37 วีค ไม่เอาหัวลงก็ไม่เป็นไรลูก
ตกลงตอนนี้ความหวังที่จะได้คลอดหนูด้วยวีธีธรรมชาติ มันค่อยข้างหริบหรี่เต็มทน หนูไม่ยอมให้ความร่วมมือเลย แง แง อีกอย่าง หนูก็อยู่ในท้อง หม๊ามา 37 วีคแล้ว คงไม่มีที่เหลือ ในกลับตัวได้ ตรวจล่าสุด เมือวันจันทร์ที่ 31 สิงหา ก็ยังอยู่ในท่าก้นอยู่เลย ลูกเอ้ย! ดื้อจริงๆ จริงๆ หม๊ากับป๊า รู้ว่าหนูไม่กลับหัว ตั้งแต่ เมื่อวัน พฤหัส ที่ 27 สิงหา ที่ผ่านมา ตอนไปหาหมอ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม กับอาทิตย์ก่อน คือ ชั่งนำ้หนัก วัดความดัน เก็บฉ่ี ฟังเสียงหัวใจหนูเต้น วัดขนาดหน้าท้อง และตรวจภายใน ซึ่งปากมดลูก หม๊า ก็ยังปิดสนิทดี และหมอก็บอกหม๊าเอง ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วว่า หนูกลับหัวแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วงใช่มั้ย กำลังจะกลับอยู่แล้วเชียว ป๊าหนู นึกได้ว่า เมื่อคืนหม๊ามีอาการปวดท้อง แต่มันไม่เหมือน ปวดหรือเจ็บท้องคลอด ที่จะปวดเหมือนปวด ปจด. แต่นี้มันปวด แบบ จุกๆ เสียดๆ ตรงช่วงบนของท้อง และ ปวดมาก นอนไม่ได้ หมอก็เลยถามว่าหนูยังดิ้นดีอยู่มั้ย ไม่รู้ยังไง ป๊าหนูดันตอบว่า not too much ซึ่งหม๊าก็คิดในใจว่า อะไรกัน ลูกเราดิ้นกระจายทุกวัน
.หมอเค้าก็เลยจะตรวจละเอียดให้ หม๊ายังพูดกับป๊าเลยว่า ไม่ต้องตรวจก็ได้ เพราะเดี๋ยวป๊าไปสอนไม่ทัน (ตอนนั้น จะ5โมงครึ่งแล้ว และป๊า มีสอนตอน 6 โมงเย็น) แต่สุดท้ายก็ตรวจ....ดีที่ตรวจ เริ่มแรกก็เอา มอนิเตอร์มาวัดที่พุง ดูการบีบตัวของมดลูก ซึ่งแน่นอนผลออกมาปกติดี และหมอเค้าก็จะขอซาวน์ดูตำแหน่งเด็ก หม๊ายังบอกให้ป๊า กลับก่อนเลย เพราะคิดว่าไม่มีอะไรแน่ๆ แต่
.แจ๊กพ๊อต แตกค่ะ เพราะไปพบว่า เด็กไม่กลับหัว และเอาก้น อยู่ในท่าพร้อมออกแทน (ทั้งหัวและเท้า ก็เลยมาถีบที่ยอดอก จนรู้สึกจุกนั้นเอง) เครียดเลย ตกใจพูดอะไรไม่ออก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ เพราะเคสนี้รู้ๆกันอยู่ว่า ถ้าคลอดเองจะเป็นอันตรายมาก เด็กเอาก้นออกก่อน และหัวอาจเอาออกมาไม่ได้ และขาดอากาศหายใจในที่สุด.... ตามที่หมออธิบาย หนูอยู่ในท่าสุดท้ายอ่ะลูก น่าเกลียดมาก ลูกช้านนน
หน้าหม๊าตอนนั้นคงเหวอ มาก หมอ เค้าก็เลยเสนอ ว่า มีทีมแพทย์พิเศษที่สามารถ กลับหัวเด็กได้ แต่ก็ไม่รับประกันผลว่าจะได้มั้ย ต้องลองดูก่อน เพราะเด็กอาจตัวโตเกินไป ไม่มีพื้นที่ให้กลับได้ หรือเด็กอาจเกิดภาวะเครียด ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ หลายๆปัจจัย ถ้าสนใจจะนัดหมอให้
..ตอนนั้นมึน งง ใครว่าอะไรก็ว่าตามนั้น
หลังจากกลับมาบ้าน ก็เลยหาข้อมูลเป็นการใหญ่ ซึ่งส่วนมากก็จะบอกว่า ถ้าอายุครรภ์ เกิน 36 วีค มักกลับไม่สำเร็จ เพราะเด็กตัวโตมากแล้ว และขั้นตอนการทำก็จะเจ็บมาก คนเป็นแม่นั่นแหละ ที่จะทนไม่ได้.... และแถม หมอก็บอกว่า ถ้ากลับได้แล้ว อาจให้ยาเร่งคลอดทันที เพราะไม่อยากรอนาน แต่ถ้าไม่ได้ ค่อยนัดวันผ่าคลอดอีกที... บอกตรงๆนะลูก ตั้งแต่ท้องมา หม่าหม๊าไม่เคยหาข้อมูล หรืออ่านข้อมูล เกี่ยวกับการผ่าคลอดเลย เจอปุ๊ป คลิกผ่านทันที เพราะคิดอยู่เสมอว่า จะคลอดเอง พอมาเจอยังงี้ ก็เลย อึ้ง ทึ่ง เสียว....... และรู้มั้ย ทีมแพทย์กลับหัว ดันว่างในวันจันทร์ที่ 31 สิงหา ที่จะถึงนี้ ซึ่งมันเร็วเกินไป เร็วมาก หม๊า ทำใจไม่ด้ายยยยยย ก็เลยคุยกับหมอว่า ไม่ทำได้มั้ย ขอผ่าเลยหล่ะกัน...(เริ่ม ใจเสาะขึ้นมาซะงั้น) ดี
ที่หมอเค้าก็ โอเค... ดังนั้น ก็เลยได้กำหนดคลอด หรือวันผ่า ในวันที่ 16 กันยายน ตอน บ่าย สาม แต่ก็ต้องเตรียมตัว อดอาหาร ตั้งแต่เที่ยงคืน ของวันที่ 15 และต้องไป รพ. ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งของวันที่ 16 ฮือ ฮือ จะไม่หิวแย่หรือนี่ (ยังห่วงกิน) ตอนนี้๊ก็ต้องพักผ่อนมากขึ้น ไม่กล้าเดินเยอะ ๆ หรือทำอะไรอีก อารมณ์ ต่างจากเมื่อก่อน ที่ยังไม่รู้ ว่าหนูอยู่ในท่าก้น ตอนนั้น หม๊าจะชอบเดิน ชอบทำโน่น ทำนี ออกกำลังกาย บริหารเชิงกรานไปเรื่อย เพราะอยากให้ปากมดลูกเปิดเร็วๆ จะได้คลอดหนูง่ายๆ และเร็วๆ แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว
.เดินหนีบสุดๆ เพราะไม่อยากให้คลอดก่อนหมอนัด เรื่องผ่าคลอดหม๊า ไม่กลัวหรอก แต่กลัว เจ็บท้องก่อนหมอนัดต่างหาก เพราะอย่างที่บอกมันอันตรายมากๆ หม๊า กลัว บอกตรงๆ กลัวว่าหนูจะใจร้อน ยื่นตูดออกมาก่อนอ่ะลูก อย่านะ
.รอวันหมอนัดก่อนนะลูกรัก
แม่กลัว แต่หม๊า คิดว่านี่เป็นเวรกรรม ที่หม๊า เคยทำไว้ตั้งแต่เด็กนะ (ประมาณอยู่ ม.1 ) จริงๆ คนที่รู้จักหม๊า จะรู้ว่าหม๊าหน่ะ กลัวเรื่องการคลอดมาแต่ไหนแต่ไร แต่พอมีหนู ก็กลับใจกล้าขึ้นมาซะงั้น อยากจะคลอดเองมากๆ แต่พอมาเจอว่าหนูอยู่ในท่านี้ หม๊า ก็ฝ่อ เหมือนกันนะเฟ้ย! เรื่องที่ว่าก็คือ ครั้งหนึ่ง หม๊าเคยทำร้ายแมวที่กำลังจะคลอดลูก แต่ไม่ได้ตั้งใจนะ เพราะตอนนั้นแมวตัวนี้ มันชอบมาขี้ใส่ห้องหม๊า (แมวคนข้างบ้าน มันชอบ ปีนเข้ามา) ก็รู้อยู่ว่า ขี้แมวเหม็นแค่ไหน และหม๊า ก็ไม่ใช่คนรักแมวด้วย ดังนั้น ตอนที่ หม๊่า๊นั่งทำการบ้านอยู่ มันก็มาคลอเคลีย และหม๊า ก็เห็นเหมือนเป็นขี้ยาวๆ โผล่มาจากตูดมัน ๊ก็เลยเตะ มันกระเด็นติดข้างฝา ประมาณว่าจะมาขี้ใส่ห้องชั้น ต่อหน้าต่อตาเลย เหรอย่ะ จำไม่ได้ว่า เตะครั้งหรือสองครั้ง และมันก็ยังเดินมาหาอีก หม๊าก็โมโห ในความน่ามึนของมัน แต่ยังดีที่ตาเหลือบไปเห็นว่า ไอ้ที่โผล่มาจากตูดมันไม่ใช้ขี้ซะแล้ว แต่มัน เป็น หางเล็กๆต่างหาก หม๊าตกใจมาก รีบวิ่งไปบอกแม่ (ยายกุ๋ย) และจากนั้นยายกุ๋ย ก็หาที่หาทาง ให้มันไปคลอด และปลอดภัย ในที่สุด แต่หม๊า ก็รูุ้้สึกผิดฝังใจมาตลอด และกลัวการคลอดมากๆ ถึงแม้จะผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม และคิดดูสิว่า เรื่องแบบนี้ยังมาเกิดขึ้นกับ หม๊าอีก
. แต่สงสัยเป็นเพราะผลบุญที่เคยมีอยู่บ้าง ก็เลยทำให้้ตรวจเจอได้ก่อน อย่างน้อย ก็ได้เตรียมความพร้อม ไม่อย่างนั้น หม๊าคงจะเริ่งร่า และทำโน่นทำนี่ ไม่หยุด เพราะอยากให้ลูกคลอดไวๆ แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้วอ่ะ หนีบสุดๆ อ้อ แล้วหลังจากที่ได้คุยกับคนในครอบครัวไป ว่าต้องผ่าคลอด คุณแม่สามีที่รัก ก็ตัดสินใจ บินเดี่ยว มาอยู่เป็นเพื่อนด้วย (อาม่าใหญ่ ของหนู) เค้าเป็นห่วงมาก ขนาดบอกไม่ต้องมา เค้าก็จะมา เปรี้ยวมาก บินมาคนเดียวเลย นี่แกก็พูดอังกฤษไม่ได้สักคำนะ แต่หัวใจแกเกินร้อย ก็เลยต้องตามใจ
.ส่วน ยายกุ๋ย ก็อยากมาเหมือนกันนะลูก แต่น่าเสียดายที่แกยังไม่มีวีซ่า แกบอกว่าถ้าหม๊าอยู่ ประมาณอุบล หรือ ศรีษะเกศ แกนั่งรถทัวร์มาหาเราแล้วลูก
..นี่ แหละนะความรักของแม่ มันยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยายจริงๆ ส่วนหม๊ากับป๊า ก็รักและรอหนู อยู่นะ
ไอ้เด็กท่าก้น
Create Date : 02 กันยายน 2552 |
Last Update : 3 กันยายน 2552 5:19:38 น. |
|
7 comments
|
Counter : 16455 Pageviews. |
|
|