1 ขวบ 8 เดือน : กับการไปเนอสครั้งแรก (เวอร์ชั่นหม่าหม๊า)
แว๊กๆๆ ตื่นมาตอนเช้า ต๊กกะใจ นี่ช้านละเมออัพ Blog ไปแล้วเหรอนี่ รีบอ่านเนื้อหาข้างในอย่าง งงๆๆ อืมๆๆ เนื้อหาคุ้นๆ นะ ยังกับอยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ใครหว่า!!! อ้อๆๆๆๆ คุงสามีตัวดี หรือ ป่ะป๊า หนูนั่นเอง มาตัดหน้า อัพ blog ก่อนหม๊า ไหนบอกว่า จะให้อ่านก่อนนี่หนา หักหลังหม๊าจนได้ หนูก็ลองอ่านเปรียบเทียบกันดูแล้วกันนะ เพราะมันก็คนละอารมณ์ แต่ก็อารมณ์เดียวกัน เอ๊ะ! งงๆๆๆ อ่านดูแล้วกันลูก (blog ก่อนหน้า) ---------------------------------------------------------------- ในที่สุด หม่าหม๊าก็หาเนอสให้หนูได้แล้ว จริงๆก็ไม่ได้ไปตระเวนหาอะไรมากหรอก แค่โทรไปถามรายละเอียดเอามากกว่า เพราะหม๊าก็ไม่ค่อยรู้จักเส้นทางสักเท่าไหร่ พอดีกับที่โกมาลินบังเอิญไปเจอเนอสเปิดใหม่ อยู่ใกล้ๆบ้านเรา ก็เลยไปดูรายละเอียดมาให้ ซึ่งหม๊าเองก็ชอบ เลยนัดวันเข้าไปดูกัน เนอสที่นี่เป็นเนอส 2 ภาษาเล็กๆเปิดมาได้ไม่กี่เดือน มีเด็กอยู่ประมาณ 10 คน แต่มีครูพี่เลี้ยงอยู่ประมาณ 4 คน แม่บ้าน 2 คน และครูต่างชาติอีก 1 คน ซึ่งทำให้ดูแลเด็กได้ทั่วถึงมากๆๆ พอไปถึงปุ๊ป เจ้าของเค้าก็มาต้อนรับ พาไปดูห้อง ซึ่งที่นี้ เป็นลักษณะ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ไม่กว้างมาก เอามาดัดแปลงเป็น เนอสเซอรี่ ก็ดูสะอาดสะอ้านดี ตอนไปถึง หนูเพิ่งตื่นนอน ก็เลยงอแงหน่อย ไม่ยอมเล่นอะไรเลย แต่พอสักพัก ก็เริ่มเดินไปเล่นของเล่นเอง แต่ก็คอยเรียกหม๊ากับป๊า ตลอด พอหนูเริ่มเล่นเพลินๆ เจ้าของเค้าก็มาสะกิด ให้ลงไปข้างล่าง เพื่อพูดคุยรายละเอียด แล้วให้หนูทดลองอยู่ที่นี่กับครู พอลงไปสักพัก ประมาณ 15-20 นาที ก็ได้ยินเสียงหนูร้องหาหม่าหม๊า ป่าป๊า ครูก็อุ้มลงมาให้ พอหม๊าปลอบใจสักพัก หนูก็ไปเล่นต่อได้ แต่ก็คอยมองให้หม๊ากับป๊า อยู่ในสายตาตลอด ซึ่งครูก็ชมว่า แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว เพราะบางคน กอดขาแม่ตลอดไม่ยอมเล่นเลย.... ตอนที่เราไปดูก็มีเด็กมาใหม่อยู่ 1 คน ยังร้องไห้อยู่เลย แต่ครูก็อุ้มตลอดไม่ปล่อยเด็ก ส่วนคนที่ไม่ร้องไห้แล้ว ก็มีห้องกิจกรรมให้เล่นแยกไปต่างหาก ที่นี่เค้าแบ่งเวลาการทำกิจกรรมเป็นแต่ละชั่วโมง ว่าทำอะไรบ้าง เหมือนโรงเรียนมากเลย แถมหนูต้องมีชุดนักเรียน กับ ชุดพละ ด้วยนะ อันนี้ดูเกินความจำเป็นไปนิ๊ดส์... แต่ก็นะ อย่างอื่นเค้าก็โอเค โดยเฉพาะห้องนำ้ อันนี้ หม๊าเห็นแล้วกรี๊ดมาก ชอบมาก น่ารักสุดๆ เพราะเค้าทำเป็นชักโครกเล็กๆ คือ จำลองของผู้ใหญ่มา แต่เป็นขนาดเล็กอ่ะ หนูเห็นก็ชอบมาก เล่นอยู่ในนั้น ไม่ยอมออกมาเลย ส่วนห้องอาบนำ้ ก็กว้างดี รูปติดกำแพงก็น่ารัก อันนี้หนูก็ชอบ เห็นแล้ว ชี้ใหญ่เลย ว่า รถๆๆๆๆ แล้วก็ทำท่า สระผม (ทำมั้ย)
วันนั้นเราไปอยู่ที่โรงเรียน ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ตกลงเอาที่นี่แหละ เพราะโดยรวมก็โอเค ครูทุกคนดูยิ้มแย้ม แจ่มใส และเอาใจใส่เด็กดี(เท่าที่เห็นนะ) และหนูเอง ก็ดูแฮปปี้ดี เล่นโน้น เล่นนี้ ก็ตกลงเอาที่นี้นะลูก จ่ายเงินเรียบร้อย เริ่มเรียน วันจันทร์หน้า อ้อ ไม่ใช่สิ วันจันทร์นี้ตรงกับวันแรงงาน ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ก็เลยต้องไปเริ่มวันอังคารแทน...ตื่นเต้นมั้ยลูก ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ First day school เช้าวันอังคาร ( May 2, 2011 ) พอหนูตื่น เราก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมพาหนูไปโรงเรียนกันเลย เริ่มจากพอหม๊าจัดกระเป๋าให้ หนูก็ดูตื่นเต้นดี (กระเป๋าใบนี้ได้มาจากอี๊ปอม) รีบหาพี่แอ๊ตมายัดใส่กระเป๋า อ้อ พี่แอ๊ต ก็คือ ตุ๊กตาวู้ดดี้ จากเรื่อง toy story อ่ะลูก ไม่รู้ทำมัย หนูเรียกว่า แอ๊ต ทั้งๆที่หม่าหม๊า ก็เรียกว่า วู้ดดี้ ตลอด แต่หนูก็เรียกของหนูว่า แอ๊ตๆๆๆ จนเป็นที่รู้กันว่า ถ้าเรียกหา แอ๊ต คือ พี่วู้ดดี้ นั่นเอง.....หลังจากตื่น เราก็มัวแต่โอ้เอ้ ทำโน่นทำนี่ จนเกือบ สิบโมง ค่อยออกจากบ้าน แต่ขับรถไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงที่เนอสแล้ว เพราะอยู่ห่างจากบ้าน แค่ 2 ซอย พอไปถึง หนูก็ยังร่าเริงดี จนหม๊าหมดห่วง คุณครูก็มาพาหนูไปเล่น หนูก็ไปอย่างไม่ลังเล ตอนแรก ก็เล่นอยู่ใกล้ๆหม๊ากับป๊านั่นแหละ แล้วสักพักก็พาไปข้างใน พอหม๊าเห็นว่าหนูอยู่ได้ ก็ขอตัวออกมากินข้าวกลางวันกับป๊ากันก่อน แล้วค่อยกลับมาดูอีกครั้ง ตอนที่ไปนั่งกินข้าว หม๊ารู้สึกว่า การพาหนูมาเนอสนี่ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนี่ ไม่ได้มีอาการใจหาย หรือว่า เศร้า แต่อย่างใด คือ มันง่ายๆ ชิวๆๆ มากๆๆ
หม๊าไปเกือบๆชั่วโมงได้ ก็กลับมา..... เห็นครูอุ้มหนูอยู่ เดาได้ว่า คงร้องไห้อยู่นั่นแหละ แล้วก็จริง พอหนูหันมาเห็นหม๊ากับป๊า เท่านั้นแหละ ร้องชุดใหญ่เลย รีบดิ้นๆ ลงมาหา แล้วก็ร้องหม๊าๆ ป๊าๆ กอดหม๊าแน่นเลย ขนาดป๊าอุ้มอยู่ยังโวยวาย ร้องสะอึกสะอื้นอยู่ตั้งนาน
แต่สักพักก็ดีขึ้น พอมีครูมาชวนไปเล่น ก็ทำท่าเหมือนอยากไป แต่ก็ดึงหม๊าไปด้วย หม๊าก็เลยไปเล่นด้วย สักพัก พอหนูอารมณ์ดี ครูมาอุ้มไปเล่นในห้อง บอกให้หม๊ากลับไปเลย แต่ป๊าดันอยากเข้าาห้องนำ้ ตอนหม๊ายืนรอข้างนอก ก็เลยได้ยินเสียงหนูร้องไห้หาหม๊า อย่างหนัก เป็นเสียงที่สะเทือนใจหม๊ามาก หม๊าก็เลยยื่นหน้าเข้าไป กะว่าจะขออุ้มหนูอีกซักทีก่อนไป แต่ครูอุ้มหนูหันหลังอยู่ และโบกมือให้หม๊าไปได้เลย
จังหวะนั้น ป๊าออกมาจากห้องนำ้พอดี หนูคงหันไปเห็นป๊าจากอีกทาง เลยตะโกน ป่าป๊าๆๆ อย่างดัง ป๊าเองก็ตกใจ รีบถอยหลังกลับไป รอให้ครูอุ้มหนูไปอีกทางก่อน ค่อยเดินออกมา แต่ตอนนั้น หม๊าเริ่มใจเสีย มันเศร้ามากลูก รู้สึกผิดในใจเลยว่า เรามีความจำเป็นขนาดนี้เลยเหรอ ที่ต้องส่งลูกเข้าเนอส นี่เราคิดผิด หรือ คิดถูก กันนี่ ที่ส่งลูกเข้าเนอส ลูกคงเสียใจมาก คงคิดว่าถูกทิ้ง ลูกคิดว่าเราไม่รักหรือเปล่านะ คิดไปต่างๆนาๆ อาจเป็นเพราะหม๊ากับหนู ตัวติดกันมาตั้งแต่เกิดก็เป็นได้ คือไม่เคยอยู่ห่างกัน นานกว่า 2 ชั่วโมงเลย และที่ห่างกันแต่ละครั้ง หนูก็อยู่กับป๊าบ้าง อยู่กับอี๊แนนบ้าง คือ ไม่ใช่อยู่กับคนอื่นแบบนี้ ยิ่งคิด ยิ่งเศร้าอ่ะ โอ๊ย ใจจะขาด นี่ถ้ามาคนเดียว หม๊าคงกลับไปอุ้มหนูออกมาแล้ว แต่นี่ป๊าเค้าใจแข็งกว่าหม๊า เค้าบอกว่า เด็กทุกคนก็ร้องแบบนี้แหละ ไม่มีใครไม่ร้อง เราก็ต้องทำใจ เพราะความจำเป็นมันก็มี ถึงต้องเอาหนูมาฝากไว้แบบนี้ เราก็เลือกที่ดีๆให้ลูกแล้ว เราก็ต้องมั่นใจ ทุกอย่างก็ต้องเดินไปข้างหน้า เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง...จริงเหรอ...แต่ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่า เราไม่น่าเลย ไม่น่าเลยจริงๆ
ปล. ตอนไปรับ พอหนูหันมาเห็นหม๊าก็ร้องไห้ใหญ่เลย จากที่สะอื้นอยู่... แต่สักพัก ก็ร่าเริง ไม่มีอาการเศร้าซึมให้เห็น ก็ทำให้หม๊าหมดห่วงไปเรื่องหนึ่ง..พอวันที่สองที่ไป ก็เหมือนเดิมอีกลูก วนซ้ำเหมือนเดิมตั้งแต่ต้น ร้องไห้ตอนไปส่ง ตอนแรกก็เล่นดี แต่พอเห็นหม๊าจะกลับ ก็ร้องขึ้นมากอดไว้ไม่ยอมปล่อย...เฮ้อ...เศร้าใจจริงๆ ไม่รู้เมื่อไหร่จะเข้าที่เน๊อะ ไม่รู้ต้องเสียนำ้ตากันไปอีกกี่วัน...แต่อย่างไรก็ตาม อยากบอกหนูว่า หม๊าก็รู้สึกเศร้าและเสียใจ แถม เสียนำ้ตา ไม่แพ้หนูหรอกลูก ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้หรอก เข้าใจหม๊ากับป๊านะลูก เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง...รักบี้ลูกแม่
จากหม่าหม๊า ที่ไม่อยากจากบี้ไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
Create Date : 06 พฤษภาคม 2554 |
|
13 comments |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2554 23:24:23 น. |
Counter : 8812 Pageviews. |
|
|
|
ละเอียด ละออ ทุกอย่าง..
ใจหายเหมือนกันนะคะ ที่เราอยู่ต่างแดน เคยตัวติดกันเป็นปลิงกับลูก..
ไม่เคยฝากให้ใครเลี้ยงเลย..
แต่ต้องส่งเข้าเนิร์ส เจ้าตัวน้อยร้องแทบเป็นแทบตาย..
เหมือนที่คุณพ่อ เมษาฮาวายพูดล่ะ คะ ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า อิอิ..
คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะคะ เขาไม่ใช่เบบี้แล้ว เขามีชีวิตและทางเดินของเขา..
และค่อยๆ ห่างเราไปเรื่อยๆ..
..
ขอให้กิจการของครอบครัวแม่มุ่ย เจริญรุ่งเรือง นะคะ..