ส่งต่อความรัก Pass The Love Forward (สันติ ลุนเผ่)
26. ฤดูที่แตกต่าง (รวมศิลปิน)




Create Date : 25 เมษายน 2549
Last Update : 25 เมษายน 2549 3:42:13 น. 22 comments
Counter : 3536 Pageviews.

 

บันทึกเหตุการณ์เรื่อยเปื่อย

วันนี้เพิ่งจะว่างเอามือถือไปซ่อม เค้าบอกไม่เกิน 1 อาทิตย์แน่ะ ถึงจะได้ ...ตอนนี้ก็เลยต้องไปใช้เครื่องเก่าก่อน

ดังนั้นช่วงนี้ถ้าติดต่อน้องเมอร์ยากสักหน่อยก็ต้องขออภัยนะครับ มือถือเครื่องเก่ามันก็ร่อแร่ๆ น่ะ

พอดีว่าศูนย์ใหญ่ Loxley ที่เราเอามือถือไปซ่อมมันอยู่ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว (ยังดีว่ามันใกล้บ้านนะเนี่ย) ก็เลยแวะไปดูหนังที่ SFX ลาดพร้าวซะเลย (ไม่ได้ดูหนังที่โรงนี้ตั้งนาน ครั้งสุดท้ายก็ LOTR 3 นู่นเลยอ่ะ)

หนังที่เราดูวันนี้คือ...

Date Movie (2006, Aaron Seltzer, B+)

บอกเพื่อนๆ ว่าอยากดูหนังเรื่องนี้มาก หลายคนก็อึ้งไป

คนใน MSN ชอบนึกว่าเราเป็นพวกอินดี้-จิตแตก ชีวิตนี้ต้องดูแต่หนังอาร์ต ...แต่ขอโทษนะคะ ขอบอกว่าหนังต่ำๆ (เพื่อนนบางคนเรียก "หนังสถุล") เนี่ยน้องเมอร์ก็ชอบค่ะ โดยเฉพาะพวก American Pie, Scary Movie นี่แบบว่าหนังในดวงใจ

แต่ Date Movie นี่แอบเซ็งๆ อุตส่าห์ตั้งความหวังไว้สุง เพราะไม่ได้ดูหนังเลวๆ แบบนี้มานาน ...คือมันเล่นมุกสกปรกเยอะไปหน่อย ไอ้ที่มันล้อหนังก็พอฮาถูไถ ส่วนพล็อตหนังไม่ต้องพูดถึง กลวงซะยิ่งกว่าอุโมงค์ส่งแก๊สเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ก็มีมุกที่ชอบมากๆ ในหนัง เช่น

5.1 มุกล้อ Star War 3

5.2 มุกล้อ LOTR (My Precious ฮามาก)

5.3 มุกล้อ Kill Bill ที่ไร้ที่มา ที่ไป และไร้สติโดยสิ้นเชิง

5.4 มุกล้อ My Best Friend's Wedding (Say A Little Prayer For You)

5.5 มุกล้อ Want Women Want (ไม่นึกว่าจะล้อหนังเรื่องนี้)

5.6 มุกล้อ Mr. & Mrs. Smith (ชอบอันนี้มากที่สุด)

รู้สึกว่าหนังตระกูล "ล้อหนัง" ยังคงไม่มีเรื่องใดที่สู้ Scary Movie ภาคแรกได้

Scary Movie (A+)

Scary Movie 2 (A-)

Scary Movie 3 (B)


ตอนนี้ก็รอดู Scary Movie 4 อยู่ เข้าใจว่า ทอม ครูซ + เคที่ โฮล์มส คงโดนเยอะ

อ่านเจอข่าวที่ ทอม ครูซ บอกเมียไม่ให้ร้องเสียงดังเวลาคลอดลูกตามความเชื่อของลัทธิ Scientology แล้วรู้สึกประหลาดโลกมาก

เพิ่งรู้ว่าลัทธิ Scientology มีระดับ "เลเวล" ในการเข้าถึงด้วย ระดับสูงสุดคือ เลเวล VIII ส่วนทอม ครูซอยู่เลเวล VII

---------------------------------

ช่วงนี้ไปค้น CD เก่าๆ สมัย ม.ปลาย ที่จ้างเพื่อนไรท์ให้ มีแผ่นนึงเป็นแผ่นที่เขียนว่า "แดนซ์จับฉ่าย" เอามาฟังใหม่แล้วรู้สึกดีมาก

เพลงใน CD แผ่นนี้ได้แก่

1. Cher - Believe

2. Sophie Ellis Bextor - Murder on the Dance Floor

3. Spiller - Groovejet (If This Ain't Love)
เพลงนี้ถ่ายเอ็มวีในเมืองไทย ดูกี่ทีก็ชอบ

4. Madison Avenue - Don't Call Me Baby
เป็นเพลงที่แร่ดได้ใจมากๆ

5. Basement Jaxx - Just One Kiss
เป็นเพลงเดียวที่ชอบของวงนี้

6. Roger Sanchez - Another Chance
ชอบเอ็มวีเพลงนี้สุดชีวิต (ที่เป็นผู้หญิงคนนึงแบกหัวใจเดินไปตามถนน)

7. Moulin Rouge - Come What May (Remix)

8. Mono - Life in Mono
อาจจะไม่เข้าพวกเท่าไร แต่คนส่วนใหญ่รู้จักเพลงนี้จากโฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่มไฟน์ไลน์

9. The Chemical Brothers - Hey Boys Hey Girls

10. Moloko - Sing It Back

11. Modjo - Lady (Hear Me Tonight)

ฯลฯ

ทั้งนี้ต้องขอบคุณนิตยสาร POP (ที่เพิ่งเจ๊งไป) ที่แนะนำเพลงเหล่านี้ให้รู้จัก

-------------------------------

มิวสิกวิดีโอที่ชอบที่สุดตอนนี้

โฟร์-มด - Love Love



โดย: merveillesxx วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:3:56:28 น.  

 
เขียนได้ฮามากครับ นี่ขนาดว่ากร่อยนะเนี่ย ประทับใจไปตั้ง16ข้อ ลำพังผมข้อเดียวก็OKแล้ว
เหอๆ พวกไม่เข้าคิวนี่แหละ เคยด่ามันต่อหน้าธารกำนันให้อับอายมาแล้ว แซงใครไม่แซง แอบได้ยินคนข้างหลังชมเลย อุๆๆ สะใจ2ต่อครับ


โดย: แป๊กก วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:5:10:03 น.  

 
Basement Jaxx เปรี้ยวเยี่ยวราดนะค่ะคุ้นนน

ตกลงได้ไปจิงๆ เราก้อถามไว้ คุณบอกว่าไม่อยากไป
แถมรวยนั่งที่ 3000
ขอโทดบัตรพันสปอตไลท์ แยงจนปวดตาถึงปัจจุบัน
พร้อมสิ่งสรรคที่เป็น โฟมๆ เหมือนรังแค ในเพลงเก็บดาว
ดันเข้าปากตอนร้องรำอยู่บนอัฒจรรย์ สำลักจนเป็นหวัด

ขอบคุนเซตลิส ไว้ล่วงหน้า เพราะจะเอาไปเขียนสาธยาย

แต่ประทับเจ๊ข้างๆมาก อายุอานาม 40กว่าสองคน
เทอแอบกรี้ดป้าปุ๊ และขยับย้ายขาในลมหายใจ

แถมไม่บ่นอะไรนั่งไหวติง หลังตรง เหมือนเพื่อนสมัยมหาลัยช่วงฟัง R&Boyd ชุดแรกไงงั้น

ประทับใจป้าๆมากกว่าอาต๋อยร้องเหมือนเคยแบบรีมิกซ์อีกคุณ


โดย: กาปู๋ วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:7:08:25 น.  

 
จริงๆ ไม่ดู แล้วมาอ่านบล็อกเมอร์ฯ ก็พอชดเชยกันได้อยู่นะนี่

อยากฟังเพลงลมหายใจเวอร์ชั่นบัลลาดแบบทั้งเพลงเหมือนกันค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:9:05:10 น.  

 
ไม่ได้ไปดูเพราะคิดว่ามันต้องคล้ายๆ เดิม แถมับตรก็แพงด้วยอ่ะ

ขอบคุณที่เล่าให้อ่านนะครับ


โดย: strawberry machine gun วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:10:38:12 น.  

 
Amazing Grace ร้องโดย แชมป์หนึ่งใน 11ค่ะ


โดย: Bow IP: 58.136.98.20 วันที่: 25 เมษายน 2549 เวลา:19:03:03 น.  

 
ได้บัตรฟรีมาค่ะ เป็นที่นั่ง 1,000 แต่เห็นชัดกว่าที่นั่ง 2,000 ตอน B.Day ซะอีกค่ะ แต่ข้อเสียมากๆของบนอัฒจันทร์คือ ฟังเสียงของพี่บอยไม่รู้เรื่องเอาเลยไป 2/3 ของคอนเสิร์ตน่ะ และก็เป็นเฉพาะของพี่คนเดียวด้วยนะ ทั้งๆที่เสียงดนตรี เสียงร้องยอดเยี่ยมมากๆเหมือนที่คุณ mer บอก เวลาคนอื่นพูดก็ชัดเจนทุกคน แต่ของพี่บอยเนี่ย มันเบาแล้วก็งึมงำอยู่ในลำคอ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดเอามากๆในช่วงแรก แล้วตามมาด้วยความเบื่อหน่าย และพาลบ่นกันว่า"ไม่เอาพี่บอยพูดได้มั้ยอ่ะ ขอหนูฟังเพลงเถอะนะคะ" ยังดีหน่อยที่ช่วงหลังเสียงค่อยชัดขึ้นค่ะ

ส่วนเวทีวงกลมนี่เราไม่ค่อยชอบค่ะ เพราะตอน B.Day สิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากๆก็คือ Background ซึ่งน่ารักและก็มีความหมายในตัวแทบทุกเพลง แต่คราวนี้นี่มันกลายเป็นเห็นนักร้องแวบนึงแล้วก็หายไปน่ะ อีกอย่างคือตอนสัมภาษณ์แล้วพาเดินทัวร์เนี่ย ก็เข้าใจล่ะนะ ว่ามันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ แต่ก็ไม่ชอบเอาเลยน่ะ

แอบตัดพ้อว่าทำไมพี่นภร้องน้อยจังเลย เราว่าครั้งนี้คนที่เด่นมากๆกลับเป็นบุรินทร์แฮะ รู้สึกว่าตอนที่บุรินทร์ออกนี่เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้พี่นภ พี่น้อย พี่ป๊อดเลยล่ะค่ะ ยิ่งช่วงฮอร์โมนนี่มันส์มากๆๆๆ

รู้สึกว่าจะมีแต่ติเนาะ คงเป็นเพราะเราเอาแต่เทียบกับ B.Day น่ะค่ะ (เพราะคอนเสิร์ตแรกของ Bakery ที่เคยดูก็คือ B.Day เลยน่ะ และก็เป็นแค่คอนเสิร์ต ครั้งที่ 2 ในชีวิตเอง) แต่จริงๆแล้วก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากนะคะ ยังสนุกและดีใจที่ได้มาดูอยู่ดี

บทสรุปที่เราบอกกับเพื่อน คือ เหมือนหนังที่ production ยอดเยี่ยม นักแสดงก็เยี่ยมยอด แต่บทไม่ค่อยดีเท่าไหร่


โดย: azzurrini วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:0:14:36 น.  

 
แอบเติมนิดนึงค่ะ
ดีใจมากที่ได้เจอคุณสุกี้ กับ Mr.Z อีก

พี่โป้กับพี่บอย(ตรัย)ร้องน้อยจังเลยค่ะ

ชอบโชว์ของคุณรัดเกล้ามากๆ เป็นช่วงที่สนุกสุดๆในงานเลยค่ะ


โดย: azzurrini วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:0:30:31 น.  

 


โถ…ใครจะไปนึกว่าสนามที่ไว้จัดงานกีฬาสีโรงเรียนตัวเอง จะกลายเป็นสนามจัด “คอนเสิร์ตเลี้ยงรุ่น” ของศิลปินระดับประเทศอย่างบอย โกสิยพงษ์ไปได้


ูู^
^^

แปลว่าเรา อยู่โรงเรียนเดียวกันสินะ คะ




ปล. เช้าวันจันทร์ที่ 24 เราใส่ wristband สีฟ้าไปทำงาน …นี่เป็นครั้งแรกที่เราใส่ wristband


ูู^
^^

เป็นครั้งแรกที่ใส่สายรัดข้อมือเหมือนกันค่ะ



โดย: oonz IP: 161.200.255.161 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:13:01:34 น.  

 
ผิดหวังมากๆเลยอะ กะคอนเสิร์ตครั้งนี้ หลังจากเคยดุของพีบอยมาหลายครั้ง ผมดูบัตร 2000 บาท แต่เหมือนเล่นให้กับที่นั่ง vip อย่างเดียว การแสดงก้ไม่ค่อยต่อเนื่อง อารมณ์เลยติดๆขัดๆ ศิลปินและเพลงก็มาน้อยเหลือเกิน เหมือนเป้นคอนเสิร์ตแนะนำเด็กใหม่ๆมากกว่า ไม่ได้concept alumni เลย ข้อดีก้มีบ้างตรงที่เวที แสง สี เอฟเฟ็กซ์ตระกานตาดีครับ คนอื่นจะประทับใจมากก้ไม่รุ้นะ แต่ผมรุ้สึกเสียดายตังจังอะ เศร้าๆ


โดย: B2g IP: 58.8.20.231 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:13:55:11 น.  

 
รู้สึกผิดหวังมาก ๆ กับคอนเสิร์ตครั้งนี้ อาจเป็นเพราะคาดหวังมากไปหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาก้อคาดหวังไม่น้อยกว่านี้แต่พี่บอยก้อไม่เคยทำให้ผิดหวัง แต่ทำไมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ราคาคุยมันเยอะซะจนมาดูจริง ๆ กลับไม่เป็นแบบนั้น
ช่วงที่ดีที่สุดในคอนเสิร์ตนี้ก็คือ ศิลปินที่ร้อง RHYTHM & BOYd อัลบั้มแรก มาร้องเพลงที่ไม่เคยเล่นในคอนเสิร์ตไหนมาก่อนจริง ๆ และเป็นต้นฉบับที่ร้องในอัลบั้มนั้น รู้สึกประทับใจตรงช่วงนี้ นอกนั้นความตื่นตาตื่นใจก้อหมดไป ไม่รู้ว่าคอนเสิร์ตนี้เน้นเปิดตัวศิลปินใหม่ 11 คนมากเกินไปหรือเปล่า เลยทำให้ได้ฟังเพลง RHYTHM & BOYD อัลบั้มเก่า ๆ แล้วมันรู้สึกน้อย ๆ ไม่เต็มอิ่ม เหมือนมันเติมไม่เต็มอะ กับคอนเสิร์ตครั้งนี้ และที่สำคัญเวทีวงกลมสวย แต่ถ้าเป็นไปได้แบบเดิมเถอะ เพราะอยากมีส่วนร่วมบ้าง อย่างน้อยก้อรู้สึกว่าศิลปิน ให้ความสำคัญกับทุกคนที่มาดู ไม่ใช่แค่ คนดูที่เป็น VIP ถึงแม้จะพยายามเดินเป็นวงกลมก้อเถอะ


โดย: M IP: 203.107.193.245 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:19:18:39 น.  

 
(เจอบลอคของคุณจากเวบบอร์ดเลิฟอีสน่ะ
เลยเข้ามาลองอ่านดู)

คุณเป็นคนที่วิจารณ์ได้ตรงกับความรู้สึกของคนอีกหลายๆคนเลยล่ะ
อยากจะบอกว่าตรงกับที่เรารู้สึกสุดๆเลยด้วย

นับถือฮะ


โดย: Just Me* IP: 58.8.58.112 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:19:31:57 น.  

 

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้




1. Be With Me (2005, Eric Khoo, A+/A)

ตอนแรกไม่ค่อยชอบเท่าไรที่ตอนกลางเรื่องหนังหันไปเน้นเรื่องของ เทเรซา เฉิน (หญิงสาวผู้ตาบอด+หูหนวก / เธอมาเล่นเป็นตัวเอง) เพราะกำลังรู้สึกติดตาม + มีอารมณ์ร่วมกับพล็อตอีกสองเรื่อง (ตอน Finding Love: ยามอ้วนที่หลงรักสาวออฟฟิศที่หน้าเหมือนนามิเอะ นามูโร่ / ตอน So In Love: สองสาวที่คุยกันทาง sms)

แต่พอดูจนจบแล้วความคิดก็เปลี่ยนไป รู้สึกว่า "เรื่อง" ของเทเรซา เฉิน นั้นทรงพลังมากๆ ...พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม ผกก.อีริค คู ถึงได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของเธอมาสร้างเป็นหนัง

ตรงนี้ก็เลยอาจจะถือเป็นข้อเสียของหนังเหมือนกัน นั่นก็คือ สุดท้ายแล้วพล็อตของตอน Meant To Be นั้นมีพลังมากจนไปกลบสองที่เหลือจนหมด


มี 2 ฉากในหนังเรื่องนี้ที่ตัวเองร้องไห้อย่างรุนแรง

1. ฉากที่เด็กผู้หญิงส่ง sms หาอีกคนว่า "ฉันก็แค่อยากจะคุยกับเธอ...ก็แค่นั้นเอง" (อันนี้ตรงกับประสบการณ์ส่วนตัว)

2. ฉากตอนท้ายเรื่อง ...หนังถ่ายใบหน้าของชายแก่ในฉากนี้ได้ดีมากๆ


และก็มีอีก 2 อย่างในหนังเรื่องนี้ที่ชอบมากๆ

1. ชื่อหนังตอนแรกที่ชื่อว่า "Meant To Be"

2. ฉากที่เด็กผู้หญิงสองกอดกันบนบันได (รูปเดียวกับโปสเตอร์)

ภาพนี้ให้ความรู้สึกถึง 3 อย่าง คือ

2.1 เห็นโปสเตอร์หนังครั้งแรก = ประหลาดใจ

2.2 เห็นตอนดูหนัง = สวยงาม

2.3 เห็นอีกทีหลังจากเดินออกจากโรง = เศร้าใจ





2. Always: Sunset on the Third Street (2005, Takashi Yamazaki, A)

ตอนแรกกะเอาไว้ว่าตัวเองจะต้องไม่ชอบหนังเรื่องนี้แน่ๆ เพราะดูตัวอย่างหนังแล้ว รู้สึกว่ามัน "บิวด์" ซะเหลือเกิน

แต่พอได้ดูจริงๆ แล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าหนังมันบิวด์อารมณ์จนตัวเองรับไม่ได้ มีแค่ประมาณสองฉากที่ตัวเองรู้สึกต่อต้าน

สิ่งที่ชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือการใช้ CG ในทาง "วัฒนะ" (หลังจากที่ ผกก.คนนี้เคยใช้ CG ในหายนะมาแล้วใน The Returner)

ฉากที่ชอบมากๆ คือ ฉาก "แหวน" ฉากนี้ทำให้ Koyuki กลายเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกไปเลย





3. Match Point (2005, Woody Allen, A+)

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว คำพูดที่หลุดออกมาคำแรกก็คือ "ร้ายกาจ"

ร้ายกาจในที่นี้หมายถึง การเขียนบทของ วู้ดดี้ อัลเลน

ชอบมากๆ ที่แม้หนังจะอยู่ในแนว thriller แต่สิ่งที่ "หักมุม" ในเรื่องนี้เป็นการเล่นกับอะไรที่ "ธรรมดา" มากๆ และที่สำคัญมันยังคงเต็มไปด้วยอารมณ์แบบตลกร้าย

ความร้ายกาจอีกอย่างคือการ casting นักแสดงนำอย่าง Jonathan Rhys-Meyers กับ Scarlett Johansson ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีผกก.คนไหนทำให้สองคนนี้ดูขึ้นกล้องได้ขนาดนี้อีก

ไม่อยากจะเชื่อว่า Scarlett Johansson แก่กว่าเราแค่ปีเดียว


โดย: merveillesxx วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:0:03:54 น.  

 

ลืมบอกไปอีกนิดเกี่ยวกับ Match Point ว่าชอบมากๆ ที่หนังใช้เพลงโอเปร่าประกอบไปตลอดเรื่อง รวมถึงตอนที่เพลงโหมขึ้นมาในฉาก climax ด้วย


โดย: merveillesxx วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:0:14:00 น.  

 
มาว่าB5ของชั้นโหยหวนได้ไงยะ B5น่ะ เป็นวงที่สุดยอดมากๆ ไม่ว่าจะแสดงสด หรือ ในอัลบั้ม B5 น่ะเยี่ยมตลอดกาลจ้ะ


โดย: gift IP: 124.120.197.75 วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:16:33:37 น.  

 
สวัสดีพี่ต่อ บิวกลับมาแล้วนะ อย่าลืมมาเอาของฝากด้วย อ้อ มีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ
ฝากหา Soundtrack V for Vendetta หน่อย เพื่อนมันอยากได้ หาเองแล้วไม่สำเร็จ
รบกวนด้วยนะคะ อ้อ เห็นเขียนเรื่อง Wristband ก็ไม่ยอมไปซื้อ I'm virgin มาใส่เองตอนนั้น ช่วยไม่ได้ ชิชิ


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:9:56:21 น.  

 

5. ช็อคสุดๆ! หลังจากร้องเพลง “ทุกสิ่ง” วง Pru ก็ประกาศพักวงไม่มีกำหนด
^
^
^
ขออนุญาติช๊อคข้อนี้ได้ไหม T___________T


โดย: Mikank วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:13:18:03 น.  

 
คืออ่าน blogนี้มาสักพักแล้ว

คืออยากรู้จักเจ้าของblogนี้มากเลยอ่ะค่ะ

จิงๆนะค๊ะ.....




โดย: viya IP: 124.120.7.229 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:22:12:26 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมหน้าทักทาย
โอย อยากดูหนังใจจะขาดแล้วเน้อ
แมวที่บ้านคลอดลูกซะงั้นน่ะ
อดเลยตู

เด็กอะไรเก็บรายละเอียดกันทุกเม็ดขนาดนี้


โดย: quin toki วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:2:58:25 น.  

 

ตอบ Mint@da{-"-}

ซาวด์แทร็ก V For Vendetta ถ้าจำไม่ผิดพี่เคยเห็นที่ CD WAREHOUSE นะ ถ้าร้านแถวสยามเนี่ย พวก Power Music หรือ Dj Siam ก็อาจจะมี ส่วนร้านป้าโดเรมีตอนนี้ปิดอยู่



ตอบ คุณ Mikank

เรื่องวง Pru ผมก็แอบอึ้งๆ เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ยังเคยได้ยินข่าวมาว่า Pru เริ่มทำชุดสามแล้ว และชุดนี้ก็เป็นเพลงแบบฟังง่ายๆ ด้วย



ตอบ คุณ viya

คุยกันอีเมลก็ได้นะครับ merveillesxx@hotmail.com หรือจะแอด MSN ก็ได้ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ออนเลยง่ะ


โดย: merveillesxx วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:16:38:56 น.  

 
^
^
^

ช่วงไหนออน ใครจะคุยด้วยต้องทำใจหน่อย เพราะคุณน้องเมอร์ของกระผมตอบไม่ทัน 555 (แต่ตอบไม่ทันก็ยังดีกว่าพวกที่แอดเราแล้วเสือกลืม มาหาว่าเราแอดเฉยใช่ไหมละต่อ)

เรื่องคอนเสิร์ต ได้เห็นภาพในทีวีติ๊ดหนึ่ง วันนั้นสงสัยจุฬาฯฝั่งคณะเราคงแตก (โชคดีที่ไม่มีธุระในวันนั้น ถ้ามีสงสัยรถคงบรมติดฉิบหาย)


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:21:26:20 น.  

 
^
^^
^^^
^^^^

ค่ะๆๆ

ไม่ค่อยได้เล่นเนตเหมือนกันค่ะ

ไว้แอดไปนะค๊ะ


แล้วคุยกันค่า


โดย: viya IP: 124.120.1.32 วันที่: 12 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:05:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.