สัปดาห์นี้ว่านรางเงินให้ดอก เก็บภาพมาลงวันอังคารสีชมพู   รางเงินชอบที่ร่มรำไร ชอบน้ำและดินระบายน้ำได้ดี   เพิ่งทราบข้อมูลวันนี้เหมือนกัน  แต่เดิมคิดว่ารางเงินเป็นกลุ่มว่านสี่ทิศน่าจะชอบแดดจัดเหมือนว่านสี่ทิศ    ที่ผ่านมากระถางใหญ่ๆจับตากแดดไว้หลายกระถางไม่เคยได้ดอก    กระถางเล็กนี้แอบให้ดอกมาเรื่อย  คงเพราะไม่ร้อนจัดนี่เองค่ะ    รางเงินแตกหัวง่ายเลี้ยงไม่นานให้หัวเต็มกระถางทั้งที่ยังไม่ให้ดอก  (ปกติต้นไม้อื่นจะให้ต้นลูกก็หลังจากออกดอก  แต่รางเงินให้หัวใหม่มาเรื่อยๆทั้งที่ไม่มีดอกค่ะ)

ช่อดอกเติบโตใช้เวลาไม่นาน   หลังจากช่อดอกเริ่มโผล่ให้เห็น   ประมาณ เจ็ดวันจะเห็นดอกบาน

ว่านรางเงิน มีความคล้ายคลึงกับ รางนาค และรางทอง แตกต่างที่สีดอกและลักษณะใบ 

 ว่านรางเงิน มีอนุภาพทางด้านเมตตามหานิยม และโชคลาภ รวมทั้งเป็นยารักษาโรคที่มีการบันทึกไว้ในตำรายาโบราณว่าสามารถที่จะรักษาฝีได้เกือบทุกชนิด

ลักษณะของว่านรางเงินนั้นจะมีลักษณะใบสั้นและแข็งตลอดใบ ปลายใบมนหน้าและหลังใบมีสีเขียวเข้ม กระดูกกลางใบมีเส้นขาวเป็นแถบใหญ่พาดแต่โคนถึงปลายมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลำต้นจะฝังอยู่ในดิน ซึ่งจะมีหัวว่าน หัวว่านจะมีลักษณะคล้ายกับหอมหัวใหญ่ แต่มีกาบหนากว่า ลักษณะของช่อดอกแบบช่อซี่ร่มโดยมีก้านดอกยาวชูดอกขึ้นเหนือต้นอย่างสง่างาม ก้านดอกนี้กลมและแข็งแรงมีสีเขียวดอกเหมือนดอกว่านสี่ทิศ เป็นสีขาวแกมชมพู แสดอ่อนๆ มีอยู่ 6 กลีบด้วยกัน ช่อหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 4 ดอก รูปดอกเป็นรูปทรงกรวย 

ขอลงความคิดเห็น คุณตาเชย  ในห้องจตุจักรจัดเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องว่านท่านหนึ่ง

ความคิดเห็นที่ 7

"จำได้ว่าเคยตอบอย่างละเอียดไปครั้งแต่ก็นานแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นปี 51 หรือต้นปี 52 ขี้เกียจหากระทู้เก่าตอบให้ใหม่ซะเลย

ไม้ ชุดนี้จะหาคนที่รู้ลึกรู้จริงและรู้ละเอียดแบบตาเชยน่ะยากส์ส์ส์.. ขอบอก (นั่น..นั่น ลองอ่านให้จบก่อนแล้วค่อยว่าตาเชยคุยโม้ อิอิ)

- ตามตำหรับกบิลว่านของแท้แต่โบราณท่านจารึกว่านในชุดนี้ไว้เพียงสองชื่อคือ "ว่านรางเงิน" กับ "ว่านทางเงิน" ตาเชยตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าว่านทั้งสองชื่อก็คือชนิดเดียวกันนั่นเอง เพียงแต่มาจากตำราคนละเล่มจึงเรียกชื่อต่างกันไป ซึ่งว่านทั้งสองชื่อนี้ก็คือ "ว่านรางเงิน" ต้นที่เราเรียกและเล่นหากันอยู่ในปัจจุบันนี้นั่นเอง

- รางนาค น่าจะเข้ามาในช่วงปี พ.ศ. 2516 - 2420 นี่เองจึงไม่มีบันทึกอยู่ในตำราว่านรุ่นเก่าเล่มใดเลย ช่วงระยะที่กำลังบ้าว่านกัน(พ.ศ.2520 - 2525) รางนาคจึงมีราคาแพงมาก(นับใบขายใบละ 500 บาท) เพราะหายากและใบสวยดอกสวย คือใบจะไม่ยาวมากออกลักษณะกว้างป้อมหน้าใบสีเขียวเข้มตัดกับทางขาวขนาดกว้าง เห็นเด่นชัด ใต้ใบสีเม็ดมะปรางงามมาก ดอกมีลายตาข่ายสวยและสีเข้มกว่าว่านรางเงินอย่างเห็นได้ชัด รางนาคในปัจจุบันมีอยู่ 2 ต้นตือต้นใบสั้นกับต้นใบยาว แต่ผู้ที่ไม่คุ้นเคยจะดูไม่ออกเพราะคล้ายกันมากจริงๆ

- นิสัยของคนไทยอย่างหนึ่งคือชอบเล่นไม้เป็นชุด พอมีรางเงิน รางนาค แล้วก็อยากจะหารางทองมาเข้าชุดกันอีก บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็เลยต้องนำเข้าไม้ที่มีลักษณะใบใกล้เคียงกันและด่างสี เหลือง(รางทองต้นใบด่างหรือสี่ทิศด่าง)มาตั้งชื่อเป็นรางทองเพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้ซื้อ ก็ขายดิบขายดีอยู่พักหนึ่งแต่พอไม้ต้นนี้ออกดอกพวกคนที่ซื้อไปต่างก็รู้ว่า มันไม่ใช่เพราะดอกมันไปเหมือนพวกพลับพลึงตีนเป็ดไปโน่น พอดีมีคนหัวดีนำเอาดอกว่านรางเงินไปผสมเกสรกับดอกว่านสี่ทิศสีแดง โดยใช้สี่ทิศเป็นพ่อรางเงินเป็นแม่จึงได้เมล็ดออกมา 3 เมล็ด(ถ้าใช้สี่ทิศเป็นแม่จะได้เมล็ดเกือยร้อยแต่เพาะแล้วต้นใหม่ใบมักไม่มี ทางขาว) เพาะขึ้นมา 3 ต้นแต่เน่าตายไป 1 ต้น ได้ใบมีทางขาว 1 ต้นกับใบเขียวหมดอีก 1 ต้น นำต้นที่ใบมีทางขาวนั้นไปขยายพันธุ์แล้วออกวางขายเป็นรางทองต้นแท้ แต่กว่าไม้ต้นนี้จะออกมาขายได้ก็เป็นช่วงปลายของการเล่นว่านแล้วจึงไม่ค่อย มีใครรู้จักและได้เงินไปไม่เท่าไหร่เอง เนื่องจากรางทองต้นนี้เป็นลูกผสมใบจึงมีทางขาวอมเหลืองเป็นเส้นเล็กๆ เท่านั้น ใบก็จะมีลักษณะแคบยาวแบบใบสี่ทิศ หลังใบช่วงโคนใบจะมีสีแดงๆ แบบใบสี่ทิศแดงด้วย ดอกก็จะมีสีแดงเข้มกว่ารางเงินและรางนาคเพราะไปผสมกับสี่ทิศสีแดงมาแต่ยังคง มีทางขาวกลางกลีบและมีลายตาข่ายอยู่

สรุปว่ารางเงินนั้นเป็นว่านแท้ แน่นอน ส่วนนอกนั้นไม่ว่าจะเป็นรางนาค รางทองต้นใบด่าง หรือรางทองต้นลูกผสม ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ว่านทั้งนั้น จะเป็นได้อย่างเก่งก็แค่ "ว่านกูตั้งเอง" เท่านั้น อิอิ

จากคุณ : ตาเชย
เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 16:49:17 "

มหาหงส์ให้ดอกแล้วอย่าเพิ่งรีบตัดช่อดอก  ถ้าช่อดอกสมบูรณ์ให้ดอกได้หลายครั้ง

ช่อเดียวกันผ่านไป สิบวัน ยังมีดอกใหม่สวยงาม

หลักฐานดอกเก่าที่ร่วงโรยอยู่ข้างดอกใหม่  ตัดแต่งดึงทิ้งก็สวยงามเหมือนช่อใหม่

ขอให้มีความสุขในการรับชม 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 18:54:25 น.		1 comments
Counter : 2365 Pageviews.
Share Tweet