Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
 
1 กุมภาพันธ์ 2549
 
All Blogs
 
หัวใจออกเดินทาง....ทริป..SHIMLA - MANALI....ตอนสอง

เมื่อเช้าว่าจะมาอัพ แต่บล็อกล่มค่ะ นั่งแก้จนถึงบ่ายสองสี่สิบ และพอทำเสร็จ แจ้นไปธุระนอกบ้านเพิ่งกลับมาตอนสามทุ่ม รีบมาอัพต่อ

วันที่28/12/2005

เช้าพวกเราตื่นเจ็ดโมงกว่า อย่างแรกที่ทำคือเปิดหน้าต่างออกดู
อดตื่นเต้นไม่ได้ วิวโรงแรมที่เราอยู่ไม่ค่อยสวย

หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อย


ถ่ายจากโรงแรมมองลงมา


อย่างแรกที่พวกเราคิดไว้ว่าจะทำกันคือ ไปเดินหาโรงแรม

เพราะที่เราพักเมื่อคืนมีปัญหาเกี่ยวกับบริการ


พวกเรา มี เรา จ๋า เด่น หนู และ พี่โด้

พากันเดินหา เรียกว่าเดินตามเด่นมากกว่า เพราะเด่นเป็นคนจัดการทุกอย่าง


นั่งรอเด่นเข้าไปถามเรื่องรถพาเที่ยวราคาเท่าไหร่
พวกเรานั้นตามอย่างเดียว


ที่ตามเด่นออกมาเพราะ อยากเดินชมเมืองค่ะ
ที่เมืองนี้เหมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าอินเดียจะมีที่แบบนี้


แถวร้านทัวร์

ไปเจอร้าน ทัวร์ร้านหนึ่ง เด่นไปสอบถามราคาทัวร์
เค้าบอก ราคา พาเที่ยวที่ ซิมลาสองวันและมานาลีสามวันและรวมโรงแรมสองคืนที่มานาลี
ราคาหมื่นกว่า

เด่นต่อจนเหลือ เก้าพันห้าร้อย

หารกันแล้ว ตกคนละ 1350 ถูกมากๆ

และสอบถามเรื่องโรงแรม ที่ซิมลาว่าพวกเราอยากเปลี่ยนที่ถูกกว่านี้ เค้าพาไปดู ไม่ถูกใจพวกเรา ก็เลยตกลงพักที่เดิม

เพราะที่ใหม่ไม่แน่ใจว่าจะ เจอปัญหาอีกหรือเปล่า

ที่เก่าปัญหาคงไม่มีแล้วเพราะ จัดการไปเรียบร้อย

และรถที่จะพาเที่ยว รถซูโม่ จะมารับพวกเราตอนสิบโมง
ที่โรงแรมที่พวกเราพัก

พวกเราก็เดินกลับโรงแรม เพื่อไปกินอาหารเช้า

เด่นจ๋าและพี่โด้ กินร้านข้างล่าง ใกล้โรงแรม ส่วนเราแยกกลับมาที่โรงแรม เพราะอยากกินชีสออมเล็ตที่โรงแรม
หนูกลับก่อนตั้งแต่อยู่ที่ร้านทัวร์

และรถก็มารับพวกเรา แต่อาหารที่สั่งยังไม่มา จึงยกเลิกไป
เราเลยอดกิน


ทางที่ไป เป็นถนนคดเคี้ยวแบบโค้งที่ไปแม่ฮ่องสอน
ยังต้องเรียกพี่เลย


แต่วิวสวยมากๆ พวกเราแวะจอดถ่ายรูปกัน

ที่แรกที่คนขับรถพาพวกเราไป คือสวนสน

คอนแรกที่ลงรถ พวกเรางง ว่ามันคือที่ไหน ข้างในมีอะไร

คนนำเที่ยวดันไม่พูดอะไรเลย

พวกเราจึงซื้อตั๋วเข้าไป ห้ารูปี ตรงหน้าประตู ทางเข้ามีม้า
ให้ขี่ขึ้นไป ราคา 250 รูปี

พวกราไม่สนค่ะ เดิน ตอนที่เดินขึ้นไป นึกว่าจะมีวิวสวยๆดู

แต่พอเดินขึ้น มีแต่ป่าสน

ไม่มีไรน่าสนใจ ดีที่ไม่คิดเช่าม้าขี่กัน ไม่งั้นเสียรู้

ไหนๆก็มาแล้วก็ถ่ายรูปกัน และหลังจากนั้นก็พากันเดินกลับ



ออกมาด้านหน้า มีร้านชา ดื่มชากันคนละแก้ว และพากันขึ้นรถ

และเค้าพาพวกเราไปต่อกันที่นี่ค่ะ




มาดูตึกค่ะ ที่นี่ค่าเข้า 50รูปีค่ะ แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปด้านใน
ดูแต่ด้านนอก เพราะด้านในเป็นห้องสมุดค่ะ



ที่นี่มีร้านอาหารเล็กๆ ขายด้วยพวกเราจึงทานอาหารเที่ยงกันที่นี่

และหลังจากนั้นก็เดินเล่นและถ่ายรูป








และพวกเราก็เดินกลับไปที่รถ เพื่อไปกันต่อที่ วัดหนุมาน


ไปถึงวัดเกือบค่ำแล้ว ที่วัดเค้าให้ถอดรองเท้านะค่ะ

พวกเราเข้าไปด้านในไหว้พระ และถ่ายภาพกันนิดหน่อย
ไม่ได้ถ่ายมามากเพราะค่ำแล้ว

จากที่แต่ล่ะแห่งใช้เวลาในการเดินทางนะค่ะ

หลังจากไหว้หนุมาน ใกล้ๆหันจากถนนทางเข้าวัด
มีวัดที่กำลังสร้าง มีพระลักษมีและพระสรัสวดี อยู่ในถ้ำ
พวกเราต้องปีนเขาขึ้นไปไหว้

ปริ๊นไม่ไป เพราะมัวแต่เลือกซื้อกีวี่ ที่มีขายตรงข้ามถนน

พวกจ๋าและเด่นขึ้นไปกันก่อนแล้ว เราตามไปทีหลัง

กว่าจะขึ้นไปถึง หอบแฮกๆเลยเรา คนอื่นพากันลงไปหมด เราจึงรีบเข้าไปไหว้และออกมา

และพวกเราก็ต้องกลับเข้าเมืองเพราะเริ่มมืดแล้ว
และโปรแกรมอื่นตัดออกไป เพราะไปไม่ทัน

และระหว่างที่กลับ พวกเราตกลง
จะให้รถไปส่งที่ มอล์โรด คือ ถนนที่ชอปปิ้งนะเอง

จึงบอกคนขับให้ไปส่ง คนขับพาพวกเราไปส่ง ที่ทางขึ้นมอล์โรด และนัดแนะให้มารับตอนสิบโมงเช้ารุ่งขึ้น

และตอนที่ลงรถ

พวกเราเห็นฟ้าสวยมากๆ จากแสงพระอาทิตย์ที่ตก จึงรีบวิ่งข้ามถนนไปถ่ายรูปกัน

หลังจากนั้นไปที่ทางขึ้นค่ะ จะไปมอล์โรดค่ะ

ที่ทางขึ้น เป็นลิฟค่ะ เราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีลิฟขึ้นเขา ค่าขึ้นเจ็ดรูปี

แต่ให้พวกเราเดินทางถนนขึ้นไปก็ขึ้นคงไม่ไหวกัน ไอเดียดีจริงๆ

พวกเราขึ้นไปในลิฟ และไปถึงด้านบนต้องไปต่อลิฟอีกตัว

และจะไปโผล่ที่ถนนมอล์

ที่นี่เป็นที่ชอปปิ้ง เราและปริ๊นและแม่ แยกกันไปเดินเที่ยว

ส่วนเด่น จ๋า หนู พี่โด้ จะขึ้นไปที่โบสถ์
ที่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไป เพื่อถ่ายรูป

แต่เรากับปริ๊นขอบาย เพราะแค่เห็นทางขึ้นก็ท้อ

จึงแยกกันสองกลุ่ม อากาศคืนนั้นหนาวมากๆ


เราและปริ๊นและแม่พากันเดินลงเรื่อยๆ และดูข้าวของไปด้วย

จนเดินมาถึงทางที่เราจำได้ว่ากลับโรงแรม จึงกลับโรงแรมกัน
เพื่อจะพักผ่อน

กลับโรงแรม กุญแจดันอยู่กับจ๋า หนาวก็หนาว ปริ๊นปวดฉี่ ทนไม่ไหว ต้องไปขอเข้าห้องน้ำของโรงแรม

ปริ๊นบอกสกปรกมากๆ สักพักพี่โด้กลับมาคนเดียว
เราจึงโทรหาจ๋า จ๋าบอกเดี๋ยวกลับ

รอนานเหมือนกัน จ๋าก็มา จึงรีบเข้าห้องกัน

คืนนั้นหนาวมาก ดีที่มีถุงน้ำร้อนค่าถุงน้ำร้อน ถุงละ30รูปี แต่ได้ฟรี เพราะปริ๊นไปตีสนิทกับผู้จัดการ

ได้มาสามถุง เราเอาถุงนึง ปริ๊นเอาถุงนึง อีกถุงอยู๋ที่หนู

คืนนั้นนอนหลับสนิท ถุงน้ำร้อนช่วยได้จริงๆ เราเอาไว้ที่ปลายเท้าในถุงนอน



เช้าวันที่29/12/2005

ตื่นเช้ามา พวกเราทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ชีสออมเล็ต ไม่อร่อยเลย ผิดหวังจริงๆ อุตส่าห์สั่งไปตั้งสองที่

พี่โด้กับจ๋า ไปถ่ายรูปที่โบสถ์

รถมารับพวกเรา สองคนยังไม่มา คนขับเราจอดรอ
หวุดหวิดโดนตำรวจเขียนใบสั่ง ปริ๊นรีบบอกตำรวจ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ และคนขับไปขับรถวนสองรอบ

จ๋ากับพี่โด้ถึงมา หลังจากนั้น คนขับพาพวกเราไปที่
ที่คล้ายๆสวนสัตว์ ที่นี่มีม้าให้เช่าขี่อีกแล้ว

พวกเรามองจากด้านนอกเห็น ไม่น่าสนใจ จึงบอกคนขับ
ว่าพวกเราไม่เข้าไปหล่ะ ไปที่อื่นต่อ คนขับพยายามขยั้นขยอพวกเรา ให้ไป แต่พวกเราบอกไม่

คนขับจึงกลับรถพาพวกเราไปต่ออีกที่ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์

ที่นี่เป็นจุดชมวิว จากที่นี่พวกเราเห็นเทือกเขาหิมาลัยใกล้มากๆ

วันนี้โชคดีฟ้าเปิด พวกเราจึงเห็นหิมะปรกคลุมเทือกเขาชัดมากๆ

พวกเรานะนั่งรถไป กรี๊ดกร๊าดกันไป

และเอาภาพมาให้ชมกันค่ะ ว่าทำไมถึงต้อง กรี๊ดกร๊าดกัน

แบบว่า ไม่เคยไปเมืองนอก และครั้งแรกที่เห็นหิมะ แหะๆ

คงไม่ว่ากันนะค่ะ แต่มัน อดไม่ได้ ชมภาพกันดีกว่า














ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ มี ย้าก คนที่นี่เรียก แบบนี้ค่ะ

แต่เราว่าที่เมืองไทยเรียก จามรี

ค่าถ่ายรูปสิบรูปีค่ะ สงสารมันเหมือนกัน แต่อดไม่ได้ อิอิ

ก็เลยพากันขึ้นถ่ายกันค่ะ



หลังจากนั้น คนขับก็พาพวกเราไปต่อ ระหว่างทางพวกเราก็แวะถ่ายภาพ กัน


ต่อจากนี้พวกเราจะไปที่ Hatu peak ค่ะ ไปดูหิมะ

ไปเล่นหิมะกัน อิอิ

ไว้จะมาเล่าต่อ ตอนนี้ขอไปนอนก่อน และภาพคงโหลดกันนาน แฮะๆ คงไม่ว่ากันนะค่ะ



Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2549 12:18:30 น. 8 comments
Counter : 1812 Pageviews.

 
ภาพสวยมากๆค่ะ โดยเฉพาะภาพแรก ชอบมากๆค่ะ


โดย: jeab&michelle วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:3:43:13 น.  

 
โห..พี่เจี๊ยบ หนูว่าหนูมาเร็วแล้วนะคะพี่ ไม่ทันเจี๊ยบอ่ะ
คุณอุ๋ยเราว่ารางวัลแฟนพันธุ์แท้บล๊อกคุณอุ๋ยเนี่ย อิชั้นขอไปแบ่งกับพี่เจี๊ยบกับน้องมิเชลได้ไม๊คะ 555

ขอมากรี๊ดต่อ...มะนาลี ขออีกทีนะคะ...มะนาลีลีลีลีลีลี...
เมืองในฝันเลยค่ะ อยากไปด้วยยยยย (แล้วต่อลาดัคเลยนะคะคุณอุ๋ย) ฝันว่าชาตินี้ต้องไปให้ได้สักครั้งนึงเป็นบุญตาค่ะ ดีจังเลยได้ไปกับคุณอุ๋ย..ล่า..ล่า..ล้า (เอ๊ะนี่ อารมณ์ดี เกินเหตุรึเปล่าคะเนี่ย...แหมก็ถูกใจอ่ะค่ะ)

แล้วก็ชอบมากเลยค่ะไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มอย่างนี้ ดูมันส์มาก
น้องปริ๊นซ์เจ๋งอ่ะ ฝากบอกด้วยนะคะ ชอบจังเลยค่ะ

ฟ้าใสสวยมากกกกกกกก
อูย...ตอนนี้เราปวดตายังไงก็ไม่รู้ค่ะ ตามันร้อนๆ 555

จะรอตอนต่อไปนะค๊า Take Care ค่ะ


โดย: จันทร์สวย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:5:49:37 น.  

 
บล็อกนี้ครบรสเรื่องท่องเที่ยวเมืองอินเดียจริง ๆ ถูกล๊อตเตอรี่ เมื่อไหร่จะไปเท่วอินเดียสักครั้งหนึ่งในชีวิต


โดย: เสียงซึง วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:10:11:14 น.  

 
ตามมาเที่ยวอีกค่ะคุณอุ๋ย
สบายดีนะคะ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:11:37:08 น.  

 
เร็วเชียวนะคุณนายอุ๋ย
เด๋วผลงานของเราจะตามมาติด ๆ


โดย: deninindia วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:14:51:57 น.  

 
เฮ้อ... ดูแล้วคิดถึงซิมลาจัง จะรอดูมะนาลีด้วยค่ะ


โดย: ไก่แก่แม่ปลาช่อน IP: 161.200.130.57 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:23:31:54 น.  

 
พี่ตุ๊กตา ตามมาเก็บเรื่องราวท่องเที่ยวของนู่อุ๋ย.ภาพสวยมากกกกกกกกกกกกก


โดย: tukata001 วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:13:19:18 น.  

 
ภาพสวยมากเลยค่ะ น่าไปจริงๆ


โดย: honey IP: 27.55.1.19 วันที่: 21 กันยายน 2555 เวลา:0:42:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อยู่ไกลบ้าน
Location :
agra India

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







ชีวิตคือการเดินทาง ...................................

ข้อความและรูปภาพ

ขอสงวน ห้ามนำไปเผยแพร่



Friends' blogs
[Add อยู่ไกลบ้าน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.