เที่ยวอิตาลี เมือง Venice - หนึ่งวันอันคุ้มค่าในเมืองแห่งสายน้ำ

ในตอนนี้เราจะไปเที่ยวเมืองเวนิสแบบเช้าไป เย็นกลับกันค่ะ แต่ก่อนอื่นจะเริ่มจากการแนะนำเมืองเวนิสสั้นๆก่อนนะคะ


เมืองเวนิส (Venice) หรือเมืองเวเนเซีย(Venezia) เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต (Veneto) ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่ได้รับฉายาว่าราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก (Queen of the Adriatic),  เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water),  เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light)

เมืองเวนิสถูกสร้างจากการเชื่อมเกาะเล็กๆประมาณ 118 เกาะเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย (Venetian Lagoon) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียติก (Adriatic Coast) ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี โดยทั้งเมืองและทะเลสาบถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ (Po and the Piave Rivers) เวนิสเป็นเมืองที่มีการใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด มีอาคารบ้านเรือนตั้งอยู่ริมคลอง มีการใช้เรือในการเดินทางไปในที่ต่างๆ นับเป็นเมืองที่มีคลองมากกว่าถนนอีกเมืองหนึ่งของโลก




วันนี้เราออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อไปที่สถานีรถไฟหลักของเมืองฟลอเรนซ์เพื่อขึ้นรถไฟด่วนไปเที่ยวเมืองเวนิสกัน โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ


บรรยากาศในสถานี







มาดูป้ายบอกชานชาลา







ที่ขายตั๋วในสถานี แต่ครั้งนี้เราได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าทางอินเตอร์เนทแล้วซึ่งจะได้ราคาที่ถูกกว่า







เราจะขึ้นรถไฟขบวนนี้







มาถึงเวนิสแล้ว ออกจากสถานีก็จะเห็นคลองอยู่ข้างหน้าเลย







ก่อนอื่นเราเดินหาอะไรทานแถวๆสถานีก่อน ผู้คนคลาคล่ำเต็มไปหมด







มื้อเที่ยงที่เวนิส สปาเก็ตตี้ทะเลอร่อยมากๆ







การเดินทางในเมืองเวนิส เราใช้เรือเมล์หรือ Vaporetto โดยซื้อตั๋วแบบ 12 ชั่วโมง ขึ้นลงกี่รอบก็ได้

ชมวิวระหว่างนั่งเรือ














จุดแรกที่ลงคือที่สะพานรีอัลโต้ (Ponte di Rialto) เป็นสะพานที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดที่ใช้ข้าม Grand canal มีหลังคาคลุมสะพานที่สวยงาม และเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองมาตั้งแต่พันปีก่อนคริสตกาล โดยแรกเริ่มเดิมทีเป็นสะพานไม้ หลังจากที่พังทลายลง สะพานหินก็ถูกสร้างขึ้นมาทดแทน จุดนี้เป็นจุดถ่ายภาพที่สำคัญของเมือง ถ้าไม่ได้ข้ามสะพานนี้ก็ถือว่ามาไม่ถึงเวนิส







วิวจากบนสะพาน













บนสะพานมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย







อีกจุดหนึ่งที่มีเรือกอนโดล่าจอดอยู่ สามารถเข้าไปสอบถามราคาและตกลงเวลาและเส้นทางกับพนักงานได้โดยตรง













นอกจากจะมีเรือเมล์แล้วเรือแท็กซี่ก็มีเช่นกัน








นั่งเรือต่อมาที่จัตุรัสซันมาร์โก (Piazza San Marco) ซึ่งเป็นจัตุรัสหลักที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของเวนิส













ในบริเวณจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิหารซันมาร์โก (Basilica di San Marco) ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ ตัวอาคารสร้างอย่างงดงามประดับด้วยงานโมเสกและประติมากรรมที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ อำนาจและความมั่งคั่งของเวนิส ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 ก็ได้รับสมญานามว่า Chiesa d`Oro หรือโบสถ์ทอง







ภายในวิหารประดับด้วยทองคำงดงาม














เดินออกจากจัตุรัสซันมาร์โกเพื่อไปขึ้นเรือเมล์ข้ามไปชมโบสถ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

























ที่ขึ้นเรือ โปรดดูให้ดีว่าเรือที่กำลังจะเทียบท่านั้นกำลังจะมุ่งหน้าไปทางไหน เพราะจะมีเรือวิ่งทั้งสองทางแต่เข้าจอดในท่าเรือเดียวกัน ไม่เหมือนรถไฟฟ้าที่จอดคนละชานชาลา







มีตารางบอกเวลาเรือ













ข้ามมาอีกฝั่งเรียบร้อยแล้ว มาถึงโบสถ์ซานจอร์โจ แมกจอเร่ (Chiesa di San Giorgio Maggiore) คริสตจักรนิกายเบเนดิกในศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับเกาะ โดยโบสถ์สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในสไตล์คลาสสิกและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา โดยผู้ที่ออกแบบคือ Andrea Palladio













ภายในเป็นสีขาวงดงามไปอีกแบบ














เป้าหมายที่มาโบสถ์แห่งนี้ก็เพราะอยากจะขึ้นไปชมวิวจากหอระฆังของโบสถ์โดยที่มีลิฟท์ให้ขึ้นไปได้





































หลังจากนั้นก็นั่งเรือข้ามกลับมาฝั่งจัตุรัสซันมาร์โก เพื่อเดินเที่ยวบนถนน Salizz S.Moise & Calle laiga XXII Marzo ซึ่งเป็นถนนที่มีร้านแบรนด์เรียงรายอยู่มากมายก่อนจะขึ้นรถไฟกลับไปยังเมืองฟลอเรนซ์

Create Date : 10 มกราคม 2556 Last Update : 10 มิถุนายน 2556 19:49:53 น. Counter : 10468 Pageviews.		3 comments
Share Tweet