space
space
space
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
27 พฤษภาคม 2565
space
space
space

Tesla จะมาประเทศไทยแล้วจ้า (ข่าวลือนะพี่ แต่ก็มีมูล)

May 27, 2022

ลุ้นแล้ว ลุ้นอีก เดาแล้ว เดาอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จากที่เคยเดาว่าจะเข้าปีที่แล้ว (2564) โอกาสร้อยละ 5 ก็พลาดถนัด กลายเป็น 0% เพราะไม่ได้เกิดขึ้น ตอนต้นปีก็ยังจะกระแดะมาเดาอีกรอบว่าโอกาสเข้ามาปีนี้ 2565 เดาว่าร้อยละ 1% หลังจากนั้นก็เจอสงครามปูตินถล่มยูเครน น้ำมันขึ้นราคาสูง ชาวเมกันและชาวยุโรปก็หันมาซื้อรถ EV กันขวักไขว่ จนเราคิดว่าโอกาสเข้ามาปีนี้คงจะร้อยละ 0 อีกแล้วล่ะ (อันนั้นบล็อกที่ 3 เรื่องเมื่อไหร่เทสล่าจะเข้ามาประเทศไทย) และแล้วสถานการณ์ก็พลิกผันกันสิบแปดตลบ จู่ ๆ ก็มีข่าวว่าทางเทสล่าถอนตัวจากความพยายามเข้าทำตลาดที่อินเดีย อันนี้คอนเฟิร์ม ที่เราเคยรายงานข่าวว่ามีการจดทะเบียนขึ้นชื่อบริษัทเรียบร้อยในอินเดีย มีการขึ้นทะเบียนรุ่นรถที่จะเอาเข้าไปขายกันถึง 7 รุ่น มีคนเห็นรถตัวอย่างวิ่งแบบ camouflage (เค้าเอาไป wrap sticker ทั้งคันให้มันดูยากขึ้นว่ารถอะไร) แต่แล้วก็เหมือนกะจะตกลงกันไม่ได้เพราะอีตาโมดี้คงจะแข็งข้อ สงสัยจะยื่นเงื่อนไขว่าทางเทสล่าต้องเข้าเปิดโรงงานในอินเดียเท่านั้น ซึ่งเราก็คิดว่าทางเทสล่าก็น่าจะอยากเปิดอยู่ แต่คงจะขอ sole ownership ไม่เอา joint venture อย่างที่ได้ที่ Giga Shanghai อีท่าไหนไม่ทราบ สงสัยตาโมดี้ไม่ยอมกระมัง เทสล่าก็ขอลดหย่อนภาษีจะนำรถเข้าจากจีน ทางอินเดียก็ยังไม่ยอมอีก และแล้ว ทาดา ก็มีข่าวว่าจูบลาอินเดียเรียบร้อย นั่น ๆ น่ะ ลูกค้า 1 พันล้านคนเชียวนะ แต่ไม่รู้ว่าที่มี GDP พอจะถอยเทสล่าจะได้กี่ล้านคน ทางอินเดียไม่นึกเสียดายโอกาสที่จะได้ก๊อป ได้แอบขโมยเทคโนโลยีอะไรเลยนะ

เสร็จแล้วถัดมาอีก 2 สัปดาห์ก็มีข่าวว่าคุณอีลอน มัสก์ไปพบปะกับ คุณ Joko Widodo ประธานาธิบดีของอินโด ข่าวออกมาจากทางอินโด แต่ไม่ได้คอนเฟิร์มออกมาทางเทสล่า คุณโจโก้ บอกว่า ในที่สุด เทสล่าก็จะมาเปิดโรงงานแบตเตอรี่ และโรงงานผลิตรถยนต์ที่ใจกลาง central Java province ส่วนเมื่อไหร่นั้น คุณ Joko ก็ไม่ได้บอกเนื่องจากว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญา

เฮอะ ไม่เซ็นสัญญา ก็ไม่ต้องมาบลัฟ แน่จริงเซ็นให้มันเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยประกาศ เราเข้าใจว่าเทสล่าคงอยากจะทำให้อินเดียรู้สึกเสียดายโอกาสกระมัง อาจจะต้องการกระแสบางอย่าง ยังไง ๆ ก็ต้องมี giga factory อีกแห่ง ไม่ใช่อีกแค่แห่งเดียว ถ้าอยากจะเร่ง transition to clean energy สมกับปณิธานบริษัท แปลว่าก็ต้องทำให้รถยนต์ รถกะบะ รถบรรทุก รถมอไซค์ ทุกอย่างที่เผาน้ำมัน รวมทั้งพลังงานต่าง ๆ ที่ยังอาศัย fossil fuels ต้องเปลี่ยนไปเป็นพลังงานสะอาดให้หมด ดังนั้นโรงงานแค่ 3-4 โรงในโลกนี้ไม่พอแน่ต้องมีโรงงานเกือบทุกภูมิภาค หรือ เกือบทุกพื้นที่ หรือถ้ามันขายดีมาก ก็ต้องมีเกือบทุกประเทศนั่นแหละ

ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าทาง Tesla ได้แอบมาจดทะเบียนบริษัท เทสลา ประเทศไทยเรียบร้อย (เทสลา นะจ๊ะ ไม่ใช่เทสล่า) หลักฐานการจดทะเบียนก็ค้นได้จากที่นี่ ดังรูปถ่ายข้างล่าง





สำหรับคนขี้สงสัย ก็ขอคอนเฟิร์มว่าชื่อบุคคลทั้งสามคนได้แก่ David Jon Finstein, Vibhav Taneja และ Yaron Klein มีตัวตนจริงและเป็นผู้บริหารของเทสลาจริง ไม่ใช่ตัวปลอม

ส่วนคำถามที่ว่าแล้วเมื่อไหร่จะมา อันนี้ก็ตอบยาก แค่มาจดก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว แต่ตัวอย่างแป๊กก็เห็นมาจะ ๆ ก็ที่อินเดียไง มีการจดทะเบียน มีการขึ้นทะเบียนรถที่จะขาย สุดท้ายก็แป๊ก ยกเลิกถอนทีมออกทั้งหมด เพราะการเจรจากับรัฐบาลไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นเห็นมีการจดทะเบียนก้ออย่าได้ชะล่าใจว่าจะมาแน่นอน แต่อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นนิมิตหมายอันดี ถ้าไม่มีอะไรผิดแปลกไปก็น่าจะภายใน 1-2 ปี อย่างน้อยถ้าไม่เปิดโรงงาน ก็น่าจะนำเข้าจากจีนได้ เพราะจีนก็มีการผลิตรถพวงมาลัยขวาอยู่แล้ว และถึงราคาจะเกิน 2 ล้าน (ซึ่งเราเชื่อว่าจะเกินแน่นอน) อย่างน้อยก็ยังได้ลดภาษีนำเข้าถึง 20% อันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะติดเงื่อนไขเรื่องที่ว่าจะต้องมีแผนการผลิตรถ EV ในประเทศไทยด้วยรึเปล่า เพราะเราเองก็ไม่คิดว่าเทสลาจะยังอยากเปิด Giga factory โรงที่ 3 (Fremont factory เป็นโรงงานดัดแปลง ไม่ถูกเรียกเป็น gigafactory) ตอนนี้ แต่ในแผน 5 ปีคงต้องเปิด

อะไรที่อาจจะทำให้เทสลาสนใจตลาดประเทศไทย จากกระจอกข่าวรายงานจากเว็บไซต์ www.elektrek.co ระบุว่าส่วนนึงเป็นเพราะยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยสูงถึง 7-8 แสนคันต่อปี (ปี 2564 ขายได้ 7.59 แสนคัน ยอดตกลง 4.2%)  เดาว่าหลังโควิด อาจจะพุ่งขึ้นไปถึง 9 แสนคัน ส่วนที่อ่านแล้วทำให้เรารู้สึกภูมิใจก็คือประโยคท่อนนี้ "While Tesla hasn’t officially entered the country yet, there are already quite a few Tesla vehicles in Thailand. They have been imported privately by the owners – and that’s a factor that Tesla takes into account when considering entering a new market. If many people are willing to go through the trouble of importing the vehicle, there’s a good chance that there’s a market for its vehicles in the country."  แปลว่ากลุ่มผู้ซื้อผ่านเกรย์ก่อนอย่างเรา ยอมเสี่ยง ยอมเจ็บเอง ยอมจ่ายแพง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เทสลาสนใจเข้ามาทำตลาดในไทยนะจ๊ะ แล้วถ้าถามว่าตอนนี้รถเทสลาในประเทศไทยมีทั้งหมดกี่คัน เทวดาก็ยังตอบไม่ได้ ข้อมูลแบบนี้ กรมการขนส่งเค้าไม่ยอมเปิดเผย เราจะเอาว่าประมาณไม่ถึง 1 พันคันดี สถิติเท่าที่ขุดมาได้ ปี 63 มีจดทะเบียน 97 คัน ปี 64 มี 222 คัน สำหรับปีนี้ก็ยังไม่จบ มีแต่สถิติเดือนม.ค.ว่ามีรถเทสลาจดทะเบียนไป 17 คัน ปีนี้ก็คงไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว ถ้าเดาว่าปีนี้อย่างน้อย 300 คัน ก็เท่ากับปาเข้าไปทั้งหมด 600 คัน ที่เหลือ คาดว่าก่อนหน้านี้คงมีไม่ถึง 400 คัน น่าจะสรุปได้ว่ามีไม่ถึง 1000 คัน ทั่วประเทศ  แต่ถ้าเทสลาเข้ามาจริงแล้วเปิดจอง เราคิดว่ายอดจองน่าจะทะลุหลักหมื่น ดีไม่ดีอาจจะถึง 50,000 คันด้วยซ้ำ (จองไว้ก่อน เอาไม่เอาเด้วค่อยว่ากัน) ดีไม่ดีอาจจะหลักแสน ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลย

ส่วนเรื่องโรงงาน เราก็แอบอยากให้เทสลาเข้ามาเปิดโรงงานในประเทศไทย เพราะมันมีผลต่อการสร้างงาน ต่อฐานการผลิต ชื่อเสียง นู่นนี่นั่น คิดว่าราคาอาจจะไม่ได้ลงมาเท่าไหร่ ถึงจะมีโรงงานในประเทศ เพราะบริษัทแม่ก็คงต้องทำกำไร (ไม่ใช่ว่าต้นทุนถูกแล้วจะลงราคาให้) ทั้ง ๆ ที่มีข่าวว่าเทสลาอาจจะไปเปิดโรงงานที่อินโดเนื่องจากเป็นแหล่งผลิตนิกเกิล แต่ในใจเราแอบคิดเข้าข้างประเทศไทยว่า ไม่น่าจะ ดูสภาพภูมิศาสตร์แล้วของอินโดมีลักษณะเป็นเกาะ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ ในแง่ของการขนส่งไปยังที่อื่น ๆ (แม้แต่ในประเทศเดียวกันก็ต้องผ่านเรือ) เราคิดว่าการขนส่งทางบกยังไง ๆ ก็ถูกกว่า ประหยัดกว่า ถ้าเทสลาจะเปิดโรงงานในอินโดจริง จะเอารถไปขายมาเลย์ ขายไทย ขายประเทศอื่น ๆ ใด แม้แต่อินโดเอง ก็ต้องขึ้นเรือ Ro-Ro (Roll on, Roll off) ไป น่าจะเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย ถึงแม้แบตเตอรี่จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของ EV แต่อันนั้นไม่ใช่ทั้งหมดนินา ในรถยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ อีกเยอะ ไม่ว่าจะมอเตอร์ drive train, brake, suspension, tires, headlight จิปาถะ และผู้ผลิตอะไหล่พวกนั้นในระดับ southeast asia อยู่ที่ไทยแลนด์นี่แหละจ้า เชื่อไหมล่ะ ว่าส่วนประกอบของ headlight ที่ใช้อยู่ในเทสลา model 3/Y ตอนนี้ก็มีส่วนประกอบที่ผลิตในไทย  อีกอย่างตอนเทสลาไปเปิดโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ ที่เบอร์ลิน ก็ไม่เห็นจะเลือกเพราะประเทศดังกล่าวเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่สักหน่อย เค้ามีเหตุผลอื่นในการเลือกไป การที่อินโดออกมาประกาศข่าว ก็น่าจะเป็นการ bluff อย่างนึง และก็เป็นการแสดงถึงความ desperate อีกอย่างนึงว่าอยากให้เทสลามาเปิดโรงงานประเทศตัวเอง อันนี้ในแง่ของการต่อรองจะเสียเปรียบพอควรเลย เราว่าคู่แข่งสำหรับไทยตอนนี้ที่น่ากลัวที่เห็นได้ชัดจากซีเกมส์ที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นประเทศเจ้าภาพนั่นแหละ เวียดนาม มีความเติบโตอย่างเห็นได้ชัด อยู่บนคาบสมุทรอยู่บนแผ่นดินใหญ่ จำนวนประชากรก็เยอะถึง GDP จะยังไม่เท่าประเทศไทย สรุปว่าเราแอบลุ้นให้เทสลามาเปิดโรงงานในประเทศไทย ไม่มาก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็นำรถเข้ามาจากจีนมาขายในไทยก็โอเค

ถ้าเทสลามาแล้วผู้ซื้อรถนำเข้าจากเกรย์ไปแล้วอย่างเราจะได้ประโยชน์อะไร ก็ต้องได้สิจ้ะ เยอะแยะ อย่างน้อยบริการหลังขายทุกอย่างก็เป็นแบบทางการ อะไหล่ ๆ อะไรต่าง ๆ ก็ต้องหาได้ง่ายขึ้น มีภายในประเทศ คนใช้ก็จะมีเยอะขึ้น อะไหล่ก็ถูกลง มีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ ไม่ต้องกลัวว่าเกรย์จะซ่อมไม่ได้ รวมถึง functions ต่าง ๆ ตอนนี้ที่ยังใช้ไม่ได้ เช่น map, navigation ก็จะได้ใช้ได้ รวมถึง supercharger อีก ถ้าเทสลาเข้ามาจริง พวกสถานีชาร์จเจ้าอื่น ๆ คงจะจ๋อยไปพอควร เพราะเรื่องความสะดวก เรื่องความเร็วในการชาร์จและความทั่วถึง ขนาดในต่างประเทศตอนนี้ยังไม่มีใครเทียบเท่าเทสลาได้แม้แต่ electrify america หรือ ionity, etc.

ก็แอบลุ้นกันต่อไปนะฮับ สัญญาณที่ดีต่อไปก็คือติดตามข่าวว่ามีการเจรจาตกลงอะไร เป็นประเทศระบอบประชาธิปไตย(ขนาดสามกีบยังด่าว่าจอมปลอม)ก็จะยากหน่อย อะไรก็ต้องโหวต ต้องผ่านสภา ถ้ามีข่าวอีลอน มัสก์มาเมืองไทยมาเจรจาลุงตู่นี่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีมาก อาจจะได้เห็นรถ camouflage แอบวิ่งอยู่ในถนน ตามมาตรฐานเค้า เค้าต้องทดสอบสินค้าเค้าในภูมิสภาพอากาศ ภูมิประเทศ คุณภาพถนน (ฮ่า ๆ อยากให้ทดสอบ full self driving in Bangkok) อาจจะต้องเอาไปเนินชี้ฟ้า อยากรู้ว่าเวลามอไซค์สวนเลนมา อีตา AI ของ Tesla อ่านว่าอาราย.... แค่นึกก็ขำกลิ้ง อาจจะเห็นแอพในรถมีเพิ่มการรองรับภาษาไทย (แล้วจะมารายงาน) ที่ผ่านมาชอบมีเพิ่มภาษาอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก ล่าสุดก็มีเพิ่มภาษาตุรกี (Merhaba) เพราะทางเทสลาเข้าไปทำตลาดในตุรกีเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา (ดูในหน้าเว็บ tesla.com ยังไม่เห็นขึ้นชื่อประเทศตุรกี)

แอบดีใจแต่ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป กลัวแป๊กเหมือนอินเดีย ไอ้พวกสำนักข่าวที่ลงพาดหัวว่า มาแน่ ๆ มันน่าจับมาตีก้นซะให้เข็ด

จบท้ายขออนุญาตนำข้อมูลจาก EVAT สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าประเทศไทย (ไม่รู้จะยนต์ไปทำไม ไม่มียนต์ซะหน่อย) มาลงให้ดู



ที่น่าประหลาดใจสำหรับเราก็คือทำไมเอาเทสลามาลงรวมในนี้ด้วย เพราะในบรรดานี้ คือพวกที่เค้ามีตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการ แต่เทสลายังไม่มีซะหน่อย (เลยทำให้สงสัยความน่าเชื่อถือของข้อมูลอื่น ๆ) แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่ทำให้เราทราบว่า Nissan leaf จริง ๆ เสียภาษีแค่ 20% ทั้งที่นำเข้าทั้งคันจากญี่ปึ่น เพราะเราเห็นตอนแรกขายซะแพงลิบ (พอขายไม่ออกก็ลงราคา) จริง ๆ ก็เสียภาษีกะเค้าไม่เท่าไหร่  ในบรรดานี้ รถที่น่าจับตาคือ Volvo XC recharge เพราะถือว่าเป็นรถที่ประกอบจากจีนที่ได้รับ 0% และราคาแพงที่สุด ก็น่าจะพอทำให้คนรอซื้อเทสลามีความว่าได้ว่าถ้า Volvo XC Recharge ราคา 2.6 ล้านมา 0% ได้  Tesla Model 3 รุ่น SR ก็ได้น่ามาไหว อาจจะแตะ 2.99 ล้านอะไรประมาณเนี้ย ส่วนถ้ารุ่น LR/PF หรือ Model Y นี่ ถ้า 3 ล้าน (เราเชื่อว่าจะถึง) ยังจะได้สิทธิ์ 0% อยู่ไหม ก็ต้องคอยลุ้น 

ส่วนคำถามที่ว่าแล้วเมื่อไหร่จะขายจริง  เราคิดว่าคงต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็คือการขึ้นแผนผัง supercharger และ ศูนย์บริการ ก็คอยแอบดู Tesla map ถ้าทางเทสลาจะกำหนดจุดติดตั้ง supercharger ได้ ก็คงต้องมีการคุยกับการไฟฟ้าพอควร ใครมีญาติอยู่การไฟฟ้าไม่ว่าจะฝ่ายผลิต นครหลวง ภูมิภาค ก็ลองแอบสอบถามดูดี ๆ ถ้ามีการสำรวจพื้นที่ กำหนดจุดจริง ความฝันก็เป็นจริงมากขึ้น เราว่าที่น่าจะแรงสุดก็จะเป็นการตกลงดีลกับรัฐบาล คำว่าโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ไม่จำเป็นต้องเป็นระดับ Gigafactory เสมอไป จริง ๆ เทสล่าก็มีโรงงานประกอบรถยนต์ในยุโรป ในเมกาเองตั้งหลายแห่ง แต่ไม่ใช่ระดับ giga เพราะเป็นการนำชิ้นส่วนเข้ามาแล้วประกอบขึ้น ซึ่งถ้าตรงนี้ทางเทสลาตกลงกับรัฐบาลได้ ไม่โดนเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนจนเกินเหตุ ก็สามารถมีโรงงานประกอบรถเทสลาที่ไม่ต้องใหญ่มากระดับ gigafactory ได้ ก็อาจจะได้ตามเงื่อนไข ถ้าจะฝันถึงระดับ gigafactory มันคงต้องมีอะไรน่าดึงดูดจริง โรงงานระดับนั้นมันใหญ่มาก ระดับภูมิภาค เค้าต้องมั่นใจกับเราจริง ๆ ก็ต้องไปบอกกรมทรัพยากรธรณีให้เร่ิมทำงาน เริ่มสำรวจแร่ธาตุได้แล้ว เพราะล่าสุดที่เช็คในเว็บไซต์เค้าเรื่อง แร่นิกเกิล   เค้าเขียนว่าเนื่องจากปริมาณความต้องการต่ำ ไม่มีการผลิตในประเทศไทยเนื่องจากการลงทุนไม่คุ้มค่า ดังนั้นแร่นิกเกิลที่ใช้ในประเทศจึงเป็นการนำเข้าทั้งหมด อันนี้คงต้องปรับทัศนคติใหม่ให้รู้ว่าปริมาณความต้องการต่ำ คือเมื่อ 10 ล้านปีที่แล้ว อนาคตกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว ตื่น ตื่น ลูกพี่ ชักช้าเด้ว มคปด. แร่นิกเกิลเท่าที่อ่านมาเค้าว่ามี abundant เป็นลำดับที่ 5 ดังนั้นถ้าอินโดมีไทยก็ต้องมีแหละน่า

ใคร ๆ ก็รู้ว่าตอนนี้คิวรอรถเทสลาเป็นหลักเดือน ๆ หลาย ๆ เดือน รุ่นฮิต ๆ อย่างพวก model Y นี่บางอันรอถึงปีหน้า Model X plaid นี่รอสองปีเลย แล้วทำไมเทสลายังอยากจะสนใจมาเปิดตลาดในเมืองไทย ประชากรแค่ 69 ล้านคน GDP อันดับ 26 ของโลก (สำรวจสองปีแล้วนะจ้ะ) อัตราเติบโตแค่ 4.2%   เอิ่ม ก็ต้องขอตอบว่า ก็ประเทศ GDP ต้น ๆ ก่อนหน้านี้ก็เปิดขายไปหมดแล้วไง มันก็ไล่มาถึงคิวมะ  อีกอันนึง ถึงแม้จะมีคิวคนจองรถยาวถึงปีหน้า เรียกว่าผลิตป้อนไม่ทัน  เอ... แต่ถ้ามีคนคิวหลัง ขายแล้วมันได้กำไรดีกว่า จะเอามั้ยล่ะ????  เอาสิ พ่อค้านะ อย่าลืม  อะไรล่ะที่ทำให้เทสลาขายรถในประเทศไทยแล้วได้กำไรดีกว่าที่อื่น ๆ  คำตอบก็คือ tax deduction หรือ incentive ไงฮะ อย่าลืมว่า เค้าจะไม่ขายถูกแน่นอน เค้าจะต้องขายเทียบเคียงกับระดับราคารถอื่น ๆ ในท้องตลาดในภูมิภาคหรือในประเทศนั้น ๆ ส่วนที่เหลือก็เป็นกำไรล้วน ๆ ฉะนั้น ใครที่ฝันหวาน เอาราคาเมกา ราคาที่จีนมา แล้วก็คูณอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทย ฝันไปเถอะคับ  เค้าไม่ขายถูกกว่ารถระดับเดียวกันแน่ ถ้าในเมกา Tesla model 3 ยังแพงกว่า Mercedes class C แล้วประเทศไทย Mercedes class C อยู่ตรงไหน Tesla เค้าก็จะวางราคาสูงกว่าคู่เทียบ ประมาณนั้นแหละคับ  tax exemption คือสิ่งที่ทำให้ราคามันเอื้อมถึงได้สำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม พอ volume มันได้คุ้มค่าที่จะเข้ามา ก็ตัดสินใจเข้าเลย คนซื้อก็จ่ายค่ารถมา เงินขาเข้าก็เข้ากระเป๋า Tesla ตรง ๆ ไม่ต้องเสียภาษีรัฐ (เพราะรัฐเว้นให้) ไม่ผ่านกระทั่ง dealer เทสลาสะกดคำนี้ไม่เป็น นี่แหละคับคือกลยุทธ์ เค้า ยิ่ง demand มากกว่า supply อันนี้ยิ่งเสร็จเค้าเลย ตลาดนี้มันเป็นตลาดของผู้ขาย ไม่ใช่ผู้ซื้อฮะ เค้าจะเลือกขายให้กลุ่มผู้บริโภคที่มีฐานะพอจะจ่าย ใครจะซื้อถูก ๆ ก็ให้รอไปก่อน จนกว่าจะมีผู้ขายรายอื่นมาตัดราคา

สรุปว่าข่าวเทสลาจดทะเบียนนี้ใคร ๆ ก็ดีใจ คนซื้อไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างเราก็ยังดีใจ ถึง ดีใจมาก คนที่รอซื้อก็ดีใจ เหลือแต่พวกผู้ประกอบการอิสระที่นำรถเข้ามา ตอนนี้คงจะเซ็งระเบิด เพราะคนที่กำลังจะตัดสินใจก็คงจะรอไปเลย (ยอมจ่ายค่าน้ำมันระหว่างรอ)  ส่วนคนที่สั่งจองไปแล้ว อาจจะต้องคิดหนัก เพราะไป ๆ มาเงินที่จองไป อาจจะเหมือนพอ ๆ กับส่วนต่างที่จะได้จากราคาที่เทสลาขายเองในประเทศ (ช่ายฮะ เราทำใจไว้ว่า รถเรา Tesla Model 3 PF ถ้าเทสลาขายเอง อาจจะขายในราคาไม่เกิน 3.49 ล้าน เราคิดว่าน่าจะถูกกว่าที่เราซื้อประมาณ 5 แสน  ซึ่ง 5 แสนคือค่าเงินจอง) ข้อดีที่จะได้อย่างเดียวของผู้ที่จองรถผ่านเกรย์ไปแล้วก็คือ คุณจะได้รถเร็วกว่า ได้ใช้ก่อน ได้ประหยัดค่าน้ำมันก่อน ได้ช่วยอนุรักษ์โลกใบนี้ก่อน ก็แค่นั้นเองฮะ แต่แค่นั้นก็ขอให้ภูมิใจว่าอย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่เปิดโอกาสให้คนอื่น ๆ สามารถจะร่วมเป็นเจ้าของ ถึงแม้เค้าจะหันมาใช้รถไฟฟ้าเพียงเพราะน้ำมันมันแพง แต่อย่างน้อยผลพลอยได้ก็คือสิ่งที่คนใช้ก่อนอย่างเรา ๆ อยากได้ ก็คือการนำโลกใบนี้ไปสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน เด้วมาคอยดูปรากฎการณ์ลงราคาสู้เทสลาประเทศไทยของบรรดาเกรย์  รวมถึงมาเดากันสิว่ายอดการจองรถตอนเปิดตัวครั้งแรกของเทสลาประเทศไทยว่ายอดจองรถรวมกันทุกรุ่น จะถึง 6 หลักไหม??? (ปกติค่าจองของเทสลานี่ ประมาณ $100 ยกเว้น Semi truck) แถมไม่เอาเปลี่ยนใจคืนเงินได้ด้วย

เราก็จะนั่งเฝ้ารอดูวันที่ถนนหนทางเต็มไปด้วยรถ EV และวันที่ full self driving ของ Tesla สามารถใช้ได้จริงบนถนน กทม. ในยุคของคุณชัชชาติ หวังว่าจะได้เห็นก่อนจะต้องจากไปซะก่อน
 




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2565
0 comments
Last Update : 8 มิถุนายน 2565 13:28:40 น.
Counter : 666 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

gollygui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]






space
space
[Add gollygui's blog to your web]
space
space
space
space
space