เสือภูเขา กะ หมูแดง มันป็นของคู่กัน
วันเสาร์ที่ผ่านมา ไปแข่งจักรยานเสือภูเขา ในรายการ "MTB Eastern Championship 2006" ถ้าชื่อไทยก็คือ "จักรยานชิงแชมป์ภาคตะวันออกสนามที่ 3 ไร่องุ่น ซิลเวอร์เลค"
การแข่งขันก็เริ่มแข่งกัน บ่ายโมงตรง (แดดกำลังดีเลย) พวกผมก็ออกจาก กทม.ตั้งแต่ 8.00 น. กะว่าไปให้ถึงก่อนเวลาแข่งเยอะๆ เพื่อที่จะได้ไปทดสอบสนามด้วย (เรื่องการทดสอบสนามนับว่าสำคัญมากนะครับ เพราะเราจะได้รู้ว่า ตรงไหนมีอุปสรรคขวางหน้า เราจะปั่นยังไงให้ผ่านไปได้)
ไม่น่าเชื่อว่าพวกผมใช้เวลาเดินทางจาก กทม.ไปสนามแข่งขัน (สัตหีบ) ถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง คงจะเป็นเพราะว่า เส้นทางที่ใช้กำลังขยายผิวจราจร และรถก็วิ่งกันเยอะมาก จึงทำให้ไปถึงสนามแข่งขันเที่ยงพอดี ซึ่งเวลา 1 ชม. คงไม่สามารถไปลองปั่นทดสอบสนามได้ เพราะไหนจะต้องไปกรอกใบสมัครอีก แล้วต้องเซ็ตจักรยานอีก
สรุปว่าคงต้องไปใช้ความสามารถในการบังคับเอาเอง ..
สำหรับตัวผมเองนั้น ก็พอรู้สภาพสนามมาล่วงหน้าบ้าง ว่าตรงไหนมีสภาพเป็นอย่างไร เพราะว่าทางผู้จัดก็ได้ถ่ายรูปและบรรยายสนามเอามาลงใน //www.thaiMTB.com บ้างแล้ว แต่พรรคพวกที่ไปด้วยกันนี่ซิครับ internet กับพวกเค้านี่ เหมือนยาขมกับเด็กครับ
เดิมที่ทางสนามนั้นตั้งไว้ว่า รุ่น B (ที่ผมลงแข่ง) นั้นให้ปั่นกัน 2 รอบ รอบหนึ่งก็ประมาณ 7 กม.กว่าๆ 2 รอบก็ประมาณ 15 กม. ไอ้ระยะทาง 15 กม. ดูแล้วก็ไม่น่าจะมากซักเท่าไหร่ เพราะทุกวันนี้ผมก็ปั่นจักรยานไปทำงานวันละ 25 กม.ทุกวันอยู่แล้ว ไปกลับก็ 50 กม.
แต่ถ้าปั่นแข่งขันกันในป่าในเขานี่ 15 กม. ตอนบ่ายโมงแดดเปรี้ยงๆนี่ ไม่ต้องห่วงเลยครับ น้ำลายเดือด ขาสั่น (ยังกะองค์ลง) พาลจะเป็นลมเอาได้ง่ายๆเลยครับ
เมื่อตอนแข่งขันสนามที่แล้ว (ครั้งแรกของการแข่งขันเสือภูเขาของผม) ผมทำซ่าไม่พกขวดน้ำไปกินตอนปั่น เล่นเอาเกือบตายมาแล้ว ทั้งที่ปั่นแค่ 9 กม. เท่านั้น ครั้งนี้ผมเลยพกกระบอกน้ำไปด้วย กะว่าพอกินระหว่างทางได้ซัก 1 รอบสนาม เพราะทางผู้จัดมีจุดให้น้ำตอนใกล้ครบรอบสนาม
ครั้งนี้ก็ไปกันทั้งหมด 8 คัน 8 ชีวิต
เห็นนักกีฬาเทนนิสกินระหว่างแข่งกันเยอะ ก็เลยไปหาซื้อมาลองบ้าง
ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ไปยังสนามแข่ง
แวะกินกาแฟร้าน "อะเมซอน" ตั้งแต่เช้าซัดกาแฟไป 3 แก้วแล้ว
ออกจากร้านกาแฟขับรถอีก ชม.ครึ่งก็ถึงสนามแข่งขัน (เขาชีจรรณ์) ระหว่างทางรู้ได้เลยว่าใจสั่นผิดปกติ ปกติอาการแบบนี้ผมมักจะคิดว่ามันป็นลางบอกเหตุอะไรซักอย่าง (ตอนนั่งรถก็เกร็งแล้วเกร็งอีก ก็เจ้าโน๊ตคนขับ เชโรกี มันเล่นขับซ่ะ ยังกะมันคิดว่ามันแข่ง ปารีส-ด้าร์ก้า จนผมต้องร้องเตือนมันหลายครั้งว่าให้ใจเย็นๆ) มานั่งคิดดูว่าทำไม่ใจสั่น นึกได้ว่าตั้งแต่เช้ามา นี่ก็ยังไม่เที่ยงล่อกาแฟเข้าไป 3 แก้ว เลยทำให้ใจสั่น
สนามแข่งขัน (เขาชีจรรณ์)
จากนั้นก็ทำการ เซ็ตรถ
วอมอัพ ก่อนแข่ง พอให้เหงื่อตกกีบ
ระหว่างนั้นก็ไปกรอกใบสมัคร เลือกรุ่นใดก็ตามแต่ถนัด และข้อบังคับของรุ่น
ทางผู้จัดก็มีอาหารให้ด้วยครับ (ฟรีครับ)
เสื้อและเหรียญที่ระลึก สำหรับผู้ที่เข้าแข่งขัน
ภายในงานก็มีร้านค้ามากางเต๊นท์ขายของเกี่ยวกับจักรยาน
บรรดานักแข่งมากันทั่วทุกสารทิศ ทั้งมืออาชีพ และสมัครเล่น
พอแสงอาทิตย์เริ่มแรง ก็ได้เวลาของ ไข่ลวก (อาหารทะเลก็มีจ้า)
ออกจากจุดปล่อยมานิดเดียว ก็ให้ลุยน้ำกันเลย
เรื่องการปั่นผ่านฝ่ายกั้นน้ำนี่ ต้องระวังให้ดี เพราะพื้นใต้น้ำ มักจะมีตะไคร่น้ำ ใครแตะเบรกเมื่อไหร่ เป็นต้องลื่นล้ม แล้วคนที่ปั่นตามหลังมาก็จะเป็นแบบในรูปข้างล่างครับ
ภาพนี้ของรากการแข่งขันที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่เมื่อเดือนก่อน
ทางขึ้นชันมาก แถมยาวอีก ส่วนมากก็จะต้องเข็นกันล่ะครับ สุภาษิตบอกไว้ว่า "เข็นครกขึ้นภูเขา" แต่นี่ "เข็นรถขึ้นภูเขา"
ไม่อยากเข็น ก็ต้อง แบก เอาครับ
น่าจะเอาหมอนกับผ้าห่ม มาด้วยซ่ะเลย ฮิๆ
บางคน (รวมทั้งผม) ปั่นไม่ไหวแล้ว ก็ต้องนั่งพักกันซ่ะก่อน ไว้มีแรง หน้าหายมืด ก็กลับมาปั่นต่อ ไม่ไหวครับ ขื่นตะบี้ตะบันปั่น แดดเปรี้ยงๆแบบนี้ ตายได้นะครับ
ตอนที่อยู่ในสนาม ผมเห็นหลายคนครับพยายามฝืนตัวเอง พยายามจะปั่นขึ้นเนินชัน หรือไม่ก็ปล่อยรถไหลลงนินด้วยความเร็ว แล้วล้มลง แข้งขาถลอก (ศัพท์แบบนี้นักปั่นเรียกว่า "หมูแดง" ครับ) บางคนถึงกลับขาหัก แขนหักก็มี (น้องๆที่ไปด้วย ถึงกับข้อมือเกือบหัก) เพราะว่ารองเท้านักแข่งจักรยาน ส่วนมากจะล็อกติดไว้กับบันได เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วปลดไม่ทัน ก็เลยเอาขายันพื้นไม่ได้ แรงโน้มถ่วงของโลกก็ทำงาน ... โครม! ทั้งรถทั้งคนครับ
สำหรับผม ปั่นชิวๆ เรื่อยๆ แค่ครบรอบ ก็พอแล้ว ฮิๆ
เจ้าโน๊ต น้องๆในกลุ่มที่ไป...ดีนะที่ข้อมือไม่หัก
รายนี้ 2 เด้ง โชค(ร้าย) 2 ชั้น มือหักข้าง ขาหักข้าง (สมาชิกทีมอื่น) กลับบ้านไม่รู้เมียที่บ้านยังจะให้ปั่นจักรยานอีกหรือเปล่า?
นี่ครับ! "หมูแดง" ที่ว่า...เจ้าเต๋า สมาชิกที่ไปด้วยกันได้มา
ส่วนรูปนี้ คือหน้าแข้งขวาของผมเอง บันไดจักรยานตีเอา
นี่ก็หมูแดง ของผมเองครับ เข่าข้างซ้าย นิดหน่อยครับ พอเป็นที่ระลึกของสนาม
แข่งเสร็จ 8 เสือก็แอคชั่นกันซ่ะหน่อย ได้หมูแดงกลับบ้านคนล่ะนิดคนล่ะหน่อย มีเจ้าโน๊ตที่หนักหน่อย ข้อมือแพลง ถามเค้าว่า สนามหน้าไปอีกปะ ได้คำตอบว่า "กลัวที่หน่ายยย พี่!"
ขากลับ เจ้าโน๊ตโยนกุญแจรถเชโรกีให้ผม ผมถามเจ้าโน๊ตกลับไปว่า โยนมาทำไม? อ้าว!พี่ก็ขับแทนผมไง จะให้ผมขับทั้งมือเดี้ยงยังงี้เหรอ? ผมบอกไปว่า "โน๊ต กูขับรถยนต์เป็นซ่ะที่ไหนล่ะ" แถมที่ไปกัน 8 คน รถยนต์ 3 คัน ดันมีคนขับเป็นแค่ 3 คนซ่ะด้วย เจ้าโน๊ตก็เลยต้องขับมือเดียวแบบที่เห็นในรูปแหละครับ
กว่าจะออกจากสนามได้ก็เห็น ดวงจันทร์ ขึ้นครับ
ขากลับก่อนเข้า "มอเตอร์เวย์" แวะปั๊มน้ำมันเจอร้าน บะหมี่เกี้ยว จอดรถแวะตะโกนสั่งไปว่า "หมี่เกี้ยวแห้งแยกน้ำ 8 ชาม หมูแดงไม่ต้อง (เพราะมีกันทุกคนแล้ว)..."
แล้วคอยพบกันใหม่สนามหน้านะครับ
ปล. รูปบางรูปยืมมาจาก //www.thaiMTB.com ครับ
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549 |
|
13 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2549 20:45:24 น. |
Counter : 2945 Pageviews. |
|
|
|