|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
12 กค 64 ตะพาบ 281- รังแก
เกริ่นตามประสา ตะพาบ ว่า กว่าจะคิดได้เรื่อง "รังแก" คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ทั้งที่เกาะติดโซเชียลอยู่ทั้งวัน แต่เดิมที่คิดไม่ออก แต่ก็มาคิดได้ไม่นานมานี้เองว่า อ้อ ถ้าจะมาไถถูลงตะพาบก็ต้องจัด แบบนี้ล่ะ เรียกว่า เข้าข่าย "รังแก" เพราะเห็นตำตาอยู่ทุกวัน
การทำร้าย การให้ร้าย แก่บุคคลใด ด้วย ความคิด คำพูด ข้อเขียน หรือ การกระทำ โดยไม่สืบค้นความจริง จัดว่าเป็นการรังแกเขาอย่างหนึ่ง จึงเห็นความคิดที่ถ่ายทอดออกมาเป็น การกระทำ ข้อเขียน คำพูด อันไม่ส่งเสริมสามัคคีและไม่สร้างสรรค์สังคมไปในทางดีงาม ทั้งที่ไม่เคยรู้จัก ไม่มีคนเชื่อถือได้ที่รู้จัก ไม่เคยได้พบตัวตนจริงไม่เคยได้พูดคุย ด้วยซ้ำว่าคนๆนั้นเป็นคนเช่นไร ดีเลวประการใด เพียงฟังจากที่โน่นทีนึง ที่นี่ทีนึง แล้วก็ปลุกปั่น ทำพูดเขียน สืบต่อๆกันมา ระลึกไปถึงคำสอนของพระพุทธองค์ "กาลามสูตร" ในสื่อสังคมโซเชียลยุคสงครามโรค ตื่นตระหนกหวาดผวาทุกวันนี้ จะมีใครตั้งใจสืบค้นข้อความถ้อยคำที่คนต่างเผยแพร่ออกมา เพราะมีมากมายเหลือเกิน เราจึงควรมีสติอยู่เสมอ ธรรมใดก็ไม่อาจน้อมนำเข้าสู่ใจ ถ้าเจ้าตัวไม่ปรารถนา ก่อนจะกระโจนเข้าไปเชื่อสิ่งใดอย่างที่สุด จนออกมาเป็นการคิด การพูดการเขียนการกระทำนั้น เราจึงควรใคร่ครวญอย่างมีสติ
ระลึกถึงพระเมตตาพระกรุณาธิคุณแล้วให้ซาบซึ้งใจเหลือเกิน แม้เวลาผ่านไปสองพันกว่าปี สัจจธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ยังเป็นประโยชน์แก่มนุษยชาติไม่เสื่อมคลาย ให้ได้พบความสุขในที่สุด ในท่ามกลางชีวิตของมนุษย์ที่เป็นทุกข์ ที่ใครก็จะเห็นหรือไม่เห็นจะรับทราบไม่รับทราบหรือไม่อยากรับทราบก็ดี ให้มนุษย์ได้อยู่กันด้วยการให้ความเป็นธรรมแก่กัน ให้มีชีวิตที่สุขสงบ ไม่ล่วงละเมิดล่วงเกินเบียดเบียนกันไม่ว่าด้วยความคิด คำพูดข้อเขียนหรือการกระทำ เมื่องดเว้นได้อย่างสมบูรณ์ ก็นับว่าสุขได้ระดับหนึ่งแล้ว กาลามสูตร ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่ 1.มา อนุสฺสวเนน - อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟัง ๆ ตามกันมาหรือเพียงใครพูดให้ฟัง2.มา ปรมฺปราย - อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสืบ ๆ กันมาอย่างยาวนาน 3.มา อิติกิราย - อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลือหรือคนส่วนใหญ่เชื่อกัน 4.มา ปิฏกสมฺปทาเนน - อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำราหรือมีในคัมภีร์5.มา ตกฺกเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อเพราะตรรกะ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล6.มา นยเหตุ - อย่าปลงใจเชื่อเพราะการอนุมาน (คาดคะเน) และการเอาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาปะติดปะต่อกัน7.มา อาการปริวิตกฺเกน - อย่าปลงใจเชื่อเพราะการเห็นด้วยตา หรือตามลักษณะอาการที่แสดงออกมาน่าจะเป็นไปได้ 8.มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา - อย่าปลงใจเชื่อเพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีหรือทิฏฐิของตนหรือตามอคติในใจ 9.มา ภพฺพรูปตา - อย่าปลงใจเชื่อเพราะผู้พูดน่าเชื่อถือ หรือเป็นองค์ที่น่าเชื่อถือ หรือเพราะเป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง 10.มา สมโณ โน ครูติ - อย่าปลงใจเชื่อเพราะเคารพนับถือว่าคนพูดเป็นสมณะผู้นำทางจิตวิญญาณของเรา เป็นครูของเรา เป็นศาสดาของเรา - "ดูก่อนชาวกาลามะทั้งหลาย อริยสาวกในศาสนานี้ มีเมตตาจิต ไม่โกรธ ไม่พยาบาทใคร แผ่เมตตา ไปทิศเบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องต่ำ เบื้องสูง เบื้องขวาง ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ไม่มีเวร ไม่มีภัย การแผ่เมตตา อย่างนี้มีโทษหรือไม่มีโทษ"
- ในที่สุด พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ถ้าเราทำดีโดยการมีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาแล้ว เราจะมี ความอุ่นใจถึง 4 อย่าง ซึ่งคนทำชั่วนั้นจะไม่มีความอุ่นใจดังกล่าวเลย
-
-
- 1. ถ้าหากว่าชาติหน้ามีจริง บาปบุญที่ทำไว้มีจริง ก็เมื่อเราทำแต่ดี ไม่ทำชั่ว เราจะชื่นใจว่าเราจะไป เกิดในสุคติโลกสวรรค์แน่นอน นี้เป็นความอุ่นใจข้อที่หนึ่ง
- 2. ถ้าหากว่าชาติหน้าไม่มีจริงบาปบุญที่คนทำไว้ไม่มีจริงก็เมื่อเราไม่ทำชั่ว ทำแต่ดีชาตินี้เราก็สุข แม้ชาติหน้าจะไม่มีก็ตามนี้เป็นความอุ่นใจข้อที่สอง
- 3. ถ้าหากว่าบาปที่คนทำไว้ ชื่อว่าเป็นอันทำ คือได้รับผลของบาป ก็เมื่อเราไม่ทำบาปแล้ว เราจะได้ รับผลของบาปที่ไหน นี้เป็นความอุ่นใจข้อที่สาม
- 4. ถ้าหากว่าบาปที่คนทำแล้วไม่ได้เป็นบาปอันใดเลยหรือไม่เป็นอันทำ ก็เมื่อเราไม่ได้ทำบาป เราก็ พิจารณาตนว่าบริสุทธิ์ทั้งสองส่วน คือ ส่วนที่เราไม่ได้ทำชั่ว และในส่วนที่เราทำดี เราก็มีความสุขในปัจจุบัน
-
Create Date : 12 กรกฎาคม 2564 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2564 19:46:58 น. |
|
12 comments
|
Counter : 785 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณThe Kop Civil, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณSweet_pills, คุณตะลีกีปัส, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 12 กรกฎาคม 2564 เวลา:20:57:04 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2564 เวลา:21:36:57 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:26:03 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:8:56:59 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:11:19:40 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:17:01:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:19:53:04 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 13 กรกฎาคม 2564 เวลา:20:11:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2564 เวลา:21:20:24 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 กรกฎาคม 2564 เวลา:22:25:59 น. |
|
|
|
|
|
|
Mcayenne94's Diary
มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม
ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด
อนุญาตให้นำภาพถ่าย
พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้
และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย
Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
|
|
|
|
|
|
|
จึงแก้ไขได้ตรงจุด
...
ข่าวสารระยะหลัง ถ้าเกี่ยวข้องกับเราและอาจจะกระทบ
ก็ค้นหาจากหลาย ๆ แหล่งแล้ววิเคราะห์ดูว่า จริงหรือไม่
แล้วค่อยแก้ไขหรือ เตรียมตัว
แต่ถ้าไม่กระทบเราหรือแวดล้อมมากนักก็ให้คนอื่นเขาคิด
แก้ไขน่าจะเหมาะกว่าครับคุณเย็น คือเต้าข่าวเยอะมากจน
เอียน