รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนๆก็ไทยด้วยกัน
เชื้อสายประเพณีไม่มีกีดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 

...ชีวิตวัยเด็กกับนิทานของแม่...



เมื่อตอนที่เราเป็นเด็กยังเล็กนั่น จำได้ดีว่าสมัยโน้นอยู่บ้านนอก..ถิ่นธุรกันดาร...ดินลูกรังสีแดงๆ เวลารถวิ่งผ่านก้อจะเป็นฝุ่นคลุ้ง...ผมเผ้าก้อจะกลายเป็นสีแดงๆ อิอิ ดูเหมือนลูกฝรั่ง((กิโลละสองบาท...แหะๆๆ))

หมู่บ้านที่เราอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านที่ห่างจากถนนหลักไปหลายสิบกิโล ถือเป็นหมู่บ้านห่างไกลความเจริญพอสมควร ลักษณะตัวบ้านของเราเป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโถงกว้าง ด้านหลังเป็นห้องครัว เดินยาวออกไปก็จะเป็นห้องน้ำที่มีที่ล้างจานติดกัน

ส่วนชั้นบนมีห้องนอนสองห้อง..และก้อมีห้องโถงที่เราสามคนพี่น้อง(โต้ง เต๋าและตู๋) จะนอนเรียงหน้ากระดานกันสามคน ห้องนอนใหญ่เป็นของพ่อกับแม่ และอีกห้องเป็นของพี่ติ้ง ((ครูที่มาสอนโรงเรียนเดียวกับพ่อและแม่เรา..เป็นครูสาวมาจากยุดยา))

ทุกวันหลัง 6 โมงเย็นทุกคนต้องเข้าบ้านอย่างพร้อมเพรียง ..แม่เราตั้งกฏเหล็กเช่นนี้ ซึ่งเราต้องปฏิบัติตาม..ใครที่วิ่งเล่นนอกบ้านหรือไปบ้านปู่บ้านย่า หลัง 6 โมงจะต้องเข้าบ้าน ไม่เช่นนั้นคุณจะขาดสิทธิเข้าบ้านทันที.. แต่บางทีก้อมีแอบแวบเกินเวลา ก้อมักจะทำทีไปนอนบ้านย่าสะเลยก้อไกลจากบ้านไม่กี่หลังเอง..แล้วก้ออ้อนย่านิดหน่อย เช้ามาย่าก็มาส่งบ้าน..อิอิ วันนั้นเป็นอันว่ารอดไป

และ ณ ชั้นสองที่ห้องโถงของบ้านเนี่ยละเป็นต้นกำเนิดของนิทานปรัมปราของแม่..ทุกเย็นหลังจากที่เรากินข้าวเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกทั้งสามและพี่ติ้งแล้วนั้น..เราก้อพากันแยกย้ายไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย..แหะๆเราจำไม่ได้ว่าของเราล้างจานรึเปล่า?? หลังจากนั้นก็แยกย้ายอาบน้ำอาบท่า และทำการบ้าน..เราก็มักลากไอ้ตุ่น(สีดำมอๆที่พ่อซื้อมาฝาก) กะจูงมือแม่ไปยังที่นอน..แล้วก้ออ้อนนิดหน่อยว่า


“แม่จ๋า เล่านิทานให้หนูฟังหน่อยสิจ้ะ”..



จากนั้นแม่ก้อจะเริ่มเรื่อง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.........

นิทานของแม่ที่เล่าให้ฟังนั้น ..เราก้อมักจะนึกฉงนในใจว่า ทำไมจะต้องมีกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ไมไม่เป็นสองเป็นสามหรือมากกว่านั้น แต่ด้วยความที่อยากฟังนิทานก้อเลยไม่ได้ซักถามอะไรมาก และเนื้อเรื่องมักจะมีครอบครัวครอบครัวนึงที่มีลูกสามคน ชื่อก้อมักจะไล่เลียงกันไปหรือบางวันก้อจะเป็นชื่อเราสามคน และโดยส่วนมากแล้วเราสามคนจะผลัดเวรกันเป็นพระเอกนางเอกประจำเรื่อง มีการสร้างวีรกรรมต่างๆนานา..โดยเรามักจะประท้วงแม่เป็นประจำว่าทำไมเราไม่ค่อยได้เป็นนางเอกของเรื่องมั่ง ฟังไปหลับไป รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งแต่ประท้วงตลอด…..

ในวัยเด็ก ทุกวันแม่ทำหน้าที่นี้ แม่จะสอดแทรกคติธรรมคำสอนต่างๆให้กับเราเสมอๆ และที่สำคัญยิ่งคือ ความรักระหว่างพี่และน้อง..ท่านจะสอนให้เรารักกันให้มากๆ ในส่วนนิทานที่แม่เล่าจะมีพี่น้องทะเลาะกัน ตีกัน เถียงกัน ต่อยตีกัน แต่สุดท้ายตอนจบของเรื่องแม่มักจะจบนิทานทุกเรื่องลงด้วยดี เสมอๆ เหมือนที่เค้ามักจะเรียกว่า “HaPpY ENDiNG”

นิทานของแม่...ได้ปลูกฝังเราทั้งสามพี่น้องให้คิดดี ทำดี มีความรักเผื่อแผ่แก่คนรอบข้าง....รู้จักให้อภัย..ไม่เอารัดเอาเปรียบใคร ...ช่วยเหลือเผื่อแผ่ผู้อื่นเท่าที่เราจะช่วยได้...ปัจจุบัน เราพูดได้ว่าเราไม่เคยคดโกงใคร..เราอยู่อย่างพอเพียงดังกระแสพระราชดำรัสของพ่อหลวง..ไม่ดิ้นรนไขว่คว้า ..ไม่อยากได้มาซึ่งลาภยศ สรรเสริญหรือแม้แต่อำนาจ...เราพูดได้เต็มปากว่าเรามีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันนี้มากๆ...((ถึงแม้ว่าบางทีเราจะเศร้าบ้าง ทุกข์บ้าง แต่ชีวิตมันก้อต้องมีทุกรสคละเคล้ากันไปเนอะ...))

สุดท้ายนี้ขอกราบเท้าแม่กับพ่อ ที่ได้ล่อเลี้ยงลูกมาอย่างดี ทำให้ลูกไม่ต้องเป็นที่ดูถูกดูแคลนหรือประณามด่าว่าจากบุคคลอื่น....ทำให้ลูกภูมิใจในชาติกำเนิด รักและหวงแหนแผ่นดินนี้..เป็นที่สุด....ด้วยรักอย่างสุดซึ้งค่ะ...




 

Create Date : 01 มีนาคม 2549
12 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2549 23:07:22 น.
Counter : 549 Pageviews.

 



แม่นั้นแม้เพียงให้กำเนิดไม่ได้เลี้ยงดูเราพระคุณนั้นก็ทดแทนไม่หมดค่ะ การให้กำเนิดของแม่นั้นเสี่ยงชีวิตด้วยค่ะ สาธุคขอให้เจริญยิ่งๆค่ะ

 

โดย: ป่ามืด 1 มีนาคม 2549 23:28:45 น.  

 



สวัสดีดึก ๆ ค่าพี่ตู๋

ชอบจังค่ะ นิทานของแม่

ตอนเด็ก ๆ หนูหนึ่งชอบให้แม่เล่านิทานให้ฟัง จนแม่เบื่อที่จะเล่า อิอิ

ป๊าเลยเสนอไอเดียกิ๊บเก๋
อัดเทปซะเลย เวลาแม่เล่าก็เลยอัดเทปไปด้วย แถมจะมีเสียงเด็กง๊องแง๊งถามนู่นถามนี่

หลายปีผ่านไป เอามาเปิดฟัง

มีความสุขจังค่ะ

 

โดย: NuenG (blue_diamond ) 1 มีนาคม 2549 23:54:42 น.  

 

ตอนเด็กๆ ไม่ได้ฟังนิทานจากแม่เลยค่ะ แต่แม่ก้อมักมีเรื่องจริงจากชีวิตของแม่มาเล่าสอนใจเสมอๆเหมือนกันค่ะ
รักแม่...

 

โดย: asariss 2 มีนาคม 2549 11:41:38 น.  

 

แวะมาฝากความคิดถึง อย่างแรงคร๊า

 

โดย: อพันตรี 2 มีนาคม 2549 18:52:17 น.  

 




ไอน์สไตน์บอกว่า
จินตนาการสำคัญกว่าตำราครับ

นิทานคงคล้ายๆ เพลง
นิทานดีๆ ทำให้จิตใจละเอียดอ่อนขึ้น



บีจีน่ารักดีครับ


 

โดย: IP: 203.188.21.59 3 มีนาคม 2549 9:00:29 น.  

 




ความรักของพ่อแม่ เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเนาะ...อบอุ่นดีค่ะ


 

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ 3 มีนาคม 2549 10:01:24 น.  

 

bgน่ารักดีค่ะ

 

โดย: ดา ดา 3 มีนาคม 2549 14:47:57 น.  

 

เห็นคุณแวะไปที่บล็อกของเรา ขอบคุณมากนะคะ เราเลยแวะมาหาคุณบ้าง บล็อกของคุณน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ อยากทำได้แบบคุณบ้างจัง

สวัสดีค่ะ

 

โดย: เมนี่==ใจดีจ้า 3 มีนาคม 2549 16:42:21 น.  

 

มาแล้วค่า อิอิ

แว้บมาบอกว่า ตอนที่อัดเสียงเล่านิทานมีเสียงอื่นแทรกจริง ๆ ด้วยละค่ะ

แต่เป็นเสียงปิดประตูเหล็ก เอี๊ยด ทุกที หุหุ

หนูหนึ่งสบายดีค่าพี่ตู๋
อิอิ ไปเรียนอังกฤษ หนุก ๆ ปนง่วงนิดหน่อย พรุ่งนี้ไปเรียนเลขแล้วค่ะ

สุขสันต์วันสุขค่า

 

โดย: NuenG (blue_diamond ) 3 มีนาคม 2549 22:18:55 น.  

 

 

โดย: แม่เองจ้า IP: 202.143.147.178 9 มีนาคม 2549 9:40:01 น.  

 


 

โดย: ลูกของแม่เป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณตลอดมา ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกของแม่ให้เป็นที่รักของทุกคน แม่รักลูกมากจ้า IP: 202.143.147.178 9 มีนาคม 2549 9:44:17 น.  

 

ลูกทุกคนรักแม่ แต่ก็น่าสงสารมากที่พ่อและเสียชีวิต ไปตั้งแต่ยังเด็ก

 

โดย: สาว IP: 203.172.162.145 4 สิงหาคม 2552 12:38:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


FaRaWaYGiRL
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




It hurts to love someone and not be loved return. But what is more painful is to love someone and never find the courage to let that person know how you felt. May be god wants us to meet a few wrong people before meeting the right one so that when we finally meet the right person, we will know how to be greateful for that gift. "เพื่อน 'OoY เขียนให้ก่อนจากกัน"(ขอบคุณค่า)

เราเป็น ญ ที่ดูจะทำมะดาคนนึงที่มีบ้านเกิดอยู๋โคราชเป็นคนสุดท้องของครอบครัว เอาแต่ใจตัวเอง ใจร้อน ขี้หงุดหงิด โมโหง่าย..ขี้น้อยใจ โกรธง่ายหายไว..แค่เนี้ยพอมะ??

เราเริ่มทำบล็อกเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2549 โดยการชักนำของเพื่อนคนนึง..จะว่าเค้าชักนำก้อไม่ได้ ก็เค้าส่งบล็อกเค้ามาอวด เราก้อสนใจ..จากนั้นก้มีบล็อกเป็นของตนเอง..

แต่งโน่นเติมนี่จนเป็นอย่างที่เห็นค่ะ

สุดท้ายนี้ก้อจะลืมไม่ได้คือ ขอบคุณป้ามด, คุณนุทศรี, คุณgoret, คุณ asita, คุงอย่ามาทำหน้าเขียว น้องแข Rebel, คุง9A และคนอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยนะคะที่ช่วยเอื้อเฟื้อสำหรับทุกอย่างที่ทำให้หน้าบล็อกออกมาเก๋ไก๋ชไนเดอร์แบบเนี้ยกิกิกิ



หลังไมค์ถึงเรา




แบนเนอร์ย่าดา..โดนบังคับอ่ะ 555555

Color Codes ป้ามด
ชื่อบล็อกเพื่อนทางนี้ค่า
New Comments
Friends' blogs
[Add FaRaWaYGiRL's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.