My first trip to Lord Buddha's Place Day3; 30 Jan 2019 Vishali Buddha's Relic stupa
แป๊บเดียวผ่านไป สามเดือนแล้ว ไม่น่าเชื่อว่า ยังเขียนเรื่องไปอินเดียยังไม่จบ ย้อนเรื่องราวเก่า วันที่สอง เราเดินทางอยู่ในแคว้นมคธ ซึ่งเป็นแคว้นที่พระพุทธองค์ตั้งใจจะประดิษฐานพุทธศาสนาที่แคว้นนี้ เพราะเป็นแคว้นที่เจริญสูงสุดในอินเดียสมัยนั้น เป็นที่รวมของนักปราชญ์ และมี พระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นกัลยาณมิตรที่จะสนับสนุน
วันที่สามนี้ เราจะเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ สู่แคว้นวัชชี แคว้นที่ติดกับแคว้นมคธ เมืองเวสาลี หรือ Vishali เป็นเมืองหลวงในขณะนั้น ต่อมาพระเจ้าอชาตศัตรูเข้าตียึดแคว้นวัชชีรวมเข้ากับแคว้นมคธ กษัตริย์มคธในสมัยต่อมาได้ย้ายเมืองหลวงจาก ราชคฤห์ ไปยัง ปาฏลีบุตร หรือปัจจุบันชื่อ เมือง ปัตตนะ
ภาพด้านบน จากภาพยนตร์ซีรี่ย์ พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ก่อนทัศนศึกษาครั้งนี้ เจ๊เหนียวต้องควักดังหนับไปซื้อมาเพื่อรีวิวให้ครบถ้วน เพราะทางยูทูปถูกลบไปหมดสิ้นน่าเสียดายมาก
สองคนในภาพนั้น คือ พระเจ้าอชาตศัตรู และ นางอัมพปาลีหญิงงามเมืองแห่งแคว้นวัชชี ผู้มีบทบาททางพุทธศาสนาอย่างมากอีกสองท่าน พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งแคว้นมคธ ได้รับคำยุยงจากเทวทัต ให้ฆ่าพระบิดา คือ พระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นกัลยาณมิตรกับสิทธัตถะตั้งแต่ครั้งยังเป็นมกุฏราชกุมาร และพระเจ้าพิมพิสารยังเป็นบุคคลสำคัญผู้สนับสนุนตั้งแต่ระยะแรกที่พระพุทธองค์สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า
นางอัมพปาลี หญิงงามเมืองแห่งแคว้นวัชชี ( แคว้นติดกับมคธ ปกครองด้วยวัชชีพราหมณ์ ต่อมาถูกรุกรานด้วยพระเจ้าอชาตศัตรู รวบมาไว้เป็นเมืองขึ้นของมคธ ) ต่อมาได้เป็นบาทบริจาริกา พระเจ้าพิมพิสาร และ ต่อเนื่องมาถึงพระเจ้าอชาตศัตรู ต่อมาภายหลังเป็นอีกท่านที่ทำนุบำรุงพุทธศาสนา ถวายสวนมะม่วงเป็นที่ประทับในเมืองเวสาลี และภายหลังบวชเป็นภิกษุณี และได้สำเร็จอรหันต์
พระเจ้าพิมพิสารเจ้าแห่งแคว้นมคธ ยิ่งใหญ่ที่สุดในห้าแคว้นของอินเดียสมัยพุทธกาล ผู้ที่ทรงทราบตั้งแต่มเหสีตั้งครรภ์ว่าจะมีบุตรเป็นปิตุฆาต แม้มเหสีจะพยายามทำลายพระครรภ์พระองค์ก็ทรงห้ามและให้ทรงพระครรภ์ต่อไป แม้มเหสีจะต้องการเสวยพระโลหิตเพื่อบำรุงครรภ์พระองค์ก็จัดให้ พระองค์เป็นอุบาสกที่สำคัญในยุคแรกของการตั้งศาสนาของพระพุทธองค์ ต่อมาภายหลังได้สำเร็จโสดาบัน
แม้จะยกราชสมบัติให้แก่บุตร คือพระเจ้าอชาตศัตรูไปแล้ว ก็ยังถูกพระเจ้าอชาตศัตรูจับขังในคุกใกล้เชิงเขาคิชกูฏ ตามคำยุยงของเทวทัต ท่านเดินจงกรมอยู่ภายในคุกแต่มีกำลังใจด้วยมองเห็นพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่บนยอดเขาคิชกูฏทางช่องหน้าต่างคุก ต่อมาพระเจ้าอชาตศัตรูให้อดน้ำอดอาหาร และ ตัดเส้นเอ็นพระบาทไม่สามารถเดินได้อีก กว่าพระเจ้าอชาตศัตรูจะตาสว่าง พระบิดาก็สวรรคตในคุกเสียแล้ว แม้ภายหลัง พระเจ้าอชาตศัตรูจะศรัทธาและทำนุบำรุงพุทธศาสนา เป็นประธานในการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งแรกด้วย แต่ด้วยปิตุฆาต เป็นอนันตริยกรรมจึงไม่อาจเป็นอริยบุคคลได้
ปาวาลเจดีย์ สถานที่พระพุทธองค์ปลงอายุสังขาร และสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหลังปรินิพพาน 1 ใน 8 ส่วน ที่ได้รับการแบ่งโดยโทณพราหมณ์ เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าตัดสินพระทัยปลงอายุสังขาร ว่าพระองค์จะทรงปรินิพพานอีก ๓ เดือนข้างหน้าที่เมืองกุสินารา หลังจากปลงพระบรมศพของพระพุทธเจ้าได้ ๘ วันแล้ว ชาวเมืองไวสาลี แคว้นวัชชีได้รับส่วนแบ่งพระบรมสาริกธาตุและนำมาบรรจุไว้ในปาวาลเจดีย์ ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระองค์เลือกไปที่เมือง กุสินารา เพราะที่นั่น มีโทณพราหมณ์ ผู้มีความสามารถจะแบ่ง พระอัฐิและพระอังคารธาตุได้อย่างถูกต้อง ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ ซึ่งโทณพราหมณ์ได้แบ่ง เป็น 8 ส่วน ให้แก่เมืองต่างๆ ชาวเมืองเวสาลีแคว้นวัชชีได้รับส่วนแบ่งหนึ่งส่วน นำมาบรรจุไว้ในปาวาลเจดีย์แห่งนี้
ลักษณะของปาวาลเจดีย์ มีลักษณะของสถูปที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุในยุคแรกนั้น น่าจะบรรลุในเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พระบรมสาริกธาตุบรรจุในผอบ แล้วฝังไปสู่ใต้ดินประมาณ ๒ เมตร ในยุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทำเป็นเจดีย์รูปทรงบาตรคว่ำทับครอบเจดีย์เก่าอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ได้เค้าโครงของจากฐานเจดีย์น่าจะสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช. ต่อมาได้มีการขุดค้นพบพระบรมสาริกธาตุในปาวาลเจดีย์แห่งนี้และนำไปเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์เมืองปัตนะ รัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย.
เสาอโศกที่สมบูรณ์ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ บอกตำแหน่งที่กุฎาคารที่พระพุทธองค์มาจำพรรษาสุดท้าย สิงโตหันหน้าไปทางกุสินารา ณ วัดป่ามหาวันนี้ สถานที่เกิด ภิกษุณีรูปแรก คือ พระนางปชาปดีโคตรมี ได้รับอนุญาตจากพระพุทธองค์ให้ได้รับการบวช ภายหลังการปฏิเสธของพระพุทธองค์ถึงสามครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือของพระอานนท์ ว่าสตรีสามารถบรรลุธรรมได้หรือไม่ ถ้าบรรลุธรรมได้ก็ควรที่พระน้าจะได้รับการบรรพชา พระพุทธองค์ให้ภิกษุณีรับครุธรรม 8 ประการครุธรรม ๘ ประการนั้นมีรายละเอียดดังนี้ คือ ๑) พระภิกษุณีแม้จะบวชมาตั้ง ๑๐๐ พรรษา ก็ต้องแสดงความเคารพพระภิกษุแม้เพิ่งบวชในวันนั้น ด้วยการกราบไหว้ ลุกขึ้นต้อนรับ กระพุ่มมือไหว้ และทำการนอบน้อม ๒) พระภิกษุณีต้องไม่อยู่ในวัดที่ไม่มีพระภิกษุอยู่ร่วมด้วย ๓) พระภิกษุณีต้องถามวันอุโบสถ และเข้ารับฟังโอวาทจากพระภิกษุ ทุกกึ่งเดือน ๔) พระภิกษุณีจำพรรษาแล้วต้องปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายพระภิกษุสงฆ์ และฝ่ายพระภิกษุณีสงฆ์ ๕) พระภิกษุณีทำผิดพระวินัยมีโทษเป็นสังฆาทิเสส ต้องประพฤติปักขมานัต (อยู่กรรม) ในสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายพระภิกษุสงฆ์ และฝ่ายพระภิกษุณีสงฆ์ ๖) ก่อนจะบวชเป็นพระภิกษุณี สตรีจะต้องบวชเป็นสิกขมานา รักษาศีล ๖ ครบ ๒ ปีแล้วจึงบวชได้ แต่จะต้องบวชจากสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือ จากพระภิกษุสงฆ์ และจากพระภิกษุณีสงฆ์ ๗) พระภิกษุณีจะต้องไม่ด่าหรือใส่ร้ายพระภิกษุ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ๘) ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พระภิกษุณีจะกล่าวสอนพระภิกษุไม่ได้ แต่พระภิกษุกล่าวสอนพระภิกษุณีได้ ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาที่เวสาลีหลายครั้ง ครั้งแรกเมื่อพรรษาที่ 5 แต่ละครั้งจะทรงประทับที่กูฏาคารศาลาวัดป่ามหาวันเป็นส่วนใหญ่ พระสูตรหลายพระสูตรเกิดขึ้นที่เมืองแห่งนี้ และที่กูฏาคารศาลานี่เอง ที่เป็นที่ ๆ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี พระมาตุจฉา (น้า) ของพระพุทธองค์ พร้อมกับบริวาร 500 ที่โกนผมและเดินเท้าเปล่ามาจากเมือง กบิลพัสดุ์ สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้เป็นครั้งแรกในโลก และในการเสด็จครั้งสุดท้ายของพระพุทธองค์ พระองค์ได้ทรงรับสวนมะม่วงของนางอัมพปาลี นางคณิกาประจำเมืองเวสาลี ซึ่งนางได้อุทิศถวายเป็นอารามในพระพุทธศาสนา • พระพุทธองค์ได้ทรงจำพรรษาสุดท้ายที่เวฬุวคามและได้ทรงปลงอายุสังขารที่ปาวาลเจดีย์ และเมื่อหลังพุทธปรินิพพานแล้วได้ 100 ปี ได้มีการทำสังคายนาครั้งที่ 2 ณ วาลิการาม ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในเมืองเวสาลี
Create Date : 24 เมษายน 2562 |
|
38 comments |
Last Update : 27 เมษายน 2562 11:57:34 น. |
Counter : 2258 Pageviews. |
|
|
|
ก็ยังคงสลดหดหู่ใจ ที่ท่านไปหลงเชื่อคำของพระเทวทัต
หลงสร้างวิบากกรรมครั้งใหญ่ในชีวิตท่าน
ทำกรรมใน 6 ประการ ทำให้ท่านพลาดจากการบรรลุธรรม
แม้ท่านจะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาเพียงใดก็ตาม
แต่ถ้าจำไม่ผิด ทั้งพระเจ้าอชาตศัตรูและพระเทวทัต
บรรลุในเวลาต่อมา ซึ่งอีกหลายแสนกัป เมื่อท่านชดใช้กรรมหมด
แล้วลูกหลานท่านก็พ่อฆ่าลูกอีกหลายรุ่นหลายสมัยเลย
เป็นเศษกรรมที่ท่านกระทำต่อบิดา คือ พระพิมพิสาร
มาเที่ยวกับคุณเย็น ทำให้ได้เห็นสถานที่สำคัญของพระพุทธศาสนาด้วย
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดี ๆ มาฝากกัน
จินได้แต่อ่านและได้ยินจากซีดีธรรมะค่ะ
ยังไม่เคยไปเห็นพุทธภูมิที่อินเดีย
เป็นอีกความใฝ่ฝันของจินอย่างหนึ่ง
ที่อยากจะไปดินแดนพุทธภูมิสักครั้งในชีวิต
แต่ตอนนี้ ด้วยปัญหาสุขภาพและภาระหน้าที่
ไม่สามารถทำตามที่ใจอยากได้เลย
เที่ยวกับคุณเย็นไปก่อนเนอะ
แม้ใคร ๆ จะบอกว่าไปอินเดียลำบาก
แต่ก็ยังอยากจะไปอยู่ดีค่ะ