.:: คำสั่ง Unix ที่ใช้เป็นประจำ ::.
.:: คำสั่ง Unix ที่ใช้เป็นประจำ ::. [ Printer Friendly] ผู้เขียน/โดย : เกริก ภิรมย์โสภา (Krerk Piromsopa) เขียนเมื่อ/ปรับปรุง : 2004-07-14 21:38:09 มีผู้เยี่ยมชมทั้งสิ้น : 35270 คำสั่ง Unix ที่ใช้เป็นประจำ Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้กับแพร่หลายบนระบบขนาดใหญ่ และในปัจจุบันยังมีระบบปฏิบัติการในลักษณะของ Unix-like เกิดขึ้นมากมาย และ เริ่มเป็นที่นิยมใช้กันมากหลายยิ่งขึ้นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเอกสารชุดนี้จึงสรุปคำสั่งบน Unix ที่มักใช้เป็นประจำโดยมีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับ DOS/Windows พร้อมกับอธิบายถึงส่วนขยายเพิ่มเติมของคำสั่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เริ่มหัดใช้Unix ทั่วไป ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Unix ที่ควรทราบ - Unix เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Multi User และ Multi Tasking ซึ่งแตกต่างจาก Window ที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบ Multi Tasking แต่ไม่เป็น Multi Userกล่าวคือ ณ เวลาหนึ่งๆ บนระบบ Unix จะมีผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้มากกว่า 1 คนพร้อมกัน ทำให้ Unix มีระบบการจัดการ Permission และระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดีกว่าและซับซ้อนกว่า DOS/Window
- ระบบ File System ของ Unix นั้นจะเป็นระบบ Single Root กล่าวคือจะมี Logical Driver เพียง Drive เดียวเท่านั้น และกรณีมี Harddisk หลายตัวหรือหลาย Partition แต่ละ Partition จะถูกกำหนดให้เป็นเพียง Directory ย่อยของระบบ ซึ่งจะต่างกับ DOS/Window ที่เป็นระบบ Multiple Root ที่จะแยก Drive / Parition ตามตัวอักษร เช่น A: , C: เป็นต้น
- เนื่องจาก Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาด้วยภาษา C ดังนั้นชื่อต่างๆ บน Unix จึงมีลักษณะเป็น Case-sensitive เช่น กรณีแฟ้มข้อมูลชื่อ MyFile กับ myfile จะเป็นแฟ้มข้อมูลคนละชื่อกัน
- ระบบ Permission ของ Unix จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ ระดับเจ้าของ (User หรือ Owner) ระดับกลุ่ม (Group) และ ระดับบุคคลอื่น (Other) โดยในแต่ละระดับจะแบ่งออกเป็นสิทธิในการประมวลผล (execute) การอ่าน (read) และ การเขียน (write) ทั้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ดูจากคำสั่ง chmod
- กรณีที่ผู้ใช้กระทำคำสั่งใดผิดพลาดนั้น บน Unix เราสามารถที่จะ Interrupt เพื่อยกเลิกการทำงานของคำสั่งหรือโปรแกรมนั้นๆ ได้โดยการกด CTRL + C
- มาตรฐานของระบบ Keyboard บนเครื่อง Unix บางเครื่องอาจจะแตกต่างกับมาตรฐาน Keyboard บนเครื่องที่เราใช้อยู่ ดังนั้นในบางกรณี เช่น การ telnet จากเครื่องอื่นเข้าสู่ระบบ Unix เราจึงไม่อาจใช้ Key บางอันตามปกติได้ เช่น backspace ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้เราสามารถใช้ backspace ได้ตามปกติจึงต้องมีการ map key ใหม่ด้วยการเรียกคำสั่ง stty erase [backspace]
คำสั่งเกี่ยวกับการจัดการแฟ้มข้อมูล ls เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับแสดงแฟ้มข้อมูล (ในทำนองเดียวกับdir) มากจากคำว่า list โครงสร้างคำสั่ง ls [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน ls คือ -l จะแสดงผลลัพธ์แบบ Long Format ซึ่งจะแสดง Permission ของแฟ้มด้วย -a จะแสดงแฟ้มข้อมูลทั้งหมด -F จะแสดง / หลัง Directory และ * หลังแฟ้มข้อมูลที่ execute ได้ ตัวอย่าง ls -l ls -al ls -F ls /usr/bin แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : ls --help และ man ls cp เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับสำเนาแฟ้มข้อมูล (ในทำนองเดียวกับ copy) มาจากคำว่า copy โครงสร้างคำสั่ง cp source target ตัวอย่าง cp test.txt test1.bak แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : cp --help และ man cp mv เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการย้ายแฟ้มข้อมูลและ Directory รวมถึงการเปลี่ยนชื่อด้วย (ในทำนองเดียวกับ move) มาจากคำว่า move โครงสร้างคำสั่ง mv source target ตัวอย่าง mv *.tar /backup mv test.txt old.txt mv bin oldbin แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : mv --help และ man mv rm เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับลบแฟ้มข้อมูล (ในทำนองเดียวกับ del) มาจากคำว่า remove โครงสร้างคำสั่ง rm [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน rm คือ -r ทำการลบข้อมูลใน directory ย่อยทั่งหมด -i โปรแกรมจะถามยืนยันก่อนทำการลบ -f โปรแกรมจะลบข้อมูลทันที โดยไม่ถามยืนยันก่อน ตัวอย่าง rm -rf test/ rm test.doc แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : rm --help และ man rm คำสั่งเกี่ยวกับการจัดการ Directory / Folder pwd เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับแสดง Directory ปัจจุบัน (ในทำนองเดียวกับการพิมพ์ cd บน DOS) มาจากคำว่า print work directory โครงสร้างคำสั่ง / ตัวอย่าง pwd cd เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับเปลี่ยน directory ปัจจุบัน (ในทำนองเดียวกับ cd) มาจากคำว่า change directory โครงสร้างคำสั่ง cd directory โดย directory ในที่นี้อาจเป็น relative หรือ absolute path ก็ได้ ตัวอย่าง cd /usr cd ~ (เป็นการเข้าสู่ home directory) cd - (เป็นการยกเลิกคำสั่ง cd ครั้งก่อน) cd .. (เป็นการออกจาก directory 1 ชั้น ข้อควรระวัง : คำสั่ง cd บน UNIX จะต้องมีเว้นวรรคเสมอ mkdir เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการสร้าง directory (ในทำนองเดียวกับ dos) มาจากคำว่า make directory โครงสร้างคำสั่ง mkdir [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน mkdir คือ -m จะทำการกำหนด Permissioin (ให้ดูคำสั่ง chmod เพิ่มเติม) -p จะทำการสร้าง Parent Directory ให้ด้วยกรณีที่ยังไม่มีการระบุ directory ในที่นี้อาจเป็น relative หรือ absolute path ก็ได้ ตัวอย่าง mkdir /home mkdir -p -m755 ~/local/bin แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : mkdir --help และ man mkdir rmdir เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการลบ directory (ในทำนองเดียวกับ dos) มาจากคำว่า remove directory โครงสร้างคำสั่ง rmdir [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน mkdir คือ -p จะทำการลบ Child และ Parent Directory ตามลำดับ directory ในที่นี้อาจเป็น relative หรือ absolute path ก็ได้ ตัวอย่าง rmdir /home mkdir -p /home/local/data แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : rmdir --help และ man rmdir คำสั่งเกี่ยวกับการค้นหาแฟ้มข้อมูล และ Permission file บนระบบ DOS/Windows นั้น ประเภทของแฟ้มข้อมูลจะถูกระบุด้วยนามสกุล แต่ใน UNIX จะไม่มีนามสกุลเพื่อใช้ระบุประเภทของแฟ้มข้อมูล ดังนั้นการหาประเภทของแฟ้มข้อมูลจะดูจาก Context ภายในของแฟ้ม ซึ่งคำสั่ง file จะทำการอ่าน Content และบอกประเภทของแฟ้มข้อมูลนั้นๆ โครงสร้างคำสั่ง file [option]... file ตัวอย่าง file /bin/sh file report.doc แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : file --help และ man file find เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับค้นหาแฟ้มข้อมูล โครงสร้างคำสั่ง find [path].. expression ลักษณะของ expression เช่น -name [pattern] เพื่อใช้หาชื่อ file ตาม pattern ที่ระบุ -perm [+-] mode เพื่อใช้หา file ตาม mode ที่ต้องการ -user NAME หา file ที่เป็นของ user ชื่อ NAME -group NAME หา file ที่เป็นของ group ชื่อ NAME ตัวอย่าง find -name *.doc find /usr -perm +111 (หาแฟ้มที่มี Permission อย่างน้อยเป็น 111) แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : file --help และ man file chown ใช้สำหรับเปลี่ยนเจ้าของแฟ้มข้อมูลหรือ Directory โครงสร้างคำสั่ง chown [option]... owner[:group] file หรือ chown [option]... :group file โดย option ที่มักใช้กันใน chown คือ -R เปลี่ยน Permission ของทุกๆ แฟ้มย่อยใน Directory ตัวอย่าง chown krerk:users /home/krerk chown nobody data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : chown --help และ man chown chgrp ใช้สำหรับเปลี่ยนกลุ่มเจ้าของแฟ้มข้อมูลหรือ Directory โครงสร้างคำสั่ง chgrp [option]... group file โดย option ที่มักใช้กันใน chgrp คือ -R เปลี่ยน Permission ของทุกๆ แฟ้มย่อยใน Directory ตัวอย่าง chgrp users /home/krerk chown nobody data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : chgrp --help และ man chgrp chmod ใช้สำหรับเปลี่ยนเจ้าของแฟ้มข้อมูลหรือ Directory โครงสร้างคำสั่ง chmod [option]... mode[mode] file หรือ chmod [option]... octalmode file โดย option ที่มักใช้กันใน chown คือ -R เปลี่ยน Permission ของทุกๆ แฟ้มย่อยใน Directory และการอ้างอิง mode จะใช้ตัวอักษร u g o a + - r w x X s t u g o โดย u หมายถึง User ผู้เป็นเจ้าของแฟ้ม g หมายถึง Group ผู้เป็นเจ้าของแฟ้ม o หมายถึง บุคคลอื่นๆ a หมายถึง ทุกๆ กลุ่ม r หมายถึง สิทธิในการอ่าน w หมายถึง สิทธิในการเขียน/แก้ไข w หมายถึง สิทธิในการ execute หรือ ค้นหา (ในกรณีของ Directory) ส่วน s t u g และ o นั้น จะขอกล่าวถึงในเอกสารเรื่อง Unix Permission ต่อไป เนื่องจากผลลัพธ์ของคำสั่ง ls -l จะแสดงเป็นลำดับ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ $ ls -l krerk.jpg -rw-r--r-- 1 pok pok 13201 เม.ย. 21 2000 krerk.jpg ดังนั้น การเขียน Permission อาจจะเขียนได้เป็นเลขฐาน 8 เช่น 644 หมายถึง 110100100 ซึ่งจะตรงกับ rw-r--r- เป็นต้น ตัวอย่าง chmod 750 /home/krerk (แก้ไขได้(เขียน)ได้เฉพาะเจ้าของแฟ้ม และสามารถ execute ได้เฉพาะกลุ่มและเจ้าของเท่านั้น) chmod 644 data.txt (rw-r--r-- เจ้าของแฟ้ม อ่านและเขียนได้ กลุ่มเจ้าของแฟ้มและบุคคลอื่นๆ อ่านได้ ) (เพื่อประกอบความเข้าใจ ให้ผู้ใช้ลองเปลี่ยน mode และดูผลลัพธ์ด้วย ls -l) แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : chmod --help และ man chmod คำสั่งเกี่ยวกับการดู และ แก้ไขข้อมูลในแฟ้มข้อมูล cat ใช้สำหรับดูข้อมูลภายในแฟ้มข้อมูล หรือ Standard Input และแสดงผลออกมาทาง Standard Output (ในทำนองเดียวกันกับคำสั่ง type) มาจากคำว่า concatinate โครงสร้างคำสั่ง cat [optioin]... [file] โดย option ที่มักใช้กันใน chown คือ -n เพื่อทำการแสดงเลขบรรทัด ตัวอย่าง cat data.txt cat file1.txt file2.txt > file3.txt (นำข้อมูลใน file1.txt และ file2.txt มาต่อกัน แล้วเก็บไว้ใน file3.txt) แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : cat --help และ man cat more สืบเนื่องจากคำสั่ง cat ไม่เหมาะกับการดูข้อมูลที่มีความยาวมากๆ ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนา more ขึ้น เพื่อช่วยให้สามารถดูข้อมูลที่มีขนาดยาวได้เป็นช่วงๆ โครงสร้างคำสั่ง more file ภายในโปรแกรม more จะมีคำสั่งเพื่อใช้งานคราวๆ ดังนี้ = แสดงเลขบรรทัด q ออกจากโปรแกรม <space> เลื่อนไปยังหน้าถัดไป <enter> เลื่อนไปยังบรรทัดถัดไป h แสดง help ตัวอย่าง more data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man more และ help ของ more less less เป็นการพัฒนาคำสั่ง more ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจาก more จะไม่สามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ less จึงเป็นปรับปรุงและเพิ่มเติมเงื่อนไขบางอย่างให้ more โครงสร้างคำสั่ง less file ตัวอย่าง less data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man less และ help ของ less head จะแสดงส่วนหัวของแฟ้มข้อมูล ตามจำนวนบรรทัดที่ต้องการ โครงสร้างคำสั่ง head [option] file โดย option ที่มักใช้กันใน chown คือ -n เพื่อทำการระบุบรรทัดที่ต้องการ (หากไม่ระบุจะเป็น 10 บรรทัด) ตัวอย่าง head data.txt head -n 10 data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : head --help และ man head tail จะแสดงส่วนท้ายของแฟ้มข้อมูล ตามจำนวนบรรทัดที่ต้องการ โครงสร้างคำสั่ง tail [option] file โดย option ที่มักใช้กันใน chown คือ -n เพื่อทำการระบุบรรทัดที่ต้องการ (หากไม่ระบุจะเป็น 10 บรรทัด) -c เพื่อระบุจำนวน byte ตัวอย่าง tail data.txt tail -n 10 data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : tail --help และ man tail คำสั่งเกี่ยวกับผู้ใช้ และ การสื่อสาร whoami ใช้เพื่อแสดงว่าผู้ใช้ซึ่ง login เข้าสู่ระบบนั้น (ตัวเราเอง) login ด้วยชื่ออะไร โครงสร้างคำสั่ง/ตัวอย่าง whoami หรือ who am i (บน SUN OS หรือ UNIX บางตัวเท่านั้น) who ใช้เพื่อแสดงว่ามีผู้ใช้ใดบ้างที่กำลังทำงานอยู่บนระบบ โครงสร้างคำสั่ง/ตัวอย่าง who finger ใช้สำหรับแสดงรายละเอียดของผู้ใช้ โครงสร้างคำสั่ง finger [user@host] หรือ finger [@host] กรณีไม่ระบุชื่อ finger จะแสดงรายละเอียดของ User ที่กำลัง logon อยู่บนเครื่องนั้นๆ ทั้งหมด ซึ่งหากไม่ระบุ host ด้วย โปรแกรมจะถือว่าหมายถึงเครื่องปัจจุบัน ตัวอย่าง finger finger krerk@vwin.co.th finger krerk finger @student.netserv.chula.ac.th แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man finger talk ใช้สำหรับการพูดคุยระหว่างผู้ใช้ด้วยกันบนระบบ ซึ่งผู้ใช้ทั้งทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องพิมพ์คำสั่ง Talk ถึงกันก่อน จึงจะเริ่มการสนทนาได้ โครงสร้างคำสั่ง talk user[@host] [tty] กรณีไม่ระบุ host โปรแกรมจะถือว่าหมายถึงเครื่องปัจจุบัน (นอกจากนี้ยังมีคำสั่ง ytalk ซึ่งสามารถพูดคุยได้พร้อมกันมากกว่า 2 คน) ซึงบางกรณีเราอาจจะต้องระบุ tty ด้วยหากมีผู้ใช้ Log in เข้าสู่ระบบด้วยชื่อเดียวกันมากกว่า 1 หน้าจอ ตัวอย่าง talk krerk@vwin.co.th แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man talk write จะใช้เพื่อการส่งข้อมูลทางเดียวจากผู้เขียนไปถึงผู้รับบนเครื่องเดียวกันเท่านั้น โครงสร้างคำสั่ง write user [tty] เมื่อมีการพิมพ์คำสั่ง write ผู้ใช้จะเห็นข้อความซึ่งจะแสดงว่าข้อความดังกล่าวถูกส่งมาโดยใคร ซึ่งหากผู้รับต้องการตอบกลับ ก็จะต้องใช้คำสั่ง write เช่นกัน เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วให้พิมพ์ตัวอักษร EOF หรือ กด CTRL+C เพื่อเป็นการ interrupt ทั้งนี้ข้อความที่พิมพ์หลังจาก write จะถูกส่งหลังจากการกด Enter เท่านั้น ตัวอย่าง write krerk แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man write mesg จะใช้เพื่อควบคุมว่าผู้อื่นมีสิทธิที่จะส่งข้อความ write ถึงเราหรือไม่ โครงสร้างคำสั่ง mesg [y | n] โดย option มีความหมายคือ y - หมายถึงผู้อื่นมีสิทธิที่จะส่งข้อความถึงเรา n - หมายถึงผู้อื่นมีไม่สิทธิที่จะส่งข้อความถึงเรา ตัวอย่าง mesg y mesg n แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man mesg คำสั่งทั่วไป / อื่นๆ man เพื่อใช้แสดงรายละเอียดข้อมูลของคำสั่ง หรือ วิธีการใช้แฟ้มข้อมูลต่างๆ มาจากคำว่า manual โครงสร้างคำสั่ง man [section]... manpage โดย section ต่างๆ ของ manpage คือ 1 จะเป็น User Command 2 จะเป็น System Calls 3 จะเป็น Sub Routines 4 จะเป็น Devices 5 จะเป็น File Format ตัวอย่าง man printf man 1 ls แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man man tar ใช่เพื่อการ backup และ restore file ทั้งนี้การ tar จะเก็บทั้งโครงสร้าง directory และ file permission ด้วย (เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย หรือแจกจ่ายโปรแกรมบนระบบ UNIX) มาจากคำว่า tape archive โครงสร้างคำสั่ง tar [option]... [file]... โดย option ที่มักใช้กันใน echo คือ -c ทำการสร้างใหม่ (backup) -t แสดงรายชื่อแฟ้มข้อมูลในแฟ้มที่ backup ไว้ -v ตรวจสอบความถูกต้องของการประมวลผล -f ผลลัพธ์ของมาที่ file -x ทำการ restore ตัวอย่าง tar -cvf mybackup.tar /home/* tar -tf mybackup.tar tar -xvf mybackup.tar แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : tar --help และ man tar alias เพื่อกำหนด macro ให้ใช้คำสั่งได้สะดวกมากขึ้น (แบบเดียวกันกับการกำหนด macro ด้วย doskey) โครงสร้างคำสั่ง alias macroname='command' ตัวอย่าง alias ll='ls -F -l' แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man ของ Shell ที่ใช้อยู่ echo แสดงข้อความออกทาง standard output โครงสร้างคำสั่ง echo [option]... msg โดย option ที่มักใช้กันใน echo คือ -n ไม่ต้องขึ้นบรรทัดใหม่ ตัวอย่าง echo -n "Hello" echo "Hi.." free -k แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : man echo free แสดงหน่วยความจำที่เหลืออยู่บนระบบ โครงสร้างคำสั่ง free [-b|-k|-m] โดย option ที่มักใช้กันใน free คือ -b แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย byte -k แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย kilobyte -m แสดงผลลัพธ์เป็นหน่วย megabyte ตัวอย่าง free free -b free -k แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : free--help และ man free sort ใช้เพื่อทำการจัดเรียงข้อมูลในแฟ้มตามลำดับ (ทั้งนี้จะถือว่าข้อมูลแต่ละบรรทัดเป็น 1 record และจะใช้ field แรกเป็น key) โครงสร้างคำสั่ง sort [option] file ตัวอย่าง sort data.txt แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม : sort --help และ man sort การ Redirection และ Pipe ทั้ง DOS/Windows และ UNIX ต่างก็มีความสามารถในการ Redirection และ Pipe ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งประโยชน์ของการ Redirection และ การ Pipe คือการที่สามารถนำโปรแกรมเล็กๆ หลายโปรแกรมมาช่วยกันทำงานที่ซับซ้อนมายิ่งขึ้นได้ การ Pipe คือการนำผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมหนึ่ง ไปเป็นอินพุทของอีกโปรแกรมหนึ่ง เช่น ls | sort เป็นการนำผลลัพธ์ที่ได้จาก ls ส่งเป็นอินพุตให้โปรแกรม sort ทำงานต่อเป็นต้น การ Redirection คือการเปลี่ยนที่มาของอินพุต และ เอาพุตที่แสดงผลลัพธ์ จาก Keyboard หรือ จอ Monitor เป็นแฟ้มข้อมูล หรือ Device ต่างๆ เช่น ls >list.txt เป็นการนำผลลัพธ์ที่ได้จาก ls เก็บลงในแฟ้มข้อมูลชื่อ list.txt เป็นต้น ทั้งนี้ การ Redirection จะเป็นการสร้างแฟ้มข้อมูลใหม่เสมอ ในกรณีที่ต้องการเขียนข้อมูลต่อท้ายอาจทำได้โดยการใช้ >> แทน > เช่น ls >list.txt pwd >> list.txt ผลลัพธ์จากคำสั่ง pwd จะแสดงต่อท้ายผลลัพธ์จากคำสั่ง ls ใน list.txt ในทำนองเดียวกัน เราสามารถใช้ Redirection เพื่อรับข้อมูลจาก File ได้ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถ Run Program ที่ต้องการ Input แบบ Batch ได้ (ซึ่งจะกล่าวถึงในการเขียน Shell Script ต่อไป) ใช้คำสั่ง Unix บน DOS/Windows ปัจจุบันได้มีผู้ Port โครงสร้างและ Utility ของ Unix ไปยัง Window หรือ WindowNT ภายใต้ชื่อ Project “Cygwin” ซึ่งผู้ใช้สามารถทำงานบน Window ได้เหมือนกับการทำงานบน Unix ทุกประการ ทั้งนี้รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมด้วย ซึ่งในปัจจุบัน Project ดังกล่าวดูแลโดย RedHat ดังนั้นหากผู้อ่านท่านใดมีความสนใจ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมและ Download ได้จาก //www.cygwin.com/ หรือ //www.cygnus.com/ นอกจากนี้ยังมีการ Port โปรแกรมต่างๆ ในโครงการของ GNU ไปยังระบบ DOS ภายใต้ชื่อ DJGPP ซึ่งประกอบไปด้วย Compiler และโปรแกรมต่างๆ บน Unix โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก //www.gnu.org/ ตารางเปรียบเทียบการใช้คำสั่งระหว่าง DOS และ UNIX DOS | UNIX | หมายเหตุ | ATTRIB +-attrib file | chmod mode file | ระบบ Permission แตกต่างกัน | BACKUP | tar cvf file file | การทำงานแตกต่างกัน | CD dir | cd dir/ | คล้ายคลึงกัน | COPY file1 file2 | cp file1 file2 | เหมือนกัน | DEL file | rm file | เหมือนกัน | DELTREE | rm -R file | เหมือนกัน | DIR | ls หรือ ls -al และ du , df | dir จะแสดงเนื้อที่ที่ใช้ และ เนื้อที่ที่เหลือด้วย ซึ่ง UNIX ต้องดูด้วย du และ df แทน | DIR file /S | find . -name file | บน Unix จะทำงานได้ดีกว่า | DOSKEY name command | alias name='command' | เป็นการสร้าง macro ในทำนองเดียวกัน | ECHO msg | echo "msg" | เหมือนกัน | FC file1 file2 | diff file1 file2 | เหมือนกัน | HELP command | man command | ทำนองเดียวกัน | MEM | free | ทำนองเดียวกัน | MD dir หรือ MKDIR dir | mkdir dir | เหมือนกัน | MORE < file | more file หรือ less file | less จะทำงานได้ดีกว่า | MOVE file1 file2 | mv file1 file2 | เหมือนกัน | RD dir หรือ RMDIR dir | rmdir dir หรือ rm -d dir | เหมือนกัน | RESTORE | tar xvf file | การทำงานแตกต่างกัน | SORT file | sort file | เหมือนกัน | TYPE file | more file หรือ less file | less จะทำงานได้ดีกว่า | เอกสารอ้างอิง - R. Thomas, J. Yates, "A USER GUIDE TO THE UNIX
SYSTEM", OSBORNE/McGRAW-HILL,2nd Edition,1987. - G. Gonzato,"From DOS/Windows to Linux HOWTO"
- Unix man pages Document.
Create Date : 08 กันยายน 2551 |
Last Update : 8 กันยายน 2551 18:16:54 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1255 Pageviews. |
|
|