BlogGang.com : : merf1970 : กรุงเทพ-ตรัง-ปะกาศัย ตอนที่ 2

กรุงเทพ-ตรัง-ปะกาศัย ตอนที่ 2

อ่านตอนแรกที่นี่

หลังจากที่เข้าที่พัก " BLUE VILLAGE " เอาข้าวของเข้าไปเก็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหามื้อเที่ยงใส่ท้องกัน ร้านที่จะไปกินนั้นก็เป็นทางผ่านที่จะไปพายเรือพอดี

"ร้านเรือนกล้วยไม้"
ร้านที่ผมเกริ่นเอาไว้เมื่อ blog ที่แล้วว่าเป็นร้านที่บรรยากาศดีที่สุดของกระบี่
(ความเห็นส่วนตัว จากที่เคยตระเวณกินและเที่ยวมาร่วมปี)

จริงๆแล้วร้านนี้ เจ้าธีร์ (เจ้าภาพงานนี้) เป็นคนเจาะจงบอกกับผมเลยนะว่า ให้ผมเป็นคนพาไปกิน เพราะว่าเมื่อ 8 ปีก่อน ครั้งสมัยที่ผมทำงานที่อ่าวนาง เจ้าธีร์ เคยแวะไปหาผมๆก็พาไปนั่งร้านที่ว่านี่แหละ

ร้านนี้เดิมที่ไม่ได้ตั้งอยู่ตรงจุดที่เราไปกินกันในทริปนี้ แต่ก็ไม่ไกลกันนัก ที่ต้องย้ายก็เพราะที่เดิมหมดสัญญาเช่า เจ้าของที่ไม่ต่อสัญญาให้ ร้านจึงต้องย้ายกระเถิบขึ้นมาอีกนิดหน่อย แต่บรรยากาศยังคงเยี่ยมเช่นเดิม

ทางเข้าร้านเรือนกล้วยไม้

ร้านนี้มีสายน้ำเล็กๆไหลผ่านด้วย

มีโต๊ะนั่งทานอาหารประมาณ 7-8 โต๊ะเท่านั้น (บริเวณริมสายน้ำ)
ส่วนทั้งร้านรวมแล้วไม่น่าเกิน 12 โต๊ะ

ไปกัน 16 ปากก็ต้องแยกย้ายกันนั่งเพราะโต๊ะเคลื่อนย้ายลำบาก

ระหว่างรออาหาร ก็ดูพรรณไม้ไปก่อน
ร้านนี้มีไม้หลากหลายเพราะเจ้าของร้าน มีอาชีพรับจ้างจัดสวนตามสถานที่ต่างๆ
เคยนั่งคุยกับเจ้าของร้านมาเมื่อครั้งที่เค้าไปจัดสวนให้ที่โรงแรมที่ผมคุมอยู่
เจ้าของร้านจบจาก "แม่โจ้"
ร้านอาหารนี้แรกๆก็กะว่าเปิดให้ภรรยาทำแก้เซ็ง

ทางเข้าห้องน้ำ

อาหารมารุมกันอย่างที่เห็นล่ะครับ
เดินไปจกโต๊ะนู้นบ้าง แวะมาแทะโต๊ะนี้บ้างยังกะกินบุปเฟ่

มาใต้ทั้งที่เลยสั่งอาหารให้ให้กิน แกงส้ม(แกงเหลือง),สะตอผัดกุ้งใส่กะปิ
ปรากฎว่ากินกันแต่กุ้ง

ส่วนสะตอก็เสร็จผม

กะจะกินแล้วไปฉี่ในทะเล ให้ปลาเป็นลมไปเลย

อิ่มกันชนิดที่ต้องเรียกว่า "พุงปลิ้น" กันแล้ว
ก็เดินทางสู่ "ท่าเลน" เพื่อไปหาเรือคายัคพายกัน

บริเวณที่จดรถ และที่ติดต่อเช่าเรือ ของท่าเลน

ท่าเลน เป็นท่าเรือที่สำหรับที่จะขึ้นเรือไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะทะเลแหวก เกาะห้อง ฯลฯ

ใกล้ๆกับท่าเลนนี้ ก็มีสถานที่พายเรือคายัคแบบ "ลากูน" อยู่ด้วย แต่ผมและเจ้าธีร์ เคยไปพายมาแล้ว ครั้งนี้ก็เลยตั้งใจจะไปพายที่ "เกาะห้อง" กัน โดยจะต้องเหมาเรือหางยาวนั่งไปเกาะห้องก่อน แล้วค่อยไปเช่าเรือ คายัค ของอุทยานซึ่งมีอยุ่ที่เกาะห้องพายกันอีกที

ลงจากรถก็เจอป้ายเตือนภัยปั๊บ
ในฐานะศิษย์เก่า สึนามิ รุ่นแรกก็เลยเก็บภาพป้ายมาให้ดูกัน

ลงเรือหางยาวจากท่าเลน-เกาะห้อง ใช้เวลาเดินทางก็ประมาณ 40 นาที

*** ค่าเรือหางยาวแบบเช่าเหมาลำ
ปกติแล้วก็ 2000 บาท/ลำ แต่เนื่องจากว่าไปกัน 16 คน
ก็เลยต้องเช่า 2 ลำ เพราะว่าลำหนึ่งนั้น บรรทุกคนได้แค่ 10 คน
และวันนั้นก็ไปถึงท่าเลนก็ปาเข้าไป บ่าย 2 เข้าไปแล้ว
จึงได้ในราคา 2 ลำ 3,000 บาท ***

นี่ไม่ใช่กัปตัน "แจ๊ก สแปโร่" นะครับ

มาเที่ยวทะเลแต่กลัวตัวดำทั้งครีม ทั้งผ้ากันแดด ครบครัน

ที่เห็นอยู่ข้างหน้านั้นน่ะ ไม่ใช่ครับ มันต้องเลยไปอีก

เรืออีกลำ ที่เหมามาด้วยกัน

พอใกล้ๆถึงเกาะห้อง ก็เริ่มเห็นคนที่มาพายคายัคกัน

แล้วก็ค่อยๆเห็น ชายหาดซึ่งมีอยู่จุดเดียวของเกาะแห่งนี้

จากนั้นก็เบนหัวเรือเข้าหาหาด

เกาะนี้อยู่ในพื้นที่ของอุทยาน
การขึ้นเกาะจึงต้องเสียค่าขึ้นด้วย ราคาก็ 20 บาท/คน
(เมื่อก่อนฝรั่งจะอีกราคาหนึ่ง แต่เดียวนี้ไม่แน่ใจว่าเก็บเท่ากันหรือเปล่า
เพราะเคยมีกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวร้องเรียนเรื่องราคา
ซึ่งตอนนั้นชาวต่างชาติเก็บหัวละ 200 บาท)

ส่วนมากจะเป็นต่างชาติ ที่มาเกาะห้องกัน
ที่เห็นในรูปก็เป็นจุดเล่นน้ำทะเล
หลังจากที่พายเรือเสร็จแล้วก้จะมาเล่นน้ำกันที่จุดนี้

เกาะห้องแห่งนี้ ก็โดนพิษ สึนามิ

ป้ายเตือนความจำจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

ซากของเรือที่โดนคลื่นและอนุสรณ์ของสึนามิ

รำลึกเหตุการณ์เสร็จก็ เช่าเรือไปพายรอบเกาะกัน
(ค่าเช่าเรือก็ 300/ลำ ลำหนึ่งก็นั่งพายกัน 2 คน)

16 คน ก็ 8+1 ลำ (พร้อมเรือคนนำพายอีก 1 ลำ)

พายอ้อมมาด้านหลังหาดก็จะถึง จุดที่เค้าเรียกกันว่า เกาะห้อง

พายเข้าไปในช่อง ก็จะเห็นเป็นห้องขนาดใหญ่
ที่มีหน้าผาสูงชันกั้นเป็นผนัง ท้องน้ำจะใส่และตื้น
สามารถลงไปเล่นน้ำได้เลย

16 ฝีพาย ที่ไปกัน

พายรอบเกาะเสร็จแล้วก็แวะเล่นน้ำทะเลกัน เล่นกันได้ซักพัก คนเรือก็มาตามเพราะบอกว่า ดูแล้วฝนน่าจะตก ยังไงก็เรียบกลับฝั่งก็จะเป็นการดี เพราะว่าตอนนั้นก็ 5 โมงเย็นเข้าไปแล้ว เดี๋ยวถ้าฝนตกหนัก แล้วจะออกจากเกาะลำบาก เพราะมันจะมืดด้วย

แล่นเรือมาครึ่งทางก็เจอฝนดักอยู่ข้างหน้า

ทำไงได้ นอกจากแล่นเรือฝ่าไป

เปียกกันทั้วหน้า แต่ก็ปลอดภัยถึงฝั่งกันทุกคน
บางคนก็กลัวมาก..ดูจากสีหน้าและริมปากที่ขมุบขมิบ (คงจะสวดมนต์)

ศิษย์เก่า สึนามิ (รุ่นแรก) อย่างเรา 2 คน เจอฝนแค่นั้นบอก ชิวๆ คร้าบบ

*** ทริคในการไปพายเรือที่ ท่าเลน หรือเกาะห้อง ให้ถูกและประหยัดนั้น ก็คือ อย่าไปติดต่อเช่าเรือที่ อ่าวนางหรือเอเยนต์ นะครับ ( ผู้ประกอบการอย่าโมโหผมนะครับ ยังไงๆฝรั่งเค้าก็ต้องใช้บริการท่านแน่นอนครับ) เพราะว่าเอเยนต์เหล่านั้นส่วนใหญ่มิได้มีเรือเองหรอกครับ เค้าก็มีแค่โต๊ะตั้งรับลูกค้า แล้วก็แค่พาลูกค้านั่งรถมาส่งให้เจ้าของเรือที่ท่าเล่นอีกที ซึ่งตรงนั้นจะมีค่าดำเนินการของเค้าสูงอยู่ ส่วนมากเค้าจะบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติกัน เพราะว่าถ้าจะให้ฝรั่งขับรถไปท่าเลนเองคงจะลำบาก ไหนจะไม่รู้เส้นทาง ไหนจะไม่มีรถขับไปกัน ดีไม่ดีขับไปมั่วซั่วจะไปออก พังงา เอาได้นะครับ

เพราว่าขากลับ ผมนั่งหลังกระบะ หันหลังหลบฝน แถมท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ขับอยู่ตั้งนานดูแล้วก็ยังไม่คุ้นเส้นทาง ปรากฎว่าคนขับพาหลงไปซ่ะ 30กว่ากิโล' ไปกลับก็ ร่วม 70 กิโล' กว่าจะถึงที่พัก หิวกินช้างได้เป็นตัวเลยครับ

ราคาถ้าใช้บริการอย่างนั้นทั้งวันก็ 1200 บาท / คน ถ้าครึ่งวันก็ 800 บาท/ คน (ร่วมอาหารเที่ยง,ค่ารถไป-กลับ)

วันนั้นถ้าเจ้าธีร์ไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวก็จ่ายลูกเดียว 16 คนก็น่าจะอยู่ที่ 12,800 บาท แต่วันนั้น ศิริแล้วก็ 5,800 บาท เองคร้าบบบ ***

ปล. แล้วอาทิตย์จะมา up blog ภาค 3 ต่อนะครับ

Create Date : 07 มกราคม 2550

Last Update : 7 มกราคม 2550 10:48:23 น.

26 comments

Counter : 2586 Pageviews.

อ่านแล้วอยากลงใต้อีกจังพี่
แค่คิดก็หนุกแล้ว

ปล. ช้ำใจกะผลบอลเมื่อคืนอ่ะ

โดย: rebel

วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:12:17:49 น.

รูปเยอะจริงๆ เหอๆๆ...
ร้านบรรยากาศเหมือนป่ามากเลยครับ

ปล. เชิญชวนไปทัศนารางวัลอันทรงเกียรติ(?)ของคนทำหนังกับ Nanoguy Awards 2006 ที่บล๊อกผมค้าบ ^^

โดย: nanoguy (nanoguy

) วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:14:10:35 น.

หูย อิจฉาคนได้ไปเที่ยว

โดย: mungkood

วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:16:41:51 น.

ทริปนี้ น่าสนุกจังนะท่านเมริฟ

ที่ถูกใจผมที่สุดก็น่าจะเป็น ร้านอาหาร เรือนกล้วยไม้ นั่นแหละ บรรยากาศได้ใจสุดๆ

พูดแล้วก็หิว

โดย: poser IP: 58.9.19.97 วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:0:02:42 น.

แน่ะ เหมือนกับหลายๆ คนเลยค่ะว่า อ่านแล้วอยากท่องเที่ยวอีกจัง ... ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มๆ นี้น๊า สนุกอย่าบอกใคร แถมได้ไปฟรีเหมือนคุณเมิร์ฟด้วย เรียกว่าไปพักผ่อนง่ายๆ สบายๆ สะดวก และประหยัดของแท้เลยคะ ...

เห็นสะตอแล้วสงสัยต้องแย่งกันแน่ งานนี้ถ้าไปด้วยกันปลาตายในทะเล สงสัยโทษกันสองคนนี่ล่ะค่ะ

โดย: Jewnid IP: 80.56.213.206 วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:0:38:16 น.

อรุณสวัสดิ์ครับคุณนิ้ง ลุงกล้วยตามมาเที่ยวด้วยครับ อ้าวมีคุณนิดแย่งสะตออีกคนเหรอครับ555+ แต่เรือลำที่นายท้ายใส่แว่นดำลุงกล้วยไม่กล้าเสี่ยงครับ5555+

โดย: ลุงกล้วย

วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:4:44:35 น.

หุหุหุ หาข้อมูลไว้ ไปคราวก่อนโดยพายุคะ แต่ก่อนสินามิค่ะ

นำดอกซากุระมาฝากคะ

โดย: nakwan6

วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:9:16:53 น.

ม่ามี้ให้หนูพาน้องมารายงานตัวค่ะ
ไม่ช้าไปนะคะ
ขอให้มีความสุขในทุ๊กๆวัน ค่ะคร้าบบ...

โดย: มีโอ+ชีโน่ค่ะครับ! (fifty-four

) วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:17:29:50 น.

โห แค่ขับรถผิดเลนนิดเดียว กลัวไปได้
รถบรรทุก วิ่งทับจักรยาน คนขับไม่เป็นไรหรอกค่ะ กลัวไปได้

โดย: mungkood

วันที่: 8 มกราคม 2550 เวลา:21:31:59 น.

เยี่ยมค่ะคุณนิ้ง ทั้งรูป เรื่องราวและข้อแนะนำ อยากไปเที่ยวกระบี่มากๆ เลย ถ้าไปจะไม่ลืมเรื่องของคุณนิ้งค่ะ จะติดตามตอนต่อไปนะคะ

โดย: ทอย (tiny

) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:0:08:58 น.

โห ดูแล้วสนุกกว่าทริปเขาค้อมาก ๆ

เพราะมีทะเล มีหญิงเยอะ 555

โดย: ดำรงเฮฮา

วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:0:27:36 น.

^
^
ท่านดำรงฯ เริ่มๆ ติืดเชื่อ "หื่น" ผมไปแล้วนะนั่น

โดย: สยึมกึ๋ย

วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:2:58:02 น.

น่าไปมากเลยพี่เมิร์ฟ อยากไปทะเลอ่ะ

วันหลังพาเค้าไปเที่ยวหน่อยดิ่

เที่ยวกะพี่เมิร์ฟคงประหยัดดี

เพราะจะบังคับให้เลี้ยง

กร๊ากกกกกกกกกกกกก

โดย: PADAPA--DOO

วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:9:19:38 น.

อยากไปเที่ยวมั่ง...แต่กัว(ผี)ทะเล....

ที่สำมะคัน...มะมีกะตัง...

โดย: cascade

วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:10:39:14 น.

ไม่ได้เที่ยวทะเลอันดามันหลายปีมากแล้ว
อยากกลับไปเที่ยวอีกจัง
แต่ยังหาเวลาว่างยาวๆ ไมได้เลยครับ
ที่สำคัญ เหมือนคนข้างบน.. ไม่มีตังค์ อ่า

อิจฉา คนได้เที่ยวฟรีกินฟรี จังวุ้ย

โดย: กุมภีน

วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:13:08:53 น.

ป้านำภาพที่ป้ารักมากมาฝากค่ะ
รักประเทศไทย ต้องรักประชาธิปไตยด้วยจริงไหมคะ
บ้านเมืองเราจะได้ไม่อายใครเค้าไง!
เด๋วป้าต้องกลับมาเที่ยวใหม่แน่ๆเลยค่ะ
สัญญาค่ะ

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four

) วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:15:16:50 น.

ไว้ไปกระบี่เห็นทีต้องไปลองร้านเรือนกล้วยไม้

โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ

วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:1:23:25 น.

รีบมา Tag คุณนิ้ง...เข้าไปดูที่บล๊อคทอยเลยค่ะ

โดย: ทอย (tiny

) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:8:45:46 น.

merf ..ผมไม่ได้ส่งซองผ้าป่าtagให้merf นายอย่าว่ากันนะ

เพราะรู้ว่านายมีเพื่อนเยอะมากๆๆๆๆ เดี๋ยวก้อคงจะมี tag มาปลิวว่อนแถวนี้ หลายซองแน่

ใจเย็นๆ รอแป๊บเดียวเอง...

โดย: yyswim

วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:14:30:00 น.

มาแจ้งข่าว ท่าน เมริฟ โดนเชื้อ tag เข้าไปอีกดอกแล้วครับ ตามไปอ่านที่มาของเชื้อได้ที่ บล็อกผมนะครับ

แล้วอย่าลืมแฉตัวเอง ตามกติกานะท่าน

โดย: poser (poser

) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:16:58:46 น.

อยากกินแกงเหลืองเป็นที่สุด(เกี่ยวกันป่าวเนี่ย)

ศุกร์หรรษา มีความสุขกับการทำงาน

คลิ๊กรูปแล้วเจอหมายิ้มจ้า

โดย: ทาสบอย

วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:8:48:33 น.

มีใครปล่ออยเชื้อ Tagger ไว้แถวนี้หรือยังครับนิ

โดย: กุมภีน

วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:12:42:21 น.

ปีนึงได้เที่ยวทีนึงได้ไปที่ที่น่าสนใจมากเลยนะครับ เห็นป้ายเตือนภัยแล้วนึกถึงบล็อก tsunami ของเฮียปีโน้นนะครับ ดีใจมะเนี่ย ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

อ้อ ...ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ว่าชื่อเก่าของกระบี่คือปะกาศัยนะคร้าบบบ

โดย: T_Ang

วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:20:40:52 น.

อรุณสวัสดิ์ครับคุณนิ้ง เอโดนใครมาแตะมือแล้วยังครับ ตอนนี้กำลังฮ็อตฮิตกันมากครับ ลุงกล้วยก็โดนไปหลายดอกครับ

โดย: ลุงกล้วย

วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:4:20:30 น.

สวัสดีครับ คุณเมริฟ

อ่านเรื่องดูรูป สนุกสนานมาก โดยเฉพาะรูปเนี่ย
เจ๋งมาก สือถึงความสุขออกมาได้เลยนะครับ

โอ้ย คิดถึงทะเลภาคใต่จัง อยากไปเที่ยวอีกจังเลยครับ

โดย: Dark Secret

วันที่: 14 มกราคม 2550 เวลา:3:56:34 น.

หนุกมากเลย จขบ เปลี่ยนอาชีพทำทัวร์ซะดีมั๊ง

โดย: แตนต่อย

วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:15:22:31 น.