Noise219@Melbourne
บันทึกจากเมลบิร์น บทที่ 5 : จอมเปิ่น


หลังจากที่เราย้ายมาอยู่เมลเบิร์นได้หกเดือนกว่า ๆ ก็เริ่มมองหารถมือสองใช้สักคัน สาเหตุก็ไม่ใช่อะไร เพราะรู้สึกว่าไม่อยากเป็นภาระให้กับคนอื่น ๆ ที่ต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยว่าเรามาทำงานยังไง วันนี้ใครมาส่ง ตอนเราย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ก็มีลุงแจ็กใจดี ทำงานแผนกเดียวกัน และบ้านก็อยู่ใกล้ ๆ กัน มารับมาส่ง เราก็เกรงใจ เพราะรถไฟ รถเมล์ก็มี ไม่ได้ลำบากอะไร แค่เสียเวลานิดหน่อย แต่แกก็จะมารับส่งอยู่นั่นแหละ แถมมีบางทีแกติดธุระ มาไม่ได้ ยังมาขอโทษขอโพยเราซะยกใหญ่ ตบท้ายให้ด้วยเป็นธุระหาคนมารับส่งเราแทนแกซะอีก

ความมีน้ำใจของคนที่นี่เป็นสิ่งที่เราประทับใจมาก ๆ ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ไปสังคมตะวันตก เราก็เลยตัดสินใจโดยฉับพลัน (ฮะๆๆๆ หลังจากที่คิดอยู่ครึ่งปี) ว่าต้องมีรถมือสองเป็นของตัวเองซะที

หาอยู่นาน ไม่ถูกใจซะที ติโน่น ตินี่ไปเรื่อย จนมาวันหนึ่ง ก็ตัดสินใจไปที่ออฟฟิศของดีลเลอร์ (หมายถึงตัวแทนขายรถ) เลยดีกว่า (ไม่งั้น อีกสิบชาติก็ไม่ได้ซื้อ)

ไปนั่งคุยและเลือกรถอยู่ไม่นานก็ตัดสินใจซื้อวันนั้นเลย ดีลเลอร์ก็งง ๆ ว่าทำไมมันง่ายจัง แต่ก็คงคิดในใจว่าหวานหมู หลังจากนั้นอีกสองวันเราก็ไปรับรถ

รถที่เราซื้อคันนี้ ระบบปิดล็อคภายนอกมันเป็น Manual หมด (ไม่มีรีโมท ว่างั้นเหอะ) เพื่อน ๆ ก็แนะนำให้โทรไปสมัคร RACV (หมายถึงหน่วยงานหรือบริษัทที่คอยให้ความช่วยเหลือเวลาที่รถมีปัญหา) เผื่อมีปัญหาจะได้เรียกใช้ได้ เราก็กะว่าอีกสักสองสามวันจะโทรไปสมัครสมาชิก

วันแรกขับมา ก็ไม่มีปัญหาอะไร พอวันที่สองเท่านั้นแหละ ได้เรื่อง

วันนั้นเราขับรถไปกินข้าวกับเพื่อน ตอนขากลับมีเพื่อนนั่งมาด้วยสองคน ก็จอดรถที่ลานจอดรถของบริษัทตามปกติ เพื่อนสองคนก็ลงจากรถ และก็ล็อกให้เสร็จ (ดีจริง ๆ) เราก็ดึงเบรกมือ แต่ยังไม่ได้ปิดแอร์ ยังไม่ได้ดับเครื่องด้วย แต่เปิดประตูรถก่อน (ไม่รู้คิดอะไรอยู่นะ ตอนนั้น) ก็พอดีของตกจากรถ เราก็ก้าวออกจากรถมาเก็บของ

เก็บของเสร็จ (ด้วยความเฟอะฟะ) เราก็ปิดประตูรถทันที นึกขึ้นมาได้ ‘อ้าว กุญแจอยู่ข้างใน’ พยายามจะเปิดประตูรถ

“อ้าว ตรูล็อกมันตอนไหนฟะ !!!“
“เอาแล้ว ความซวยมาเยือนเข้าให้แล้ว”

เดินวน ๆ อยู่สักอึดใจ เพื่อน ๆ ที่เพิ่งกลับมาจากกินข้าวเที่ยงก็เรี่มสังเกตุเห็นว่าเราคงมีปัญหาอะไรสักอย่าง แล้วก็เริ่มเข้ามาถาม แต่ละคนก็พยายามจะช่วย จากตอนแรกที่มีไม่กี่คน ก็เริ่มเพิ่มขึ้น ๆ จาก 5 เป็น10 12 14…. พอคนเริ่มเยอะ ก็เริ่มแซว

“เฮ่ ทำได้ไงอ่ะ“
“เฮ่ รถยูนี่ดีนะ ดูดิ เปิดไม่ออกเลย ฮ่ะๆๆๆ”

พอเริ่มจะนานเข้า ไม่มีใครสามารถเปิดประตูรถได้ บางคนก็ไปตามพวกที่อยู่ในออฟฟิศมาช่วย (เอากันเข้าไป รู้กันหมดเลยสิทีนี้ สาวไทยใจกล้า แต่เฟอะฟะสุด ๆ) สุดท้าย ก็ต้องโทรเรียก RACV ให้มาจัดการให้ พอเปิดประตูรถได้ พวกที่มาช่วย และมาให้กำลังใจก็ปรบมือกันเกรียว (เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ)

อายก็อาย แต่ก็ต้องทำใจ วันนั้นก็ได้เพื่อนใหม่ไปหลายคน แต่ขอบอกว่าเราไม่ได้อยากได้เพื่อนด้วยวิธีนี้เลย ให้ตายสิ

วันรุ่งขึ้น เราก็มาทำงานปกติ ลืมเรื่องเมื่อวานไปแล้ว เจอแมททิว ขาประจำ แนวร่วมกลุ่มมาทำงานเช้า

“Hey, where is your car’s key????” (เฮ่ กุญแจรถอยู่ไหนหละ)


ใครที่รู้จักเราก็คงจะซึ้งกันดีกับไอ้นิสัยที่เหมือนกับว่ามั่นใจซะจนทำให้คนอื่นคล้อยตาม จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจอันนี้ก็อีกเรื่องนึง ถึงแม้มันจะไม่ถึงกับทีเรียกกันว่า Self จัด แต่ด้วยความที่เวลาเราพูดอะไร หน้าตาท่าทางก็จะจริงจังเป็นอย่างมาก ไม่เคยมีท่าทีว่าลังเลซักนิด มันก็มีประโยชน์กับเรามานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเราจะเป็นคนมีฟอร์มนะ ไม่มีหรอก ไอ้ที่ทำ ๆ ไป แล้วมารู้ตัวว่าผิดพลาดน่ะ ก็ยอมรับหน้าด้าน ๆ แหละ ว่าตัวเองทำผิด

มีอยู่ครั้งนึง เราก็พาลูกค้าไปทดสอบระบบที่ออฟฟิศที่เมลเบิร์นนี่แหละ ตอนนั้นก็พักอยู่แถว ๆ Exhibition Street แหละ ปกติพวกเราก็จะลงรถไฟกันที่สถานี Parliament เพราะใกล้ที่สุด นาน ๆ ทีจะไปลงที่สถานี Finder Street

วันนั้นก็มาด้วยกันสี่ห้าคน ก็เลยนึกอยากจะเดินเล่นยืดเส้นยืดสายกันในเมือง จริงๆ ก็ไม่ได้มีใครอยากจะซื้ออะไร แค่อยากเดินเท่านั้นเอง ลงรถไฟมา ก็เดินมาตามถนน Swanton มาถึง Burke St. ก็หยุด ทุกคนก็หันมามองเรา เหมือนกับจะถามว่าจะไปทางไหนต่อ เราก็มาแนวเดิม

“เลี้ยวซ้ายนี่แหละ แล้วตรงไปเรื่อย ๆ ก็ถึงโรงแรมแล้ว”

ทุกคนก็ไม่มีใครโต้แย้งอะไร พร้อมอกพร้อมใจกันเดินตามเราไป เดินกันไปสักครู่ น้องคนนึงก็ทักว่า

“เอ.. ทำไมมันไม่คุ้นเลยหว่า ผิดทางหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่ผิดหรอก ทางนี้แหละ ชัวร์ โน่น เห็นรึป่าว ตึกนั้นอ่ะ ผ่านทุกวัน”

อันนี้เรายังมั่นใจอยู่ว่าไอ้ที่เดินมาน่ะถูกแล้ว ทุกคนก็เลยยังคงมั่นใจอยู่ว่าเราพามาถูกทาง

แต่พอเดินไปอีกสองสามบล็อก ก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้ที่เดินๆ มาเนี่ย ถูกแน่เหรอ เพราะปกติโรงแรมก็ไกลจากทางแยกตรง Swanton ไม่เกินหกบล็อก นี่ก็ปาเข้าไปเจ็ดแปดบล็อกแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของโรงแรมเราสักนิด เราก็เลยหยุด

“อืม.. สงสัยเราจะมาผิดทางจริง ๆ ว่ะ”
“โอ๊ย เจ้... เดินมาตั้งไกลแล้ว เพิ่งมาบอกว่ามาผิดทางอีก แล้วไงเนี่ย ต้องเดินย้อนกลับไปอีกรึ”
“ก็เออดิ ก็เราเลี้ยวซ้ายมาแล้วมันผิด ไอ้ที่ถูกมันก็ต้องเลี้ยวขวาแหง ๆ อยู่แล้ว”
“เอ้อ... เจ้นี่ยังไง ตอนนั้นก็พูดเหมือนว่ามาทางนี้จะชัวร์ พาหลงซะงั้น”
“ก็ตอนนั้นมันชัวร์นี่หว่า ตอนพาเลี้ยวซ้ายมาก็ไม่เห็นมีใครทัก ตอนนี้ก็ชัวร์ว่าหลงทางไง ไป ไป เดินย้อนกลับไป เดี๋ยวก็ถึงเองแหละ”




Create Date : 21 มิถุนายน 2551
Last Update : 21 มิถุนายน 2551 13:35:25 น. 0 comments
Counter : 214 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NoiseN
Location :
Melbourne Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Noise219 นะคะเพื่อน ๆ มาในบล็อกใหม่เพราะของเดิมโดนไวรัสค่ะ

ขอบคุณป้ามด คุณ N_BEE810 และคุณเนยสีฟ้า สำหรับของแต่งบล็อกสวย ๆ นะคะ

^-^ ^_^ ^_^ ^_^

I love Melbourne Long Live the King
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add NoiseN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.