|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
10 กว่าปีแล้วที่ไม่ได้ไปเยือน
จำได้ว่าถิ่นเหนือที่ข้าพเจ้าไปเยือนครั้งสุดท้าย น่าจะเป็นช่วงสงกรานต์ปี พศ.2533 แต่ว่าตั้งแต่ปี 2531-2533 ข้าพเจ้าได้ไปติดต่อกันทุกปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันเลย ไม่ใช่อะไรหรอก ช่วงนั้นทำงานกับเจ้านายที่มีบ้านพักอยู่ที่เชียงใหม่ เค้าก็เลยให้ไปเที่ยวไปพักที่นั่น พร้อมทั้งมีรถให้ไว้ใช้ด้วย แต่ก็ได้ไปช่วงสงกรานต์ทุกปี ไม่เคยได้ไปช่วงปีใหม่เลย ...
ปีนี้ดูแล้วอากาศน่าจะหนาวดี ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนทริปจากทะเลเป็นขุนเขาแทน ลองเปลียนแนวดูบ้างว่าอย่างไหนจะสนุกกว่า แต่พอจัดกระเป๋าเดินทางแล้วเริ่มรู้สึกได้เลยว่าเที่ยวป่าเที่ยวเขา น่าจะลำบากกว่าเที่ยวทะเลอยู่โขเหมือนกัน เริ่มตั้งแต่เสื้อผ้าเลย อย่างไปทะเลส่วนมากจะเตรียมแค่กางเกง board short , เสื้อยืดบางๆ ,ซึงน้ำหนักของกางเกงกับเสื้อจะต่างกับทริปนี้มาก ซึ่งต้องเล่นกางเกงขายาว เสื้อแขนยาวหนาๆ ไหนจะ jacket อีกกว่าจะยัดเข้ากระเป๋าหมดเล่นเอาซิปกระเป๋าเกือบปลิ้น
สองทุ่มก็เตรียมขึ้นรถกัน ใช้บริการของ สยามเฟิสท์ทัวร์ ค่าโดยสารก็คนละ 481.-/คน ขึ้นรถได้ก็มีบริกรมากแจกขนมกับน้ำให้ สักพักก็แนะนำ พนง.ประจำรถพร้อมทั้งเส้นทาง นับว่าดีกว่ารถปรับอากาศของสายต่างๆเท่าที่เคยใช้บริการ แถมผ้าห่มในรถนับว่าหนามาก ตอนแรกยัง งง เลยว่าทำไมถึงให้หนาขนาดนี้ แต่พอช่วงดึกๆรีบเอามาห่มแทบไม่ทัน มองไปนอกหน้าต่าง เห็นคนข้างนอกรถใส่เสื้อหนาวแบบมีหมวกคุมหัวทั้งนั้น
05.30 น.รถก็มาถึงขนส่งเชียงใหม่อาเขต ลงจากรถก็รู้สึกถึงไอหนาวได้เลยว่าอากาศที่นี้ ต่างจาก กทม.มาก หยิบโทรศัพท์โทรบอกญาติว่า อาคันตุกะจากน้ำเค็ม มาถึงถิ่นเหนือแล้ว ปลายสายเสียงเหมือนจะเพิ่งตื่น บอกรอซัก 20 นาทีนะ...
โจ๊กสมเพชร ญาติมารับที่ขนส่ง ก่อนเข้าที่พักก็พามากินอะไรกันก่อน ปรากฎว่าเป็น โจ๊กหมู แล้วญาติก็ออกไปหาของหน้าร้านมาเพิ่มอีก ซึ่งก็มี ข้าวเหนียวปิ้งมีหลายไส้ ทั้งไส้กล้วย,เผือก,ถั่ว ขนาดชิ้นก็พอดีคำ ร้อนๆอีกด้วย แล้วยังมี ปาท่องโก๋ อีกด้วย เอาช้อนตักเนื้อโจ๊กดู ฮือ! เละเป็นโจ๊ก เหมือนที่เค้าว่ากันจริงๆ ส่วนรสชาติคงบอกไม่ได้นะว่ายังไง ปกติเป็นคนไม่ชอบกินโจ๊กอยู่แล้ว แต่แฟนบอกว่าอร่อยดี เอ่อ! ร้านโจ๊กที่ว่า ชื่อร้าน โจ๊กสมเพชร (ไว้วันหลังจะมาลองอย่างอื่นดู เห็นรายการอาหารแล้วมีจำพวกอย่างอื่นด้วย)
ภายในห้องพัก สะอาดดีเพราะตึกยังใหม่อยู่
ระเบียงด้านหลังมองออกมา ส่วนซ้ายมือของรูปเป็นตีนดอยสุเทพ ท้องอิ่มแล้วก็เข้าที่พักกัน นับว่าโชคดีมากที่ญาติจองที่พักที่นี้ได้ เป็นประเภท แมนชั่นให้ช่าทั้งรายวัน,รายเดือน รายวั้นก็ตกวันละ 400.- มีเครื่องปรับอากาศ(ไม่ได้เปิดเลย) เครื่องทำน้ำอุ่น ,TV ,ต้เย็น นับว่าเหมือนโรงแรมทุกอย่างเลย แถมด้านล่างมี คอมให้ใช้ถ่ายโอนไฟล์ เล่นเน็ต adsl อีกด้วย มีเครื่องเดียวแต่คนไม่ค่อยมีใครใช้กัน คนมาพักส่วนมากเป็นชาวเอเชีย ไม่รู้ว่าเกาหลีหรือญี่ปุ่น ..แมนชั่นที่พักชื่อว่า วิภานันท์แมนชั่น อยู่ถนนช้างเผือก ตรงข้ามตลาดธานินท์
Honda คันนี้แหละที่จะพาขึ้นดอยกัน อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ออกมาหา มอเตอร์ไซค์เช่ากัน ที่เลือกมอไซค์ก็เพราะ คิดดูแล้วว่าถ้าเป็นรถยนต์ ต้องเช่ามาจอดติดเหมือนใน กทม.แน่ๆ เชียงใหม่ดูแล้ว การจราจรวุ่นวายไม่แพ้เมืองกรุงเลย ถ้าจะเช่ามอไซค์เห็นทีต้องไปแถว ตลาดสมเพรช ราคาก็คันละ 200-250.-/วัน แล้วแต่รถเก่าหรือใหม่ ถ้าเทียบกับทางใต้(ภูเก็ต,สมุย)นับว่าแพงกว่านิดหน่อย เพราะที่โน่นตกวันละ 150.-เท่านั้น แถมไม่ต้องมีมัดจำด้วย ที่ เชียงใหม่ต้องวางมัดจำด้วย 2,000-3,000.-(หรือว่าเฉพาะคนไทย เพราะมีพวกเล่นเช่าแล้วขับหายเข้าไปจำนำในบ่อนชายแดนก็เยอะ) ส่วนรถยนต์ก็อยู่ที่ราคา 1,300-1,600.- แล้วแต่ประเภทรถ และเกียร์ แต่ที่นิยมกันเห็นจะเป็น จิ๊ปคาริเบี้ยน ขับกันเยอะมาก เคยถามที่ เชียงรายดูวันละ 800.-เอง แต่ถ้าเอาประกันชั้นหนึ่งก็เพิ่มอีก 200.-
ลานครูบาศรีวิชัยก่อนขึ้นดอย ก่อนอื่นเลยตรงทางก่อนขึ้นดอยสุเทพ ทุกคนคงจะต้องมาไหว้ ครูบาศรีวิชัย กันก่อนรวมทั้งเราทั้งสองคนด้วย พอจอดรถมอไซค์ปั๊บก็มีคนมาขายดอกไม้ธูปเทียนกันถึงที่เลย แต่เราสองคนนิยมไหว้ด้วยมือเปล่ากัน ไม่ใช่ประหยัดอะไรหรอกครับ เพียงแต่เราคิดว่าของแบบนี้มันอยู่ที่ศรัทธามากกว่า อีกอย่างไม่ทำให้ลานครูบาศรีวิชัยต้องมีขยะมากขึ้นด้วย
จุดชมวิวระหว่างทางขึ้นดอยสุเทพ กราบไหว้ครูบาศรีวิชัยเสร็จก็ขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปดอยสุเทพกัน จุดหมายก็คงจะเป็น พระธาตุดอยสุเทพ ระหว่างทางก็แวะจอดดูทิวทัศน์มุมสูงของตัวเมืองเชียงใหม่กัน ทางขึ้นก็ไม่ค่อยชันมากเท่าไหร่ ขับมอเตอร์ไซค์แบบสบายๆ ลมปะทะใบหน้ากำลังเย็นสบาย ไม่หนาวอย่างที่คิด ซักพักก็มาถึง พระธาตุดอยสุเทพ จัดการหาที่จอดมอเตอร์ไซค์ตามที่เค้ารับฝาก คนรับฝากบอกกับแฟนว่า ซาวบาท แต่แฟนเข้าใจว่า สามบาทเลยหันมาถามว่าทำไมสามบาทเองอ่ะ เราก็บอกไปว่า ซาวบาทก็คือ ยี่สิบบาทนะ ถึงได้ร้องอ๋อ!
ตรงทางที่จะขึ้นบันไดไปพระธาตุนั้น จะมีของขายมากมายมีทั้งของกิน ของใช้หลากหลาย เช่นผลไม้ต่างๆ หรือไม่ก็พวกผ้าพันคอ เสื้อผ้าแม้ว แต่ที่ชอบมากเห็นจะเป็นลูกสตอเบอรี่โตๆ ที่มีหลายราคาให้เลือกกินกัน ราคาถ้า เป็นแก้วๆละ 20.-ส่วนถ้าเป็นชะลอมก็ 80.- แต่แนะนำว่าถ้าเย็นๆแล้ว ค่อยมาซื้อจะถูกกว่านี้อีกมากเลย
ลานชมวิวบนพระธาตุดอยสุเทพ
มองมุมกว้างจากลานก็จะเห็นตัวเมืองเชียงใหม่
พิพิธภัณฑ์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ
ภายในพิพิธภัณฑ์ ก็จะมีพระพุทธรูปเก่าๆ ,ตู้ไม้แกะสลัก ,เงินในยุคต่างๆ
รูปปั่นช้าง เห็นปุ๊บนึกถึงตอนเด็กปั๊บ ออกจาก พิพิธภัณฑ์ ก็เดินวนทวนเข็มนาฬิกามาจนมาถึงรูปปั่นช้าง ทำให้นึกถึงตอนเป็นเด็ก เคยเห็นรูปที่ตัวเองถ่ายกับรูปปั้นช้างที่ตรงนี้ได้ ตอนนั้นน่าจะราวๆ 5 ขวบ พ่อกับแม่ปีหนึ่งก็จะปิดร้านมาเที่ยวกันทั้งครอบครัว เดี๋ยวกับบ้านครั้งหน้าต้องไปหารูปตอนเด็กที่ถ่ายตรงช้างนี้มาเปรียบเทียบซ่ะหน่อย ที่จำได้แน่ๆก็เห้นจะเป็นด้านล่างที่มีรูปคนเรียงรายกัน เมื่อก่อนจะเป็นแค่ราวลูกกรงปูนปั่นแน่ๆ แล้วผมก็ขึ้นไปนั่งถ่ายรูปบนนั้น (ขื่นขึ้นไปนั่งตอนนี้ มีหวังได้มีการไปเข้าฝันกันแน่)
เดินวนรอบนอกพระธาตุเสร็จแล้วก็จัดแจงถอดรองเท้าเข้าไปรอบในพระธาตุกัน ปกติแล้วสตรีที่จะเข้าไปรอบในต้องแต่งตัวค่อนข้างจะดูมิดชิดซ่ะหน่อย อย่างกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น ทางวัดก็จะมีผ้าถุงให้สวมคลุมอีกที เข้าไปด้านในก็ยังคงมีอาชีพที่นึกว่าจะหายไปจากที่แห่งนี้แล้ว อาชีพที่ว่าก็คือ อาชีพช่างถ่ายรูป ผมว่ารายได้คงหดหายจากเก่าไปเยอะพอดู ด้วยกระแสของกล้องดิจิตอล ที่ใครๆก็มีกัน... ส่วนราคาค่าถ่ายรูปที่ได้ยินก็รูปละ 40 บาทครับ ตอนแรกกะว่าจะอุดหนุนซักหน่อย แต่ต้องรอปริ้นรูปอยู่ดี เลยไม่เอาดีกว่าเพราะว่าต้องขึ้นต่อไปดอยปุยอีก กลัวจะไม่มีเวลา
ศิลปินข้างบันได นำเอาเครื่องดนตรีพื้นเมือง มาเล่นกับเครื่องดนตรีสมัยใหม่ น่าฟังดีครับ
เดินมาเจอของชอบ เลยเก็บรูปไว้หน่อย (ตอนปั่นขึ้นคง "หอบแดก" แน่ๆแต่ตอนลงน่าจะสนุกสุด ดีไม่ดีอาจเหาะลงเขาไปเลย ฮาๆ) แต่สังเกตุเห็นตอนขึ้นดอย มีรถบรรทุกเสือภูเขาขึ้นมาเต็มเลย สงสัยพวกเล่นปั่นตอนลงอย่างเดียวแหงๆ
ไหว้พระธาตุเสร็จก็เที่ยงพอดี เลยหาอะไรที่มันเหนือๆกินซักหน่อย ที่เห็นก็เป็นข้าวซอยแถวๆพระธาตุน่านแหละ ส่วนแฟนกินไม่เป็นก็กินข้าวผัดพริกกะไก่ทอด(เหนือเมฆ)ไป เพราะเดี๋ยวจะต้องขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นต่อไปยังดอยปุยอีก ดูระยะทางแล้ว สิบกว่ากิโล(แม้ว)เอง คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงลูกน้ำเค็มอย่างเราอยู่แล้ว 555
blog หน้าจะพาไปดู "แม้วเล" กันว่าจะเป็นอย่างไร อย่าพลาดนะคร้าบบบ
Create Date : 04 มกราคม 2549 |
Last Update : 4 มกราคม 2549 16:43:56 น. |
|
41 comments
|
Counter : 1657 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:17:22:38 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:17:34:53 น. |
|
|
|
โดย: มรกตนาคสวาท วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:17:55:06 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy IP: 203.113.34.10 วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:19:05:18 น. |
|
|
|
โดย: ~มณีลัลลา~ วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:20:16:26 น. |
|
|
|
โดย: L-twin วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:20:20:49 น. |
|
|
|
โดย: me2you วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:20:44:42 น. |
|
|
|
โดย: PADAPA--DOO วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:21:19:13 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:0:15:21 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:6:00:27 น. |
|
|
|
โดย: ซีบวก วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:8:23:15 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:14:34:15 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 5 มกราคม 2549 เวลา:22:43:31 น. |
|
|
|
โดย: ซีบวก วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:9:06:12 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:11:44:23 น. |
|
|
|
โดย: สเตอร์ล IP: 203.114.99.68 วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:13:18:15 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:13:54:33 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:14:37:51 น. |
|
|
|
โดย: เงือกลม วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:15:59:46 น. |
|
|
|
โดย: hidden file วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:16:33:41 น. |
|
|
|
โดย: TIDTYCHAN วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:18:52:59 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:19:08:19 น. |
|
|
|
โดย: err_or วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:19:13:48 น. |
|
|
|
โดย: mungkood วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:20:13:16 น. |
|
|
|
โดย: T_Ang วันที่: 7 มกราคม 2549 เวลา:14:03:40 น. |
|
|
|
โดย: T_Ang วันที่: 7 มกราคม 2549 เวลา:14:35:36 น. |
|
|
|
โดย: tiny (tiny ) วันที่: 11 มกราคม 2549 เวลา:10:15:24 น. |
|
|
|
โดย: วิภานันท์แมนชั่น IP: 210.86.142.107 วันที่: 19 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:28:06 น. |
|
|
|
โดย: chocolate IP: 124.157.203.200 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:13:30:49 น. |
|
|
|
| |
|
|
ถ้าให้เช่ามอเตอร์ไซด์ก็ไม่ได้ขี่มาสิบกว่าปีแล้ว ลืมหมดแล้วอ่ะ
เพราะมังคุดเคยขี่มอเตอร์ไซด์แค่ตอนประถมที่อยู่ฉะเชิงเทราอ่ะค่ะ
ถ้าเช่ามาขี่ คงได้ล้มระเนระนาดกันแน่ๆเลย