Bloggang.com : McMurphy : Lars and the Real Girl (2007) หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม กับสาวเทียมรักแท้

Lars and the Real Girl (2007) หนุ่มเจี๋ยมเจี้ยม กับสาวเทียมรักแท้

แนว ชีวิต ตลก

นี่เป็นหนังวิจารณ์เรื่องแรกของผม(ใน Blog นี้) นะครับ ซึ่งถ้าประโยคหรือคำใดดูวกวนหรือแปลกๆไปก็ต้องขออภัยด้วยครับ

มาว่ากับที่ตัวหนังนะครับ เป็นเรื่องของชายหนุ่มชื่อลาร์ส (Ryan Gosling) ที่เป็นคนดูเงียบๆและหวาดกลัวโรคภายนอก จน คาริน (Emily Mortimer) กับ กัส (Paul Schneider) พี่สะใภ้กับพี่ชายเขาเริ่มเป็นห่วงในอาการของเขา จนกระทั่งหลายเดือนต่อมา ลาร์ส ได้สั่งตุ๊กตายางจากอินเทอร์เน็ตมาตัวหนึ่ง ซึ่งลาร์สบอกกับพี่ของเขาว่าเป็นแฟนใหม่มาจากเมืองอื่นชื่อ บิอังก้า และเขาปฏิบัติต่อบิอังก้าเหมือนกับเป็นแฟนที่มีตัวตนจริงๆของเขา ทำให้คารินและกัสต้องทำตัวเหมือนว่าบิอังก้านั้นมีตัวตนจริงๆ และคิดว่าลาร์สเป็นบ้าไป คราวนี้คารินกับกัสจะทำอย่างไรต่อไป คงต้องไปหามาดูเอาเองครับ

ตัวหนังนั้นได้ผู้กำกับหนังโฆษณามากว่า 16 ปี อย่าง Craig Gillespie มากำกับ ส่วนบทนั้นก็ตกเป็นของ Nancy Oliver ที่เคยมีผลงานเป็นซีรีย์ดราม่าอย่าง Six Feet Under มาก่อน และหลังจากเรื่องนี้เข้าฉาย เธอก็ยังได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาบทดั้งเดิมอีกด้วย ส่วนเรื่องนักแสดงนั้นก็คงไม่ต้องห่วงเพราะได้ระดับ Ryan Gosling ที่สำหรับเรื่องนี้การแสดงของพี่แกถือเป็นหัวใจหลักของเรื่องเลยที่เดียว และเล่นได้ตีบทแตกด้วย

เนื่องจากก่อนดูผมดูจากหน้าหนัง พร้อมเรื่องย่อ และคำวิจารณ์ รวมถึงรางวัลที่ได้มา ทำให้ผมคิดว่าจะต้องเป็นหนังอินดี้ที่แปลกประหลาดมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งคงจะออกมาแนวฮาแบบไม่ยั้ง หรือว่า แนวดราม่าเข้มข้น เพี้ยนสุดๆ หรือว่ามีบทสรุปที่คาดไม่ถึงจนทำให้คนต้องเอ่ยปากชมว่า “เยี่ยม” ได้

ซึ่งในระหว่างดูก็คิดว่า “หนังมันไม่ใช่ตามทิ่คิดเลยนี่หว่า” ซึ่งหมายความว่าหนังออกมาในอีกแบบที่ผมไม่ได้นึกไว้ และทำออกมาได้ดีกว่าที่ผมคิดด้วย

หนังทำออกมาได้ดีครับ ผมชอบบรรยากาศของมันนะ มีหิมะอยู่ตามพื้น และมีบ้านหลังเล็กอยู่แถบชนบท (หนังถ่ายเสร็จเพียงแค่เดือนเดียว) โดยเล่าเรื่องถึงชีวิตของลาร์สและคนรอบข้างของเขาเมื่อมีบิอังก้าเข้ามาอยู่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสังคมด้วย ผมชอบตรงการเล่นประเด็นของมันในเรื่องของความรักนี่แหละครับ และการตัดสินใจของคาริน รวมถึงการตัดสินใจของของชาวเมืองในการรับมือกับบิอังก้า เพราะมันยากที่จะทำให้คนอื่นคิดว่า บิอังก้านั้นมีความนึกคิด และมีความรู้สึกอยู่จริงๆ

ต่อไปนี้คือเขตสปอยนะครับ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ดูจะเสียอรรถรสมากเลยทีเดียว

ลาร์สเป็นหนุ่งที่มีความขี้อายมากๆ ซึ่งเมื่อญาติๆของเขาเป็นห่วง และเริ่มที่จะให้เขาออกมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนอกบ้าน (นอกจากการไปโบสถ์ทุกสัปดาห์) โดยเริ่มจากการพามากินข้าว แต่ลาร์สก็ไม่ยอมออกไปไหน

หนังตัดมาให้เห็นถึงชีวิตที่ทำงานของลาร์สที่มีพนักงานหญิงเข้ามาทำงานใหม่ และมีท่าทีว่าจะสนใจลาร์ส แต่ลาร์ส กลับแค่มองผ่านๆเธอเท่านั้น พอผ่านไปหลายเดือน ลาร์สบอกกับญาติๆของเขาว่าเขาพาแฟนมา และฝากให้เธอมาอยู่ด้วย ซึ่งคารินกับกัสก็ดีใจนึกว่าลาร์สเริ่มเปิดใจยอมรับคนอื่นเข้ามาในชีวิตแล้ว แต่ปรากฏว่ากลับกลายเป็นตุ๊กตายางที่ไร้ความรู้สึก และไร้ชีวิตจิตใจเท่านั้น

จะเห็นได้ว่า ลาร์ส นั้นชอบที่จะรักสิ่งที่ไม่มีชีวิต เหมือนกับคำพูดหนึ่งที่พูดถึงดอกไม้ปลอมกับบิอังก้าว่า “มันไม่ใช่ดอกไม้จริงหรอก แต่มันก็ดีแล้ว เพราะจะได้ไม่มีวันตายไปจากเรา“ นั่นหมายความว่าที่เขาเลือกที่จะรักบิอังก้า เพราะบิอังก้านั้นไม่มีความรู้สึกใดๆ ดังนั้นจึงไม่มีวันตายจากไปจากลาร์สได้

แต่สิ่งที่ลาร์สลืมนึกไปก็คือความรักนั้นไม่ได้เป็นความเข้าใจของคนเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องมาจากความรักของสองฝ่าย ดังนั้น เมื่อลาร์สโกรธบิอังก้าที่ทำอะไรโดยไม่บอกเขาก่อน ก็เหมือนกับการที่คนเราคอยด่าว่าอีกฝ่ายว่าทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาก่อน โดยไม่ได้นึกถึงว่าอีกฝ่ายก็มีความรู้สึกเหมือนกัน ถึงแม้ลาร์สจะรักบิอังก้าก็จริง แต่ความรักนั้นต้องการความเข้าใจกัน ก็เหมือนกับที่คนเรานั้นเลือกที่จะไม่ฟังอีกฝ่ายด้วยเหตุผล แถมยังกลับว่าอีกฝ่ายทั้งๆที่เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย

พอลาร์สเริ่มบอกว่าบิอังก้าป่วย นั่นหมายความว่าลาร์สเริ่มที่จะถอนเครื่องปิดบังทางใจในการสร้างสัมพันธไมตรีกับผู้คนรอบข้าง และเริ่มเปิดกว้างรอบผู้คนเข้ามามากขึ้น และพอบิอังก้าตายไปจากชีวิตของลาร์ส นั่นก็หมายถึงเขาเริ่มเปิดใจรับผู้หญิงที่มีตัวตนจริงๆที่พร้อมจะให้ความรักแก่เขาสักคนแล้ว เพราะเขาคิดได้ว่า ถึงแม้ร่างกายจะตายไป แต่ความรักนั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่มีวันตายไปกับเราด้วย

หมดเขตสปอยครับ

ที่ผมชอบก็คือ ประเด็นหลักของเรื่องนี้ ไม่ได้ตั้งใจแค่เป็นหนังตลกๆที่มี Plot เรื่องแปลกๆอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังบอกถึงวิธีการที่จะรักใครสักคน และวิธีการรับมือในสิ่งต่างๆโดยไม่ด่วนสรุป และยอมรับลาร์สมากขึ้นแทนที่จะรังเกียจหรือต่อต้าน

อีกอย่างคือ หนังดูจะเสียดสีครอบครัวของชาวอเมริกันนะครับ ที่เป็นญาติกันแต่กลับอยู่คนละบ้าน โดยพี่สะใภ้ของลาร์สก็กลัวลาร์สจะน้อยใจจึงชวนลาร์สมาบ้านอยู่บ่อยๆ แต่กลับกลายเป็นว่าลาร์สคิดว่าพี่สะใภ้ของเขานั้นไม่ปกติไป

สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่มองหาหนังเรื่อยๆบรรยากาศอบอุ่น ไม่ได้เน้นความฮามากมาย และดูจบแล้วมีแง่คิดในเรื่องเกี่ยวกับความรักอีก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

เกือบๆสี่ดาวครับ

.75

------------------------------------------------------

เกณฑ์การให้คะแนนผมจะเป็นดังนี้ครับ

ต่ำกว่า 2 ดาว คือ หนังควรปรับปรุงครับ (

) และไม่ค่อยมีอะไรให้พูดถึงครับ

2 ดาว คือ หนังที่ธรรมดา อยู่ในระดับพอใช้ หรืออาจจะเป็นหนังที่มีคนชอบเฉพาะกลุ่มบางกลุ่ม

3 ดาว คือ เืกือบๆดีครับ เพียงแต่ยังขาดอะไรไป ไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมสักเท่าไหร่ครับ

4 ดาว คือ ยอดเยี่ยมครับ ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่างของหนัง และอย่าพลาดเด็ดขาดครับ

5 ดาว คือ สุดยอดครับ สำหรับผมคือได้ทั้งความสนุกและสาระนะครับ อยู่ในขั้นแนะนำสุดๆครับ คือว่าถ้าหนังเข้ามาในเกณฑ์นี้ล่ะก็ถือว่าสุดๆครับ พลาดไม่ได้เลยครับ

ซึ่งในแต่ละดาวก็จะมีแยกย่อยไปอีกนะครับว่ามี .25 .50 หรือ .75

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2551

Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2554 15:31:15 น.

10 comments

Counter : 5066 Pageviews.

ผมยังไม่ได้ดูเลยนะสิ เลยไม่รู้จะบอกว่าไงดี
แต่ผมชอบนางเอกเรื่องนี้นะ Emily Mortimer นะ เล่นเกงหลายเรื่องอยู่

โดย: jaycena IP: 58.9.111.36 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:49:57 น.

แวะมาทักทายค่ะ เติมกำลังใจให้กันในวันที่อากาศหนาวๆคะ ดูแลสุขภาพด้วยจ๊ะ

โดย: นู๋หญิงจ๋า

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:22:04 น.

ชื่อนู๋หญิง ค่ะ

โดย: นู๋หญิงจ๋า

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:38:53 น.

+ โอ้! น้องคริส ครบ 15 แล้วรึนี่? แสดงว่าเพิ่งผ่านวันเกิดไปเมื่อไม่กี่วันนี้เองจิครับ HBD ย้อนหลังนะคร้าบผม มีฟามสุขมากๆ (ก่อนจะต้องถึกกับการอ่านหนังสือสอบต่อ) นะคร้าบ

+ ก็ได้มีบล็อกเป็นของตัวเองซะที ยินดีด้วย จะได้เป็นเพื่อนบล็อกกันต่อไป ... ว่าแต่แต่งบล็อกเก่งเหมือนกันนะครับเนี่ย จนป่านนี้พี่ยังแต่งบล็อกไม่เป็นเลยอ่า อายนะเนี่ย กรั่กๆ

+ ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน พี่ยังจะนึกว่าเป็นบล็อกผู้สูงอายุซะอีกนะครับ ... ก็ดันเชี่ยวเรื่องหนังเก่า กับเพลงเก่าๆ แถมหัวบล็อกกับรูปโพรไฟล์ยังเป็นลุงแจ๊คซะอีกอ่ะน่อ

+ ว้ากกกก Lars อยากดูมากมาย ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยครับ

+ พี่เคลียร์งานยังไม่เสร็จเลยเน้อ พอดีเห็น เลยรีบมาเจิมให้ก่อน เด๋วจะมาอ่านรายละเอียดแล้วเม้นต์ให้เพิ่มเติม กับย้อนไปอ่านหน้าแรก หน้าที่แล้วด้วยนะคร้าบผม

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:49:30 น.

+ อ้อ! ลืมบอก ถ้าเป็น friend's blog ที่เป็น 'คัมภีร์ภาพยนตร์' ที่พี่แอ๊ดไว้ก็มีหลายคนทีเดียว แต่ถ้าจะเริ่มต้นด้วย คุณหมอ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ก็น่าสนใจที่จะแอ๊ดทีเดียวนะครับ

เค้าเป็นคนชวนพี่กับน้องหมื่นไปเขียนที่เว็บยาริสเองแหละ แล้วก็เป็น "บล็อกอันดับ 1 ที่ฮิตที่สุดด้านภาพยนตร์" ของ bloggang อีกด้วย (แต่ช่วงหลังเห็นว่าไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้อัพหนังเท่าไหร่) ก็จะแอ๊ดไว้ก็ไม่เสียหลายอ่ะครับผม
... ส่วนท่านอื่นๆ บางคนก็เชี่ยวหนังตลาด บางคนก็เป็นคอหนังอินดี้ต่างๆ กันไป ไว้ค่อยแนะนำเพิ่มเติมวันหน้าแล้วกันน้า

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:58:23 น.

+ แว้ก! พี่ปล่อยไก่ตัวบักเป้ง ... จำได้ล่ะว่าเคยเห็นชื่อ "คริส" ไปปล่อยเม้นต์ไว้ที่บล็อกคุณหมอผมฯ ด้วย ยังสงสัยเลยว่าจะใช่คนเดียวกันรึเปล่า ยังงี้ก็แสดงว่าชื่อคุณหมอเค้า คืออันที่ แบล๊งค์ อยู่นั่นเอง ใช่ป่าวคับ?

(ทำไมแอ๊ดมะได้หวา เง็งๆ)

+ โอ้โห! เพิ่งรู้นะครับว่าน้องคริส นอกจากจะชอบอะไรโบๆ (อิๆ

) แถมยัง 'แก่ธรรมะ' อีกต่างหาก ยังงี้ไม่โดนเพื่อนล้อเหรอครับเนี่ย (ล้อเล่นน้า จริงๆ เป็นเรื่องดีออก พี่ไม่ค่อยเห็นวัยรุ่นยุคนี้สนใจหรือเข้าใจธรรมะกันเท่าไหร่อ่า

)

+ สอบธรรมศึกษาชั้นตรี?!? ... เอ! เหมือนจะไปบวชเรียนเลยแฮะครับ อุๆ

... วันพรุ่งนี้ขึ้นหน้าใหม่ งั้นพี่ก็จะอ่านหน้านี้วันนี้แล้วล่ะครับ
+ สำหรับบทวิจารณ์หนังเรื่องแรกประจำบล็อกนี้ ถือว่าเลือกหนังได้เจ๋ง และก็วิจารณ์ได้ดีทีเดียวนะครับ มีการจัด Spoiler zone ไว้ให้ด้วยอีกต่างหาก (ซึ่งพี่ก็จำต้องอ่านข้ามไป เพราะยังไม่ได้ดูเรื่องนี้เช่นกัน) ... เป็นกำลังใจให้ สำหรับผลงานชิ้นต่อๆ ไปครับผม

+ เรื่องดาว ไม่ต้องกังวลว่าจะเหมือนหรือต่างกับน้องหมื่นเยอะหรอกครับ เพราะอย่างพวกพี่ 5-6 คนที่เขียนกันในยาริส บางเรื่องยังเห็นต่างกันตั้งเยอะ คงเป็นเพราะประสบการณ์ที่แต่ละคนมี หรือความชอบของหนังแต่ละแบบ ของปัจเจกบุคคล มันแตกต่างกันนั่นเอง

+ เด๋วไปอ่านหน้าที่แล้วต่อให้จ้า

โดย: บลูยอชท์

วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:38:13 น.

ปล. ไว้สายๆ แวะมาใหม่นะค่ะ

โดย: นู๋หญิงจ๋า

วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:35:29 น.

หวัดดีครับผมน้องคริส ดีใจด้วยสำหรับรีวิวแรก เขียนอ่านเพลินชอบๆ

เป็นการเขียนที่เต็มอิ่มดีนะพี่ว่า

ส่วนการให้ดาวก็อย่างที่พี่บลูยอชท์บอกนั่นแหละครับ ตามสบายอยู่แล้ว แล้วแต่คนน่ะเน้อะ ชอบเหมือนชอบต่างกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ขอให้เป็นคนรักหนังเหมือนกัน พูดภาษาฟิล์มเหมือนกัน ก็โอเคแล้วล่ะครับ

จริงๆ พี่แอบอิจฉาน้องคริสนะครับ ที่ใจกว้างเรื่องดาว เพราะพี่เนี่ยชอบโดนเพื่อนบ่นว่าจะงกดาวไปไหน ฮ่าๆๆๆ

แต่ก็เน้อะ ติดมาจากการให้ดาวของอาตีตั๋วอีกที เลยให้ดาวโหดๆ แบบนี้ แต่ดีแล้วครับน้องคริสให้ดาวใจดีแบบนี้ดีออก

แล้วจะอ่านรีวิวต่อไปครับ ส่วนเรื่องนี้... อยากดูแฮะ

เขียนซะน่าดูเชียวนะน้องคริส อิอิ

โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!!

) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:58:50 น.

เยี่ยมครับ เป็นรีวิวที่อ่านแล้วชัดมากๆ แสดงให้เห็นว่าความคิดความอ่าน มันไม่เกี่ยวกับวัยวุฒิจริงๆ

เขียนเรื่อยๆน่ะ

โดย: BloodyMonday

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:51:56 น.

ผมว่าหนังเหมือนจะล้อๆ คนสแกนดิเนเวียนิดหน่อยครับ (ดูจากการตั้งชื่อตัวละคร) เพราะมักจะเป็นที่รู้กันว่าประเทศแถบนั้น... เอ่อ... free sex (ฮาาา)

ตอนดูก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่้าหนังจะมาแนวนี้ แถมทำได้ "ถึง" ด้วยสิ

โดย: nanoguy IP: 125.24.116.22 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:17:28 น.