ปลาเปคู หรือ ปลาคู้ หรือที่นิยมเรียกกันในเชิงการเกษตรว่า ปลาจะละเม็ดน้ำจืด (อังกฤษ: Pacu) เป็นชื่อสามัญที่เรียกปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่งในวงศ์ปลาคาราซิน (Characidae) ในวงศ์ย่อย Serrasalminae หรือวงศ์ย่อยของปลาปิรันยาปลาเปคูมีรูปร่างโดยรวมคล้ายกับปลาปิรันยาซึ่งอยู่ในวงศ์ย่อยเดียวกัน หากแต่อยู่ต่างสกุลกัน โดยปลาเปคูนั้นจะมีรูปร่างที่ใหญ่โตกว่าปลาปิรันยามาก โดย
ปลาชนิดนี้อาจจะมีความยาวของลำตัวได้ถึง 80-110 เซนติเมตร และมีน้ำหนักได้เกือบ 40 กิโลกรัม และมีพฤติกรรมที่ต่างกัน คือ ปลาเปคูจะกินได้ทั้งพืชและสัตว์ โดยบางครั้งอาจจะขึ้นไปบนผิวน้ำเพื่อรอกินผลไม้หรือลูกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นได้เลย ขณะที่ปลาปิรันยาจะกินแต่เนื้อเพียงอย่างเดียว และอีกประการหนึ่งที่แตกต่างกัน คือ ฟันและกรามของปลาเปคูแม้จะแข็งแรงและแหลมคม แต่ก็ไม่เป็นซี่แหลมเหมือนปลาปิรันยา และกรามล่างจะไม่ยื่นยาวออกมาจนเห็นได้ชัด ปลาเปคูมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง กระจายพันธุ์ในลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้เช่น อเมซอน และแม่น้ำ โอรีโนโก เป็นต้น
ปลาชนิดนี้เป็นปลาที่เลี้ยงได้ไม่ยาก แต่ตู้เลี้ยงควรจะใช้ตู้เลี้ยงขนาดใหญ่ซักหน่อย เนื่องจากปลาชนิดนี้ มีขนาดค่อนข้างใหญ่ตอนโตนั่นเอง ส่วนอาหารการกินนั้น ปลาชนิดนี้เลี้ยงได้ไม่ยากเลย
ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด , อาหารเม็ดต่างๆ สามารถหัดให้ทานได้ไม่ยาก ส่วนปลาที่เหมาะสมที่จะเลี้ยงเป็น Tank Mate ของเขาได้นั้น ก็เป็นปลาอะไรก็ได้ ที่มีขนาดใหญ่กว่าปากของเขาครับ แต่ยังไง
ก็ต้องคำนึงถึงพื้นที่ในการเลี้ยงที่เรามีด้วยครับ ส่วนค่าต่างๆในการเลี้ยง ปลาชนิดนี้ไม่ยุ่งยากมากนัก อุณหภูมิประมาณ 23.3 - 27.8 และ ค่า ph อยู่ 5.0 - 7.8 ก็กำลังเหมาะสมครับ
เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงกันเป็นปลาเศรษฐกิจในหลายส่วนของโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย เนื่องจากเป็นปลาที่โตได้เร็วมาก กินเก่ง กินอาหารได้ไม่เลือก อีกทั้งยังพบว่าเป็นปลาที่ช่วยในการกำจัดหอยเชอรี่อันเป็นศัตรูข้าวที่สำคัญได้อีกด้วย ประกอบกับเนื้อมีรสชาติอร่อยสามารถปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งนิยมตกกันเป็นเกมกีฬาด้วย แต่ด้วยความแพร่หลายนี้ ทำให้กลายเป็นปัญหาของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในบางพื้นที่สำหรับในประเทศไทย ชนิดของปลาเปคูที่นำเข้ามาและนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย คือ ปลาคู้แดง (Piaractus brachypomus) และปลาคู้ดำ (Colossoma macropomum) ซึ่งเป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ยังนิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงามด้วย ซึ่งมีจำหน่ายกันในราคาไม่แพงเลยครับ ในตลาดปลาสวยงามบ้านเรา สำหรับปลาสองชนิดนี้ ส่วนการเพาะพันธุ์นั้น ถ้าเพาะในตู้เลี้ยงอาจจะยากซักหน่อย แต่ถ้าเป็นบ่อดินสำหรับเลี้ยงปลา หรือการใช้ฮอร์โมนเข้ามาผสมเทียม ก็จะทำได้ง่ายกว่าครับ