ทะเลทราย @Vietnam







Trip เวียดนามใต้
โฮจิมินห์ มุยเน่ ดาลัด อุโมงค์กู๋จี
12-17 มีนาคม 2552
ผู้ร่วม Trip 3 คน me-o – หมู (สามี) – ต้นสน (ลูกชาย 8 ปี 5 เดือน)




12 มีนาคม 2552
 (เชียงราย ---> กรุงเทพ ---> โฮจิมินห์ --->  มุยเน่ )


#blog นี้เป็นการทำรูปใหม่ เนื่องจาก Photobucket lock รูปเราไว้#
#ดีที่เก็บ file รูปลงแผ่น cd สำรองไว้#
#แก้ไขเมือ 19/9/60#

เริ่มต้นการเดินทาง แต่เช้า 8.50 น. ด้วยสายการบิน AirAsia เที่ยวบิน FD 3251 ไปยังกรุงเทพ
เพื่อต่อเครื่องบิน ไปยัง โฮจิมินห์ สายการบินเดิม เที่ยวบิน FD 3724 ในเวลา 15.55 น.



การเดินทางกับแอร์เอเชีย คราวนี้มีการระบุที่นั่งแล้ว 
เราได้จองตั๋วแบบระบุที่นั่งเลย ต้องเสียค่าจองที่นั่งเพิ่มอีกที่ละ 50 บาท
และขอชม การ check-in ตั๋ว Air Asia ครั้งนี้ เข้าได้ทุกช่อง ที่เขียน international ไม่ต้องรอแต่ละเมือง สะดวกดี
แถวไม่ยาวด้วย ทำให้มีเวลามากขึ้น ในการเดิน ใน DUTY FREE เลือกซื้อของ ได้เต็มที่ ถูกใจ ขา Shop มาก

#ช่วงนี้ไปเที่ยวก็ไม่ได้ซื้ออะไรที่ duty free เลย // 29/9/60#


มาถึงโฮจิมินห์ เวลา 17.20 น.
ไกด์ คุณเพ็ญ ได้มาชูป้ายรอ ที่ด้านนอก รับพวกเรา สามคน พ่อ+แม่+ลูก เดินทางต่อไปยังมุยเน่

Trip นี้เราเดินทางแบบ private tour
โดยซื้อทัวร์ จาก เวปนักเดินทาง.com
และเพิ่มที่ๆเราอยากไป 
ทางเวป ก็จัดการให้หมด ทั้งโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ค่าอาหาร ค่าทิปไกด์ ค่ารถ 
เราคิดว่า ทัวร์ลักษณะนี้เหมาะกับเรามากที่สุด




เล็กๆน้อยๆ
สนามบินที่นี่ มีบังเกอร์ เป็นระยะ ระยะ ตาม run way ด้วย
ทราบจากไกด์ภายหลังว่า สนามบินแห่งนี้ เคยเป็นฐานทัพอากาศของ ทหารอเมริกัน
ก็มีการสู้รบกับ ฝ่ายเวียดนามเหนือ ที่เป็นคอมมิวนิสต์ เลยโดน Bomb มาลง
ต.ม. เวียดนาม ขยันทำงานมาก พอเห็นคนเยอะ เปิด ช่องเพิ่ม ทำให้ ไม่เสียเวลา
ก็มีคำถามเล็กน้อย ถึง Visa ก็ตอบไปว่าเรามาจาก ประเทศไทย ไม่ต้องใช้ Visa
เขาถามต่อว่ามากี่วัน ตอบไปว่า 5 วัน
ก็มารู้ทีหลังอีกว่า เรา สามารถอยู่เวียดนามได้ 30 วันโดยไม่ต้องขอ Visa

เวลาที่เวียดนาม เท่ากับ ที่ประเทศไทย พอดี
ที่โฮจิมินห์ อากาศร้อนพอๆกัน กับที่ กรุงเทพ
และที่เวียดนาม ยัง เรียก เมือง โฮจิมินห์ ว่า เมือง ไซง่อน ชื่อโฮจิมินห์ ใช้เรียกแบบเป็นทางการเท่านั้น
เงิน แลกเป็นเงิน US DOLLARS มาจากประเทศไทย แล้วมาแลกเป็น เงิน ด่อง
บาท --> dollar --> ด่อง
เทียบ อัตรา แบบง่าย ตัดเลข ศูนย์ 3 ตัวท้ายออก แล้วคูณ 2
100000 ด่อง ประมาณ 200 บาท




ระหว่างทางได้แวะกินข้าวเย็น
ถึงที่พัก ที่มุยเน่ โรงแรม CANARY RESORT ราวราว 5 ทุ่ม
การ Check-in ที่นี่ ต้องทิ้ง passport ไว้ให้ทางโรงแรมเก็บด้วย แปลกดี
ห้องพัก ก็ สะอาดดี ไม่หรูหรา
ไกด์บอก โรงแรมนี้ติดทะเล และมี สระว่ายน้ำ
ไว้พรุ่งนี้ค่อยเดินสำรวจกัน






13 มีนาคม 2552 
 ( มุยเน่ – ทะเลทรายแดง – ทะเลทรายขาว – ดาลัด )

ตื่นแต่เช้า อีกแล้ววันนี้ ไปเดิน ริมทะเล ชายหาด สงบ คนไม่เยอะ
ไปเจอเรือ เรือที่นี่จะเป็นครึ่งวงกลม ทำจากไม้สาน คล้ายกระบุงยักษ์
แล้วมีการยาแนวกันน้ำรั่ว ดูแปลกตา ไม่เคยเห็นเรือแบบนี้มาก่อน











ไปเติมพลัง กับอาหารเช้า กิน ขนมปังฝรั่งเศส และ กาแฟ





เล็กๆน้อยๆ ที่เวียดนามขนมปังฝรั่งเศส ก้อนไม่ยาวเหมือนที่ขายเมืองไทย ก้อนจะประมาณคืบ แล้วไม่เหนียวกัดไม่ขาด เหมือนที่เคยกินในเมืองไทย ที่นี่ ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน และมีขายทั่วไปตามท้องตลาด
กาแฟ ของเวียดนามหอม และ นุ่ม ไม่ขม ดื่มแล้วติดใจเลย
ที่เวียดนาม ปลูกกาแฟ.......มาก และ ส่งออกเป็น อันดับ สอง ของโลก รองจากบราซิล



ทะเลทรายแดง เป็น แห่งแรก ที่เราจะไปชมความงามของ ธรรมชาติ
เดินลุยน้ำ ในลำธาร เข้าไประยะทาง กิโลกว่า สุดทาง จะเป็น น้ำตก แฟรี่สตรีม























มาถึงชายทะเล เที่ยง ก็ต้องกินอาหารทะเล สด สด กันหน่อย
น้ำจิ้ม อาหารทะเล เป็นแบบนี้







เที่ยวต่อที่ทะเลทรายขาว ซึ่ง ถือเป็น Highlight ของ trip

ไปถึงก็ ทะเลทรายจริงด้วย ฝั่งหนึ่งเป็นทราย อีกฝั่งเป็นทะเล Amazing มาก



แต่มันก็ไม่สนุกอย่างที่นึก แรกคิดจะ กระหน่ำ ถ่ายรูป ให้สะใจ

แล้วปล่อยให้ ต้นสน เล่นทรายให้เพลินเลย





เหตุแห่งความไม่สนุก
อยู่ที่ มีเด็กๆ หลายๆคน รุมล้อม ขอเงินกับพวกเรา ให้เล่นกระดานลื่นของเขา
สร้างความรำคาญ ไม่น้อย
และแน่นอนเราทนแรง ตื้อไม่ไหว
เสียเงินไป 550000 ด่องเลยหล่ะ
ใครจะมาที่นี่ ต้อง SAY "NO" "NO" อย่างเดียวเลย
เด็กชวนคุยอะไร ก็อย่าไปพูดด้วย แล้ว เขาจะจากไปเอง



เดินทางต่อไปยัง เมืองดาลัด ใช้เวลาเดินทาง ร่วม 3 ชั่วโมง

เล็กๆน้อยๆ ดาลัด เป็น เมืองตากอากาศ ที่นี่ จะมี 2 ฤดู คือ ฤดูฝน และ ฤดูร้อน
ช่วงที่เราไปเป็นฤดูร้อน อุณหภูมิ ตอนเช้า 15 องศา ตอนเที่ยง 25 องศา
ดู เทอร์โมมิเตอร์ ได้ที่ Lobby โรงแรม


ถึงดาลัด 6 โมงเย็น พักที่โรงแรม Golf 2 เป็นโรงแรม เล็กๆกลางเมือง ไม่มี บริเวณ รอบ รอบ
แต่ก็ไปมาสะดวก ใกล้ตลาด และห้องน่ารัก แม้ว่า จะเป็น โรงแรม 2 ดาว
เราพักที่นี่ 2 คืน





Check-in ต้องทิ้ง passport ไว้ให้ทางโรงแรมเก็บเช่นกัน
เก็บ กระเป๋าเสร็จ ไปกินข้าว
ร้านเล็กๆแต่งร้าน น่ารัก ชื่อร้าน NHAT LY
อาหารเย็น พร้อม จิบ wine ดาลัด
คอ wine มาชิม ก็บอกว่า wine ที่นี่รสนุ่ม ไม่เฝื่อน กินง่าย และราคาถูก
แต่ติดอยู่ที่ เป็น wine องุ่น เราแพ้ wine องุ่น กินเยอะๆแล้วเป็นผื่น เลยชิมไปแค่ แก้วเดียว



อิ่มกันแล้ว ไปเดินตลาด สินค้าที่วางขาย มี พวกเสื้อกันหนาว

ผักเมืองหนาวคล้ายของโครงการหลวง ผลไม้
และมี ร้านอาหาร ร้านขายชา ไวน์ น้ำผลไม้
แวะชม แกลลอรี่ ที่มีงานปักผ้า สองด้านโชว์ เหมือนกับที่ เมืองเฉินตู ประเทศจีน
แล้วก็เดินกลับโรงแรม เข้านอนประมาณ 4 ทุ่ม ครึ่ง





14 มีนาคม 2552
 ( ดาลัด - เจดีย์มังกร – พระราชวังบ๋าวได๋ – เครซี่เฮาส์ )

วันนี้ เราก็จะอยู่ที่ดาลัดทั้งวัน เที่ยว รอบเมือง
ดาลัดเป็นเมืองที่ อากาศ เย็นสบายทั้งปี เมืองก็ค่อนข้างใหญ่ คนอยู่เยอะ มี มหาวิทยาลัย ด้วย
และชาวเวียดนาม ก็นิยมมาเที่ยวกันด้วย

ตื่นแต่เช้าไปเดินตลาด ตอนเช้า อีกรอบ ของขาย จะเป็นผัก ผลไม้ ดอกไม้เนื้อหมู สำหรับเอาไปปรุงอาหาร 



กลับโรงแรม เติมพลัง ตอนเช้า แล้วไปเที่ยวกัน



Cable car ไปที่ไหน ก็มีกระเช้า
 นั่งกระเช้า คนไม่เยอะ ชมวิว
กระเช้าพาไปวัด วัดจีน วัดตี้กลาม  
แล้วเดินลงไปชม ทะเลสาบ พาราไดซ์



นั่งรถ ชมสถานีรถไฟ ดาลัด ต่อด้วย Crazy HOUSE








กลางวัน เราได้ กิน แหนมเนือง แบบเวียดนามแท้ๆ 
หน้าตา รสชาติ ของแหนม และน้ำจิ้มก็ไม่เหมือน
แป้งที่ใช้ห่อ เค้าก็ไม่แช่น้ำมา กินแบบนั้นเลย





กินข้าวเสร็จ กลับโรงแรม ทัวร์ ปล่อย เรา ฟรี 3 ชั่วโมง นัดอีกที 15.00 น.
แบต กล้องหมด พอดี เรา ชารต์แบต จะได้ไปถ่ายรูปต่อ ตอนบ่าย
ช่วงเวลาว่างสามารถเดินชมเมือง ถ่ายรูปไปทั่วได้ แต่ไม่ได้ทำ
หมู ของีบ
ชวนต้นสน ไปเดินเล่น ก็ไม่ไปจะเล่นเกมส์ เสียงั้น
เราเลยไปเดินเล่นชมเมืองคนเดียว ได้ ซื้อกาแฟ แบบ 3 in 1 มาชงกินด้วย
กลับมาโรงแรมก็ชงกินเลย 
#เป็นกาแฟ G7 ที่ตอนนี้หาซื้อได้ทั่วไปในเนท // 29/9/60#



บ่ายไปเที่ยวกันต่อ วังตากอากาศ กษัตริย์ บ๋าวได๋ BAO DAI’S SUMMER PALACE
เป็นกษัตริย์พระองค์ สุดท้าย ของ เวียดนาม ใช้เวลาสร้าง 5 ปี เริ่มสร้าง ปี พ.ศ. 2476
ที่วัง คนเวียดนามมาเที่ยว เยอะ
เราสามารถเข้าชมได้ทุกๆห้อง โดยมีที่กั้นไว้
ไม่เหมือนวังไหนๆที่เมืองไทย ที่ เรา สามารถ ชมได้จากภายนอก อาจเป็น นอกประตู นอกหน้าต่าง แล้วมองเข้าไป
แล้วพวกเก้าอี้รับแขกที่ตั้งไว้ ก็ มีคนไปนั่งถ่ายรูป
ทำให้เรารู้สึกแปลกๆในการชมวัง....... 





ต่อที่วัดจีน อีกแห่ง วัดมังกร 



เสร็จ ไปชมโบสถ์คริสต์ อีกแห่งหนึ่ง ที่นี่ มีสุสาน ของ ชายา กษัตริย์ เบ๋าได๋



มาแวะกันต่อที่ ทะเลสาบ กลางเมืองดาลัด
ทะเลสาบ ซวนฮวาง XUAN HUONG LAKE มาชมแสงสุดท้ายของวัน ที่นี่




มื้อเย็น เรากินสุกี้ น้ำจิ้ม ก็ต้องทำใจ เป็นแบบที่กิน อาหารทะเล

2 ทุ่ม เข้าโรงแรม พักผ่อน พรุ่งนี้ ต้องเดินทางแต่เช้า



15 มีนาคม 2552 
 ( ดาลัด – โฮจิมินห์ city tour )

ตื่นแต่เช้า เก็บกระเป๋า เตรียมตัวไปสนามบิน
ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปสนามบิน 30-45 นาที
8.55 น. เดินทาง โดยสาย การบิน Vietnam Airlines เที่ยวบินที่ VN465
ออกเดินทางออกจาก ดาลัด ไป โฮจิมินห์ (option เพิ่ม จ่ายเพิ่ม)



เล็กๆน้อยๆ
ถ้านั่งรถกลับตามโปรแกรมเดิม ต้องนั่ง 6 ชั่วโมง
เพราะ กำหนดความเร็ว ไม่ให้ขับเกิน 80 ก.ม. / ชั่วโมง แล้วมีตำรวจ คอยจับเป็นระยะไป
ที่นี่ขับรถ ชิดขวา พวงมาลัย ซ้าย
ค่าเครื่องบิน ประมาณคนละ 1800 บาท
ซึ่งคุมค่าในการจ่ายเพิ่มเพราะประหยัดเวลาได้เยอะมาก และ ไม่เหนื่อยด้วย


9.30 น. ถึง โฮจิมินห์ เข้า check in ที่ โรงแรมก่อน LAN LAN HOTEL 2



11.45 น. ไปกิน BUFFET บนห้างสรรพสินค้า
อาหารก็จะมีหลากหลาย มีอาหารเวียดนามหลายอย่างที่ไม่เคยกิน
มีส้มตำด้วย มีหอยหลายชนิด
ชื่อร้าน TOPPERS SAIGON RESTAURANT
เห็นได้ชัดว่า ใช้เวลาไม่คุ้ม การเข้ามาที่โรงแรมกลางเมือง
เสียเวลากับรถติด และไม่มีที่จอดรถ
เราต้องรอรถมารับอีก


ช่วงบ่ายไปเดินชมเมือง
เริ่มต้นที่นี่ โอเปร่าเฮ้าส์ ---> ไปรษณีย์กลาง ---> โบสถ์ นอร์ทเตอร์ดาม
---> อนุสาวรีย์ ลุงโฮ ซึ่งตั้งอยู่ หน้าทำเนียบ รัฐบาล ณ.จัตุรัส กลางใจเมือง













นั่งรถต่อไปยังไชน่าทาวน์ ของเวียดนาม (จั่วปา) ไปยังวัดจีน วัดเทียนห่าว 



ไปต่อที่ตลาดค้าส่ง ลักษณะ คล้ายตลาดสำเพ็ง ตลาดที่นี่ขายถูก ถ้าต้องการซื้อของกินของใช้ ควรมาที่นี่ก่อน
ที่นี่เป็นรายการนอกโปรแกรมทัวร์ ไกด์เพิ่มให้



ส่งท้ายรายการที่ ตลาดเบ๊นทั่น ใกล้โรงแรมที่พัก กลางเมืองโฮจิมินห์





อาหารเย็น เราได้ ซื้อรายการเพิ่ม คนละ 5 US Dollars 
เพื่อ ไปล่องเรือพร้อมรับประทานอาหาร กลางแม่น้ำไซง่อน เรือ ออก 2 ทุ่ม ครึ่ง



กลับโรงแรม 4 ทุ่ม ครึ่ง



16 มีนาคม 2552 
 (โฮจิมินห์ – อุโมงค์กู๋จี - กรุงเทพ )

วันนี้ออกเดินทางสายกว่าทุกวัน
โดยได้ Check-out ออกจากโรงแรมเลยจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาเอากระเป๋าอีก
9.00 น. เดินทางไปอุโมงค์ กู๋จี ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนเขมร
ใช้เวลาเดินทาง ชั่วโมงครึ่ง
แวะร้านทำแป้งห่อแหนมเนือง ใบเมี่ยงญวน ก่อนถึงอุโมงค์ กู๋จี




10.45 น. ถึงอุโมงค์กู๋จี ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน จะมี V.D.O. ให้ชมความเป็นมาก่อน

โดยมีการบรรยายเป็น ภาษาไทยด้วย
และไกด์ก็ได้ชี้ให้ดู แผนที่ตั้งของ เมืองกู๋จี ซึ่งเป็นเขตแดน ของ คอมมิวนิสต์
ในส่วนของเวียดนามใต้ ซึ่งเป็น ประชาธิปไตย
มีส่วนแสดงแผนผัง อุโมงค์ ด้วย ในอุโมงค์ มี 3 ชั้น และมีกับดัก ข้างใน
อุโมงค์กู๋จี เป็น อุโมงค์ใต้ดินที่ลึกลับ
มี ระยะทางใต้ดิน มากกว่า 200 กิโลเมตร
อุโมงค์กู๋จีใช้สู้รบ กับ ทหารอเมริกัน มีทางขึ้นลงนับไม่ถ้วนและยากต่อการค้นหาทางเข้าออก
เพราะมีการพรางตาในหลายรูปแบบ
ทางขึ้นลงชาวเวียดกงขุดขึ้นแบบพอดีตัว เป็นช่อง สี่เหลียม ผืนผ้าเล็กๆ มีการสาธิต ลง อุโมงค์ แบบที่ใช้จริงช่วงสงครามด้วย
ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่า จะลงไปได้
เทคนิค คือ ต้องยกแขน ขึ้นเป็นแนวตรงกับลำตัว
เราได้ ลงไปลอดอุโมงค์กันด้วย แต่เป็นแบบที่ขุดหลุมทางลงกว้างขึ้นแล้ว
ต้นสน สนุกมากในการลอดอุโมงค์





บ่ายกลับเข้าตัวเมืองโฮจิมินห์ ไปกินข้าว ร้าน เฝอ 2000
เป็นร้านที่ บิล คลินตัน เคยมากินที่นี่

ที่อุโมงค์กู๋จี มีมันสำปะหลังต้ม จิ้มกับ น้ำตาลและ ถั่วลิสงให้กิน พอรองท้องไว้ก่อน จึงไมหิวมาก
กินข้าวเสร็จ บ่าย สาม ก็ไปที่สนามบินกันต่อเลย



เดินทาง เที่ยวบิน ที่ FD 3725 ออกจากโฮจิมินห์ 17.50 น. ไป ถึงกรุงเทพ ตรงเวลา 19.15 น.
แวะเอาของที่ duty free แล้วไปกินข้าวที่ จุ่มแซบ hut แล้วกลับบ้าน หมู




17 มี.ค. 2552 ( กรุงเทพ – เชียงราย )

วันนี้นอนตื่นสายได้ เพราะ จะบินกลับเชียงรายช่วงเย็น
11 โมง นั่ง taxi ไปดูหนัง กะว่าจะดู หนัง 3 มิติเสียหน่อย ไปถึงเมเจอร์รัชโยธิน ปรากฏ ว่า ไม่มี เลยดู เรื่อง Dragon Ball Evaluation แทน
ดูหนังเสร็จ ก็กินข้าวเที่ยงที่ ร้านอาหาร ญี่ปุ่น YAYOI By M.K.
ตอนเย็นกลับเชียงราย
18.30 น. เที่ยวบิน Tg 444 เดินทาง กรุงเทพ – เชียงราย
จบการเดินทาง


สรุป การเดินทาง

ข้อผิดพลาด
# แผนการท่องเที่ยว ควรอยู่ ที่ดาลัดต่อ แล้วค่อยนั่งเครื่องกลับมา เที่ยวเย็นแทน 
มา city tour ใน โฮจิมินห์ตอนเย็นก็ไม่ร้อนมาก 
แล้วเข้าโรงแรมทีหลังสุดเลย 
# ส่วน อุโมงค์กู๋จีนั้น เมื่อเที่ยวเสร็จก็ ไม่ควรเข้ามาในเมือง โฮจิมินห์
ให้เสียเวลากับรถติด 
อาจแวะกินข้าว ที่ห้างนอกเมืองใกล้สนามบินแทน จะดีกว่า

ข้อชมเชย
# โรงแรมที่ บ.ทัวร์ เลือกให้อยู่กลางใจเมือง เดินทางไป ตลาดได้ง่าย สะดวกดี
# อาหาร การกิน แต่ละมื้อ มากมายล้นโต๊ะ จนกินไม่หมด และ หลากหลาย ไม่ซ้ำซ้อน
# รถนำเที่ยว รถตู้ Benz กว้างขวาง นั่งสบาย ไปกัน 3 คน นั่งกัน แถวละ คน 
# ไกด์ พูดไทยชัด และพยายาม ช่วยให้เรา ได้เห็นสิ่งในที่อยากไป ได้ลองกินในสิ่งที่อยากกิน 

ราคาทัวร์ ก็ จะเป็น 13600 บาท/คน
ราคาไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพ-โฮจิมินห์
ค่าตั๋วอีก คนละ 4000 บาท

trip เวียดนามเหนือ




 

Create Date : 20 เมษายน 2552
7 comments
Last Update : 29 กันยายน 2560 14:41:24 น.
Counter : 3354 Pageviews.

 

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะค่ะ

 

โดย: Hanlanlaa 20 เมษายน 2552 19:38:27 น.  

 

กำลังหาข้อมูลไปเที่ยวเดือนหน้าค่ะ

เป็นประโยชน์มาก ๆ เลย

ขอเดินทางตามรอยทริปนี้เลยนะค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมาก ๆ เลยค่ะ

 

โดย: meez IP: 125.27.52.167 25 มิถุนายน 2552 23:06:43 น.  

 

สวัสดีค่ะ
วันที่ 3 สิงหานี้ ต้องไปเวียดนามค่ะ อยากรบกวนถามเรื่องท่องเที่ยวที่เวียดนาม รบกวนขออีเมล์ได้ไหมคะ
ตั้งโต๊ะ (tungtoh@yahoo.com)

 

โดย: ตั้งโต๊ะ IP: 124.121.36.84 24 กรกฎาคม 2552 1:43:32 น.  

 

เธฃเธšเธเธงเธ™เธ‚เธญเธ‚เน‰เธญเธกเธนเธฅเธ‚เธญเธ‡เธšเธฃเธดเธฉเธฑเธ—เธ—เธฑเธงเธฃเนŒเธ—เธตเนˆเธ‹เธทเน‰เธญเน„เธ”เน‰เน„เธซเธกเธ„เธฐ เธเธณเธฅเธฑเธ‡เธˆเธฐเน„เธ›เธญเธขเธนเนˆเธžเธญเธ”เธต เธขเธฑเธ‡เน„เธ‡เธชเนˆเธ‡เธฃเธฒเธขเธฅเธฐเน€เธญเธตเธขเธ”เธกเธฒเธ—เธตเนˆ amiko69@hotmail.com เธ™เธฐเธ„เธฐ เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธฅเนˆเธงเธ‡เธซเธ™เน‰เธฒเธ„เนˆเธฐ

 

โดย: เธšเธต IP: 202.176.88.242 17 สิงหาคม 2552 14:09:34 น.  

 

ขอข้อมูลของทัวร์ที่ซื้อไปหน่อยคะ กรุณาส่งเมล์มาที่ amiko69@hotmail.com นะคะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: บี IP: 202.176.88.242 17 สิงหาคม 2552 14:11:04 น.  

 

ไม่รู้ว่าตอบช้าไปหรือเปล่า
ทัวร์ที่ซื้อไป คือ นักเดินทางดอทคอมค่ะ

 

โดย: me-o 5 กันยายน 2552 16:32:09 น.  

 

อยุ่ชร เหมือนกันเลย

 

โดย: เด็กดอย IP: 114.128.106.46 25 พฤษภาคม 2553 18:36:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


me-o
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีค่ะ

me-o เป็นคนรักแมวค่ะ
เคยเลี้ยงไว้ มากสุด12 ตัว
ปี 2563 เหลือ 4 ตัว
เลี้ยงมาพร้อมกับลูกชายวัย 19 ปี
มีลูกคนเดียว กลัวไม่เหนื่อย เลยมีแมวเยอะ555
แมวเลี้ยงมาก่อนมีลูกชาย
ปี 2559 แมวที่เลี้ยงมาเริ่มหดหาย เป็นลิวคีเมีย

ปี 2560 บ้านมีสมาชิกใหม่ บีเกิ้ล 1 ตัว
ประตูบ้านพังไป 3 บาน และอื่นๆที่นับไม่ถ้วน

ชอบท่องเที่ยว ไปที่ต่างๆ
แล้วแต่เวลาจะอำนวย

สนใจการถ่ายรูป
รูปที่ลงในBlogจะถ่ายเอง
ใช้กล้อง โอลิมปัส E-410 ---> omd em5
คาดหวังไว้ว่า
รูปถ่ายจะสวยสุดยอดสักวัน
แต่ รูปจะสวยสุดยอด ต้องอาศัยการแต่งรูปช่วยเท่านั้น
ยังต้องเรียนรู้จะฝึกฝน เรื่อง โฟโต้ช้อป อีกเยอะ
แต่ผ่านมาหลายปีก็ยังแต่งรูปไม่เป็นสักที

ปี 2556 เปลี่ยนมาใช้
กล้อง โอลิมปัส OM-D E-M5
เพราะ E-410 เริ่มพัง สายแพที่เลนส์ขาด
ซ่อมแล้ว ก็ยังใช้งานไม่ปกติ

OM-D E-M5 เข้ามาเป็นกล้องตัวเก่ง เที่ยวไปทั่ว แทนที่

กลาง ปี 2556 เริ่มทำ blog เรื่องความงาม
เขียนเล่าประสบการณ์
ในส่วนนี้ รูปที่ถ่ายในสถานที่เสริมความงาม
จะเป็นกล้องจากแทปเล็ท ซัมซุง note8
ก็รู้ว่าไม่ถนัดเรื่องด้านนี้ เพราะ...
ข้อมูลประกอบเป็นเหตุผลและอารมณ์เยอะเกิน
เลยเลิกทำ

ธ.ค. 60 เริ่มลง blog ร้านอาหาร
รูปใน blog จะใช้มือถือ oppo f1 ---> oppo f11 pro
เพราะง่ายในการใช้งาน
ทีแรกตั้งใจจะไม่ทำส่วนนี้
แต่เห็นคนนอก พื้นที่ ยังทำเยอะกว่าคนที่กินประจำอีก
อยากแนะนำร้านดี อร่อยคุ้มราคาบ้าง

การนำรูปไปใช้ ในwebอื่นๆ
ให้แปะ link ได้นะคะ
ไม่อนุญาตให้ เอารูปใน blog ไปใช้ในweb อื่นๆ

ไม่อนุญาต ให้เอารูปใน blog
ไปตีพิมพ์ในหนังสือ หรือ นำไปทำแผนที่ หรือ ทำ ใบปลิวโฆษณา

สวัสดีค่ะ ยังเขียนblogอยู่ แต่นานๆมาที คิดถึง BlogGang

New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add me-o's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.