12 กพ 62 My first trip to Lord Buddha's Place Ep.4
ประมาณสิบปีก่อน นอนหลับฝันเห็นพระพุทธรูปในภาพ ยังจำฝันนั้นได้ติดตา สิ่งที่สะดุดตาในความฝันคือลวดลายบนฝาผนังเป็นริ้วตามยาวสีดำๆ ในฝันไปกับครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งและคณะ ญาติโยมหลายคน เข้าไปในวัดแห่งหนึ่ง เมื่อคณะเข้าไปในบริเวณต่างก็แยกย้ายกันไป ก็มีความสนใจแตกต่างกัน บางคนเดินชมความสวยงามของสิ่งก่อสร้าง บางคนปีนขึ้นไปบนหลังคาโบสถ์ บางคนเดินไปเปิดตู้พระไตรปิฏก ส่วนตัวเราเองนั้นเดินเข้าไปในห้องหนึ่งเห็นพระพุทธรูปท่านอนองค์ใหญ่ ได้กราบพระพุทธรูป ถามและขอพรบางอย่าง เสียงท่านตอบกลับคำขอพรของเรา ในฝันรู้สึกตกใจและแปลกใจว่าท่านเป็นพระมีชีวิตไม่ใช่พระพุทธรูปนี่นา ท่านพูดได้
เวลาผ่านไปอีกไม่นาน ได้ไปที่วัดบนเขาค้อ กราบพระอาจารย์จิรวัฒน์ บนผนังบริเวณที่ท่านฉันจังหัน มองไปเห็นภาพพระพุทธรูปและฝาผนังมีลวดลายเหมือนในความฝัน ด้วยความอยากรู้ จึงกราบเรียนถามท่านว่า พระพุทธรูปองค์ในภาพอยู่ที่ไหน ท่านตอบว่า พระพุทธรูปปรินิพพานที่อินเดียไงโยม.... ชาตินี้ยังไม่เคยไปสักครั้ง รูปภาพของท่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำไมภาพชัดเจนเห็นกระทั่งลวดลายฝาผนัง....ชาติหนึ่งเราคงเคยมา คงเคยเห็น
จุดมุ่งหมายสังเวชนียสถานครั้งนี้ คือ กุสินารา อยากไปกราบพระพุทธรุปปางปรินิพพานของพระพุทธองค์ที่เคยฝันเห็น แค่คิดก็ปลื้มปิติยิ้มทั้งน้ำตา จินตนาการไปว่า ไปถึงคงจะสลดสังเวชจิตตกน้ำตาไหลพรากไม่หยุดหย่อน ได้มากราบพระบาทพระพุทธองค์สมความปรารถนา
แต่เมื่อไปถึงดินแดนของพระพุทธองค์ตั้งแต่วันแรก ไม่เหมือนที่จินตนาการ จิตใจกลับสดชื่นรื่นเริงอาจหาญ เหมือนสัมผัสได้ถึงพลัง ความรักความเมตตาของพระพุทธองค์ไม่เคยจางหายไป พระองค์ไม่เคยจากพวกเราไปไหน พระพุทธองค์ไม่ใช่บุคคลเข้าถึงยากไม่ว่าท่านยังทรงสังขารหรือไม่มีก็ตามเราสามารถสัมผัสกับพระพุทธองค์ได้ พระพุทธองค์อยู่ทุกหนทุกแห่ง พระพุทธองค์มีแต่ความเมตตาอย่างสูงสุด ความรักอันบริสุทธิ์อย่างที่สุด ครั้งนี้ให้ได้ไปได้ทำสิ่งที่อยากทำ ได้อย่างไม่ยาก ผ้าห่มพระพุทธรูปผืนนี้สวยงามสมความปรารถนาที่ตั้งใจมา รายรอบไปด้วยเสียงสวดมนต์บทให้พร ที่พระสงฆ์โดยรอบกำลังสวดมนต์อยู่อย่างน่าประหลาด "ยถา วาริวหาฯ" แต่เราไม่ได้สนใจเสียงใดๆเลย ได้แต่ตั้งใจกราบระลึกถึงพระพุทธองค์ ลูกพี่ถามว่าได้ยินเสียงพระสวดมั้ย แปลกดีนะ พระพุทธองค์ท่านทรงประทานพร ผู้คนมากมายหลายคณะ หลายประเทศ วนเวียนกันเข้ามากราบและห่มผ้าพระพุทธองค์ แต่คนดูแลสถานที่กลับพาเราเอื้อมมือไปกราบสัมผัสองค์ท่านในตำแหน่งต่างๆ เราทำตามที่เขาแนะนำแม้จะไม่อยากทำให้ท่านสึกกร่อนไปด้วยการสัมผัสของเรา ก็เขากั้นรั้วไว้แล้วนะ พร้อมมอบผ้าสีขาวห่มไว้บริเวณพระศอมาเป็นที่ระลึกบูชา
"ภิกษุ แม้จะจับชายจีวร เดินตามรอยพระบาทของพระองค์ แต่เป็นผู้มีอภิชฌา มีความกำหนัดแรงกล้าในกามทั้งหลาย มีจิตพยาบาท มีความดำริแห่งใจชั่วร้าย มีสติหลงลืม ไม่มีความรู้สึกตัว มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตหมุนไปผิด ไม่สำรวมอินทรีย์ ภิกษุนั้น ชื่อว่า อยู่ไกลพระองค์ เพราะไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง ส่วน ภิกษุ ผู้แม้อยู่ในที่ประมาณ ๑๐๐ โยชน์ (๑,๖๐๐ ก.ม.) แต่เป็นผู้ไม่มีอภิชฌา ไม่มีความกำหนัดอันแรงกล้าในกามทั้งหลาย ไม่มีจิตพยาบาท ไม่มีความดำริแห่งใจชั่วร้าย มีสติมั่น รู้สึกตัว มีจิตตั้งมั่น มีจิตมีอารมณ์เป็นอันเดียว สำรวมอินทรีย์ ภิกษุนั้น ย่อมชื่อว่าอยู่ใกล้ชิดพระองค์ เพราะเห็นธรรมตามความเป็นจริง. (ตามข้อความที่ปรากฏในพระสูตร)
บางวันชีวิตไม่ง่าย ทำภาพเขียนบลอกก็ไม่ง่าย หลายวันนี้มีเรื่องราวมากมาย เรื่องเล็กๆ เช่น มีคนพยายามแฮกอีเมลล์ เข้าใช้ไม่ได้ทำความยุ่งยากปวดหัว ฯ เก็บมาบันทึกแบ่งปันแต่เรื่องราวดีๆ วันที่เขียนเรื่องดีที่สุดอาจเป็นที่เลวร้ายที่สุดของเจ้าของก็เป็นได้ ชีวิตมนุษย์ก็เป็นเช่นนั้นเอง ตราบใดที่ยังเวียนวนในวัฏฏะก็ยังต้องประสบเรื่องราว เป็นปกติที่เราต้องยอมรับมัน ยอมรับไม่ได้ก็กลับไปดูข้อหนึ่งคือต้องยอมรับในที่สุด เพลงไพเราะ ส่งความสุขให้เพื่อนร่วมทุกข์บนโลกใบนี้ให้พ้นทุกข์ในที่สุด ถ้ายังมีชีวิตก็ขอให้มีความสุขตามอัตภาพ
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2562 |
|
5 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2562 20:24:04 น. |
Counter : 917 Pageviews. |
|
|
|
ชีวิตไม่ง่ายเลย ได้เกิดได้พบธรรมะจากพระพุทธองค์
นับว่าประเสริฐที่สุดแล้ว