Group Blog
 
 
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
4 มค 55 วัดมณเฑียร

             เริ่มต้นปีใหม่  ประเดิมสิริมงคลของชีวิตด้วย สคส. พระราชทานค่ะ







         Smiley ปีใหม่ปีนี้เชียงใหม่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนและรถแทบไม่มีทางขยับไปไหน  อยากไปเวียนเทียนพระธาตุดอยสุเทพรถติดยาวหลายกิโล เปลี่ยนเป็นเข้าเมืองทำบุญไหว้พระในคูเมืองดีกว่าค่ะ ตั้งใจไปวัดเจดีย์หลวงเพื่อสักการะหุ่นขี้ผึ้งระลึกถึงองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน และวิหารหลวงปู่มั่น ระหว่างทางสะดุดตาความสวยงามของวัดหนึ่งตั้งอยู่ริมคูเมือง ขอแวะก่อนค่ะ Smiley






       "วัดมณเฑียร" หรือชื่อเดิม วัดราชมณเฑียร สร้างเมื่อ500 กว่าปีก่อน สมัยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ราชวงศ์เม็งรายองค์ที่ 9 ตรงยุคสมัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งอยุธยา ชือราชมณเฑียรได้จาก ทรงรื้อตำหนักราชมณเฑียรส่วนพระองค์ เพื่อถวายแก่พระมหาญาณคัมภีร์ พระสงฆ์องค์สำคัญของล้านนา ที่เดินทางไปลังกาเพื่อนำพุทธศาสนาจากลังกามาเผยแพร่ในแผ่นดินล้านนา


ภายในวัดมีพื้นที่ไม่มาก มีสิ่งก่อสร้างเกือบเต็มพื้นที่วัด  ที่โดดเด่นที่สุด  "วิหารลายคำ"  วิหารประดับปูนปั้นลวดลายแกะสลักแบบล้านนาประยุกต์สวยงามค่ะ 
 





พระพุทธรูปประธานในวิหารชั้นล่าง แกะสลักจากหินทราย ทรงเครื่องแบบล้านนา




ไม่มีความรู้ด้านศิลปะยุคสมัยต่างๆ พระประธานวิหารชั้นบน แต่งเครื่องทรงอลังการประดับเครื่องประดับแพรวพราว ท่านว่าเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องเต็มยศแบบล้านนา สวยงามแปลกตาค่ะ




เกือบเดินเลยออกจากวิหาร เหมือนมีแรงดึงดูด สายตามองเห็นห้องมืด พร้อมควันธูปตลบ ดูเหมือนมีมนต์ขลัง ภายในห้องประดิษฐานพระนอน รูปปั้นสุเทวฤาษีผู้สร้างดอยสุเทพ สมเด็จพุฒาจารย์โต และฤาษีอีกองค์ ปั้นเนียนละเอียดราวกับมีลมหายใจค่ะ






บริเวณภายนอกและภายใน วิหารลายคำ ประดับลวดลายแกะสลักปิดทอง สวยงาม ทั่วทั้งหลังค่ะ






ภาพเทวดาและนางฟ้า ภาพคุ้นเคย






รูปปั้นนางฟ้า หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก




ยักษ์เฝ้าบันไดทางขึ้น นั่งหลับด้วย ศิลปินอารมณ์ดีค่ะ


        "วัดมณเฑียร" ตั้งอยู่เลขที่ ๑๔๙ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๙๗๔         พระเจ้าติโลกราชและพระมหาเทวีทรงโปรดเกล้าให้รื้อพระตำหนักราชมณเฑียรส่วนพระองค์มาสร้างเป็นวัดเพื่อถวายพระมหาญาณคัมภีร์มหาเถระและคณะ พระองค์ทรงพระราชทานนามวัดนี้ว่า "วัดราชมณเฑียร" ดังข้อความที่ปรากฏในตำนานศาสนาตอนหนึ่งว่า "เมื่อพ.ศ.๑๙๗๔ เดือน ๗ ในปีนั้นชาวเมืองทั้งหลายพร้อมกันปลงศพ พระยาสามฝั่งแกน แล้วจึงอาราธนาเอาลูกท่าน ชื่อท้าวลกมากินเมืองเชียงใหม่ เดือน ๘ ออก ๕ ค่ำ เม็งวันอังคาร ได้ราชาภิเษกชื่อว่า อาทิตตราชดิลก หรือ ติโลกราช และท่านรู้ข่าวว่า พระมหาญาณคัมภีร์เถรเจ้า ไปเอาศาสนามารอด ท่านก็ยินดีมากนัก และพระยาอาทิตย์ และพระมหาเทวี จึงพร้อมกันให้รื้อหอราชมณเฑียรหลังเก่าไปสร้างที่พระมหาเถรเจ้าจักอยู่ และได้ชื่อว่า “วัดราชมณเฑียร” ดังนี้แล"



        ในสมัยที่ราชวงศ์มังรายเรืองอำนาจ วัดราชมณเฑียรมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เนื่องจากเป็นวัดที่อยู่ในพระราชูปถัมภ์ของพระมหากษัตริย์ และพระมหาญาณคัมภีร์ปฐมเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดมณเฑียรยังเป็นนักปราชญ์ผู้ทรงคุณธรรม เป็นที่เคารพนับถือและเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนชาวล้านนาในอดีต เพราะทรงทำนุบำรุงเผยแพร่ศาสนาพุทธจนรุ่งเรือง และแผ่ขยายไปถึงแคว้นนครเชียงตุง และเมืองสิบสองปันนา



          แต่ภายหลังอาณาจักรล้านนาล่มสลาย ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านานกว่า ๒๐๐๐ ปี วัดวาอารามในล้านนาถูกปล่อยให้รกร้าง ขาดการบูรณะซ่อมแซม จนอยู่ในสภาพทรุดโทรม กระทั่งเมื่อพระเจ้ากาวิละได้กอบกู้เอกราชของแคว้นล้านนาคืนมา วัดราชมณเฑียรและวาอารามที่สำคัญในเมืองเชียงใหม่จึงได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ จนกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง



   โบราณสถานที่สำคัญของวัดมณเฑียร มีวิหารลายคำ เป็นวิหาร ๒ ชั้น ทรงไทยล้านนา ประดับลวดลายปูนปั้น และลายคำแบบล้านนา จึงเป็นที่มาของชื่อ "วิหารลายคำวัดมณเฑียร" แต่วิหารหลังเดิมที่สร้างมานานกว่า ๕๗๙ ปี ชำรุดทรุดโทรม จึงได้รับการบูรณะ และสร้างวิหารหลังใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ จนแล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙



         รูปแบบของวิหารลายคำ ชั้นแรกใช้เป็นสถานที่ทำบุญ ชั้นที่ ๒ ใช้ในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุ สามเณร ภายในพระวิหารประกอบด้วยเสากลาง มีระบียงเพไลล้อมรอบ ด้านนอกพระวิหารมีซุ้มประตู ประดับด้วยปูนปั้นลวดลายล้านนาประยุกต์ ประดับด้วยกระจกแก้วอังวะ ติดทองคำเปลว เช่นเดียวกับศิลปะล้านนาที่ใช้อยู่ในยุคปัจจุบัน



        วัดมณเฑียรมีเอกลักษณ์พิเศษที่สำคัญ คือ มีการนำเอาวัสดุหินทรายมาสร้างเป็นพระพุทธรูป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีปรากฏในปัจจุบัน ตามตำนานในอดีตนั้น ได้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในสมัยพระเมืองแก้ว กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ ทรงสร้างพระพุทธรูปหินทราย ประดิษฐานไว้ยังวัดร่ำเปิง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีปรากฏในเมืองเชียงใหม่ว่า มีการสร้างพระพุทธรูปหินทรายอีกเลย



            พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับการบูรณะและสร้างวิหารลายคำหลังใหม่ของวัดมณเฑียร มีทั้งหมด ๗ องค์ ประกอบด้วย พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๑ พระพุทธรูปประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารชั้น ๒ พระพุทธรูปรองประธาน ๔ องค์ พระนอนทรงเครื่อง ๑ องค์



            วัดมณเฑียร ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีกหลายองค์ อาทิ พระประธานวิหาร ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดมณเฑียรหลังเดิม พระพุ่ม ๙ ตื้อ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างพร้อมกับพระเจ้าเก้าตื้อ ของวัดสวนดอก เป็นพระพุทธรูปศิลปะเก่าแก่ที่งดงามที่สุด



            วัดมณเฑียรมีพระที่สร้างพุ่มเดียวกัน หรือสร้างพร้อมกัน คือ พระเจ้าพุ่ม หรือ พระพุ่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาผสมสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ รวมทั้งพระประธานประจำอุโบสถหลังเก่า

           นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์สำคัญที่พระมหาญาณคัมภีร์นำมาจากศรีลังกา เมื่อครั้งไปสืบศาสนาที่เมืองลังกา และได้นำพระพุทธรูปมาจากลังกาทวีป มี ต้นศรีมหาโพธิ์ พระพุทธรูป พระไตรปิฎก และหีบอีก ๑ ชุด กิ่งมหาโพธิ์นำมาปลูกไว้ที่วัดป่าแดง พระไตรปิฎกนำไปประดิษฐานที่วัดป่าตาล แต่ปัจจุบันนี้ร่องรอยของพระไตรปิฎก ไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าอยู่ ณ ที่ใด ส่วนพระพุทธรูปได้นำมาประดิษฐานที่วัดมณเฑียร โดยคณะสงฆ์และคณะศรัทธาวัดราชมณเฑียรในอดีต ได้ร่วมใจกันรักษาพระพุทธรูปองค์นี้เอาไว้จวบจนปัจจุบัน และยังมีพระเจ้าหลวงทันใจ หน้าตักกว้าง ๕.๕ เมตร สูง ๑๑ เมตร ที่สร้างขึ้นด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชน เมื่อครั้งมีการบูรณะวัด



ข้อมูลเพิ่มเติม//www.lannatalkkhongdee.com






Create Date : 04 มกราคม 2555
Last Update : 5 มกราคม 2555 16:57:23 น. 4 comments
Counter : 4126 Pageviews.

 
มาชมบรรยากาศในวัดจ่ะ สวยดีนะ น่าไปถ่ายรูปจัง


โดย: มนี IP: 27.55.3.118 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:7:09:32 น.  

 

 
ขอบคุณสำหรับพรดีดีค่ะ ขอให้พรดีดีย้อนกลับไปเช่นกันน่ะค่ะ
เชียงใหม่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตอ่ะน่ะ วันหยุดยาวๆใครๆก็พากันไปเน๊าะคนก็เลยเยอะ


โดย: ภูผา กะ วาริน วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:15:34:24 น.  

 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mcayenne94
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]




Bangkok

Kyoto

Sydney

Mcayenne94's Diary มีวัตถุประสงค์เพื่อบันทึกเรื่องราวของเจ้าของบ้านและสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการ จัดจำหน่าย ต้นไม้ดอกไม้ หรือสิ่งใด อนุญาตให้นำภาพถ่าย พร้อมชื่อMcayenneผู้ถ่ายภาพไปใช้ประโยชน์ได้ และสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้นำภาพถ่าย Mcayenne ไปใช้ โดยการดัดแปลงตัดต่อหรือลบชื่อภายในภาพ
Friends' blogs
[Add mcayenne94's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.