อัมพวาจ๋า ฉันแวะมาเยี่ยม

เนื่องจากมีประชุม งาน Logistic ยา ที่ อย. ในวันที่ 15-16 ก.พ. 54 เลยถือโอกาส แวะเที่ยวอัมพวาก่อนจะเข้ากรุงเทพ
ในวันที่ 12-13
12 กุมภา ออกจากบ้าน ตั้งแต่ 8 โมง แวะ หาอะไรรองท้องที่ 7-eleven
จากนั้นก็มุ่งตรงสู่อัมพวา

ได้เวลาอาหารเที่ยงบริเวณ พระราม 2 ก่อนถึงทางแยกเข้าอัมพวา

แวะหาอาหารเที่ยงทานที่ร้าน แมรี่ โรส ไทย




ร้านน่าจะเปิดใหม่ มีมุมกาแฟด้วย







อาหารที่สั่ง ก็มี เนื้อปลากะพงผัดพริกแกง ซึ่งจานนี้ไม่แนะนำ เพราะจะออกเค็มและหวาน



ไข่เจียวปู จานนี้อร่อยค่ะ ตาเอียน กินแต่จานนี้ล่ะ



ส่วนอีกจานเป็นปลาอินทรีย์ ทอดน้ำปลา น้ปลาจะออกหวานๆเค็มๆ ผสมกัน

ข้าวสวย สองจาน น้ำ หนึ่งขวด กาแฟหนึ่งแก้ว สนนราคา 300 บาทถ้วน

หลังจากเติมพลังเรียบร้อย ก็ได้เวลามุ่งตรงสู่อัมพวา

เราไปถึงที่พักทางด้านหลังซึ่งเป็นที่จอดรถ ของ ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท

จากนั้นก็เดินไป Check in ด้านหน้าริมน้ำ ซึ่งเป็นล้อบบี้

ห้องที่เราได้ อยู่อาคารเดียวกับล๊อบบี้ซึ่งมีอยู่แค่ สองห้อง คือ 101และ 102

เราได้ ห้อง 101 ชื่อ ตลาดน้ำอัมพวา ส่วนห้อง 102 ชื่อห้องจ่ามงกุฎ





ค่าเสียหายอยู่ที่ 750 /คืน
ภายในห้อง ตกแต่งได้น่าพักดี

ส่วนล๊อบบี้ริมน้ำ ตกแต่งน่ารักดี



ที่เห็นเป็นโต๊ะเก้าอี้ ด้านในสุดคือห้องอาหารเช้าของรีสอร์ท





ทางเดินจากลอบบี้ ไปยังห้องพักด้านหลัง ในล้อบบี้จะต้องถอดรองเท้า รมทั้งหน้าห้องพักของเราด้วย เพราะอยู่อาคารเดียวกับลอบบี้


มุมนั่งพักผ่อนลอบบี้ริมน้ำ อีกมุมหนึ่ง



ส่วนรูปนี้ถ่ายจากหน้าห้องพักไปยังลอบบี้ด้านหน้า



เก้าอี้นั่งเล่นหน้าห้องพัก



จากอาคารที่พักด้านหลังก่อนลงบันไดมาอาคารลอบบี้ ติดป้ายให้ถอดรองเท้าเลย ดีค่ะ ทำให้ส่วนลอบบี้สะอาดน่านั่งพักผ่อนกระดานเป็นมันวับเลย



ไปดูอาคารที่พักด้านหลังกันบ้าง





จากอาคารที่พักด้านหลัง ถ้าเราไม่อยากถอดรองเท้าตอนผ่านลอบบี้ ก็เดินทางนี้ นะ



อาคารที่พักด้านหลัง มีสองชั้น ตรงกลางจัดที่นั่งพักผ่อน ตอนเย็นๆแดดร่มลมตกก็ กางที่นอนให้นั่งเล่นนอนเล่นกันได้











บริเวณลานนั่งเล่นตรงกลาง



หลังจากนอนพักผ่อนซักพัก ก็ได้เวลาออกเดินเที่ยว แร้ว ตาเอียนยืนอวดพุงปลิ้น หน้ารีสอร์ท ซึ่งมีบันไดข้ามไปอีกฝั่งของคลองอัมพวา



ส่วนเราก็ยืนสวยอยู่ที่หัวกระไดเช่นกัน กร๊ากกกกล้าพูดนะตรู



มุมนี้มีคนรับจ้างถ่ายรูป เห็นคนเข้าไปถ่ายกันเยอะเหมือนกัน แต่เราแค่แอบถ่ายฉากที่เค้าจัดไว้ก็พอแร้ว



หน้าโฮมสเตย์ เรือนสบาย สีหวานๆ ริมคลอง



ร้านค้า ตลอดริมคลองอัมพวา





พ่อค้าขายของในเรือ



บ้านครูเอื้อ ขายแผ่น เพลงเก่า เปิดเพลงเก่าเข้ากับบรรยากาศ





เดินสักพักตาเอียน เริ่มเหนื่อย ขอนั่ง มีที่นั่งให้ตลอดทางเดิน หรือจะซื้ออาหารจากในเรือมานั่งกินบนนี้ก็ได้ค่ะ



ตาเอียนนั่ง เราก็นั่งบ้างซีวะ



ส่วนร้านนี้ สาธิตวิธีทำเบญจรงค์ แถมหน้าบ้านมีใบมะพร้าวถัก ตาเอียนชอบใจ









ปลาหมึกตัวอ้วนๆๆน่ากินมากมาก แต่มันติดที่เรามันไขมันสูงอยู่แล้ว อ่ะ ไม่อยากตายเร็ว ให้ตาเอียนมันดีใจ 555



บริเวณที่นั่ง พักผ่อน ซื้อของกินมานั่งกินได้ ด้านหลัง ชานชาลา



พอไม่มีคนนั่งซุ้มนี้มันดูสวยขึ้นอ่ะ




ด้านหลังมีร้านค้าชุมชน


ไปรษณีย์ย้อนยุค




ด้านหลังร้านชานชาลา นี่มีที่ถ่ายรูปสวยๆ หลายมุม มีร้านค้าให้เลือกซื้อเยอะแยะ






ออกจากชานชาลา เดินต่อไปเรื่อยๆ ทางเดินริมน้ำ
จนกระทั่งมาถึงมุมยอดฮิต ริมระเบียง คิวถ่ายรูปไม่ว่างเลย ถ่ายวิวคลองก่อนละกัน




รอไม่ไหว ถ่ายคนอื่นก็ได้วะ





จนกระทั่ง ถึงบันไดไม้แกะสลัก ข้ามคลองอัมพวา





เราตัดสินใจข้ามคลองตรงบันไดไม้นี้

จากนั้นเดินย้อนกลับไป เริ่มเหนื่อยและหิวน้ำ แวะหาน้ำกินที่ร้านสามานการค้า น้องที่ร้านอาสาถ่ายรูปคู่ให้ด้วย







เราสั่งชาเขียว ส่วนตาเอียนสั่งกาแฟเย็น แก้วละ 20 บาท



หลังจากนั่งพัก และจิบ เครื่องดื่มเย็นๆ ก็เริ่มมีแรงออกเดินลุยกันต่อ






อัมพวาครับ



ด้านใน จัดที่ทางให้ถ่ายรูปสวยๆได้หลายมุม



สำหรับเก้าอี้แดงน่ารักรับวันวาเลนไทน์ นี่เราหยอดให้ 5 บาทสำหรับศิลปิน





ส่วนเก้าอี้หลากสีนี่คอนข้าง รกหน่อยท่าทางจะไม่ค่อยมีคนสนใจ





Helloooooo





บ้านแม่หนู ก็จัดมุมสวยๆให้ถ่ายรูป









เรือนสบาย ข้ามฝั่งคลอง



เอาแบบมีนางแบบบ้าง อิอิ






ร้านค้า ริมคลอง ตอนบ่าย น้ำจะลงมองเห็นบันได้หลายขั้นเลย





แม่ค้าชาวบ้านพายเรือขายของ





หลังจากเดินจนเริ่มเหนื่อยก็กลับไปพักผ่อนในห้อง 5 โมงเย็นออกมาจองเรือไปชมหิ่งห้อย เรือออก หกโมงครึ่ง เลยไปหาอาหารเย็นกินกันก่อน

เราไปกินกันที่ร้านทองโบราณ ร้านที่มีคนมากินเยอะมาก



เราสั่ง
หมี่กรอบสูตรดั้งเดิมของร้าน รสชาติโอเคเลยที่เดียว แต่จานใหญ่มาก เลยกินไปได้แค่ 1/3 เอง




ส้มตำไก่ทอด ส้มตำอร่อยดี แต่ไก่ทอดจะออกเค็มไปหน่อย





ตาเอียนสั่ง steak ปลาย่าง แต่ปลามันเค็มมาก เลยกินไปได้แค่นิดหน่อย กลัวความดันขึ้น



จากนั้นก็กลับมานั่งรอเรือออกที่ เก้าอี้นั่งเล่นหน้าล้อบบี้ของที่พัก





ได้เวลาลงเรือ



แต่จะว่าไป นั่งเรือแล้วไม่ค่อยจะมีหิ่งห้อยให้ดูเท่าไหร่ เหมือนไปดูวิว บริเวณที่นั่งเรือผ่าน มากกว่า แถมเป็นเวลากลางคืนกล้องเรามันถ่ายรูปออกมามะสวยเล้ย


กลับมา ก็เลยออกเดินเที่ยวต่อซักพัก

แวะที่ร้านชานชาลา





แวะหาซื้อเสื้อยืดเป็นของฝากจากนั้นก็กลับที่พัก

ตื่นเช้าไปรับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของที่พัก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ล้อบบี้


















ออกเดินเที่ยว ริมน้ำอีกครั้ง เช้าๆ อย่างนี้ร้านรวงยังไม่ค่อยเปิดกัน ผู้คนกก็น้อย

หน้าร้านริมระเบียงก็ว่างพอให้ถ่ายรูปได้แล้ว







บ้านคุณยายชดหลังนี้สีสันได้ใจมากๆๆ เข้ากับสายน้ำรอบๆเลย



ตั้งอยู่สุดคลองอัมพวาที่จะออกสู่ แม่น้ำใหญ่





วิวคลองอัมพวา ตรงออกสู่ปากแม่น้ำ



นั่งเล่นริมน้ำ สบายๆๆๆ



ฟักเชื่อมสีสันน่ากกินมากๆ อดใจไหวเลยซื้อมา 1 กล่อง แล้วตั้งท่าถ่ายรูป เห็นป้ายบอกห้ามถ่ายรูป แต่คุณป้าเจ้าของร้านบอกถ่ายได้ เพราะเราซื้อของแกแร้ว



สาเกเชื่อม



แม่ค้าขายผลไม้ในเรือ สีสันผลไม้ สวยมากมาก



ส่งท้ายที่อัมพวาด้วยรูป ทางเดินริมคลองอัมพวา ยามเช้า

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update : 4 มีนาคม 2554 11:23:29 น. Counter : 2040 Pageviews.		3 comments
Share Tweet