ดูนุ่มนวล แต่ในธรรมชาติแล้ว กุ้งชนิดนี้ สามารถปรับสีของตัวเองไปได้ตามสภาพแวดล้อม ทั้ง สีออกแดง ,สีชมพู , ส้ม หรือ เหลืองอ่อน ไปจนกระทั่งสีเขียว หรือ สีออกโทนฟ้าๆ กันเลยทีเดียว นับได้ว่าเป็นกุ้งเครฟิชที่สามารถเปลี่ยนสีสันกันได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียวลักษณะโดยรวมๆ ของกุ้งชนิดนี้ ก็คล้ายๆกับกุ้งเครย์ฟิชที่อยู่ในสาย Cherax พันธุ์อื่นๆ หากพิจารณาจากส่วนหัว บริเวณจงอยปาก , รูปทรงของก้าม แต่ลักษณะที่แตกต่างโดดเด่นไปจากเพื่อนร่วมตระกูลพันธุ์อื่นๆ ก็คือ กุ้ง " แอพพลิคอต " จะมีดวงตา และ จงอยปากที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อนร่วมตระกูลอีกหลายสายพันธุ์ครับ และขนาดตัวตอนที่โตเต็มที่ของกุ้งชนิดนี้ ถ้าเป็นตัวผู้ จะมีความกว้างของส่วนหัวที่ประมาณ 37.1 – 42.2 มิลลิเมตร และ ความยาวของลำตัวอยู่ที่ประมาณ 81.3 – 92.9 มิลลิเมตร และ ตัวเมียจะมีความกว้างของส่วนหัวอยู่ 37 – 39 มิลลิเมตร และ มีความยาวของลำตัวอยู่ที่ประมาณ 81 – 85 มิลลิเมตร

กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น เริ่มได้รับความนิยมเมื่อมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศทางแถบยุโรป และ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนชื่อ Cherax Holthuis นั้น ได้รับการตั้งชื่อ โดยเอาชื่อมาจาก DR L.B. Holthuis ผู้ชำนาญการณ์เกี่ยวกับ กุ้งเครย์ฟิชน้ำจืด ในสกุล Cherax

กุ้ง " แอพพลิคอต " สามารถใช้หนวดเส้นยาวของมัน สอดส่าย สัมผัส หาอาหารในแหล่งน้ำธรรมชาติ หลังจากนั้น ก็จะเข้าไปตะครุบกลืนกินอย่างรวดเร็ว สายตาของกุ้งชนิดนี้ ใช้การได้ไม่ดีนัก ดังนั้นจึงต้องพึ่งพาหนวดที่มีสัมผัส ความไวสูงเข้ามาทำหน้าที่แทนครับ

กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้เป็นกุ้งเครย์ฟิช ที่ต้องการความเงียบสงบ และ การดูแลปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนพอสมควร การให้อาหารสดจะเป็นสิ่งที่พวกเขาชอบมาก ผู้เลี้ยงควรฝึกให้อาหารหลากหลายชนิด เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของตัวกุ้งครับ สำหรับการจัดตู้นั้น ถ้ามีเวลาในการดูแล ก็สามารถจัดตู้เลียนแบบธรรมชาติให้กับเขาได้เลยครับ อาจจะหาพวกกะลามะพร้าว หรือ เครื่องดินเผา หรือ บ้านสำหรับกุ้งเครย์ฟิช ที่จัดทำมาโดยเฉพาะมาใส่ให้เป็นที่หลบซ่อนของเขาก็ได้ครับ สำหรับในส่วนของเรื่องอาหารการกินนั้น กุ้งชนิดนี้ สามารถให้กินได้อย่างหลากหลาย ทั้งอาหารสด เช่น ไรทะเล , หนอนแดงไส้เดือนน้ำ และ อาหารแห้งสำเร็จรูป คุณภาพสูงแบบต่างๆ รวมถึงผักและผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย , แตงกวา , บวบ , ธัญพืชชนิดต่าง ๆ ฯลฯ

ในธรรมชาตินั้น กุ้งชนิดนี้ จะเริ่มผสมพันธุ์ได้ ตั้งแต่อายุประมาณ 1 ปีขึ้นไปครับ ตัวเมียจะ ปล่อยลูกลงจากท้อง เมื่อลูกกุ้งมีการพัฒนา จนเหมือนตัวเต็มวัย แต่ขนาดเล็กกว่าครับ ส่วนค่า pH ในตู้เลี้ยงก็พยายามทำให้เสถียรที่ประมาณ 4 - 7 ( ค่า pH ที่ในแหล่งกำเนิดของเขาจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 ครับ ) เนื่องจากกุ้งชนิดนี้ ในแหล่งกำเนิดนั้น อาศัยอยู่บริเวณแหล่งน้ำไหล ที่มีพื้นเป็นหิน และทรายปกคลุมอยู่โดยรอบ ดังนั้น จึงมีความต้องการปริมาณอ็อกซิเจน และ ปริมาณของน้ำหมุนเวียนที่ค่อนข้างสูง ส่วนเรื่องอุณหภูมิของน้ำในที่เลี้ยงก็อยู่ที่ประมาณ 24 – 28 องศาเซลเซียสครับ กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ไม่ใช่เป็นสัตว์สังคมที่ดีนัก อาจจะทำร้ายเพื่อนร่วมตู้ที่อาจจะเป็นกุ้ง หรือ ปลา ที่เราเลี้ยงในตู้ได้ครับ ดังนั้นถ้าหากจะเลี้ยงรวมกันแล้วล่ะก็ ขอให้คำนึงถึงเรื่องพื้นที่ และ ที่หลบซ่อนให้มากเข้าไว้ครับ ที่หลบซ่อนที่เหมาะสม ก็เช่น ขอนไม้ , กะลามะพร้าว ที่เอาเนื้อออกหมดเรียบร้อยแล้ว ( โดยเจ้าของ และจะนำไปทำแกงกะทิรุปแบบไหน ก็อร่อยทั้งนั้นครับ แฮ่ ... อย่าเอากะลามะพร้าวที่มีเนื้ออยู่ใส่ลงไปในตู้ โดยหวังว่ากุ้งจะแทะเล่นนะครับ ไม่อย่างนั้น ท่านอาจจะได้ทานแกงกะทิกุ้งแอพพลิคอตของท่านแทนก็เป็นได้ เพราะน้ำเน่าแล้วกุ้งจะตายทั้งตู้ครับ ) ตู้เลี้ยงควรจะมีฝาปิดด้วย เพราะกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น จัดได้ว่าเป็นกุ้งเครย์ฟิช ที่ปีนหนีได้เก่งอีกชนิดหนึ่งครับ.

เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์

*** ขอบคุณร้าน เครย์ฟิช B59 สำหรับรูปสวยๆครับ

Create Date : 22 กันยายน 2558
Last Update : 20 เมษายน 2562 22:11:36 น.		0 comments
Counter : 1803 Pageviews.
Share Tweet