11 พ.ย. 2560 ขณะกำลังเดินทางออกจากที่พักเพื่อไปทำธุระ หลังจากรถวิ่งมาได้ประมาณ 2 km มีอาการกระตุก สะดุด กระแทก เสียงกระแทกน่ากลัวมาก ตอนแรกคิดว่ารถวิ่งบนถนนขรุขระมาก บนหน้าจอ มีคำเตือนขึ้นว่า malfunction  แต่ก็ยังขับไปได้ แต่ก็กระแทกกระทั้น ราวกับวิ่งบนถนนขรุขระ

หลังจากคิดออกว่าไม่ได้เป็นที่ถนน เพราะถนนมันผิวเรียบ คนขับก็เลยต้องชะลอรถลง เพราะมันกระตุก กระแทก สะอึกจนน่ากลัว และก็ขึ้น malfunction

โทรปรึกษา Star Assist ตามคำแนะนำของคุณเบียร์ เซลล์ขายรถให้เราซึ่งตอนหลังทำหน้าที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงนักมวย  ทาง Star Assist บอกว่ายังขับได้อยู่ ให้ค่อย ๆ คลานกลับไปบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นระยะทางประมาณ 4-5 กม. (ต้องไปอ้อมรถไกล) กลับถึงที่พัก แล้วค่อยจะส่งรถมาลาก

เราก็ไปกันแบบใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ คิดว่าต้องมีปัญหาที่ airmatic suspension แน่นอน เพราะมันกระแทก กระทั้น น่ากลัว ระหว่างค่อย ๆ คลานกลับ malfunction ก็ขึ้นตลอด  เราก็พบว่า เราไม่สามารถกด vehicle rising ได้ และไม่สามารถเปลี่ยนค่า suspension ใน mode การขับขี่ได้เลย (คือมีความพยายามที่จะทำให้มันหายกระตุก)

ในที่สุดก็ขับมาถึงทางเข้าบ้าน คนขับสังเกตว่ารถเตี้ยมาก (ยังไม่ได้ลงจากรถ) เพราะตอนเข้าบ้านปีนเนิน ก็รู้สึกมีเสียงกระแทกเล็กน้อยด้านหลัง พอลงจากรถเท่านั้น จะเป็นลม น้อง Snow ตัวถังแทบจะติดพื้นดิน  ล้อหลังนี่แทบจมเข้าไปในตัวถังรถ ไม่น่าเชื่อว่าขับมาได้  ถ้าลงจากรถมาดูเห็นแบบนี้คงไม่กล้าขับกลับมาแน่นอน

สรุปว่า วันรุ่งขึ้น (เป็นวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ย.)  คนจาก Star Assist ก็มายกน้อง Snow ขึ้นรถ (ยกขึ้นเลย ไม่ได้ลากไป) นำไปศูนย์ราชดำเนิน เราก็มาถ่ายรูปกันใหญ่ไม่เคยต้องให้ใครมาลากรถมาก่อน (โชคดีที่มีถ่ายรูปไว้ โปรดอ่านต่อไป)

หลังจากรอประมาณ 2-3 วัน ช่วงนี้ทางศูนย์ใจดี เอารถโชว์รูม Mercedes C250 2 ประตูมาให้ใช้ทดแทนก่อน ขอบพระคุณทางศูนย์

ผ่านไป สองสามวัน เขาแจ้งว่า ฟิวส์ปั้มลมขาด ปั้มลมเจ๊ง ต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ เปลี่ยนปั้มลมใหม่

เราก็เข้ามาไปค้นคว้าในเน็ต ก็พบปัญหาเรื่องเกี่ยวกับ Airmatic -ปรากฎว่าแทบจะเป็นวิทยานิพนธ์ให้อ่านบน wikipedia ไม่เชื่อลองค้น W220 airmatic problems

ปัญหาจุกจิกมาก เยอะ อ่านแล้วเยอะ รู้สึกระบบจะซับซ้อน  รู้สึกใจเสียเล็กน้อย ข้องใจว่านี่เพิ่งปีกว่า ๆ (น้องโน๋ อายุ 1 ปี ย่างเข้า 7 เดือน) ยังไม่แก่เท่าไหร่ ก็มีปัญหาซะแล้ว แล้วระยะยาวนี่ มิน่าล่ะ ถึงมีคนถอดทิ้งเปลี่ยนสปริง

สรุปว่า หัวหน้าช่างเค๊าอธิบายว่า 

มีปัญหาที่ปั้มแอร์  ทำให้ปั้มแอร์ต้องทำงานตลอดเวลา พอปั๊มแอร์เค้าต้องทำงานตลอดเวลาก็เลยทำให้ฟิวส์ขาด ก็เลยระบบล่ม malfunction รถยุบ

น่ากลัวเนอะ  บนเน็ตมีคนไข้ขอนไม้ให้เอาไว้หนุนกรณีมีปัญหา ให้ขับกลับบ้าน หรือไปศูนย์ได้ แต่ก็ก็ไม่รู้จะไปหนุนขอนไม้ตรงไหน อะนะ  ยอมรับว่าปรากฎการณ์อันนี้ทำให้ขาดความมั่นใจไปพอสมควร หากต้องเดินทางไกล แล้วมันยุบตัวลงล่ะ อ้วกแตก แค่คิดก็ออกหนาว ๆ 

สรุปว่าเค๊าใส่ฟิวส์ใหม่ให้ ใส่ปั๊มแอร์ใหม่ให้ แล้วก็เอามาคืนให้วันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย. ตอนเอารถมาส่ง คุณเบียร์ก็ชี้ให้ดูว่ามีรอยบุบของตัวถังด้านซ้ายมือที่เหนือล้อแถมมา   เกิดการเกี่ยงความรับผิดชอบกันระหว่างศูนย์ราชดำเนินกับรถลาก Star Assist ตอนแรกเค๊าบอกว่าให้ลูกค้าไปเคลมประกันภัยเอาเอง ทางเราต้องเอารูปถ่ายยืนยันไปว่าตอนลากรถไปไม่มี  สรุปว่า ก่อนให้เค๊าลากรถไป ต้องถ่ายรูปรถรอบคันทุกครั้ง

รู้สึกเสียศูนย์กับศูนย์ราชดำเนินเล็กน้อย  แต่ความที่เค๊าอุตส่าห์หารถทดแทนให้ขับช่วงซ่อม เราก็เลยพูดจาดี ๆ ภาษาดอกไม้  ที่หงุดหงิดอีกประการคือ ไม่มีเอกสารประกอบเลย ว่าซ่อมอะไร เปลี่ยนอะไร รหัสอะไร อะไหล่ที่ไหน เลข serial number เป็นต้น  พอทวงเอกสาร ทางศูนย์บอกว่าอยู่ในคอมหมดแล้ว

เอาเป็นว่าขอคอมเม้นท์รถ Mercedes C 250 ที่เอามาให้ขับทดแทนหน่อยก่อนนิดนึง  มันเป็นรถสปอร์ตสองประตู ที่ไม่มี airmatic  ความที่เราสองคนนั่ง airmatic จนเคยตูด (ขออนุญาต เพราะแทนที่จะเคยตัว แต่มันเป็นเคยตูด)  ทำให้เกิดอาการตูดสูง Mercedes C250 นั้น ช่างไร้ความนุ่มนวลเสียเหลือเกิน หรือจะเป็นเพราะมันเป็น sport car ด้วยไม่แน่ใจ  อีกอย่างก็คือมันไม่มี electric mode มันเป็น ICE (Internal Combustion Engine) เราสองคนเราคิดถึงน้องโน๋เรามาก  ยิ่งทำให้ appreciate ความดีของ airmatic suspension (ขนาดว่ามันเพิ่งจะ failure ใส่เราหนึ่งครั้ง)

วันที่ 16 พย. หลังจากน้องโน๋ กลับมา ล้อไม่ยุบแล้ว ไม่ขึ้นเตือน malfunction แล้ว ขับได้เกือบเหมือนปรกติ แถมรอยบุบ  กด vehicle rising รถก็ยกโดยดี แต่ปรากฎว่า

มันมีเสียงปั้มแอร์และมีความสั่นสะเทือน  ตอนแรกคนขับเค๊าคิดว่าเครื่องยนต์ติด  แต่หลังจากเห็นว่าไม่ใช่เครื่องยนต์ มันน่าจะเป็นเสียงปั้มแอร์ ที่แต่ก่อนมันไม่เคยได้ยินเลย พวกเราก็เริ่มสังเกต (จับผิด)

เราพบว่าปั้มแอร์อันนี้ มันทำงานบ่อยเกินควร และบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ  จนรู้สึกรำคาญ ตอนแรกรับรถกลับมา ทริปไปทำงานระยะ 6 กม. น่าจะปั้มสัก 2-3 ครั้ง (ครั้งนึงประมาณ 1-2 นาที)  เอ๊ะ วันหลัง ๆ มันปั้มบ๊อยบ่อย  เรียกว่า ขึ้นรถปุ๊บ จะออกตัว เธอก็ปั้มทีนึง ขับไปถึงหน้าปากซอยก็ปั้มอีกที กลับรถใต้สะพาน อีกที อยู่พาต้า ก็ปั๊มอีกที มาหน้า รพ. ก็ปั้มอีกที เรียกว่าปั้มมันทุก ๆ 5-10 นาที  แถมที่น่าฉงนใจคือใยมันมีเสียงและมี vibration ที่รู้สึกได้ ในเมื่อแต่ก่อนเราก็ไม่รู้สึก

ระหว่างช่วงนี้  ทางศูนย์เค๊าไปทะเลาะกับทาง star assist รถลากว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบซ่อมรถบุบ สรุปว่าเค๊าหาคิวรถสำรองให้เราขับได้เป็น โดยทางเราบอกว่าไม่รีบ แต่เราอยากขับรถไฟฟ้า (เคยขอว่าอยากลอง e350e แต่เค๊าไม่เคยจัดให้) 

สรุปเราก็ใช้น้องโน๋ไปเรื่อย ๆ ทนฟังเสียงและ vibration จาก air pump จนเค๊าจัดคิวรถทดแทนให้เราได้ คราวนี้เป็น C350e รุ่น 2017 แบบ Avantgarde (ยังดีกว่า C250) อย่างน้อยก็เสียบปลั๊กใช้งานได้ แค่ไม่มี Burmester, ไม่มี moonroof ไม่มีเตะกระโปรงหลังเปิด  อย่างน้อยทำให้เรามั่นใจชัดเจนว่าตอนรถมันมาดี ๆ มันไม่มีเสียงแอร์ปั๊ม ไม่มี vibration คือไม่มีทางรู้สึกได้ว่าแอร์ปั๊มทำงาน 

น้องโน๋ไปรอบนี้ตั้งแต่ 8 ธ.ค. ถึง 15 ธ.ค.  พวกเราตั้งใจกันว่าอย่างน้อยรอยบุบคงซ่อมหาย  แต่ถ้ากลับมาคราวนี้ปั๊มยังมีเสียง เราจะขอเอกสารซ่อมจริง ๆ แล้วเอาไปเข้าศูนย์ซ่อมศูนย์อื่น

ก็สรุปได้รถกลับมาตั้งแต่ 15 ธ.ค. จนถึงป่านนี้ (19 ธ.ค.) ก็ยังเงียบดีอยู่ ไม่พบปัญหา เดี๋ยวต้องลุ้นต่อว่าจะไปได้อีกกี่เดือน  หมด 3 ปีเมื่อไหร่ คงต้องหาทางซื้อประกันอะไหล่ต่อ  ดวงดีจริง ๆ