พักที่ Hotel Mercure Istanbul Airport นอนที่นี่ 2 คืน
อาหารเช้าที่นี่ ค่อนข้างดีกว่าที่อื่นที่พักมา
13 มีนาคม2561
วันนี้พยากรณ์อากาศ บอกว่าฝนตก เช้าๆครึ้มๆ เตรียมร่มกันไป
หลังจากมื้อเช้าที่ โรงแรม
เดินทางไป พระราชวัง โดลมาบาเช (Dolmabahce)
เป็นวังที่สร้างแบบยุโรป ผสม อาหรับ วังอยู่ติดทะเล
ข้างในห้ามถ่ายรูปในวังจะแบ่งเป็นส่วนๆ ส่วนว่าราชการ ส่วนรับรองแขกบ้านแขกเมือง และส่วนฮาเร็ม
เดินออกมาฝนตก ลมค่อนข้างแรงเลยได้รูปมานิดเดียว
รูปวังถ่ายจากล่องเรือ จะสวยกว่า
ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัสซึ่งเชื่อมระหว่าง ทะเลดำ (The Black Sea) กับ ทะเลมาร์มาร่า(Sea of Marmara)ยาว 32km. กว้าง 500 m.-3km.
ถือว่าสุดขอบทวีป ยุโรป และสุดขอบทวีปเอเชีย มาพบกันที่นี่
มีสโมสรฟุตบอลกาลาตาซาราย ที่เกาะกลางน้ำ
รูปด้านล่างเป็นคลิปตอนล่องเรือ
แต่พูดผิดว่าอยู่ในอิตาลี555 อยู่ตุรกีค่ะ
ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) มีขนม ถั่ว ใบชา ชาผลไม้ และ ของฝากต่างๆ
ร้านในร่ม จะเป็นร้านที่มีคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรแล้ว
สินค้าจะแพง กว่าด้านนอก
พ่อค้า ใช้ภาษาอังกฤษได้ทุกร้าน
รอบตลาด มีขายอาหารและมีจุดชมวิวตัวเมือง ลมเย็นๆ เดินสบาย
มื้อค่ำเป็นอาหารไทยทำให้เจริญอาหารกันทุกคน
14 มีนาคม2561
วันนี้ไกด์บอกว่าเราต้องเดินทั้งวัน เพราะที่เที่ยวอยู่ในเขตเมืองเก่า
รถใหญ่เข้าไม่ได้และที่เที่ยวก็ไม่ห่างกันมาก
ที่แรก รถพาเราจากโรงแรม ไปที่วังเก่า ทอปกาปิ (Tokapi Palace)
วันนี้ เลยต้องแปกกระเป๋าเป้เดินเผื่อมีอะไร จะใช้ ก็จะได้สะดวก
แต่คงเมื่อยไหล่น่าดูเพราะขึ้นรถอีกทีตอน สี่โมงเย็นไปสนามบินเลย
พระราชวัง ทอปกาปิ (Tokapi Palace)
เป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงค์ออตโตมัน
ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
ที่นี่จุดถ่ายรูปเยอะมาก
และโชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตก ไม่ร้อนมาก มีลมเย็นๆ อุณหภูมิ ประมาณ 17 องศา
หลังจากกินข้าวเที่ยงเป็นอาหารจีน
ไปที่จตุรัสสุลต่านอาร์เหม็ด(Sultan Ahmed Complex)
หรือฮิปโปโดม(Hippodrome)
เพื่อชมสุเหร่าสีน้ำเงิน(Blue Mosque) และ พิพิธภัณฑ์ ฮาเยียโซเฟีย(Ayasofya Museum)
สุเหร่าสีน้ำเงิน(Blue Mosque) ตอนนี้ปิดซ่อม เราจึงถ่ายแค่รูปด้านนอก
ฝั่งตรงกันข้ามสุเหร่าสีน้ำเงิน(Blue Mosque) คือพิพิธภัณฑ์ ฮาเยียโซเฟีย(Ayasofya Museum)
ไปชมพิพิธภัณฑ์ ฮาเยียโซเฟีย(Ayasofya Museum) เป็น 1 ใน 7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง
จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมมหึมา กลางวิหารเป็นสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์
เดิมเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า
รูปในโบสถ์ ถูกเอาปูนฉาบไว้ต่อมาปูนกะเทาะออก
เพื่อป้องกันการพิพาททางศาสนา ถึงเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์
ที่นี่เป็นต้นแบบการสร้างสุเหร่าเป็นรูปโดม อย่างที่เห็นทั่วไปในปัจจุบัน
รูปด้านล่างเป็นคลิปภายในพิพิธภัณฑ์ ฮาเยียโซเฟีย(Ayasofya Museum)
ชมอ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Yerebatan Saray or The Underground Cistern)
เป็นอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุด ในอิสตันบูล
เก็บน้ำได้ถึง 88,000 ลบ.ม.
สร้าง ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70m. ยาว 140 m. ลึก 8 m.
ในอุโมงค์ มีเสาค้ำเรียงราย 336 ต้น เสาที่เด่นคือ เสาหยดน้ำตา และ เสา เมดูซ่า
แวะเข้าชมชมสุเหร่า
ผู้หญิงต้องคลุมผม และนุ่งกระโปรงยาวห้ามใส่ เลกกิ้งเข้าไป
ไปซื้อของต่อ ที่ ตลาดแกรนด์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ และใหญ่มาก
มีขาย ทุกอย่าง เสื้อผ้า ตะเกียงแก้วทอง ขนม และมีร้านถ่ายรูปชุดพื้นเมือง
รูปด้านล่างจะเป็นคลิปตลาดนะคะ
ที่ตลาดนี้ไม่ได้ซื้ออะไรเพราะซื้อและจัดกระเป๋าแล้ว น้ำหนักกระเป๋าถึงพิกัดแล้ว
เราเดินชม และ นั่งกินชา
เดินทางไปสนามบินเปลี่ยนเสื้อให้บางเพื่อกลับประเทศไทย
หลายคนจัดกระเป๋าเพราะซื้อของมาเพิ่ม
ในสนามบินเวลาเหลือ เราได้ชิมชีสเค้กที่นี่ อร่อย มาก อร่อยกว่าขนมทุกอย่างที่กินที่โรงแรมหรือร้านอาหารที่ทัวร์พาไป 555
ในดิวตี้ฟรี มีขนมให้ซื้อเพิ่ม และซื้อเหล้าขาวตุรกีมาอีก 1 ขวด
15 มีนาคม 61
ถึงสุวรรณภูมิ 9:45 น. ขากลับใช้เวลาบินน้อยกว่าตอนไป
ผ่าน ต.ม. และรอขึ้นเครื่องกลับ เชียงราย
13:20 น.ขึ้นเครื่องกลับเชียงราย
จบทริป
สวัสดียามเช้าครับพี่
เป็นเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมในตุรกีจริงๆครับ
คริสต์ผสมผสานอิสลาม
แล้วผสมกันได้ลงตัวมากด้วย
สวยงาม เคร่งขรึม
โหวตครับพี่