มิถุนายน 2553

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
อ่อนแอ..เปราะบาง..ว่างเปล่า..
สวัสดีนะ long time no see,

กะว่าคงอีกนานกว่างานเสดจะแวะมา แต่แล้ว ก็เพราะเจ้าเหงา เข้ามาทักทาย

ฝนก็ตกแต่เช้า แผนวิ่งเลยต้องล้มซะ ใจก็อึมครึมไปด้วยเลย

เขียนงานไม่ออก อดไม่ได้ เลยต้องเขียนต้องขีดอะไรอีกแล้ว...

วันนี้วันเกิดคนรักเก่า ลังเลใจอยากโทรไปอวยพร อยากรู้ความเป็นไปของเขา
แต่เพราะเขาก็สร้างครอบครัวใหม่ไปแล้ว..คงไม่เหมาะ ระบายใจในบล็อคดีกว่า

ทำไมทั้งที่อยู่กับเหงาจนคุ้น ความเงียบที่ทำให้ใจชาชิน
แต่ทำไมบางครั้งกลับรู้สึกอยากไปให้พ้นจากตัวตน อารมณ์ตรงนี้

แอบแวะไปดูบล็อคชาวบ้าน ทำไมรู้สึกหงุดหงิด
ไม่พอใจตัวเองดื้อๆ ที่เราก็เป็นเหมือนๆ หลายๆ คน

บางคำพูด บางความคิดที่สะท้อน ทำไมเราจึงไปคล้ายกับพวกเขาด้วยนะ..

ทำไมเราจึงไม่ได้เป็นอะไรที่แปลก แตกต่าง มีเอกลักษณ์
หรือเป็นของจำเพาะชิ้นเดว ด้วยนะ... หรือเราจะไม่ born to be...

ทำไมบางอย่าง บางทีเราจึงไม่กล้าพอจะพูดออกไปตรงๆ อย่างใจคิดได้นะ...

ทำไมเราจึงต้องกลบเกลื่อน ปิดบัง แอบซ่อนความรู้สึกอะไรที่มันมีอยู่
แต่ทำเหมือนเข้มแข็งว่ามันไม่ได้ทำร้าย กัดกร่อนใจ
ทั้งที่จริงๆ เรายังถือมันไว้ ไม่ได้ปล่อยลงเลย...แกล้งทำปล่อยบางเวลาเท่านั้น...

ทำไมเรายังต้องแสดงว่า เราลืมอะไรบางอย่าง
ทั้งที่เราจดจำ และระลึกถึงมันอยู่... ด้วยนะ...

ทำไมเราต้องกรอบตัวเอง ยึดไว้ด้วยอะไรที่มันไม่จำเป็น แล้วทำให้อึดอัดเปล่าๆ
ทั้งที่ก็หนีใจตัวเองไม่ได้ ว่าแหกกรอบนั้นเอง...

ทำไมเรายังเครียด ทั้งที่เราปฏิเสธว่าไม่ แต่สิวเม็ดเป้งมันฟ้อง..

ทำไมเราต้องแคร์ แต่ปากบอกว่าไม่..เพื่ออะไรกัน

ทำไมรู้ทั้งรู้ว่า รักเป็นบ่อเกิดของทุกข์
แต่ยังตามค้นหาคว้าไขว่ คาดหวัง..
เจ็บก็เจ็บเองคนเดวทุกที

ทำไมเราต้องลังเล โลเล ไม่เชื่อมั่น ไม่มั่นใจ
เป็นกมลสันดาน มากับตัวตน คนๆนี้ด้วยนะ...
ทั้งที่ความจริง ความมั่นใจคือสิ่งที่เป็นตัวตนด้วยนี่นา

นี่ล่ะหนอ ความขัดแย้งในใจที่เกิดขึ้นอีกแล้ว...

เมื่อไหร่กันที่เราจะเข้าใจตัวเอง และให้อภัย ปล่อยวางให้กับตัวเองได้ซักทีนะ

....

กลัวที่สุด ความรู้สึกจมดิ่งกับอารมณ์ตัวเองเช่นนี้ ไม่อยากให้เป็น
จึงต้องระบายออกมา ก่อนจะเผากร่อนพลังใจให้มอดไป...

กลัวที่สุด ความเหงาสุดติ่งแบบนี้ที่เข้ามาในบางที
นำพาความทรงจำอันโหดร้าย และทำใจดิ่งลงเหว...

กลัวที่สุด รู้ทั้งรู้สภาพของจิตใจ แต่ยังคงปล่อยให้มันดำเนินไป...
ทำร้ายตัวเองต่อไป.. ครรลองนี้ควรแล้วหรือ..

กลัวที่สุด จมกับความเศร้ากัดกร่อนใจ
แต่ยังหอมหวานไม่อยากออกจากมันไป...

กลัวที่สุด การเปิดเผยตัวเอง
นั่นคือสิ่งที่จะพรากสิ่งดีๆ ไปจากชีวิตฉันใช่ไหม...

กลัวที่สุด ความร้อนไร้สาเหตุ ที่นานๆ โผล่มาที
แต่เด่วนี้โผล่มาบ่อยแฮะ เผาใจเข้าไป..
ดีนะ อยู่คนเดว ไม่เผาคนอื่นด้วย น้องอยู่ด้วย คงโดนเผาลามไปด้วยแน่ๆ...

เป็นอะไรนะ เจ้าความโกรธ เธอไม่เคยนำมาซึ่งความเย็นได้เลย ร้อนใจทุกที

เป็นอะไรนะ เจ้าความคาดหวัง คาดคั้นกับตัวเองไม่พอ
ยังจะเอาไปแปะไว้กับคนอื่นอีก...

เป็นอะไรนะ เจ้าความเหงา เราต้องอยู่ด้วยกันไปเรื่อยเลย

เป็นอะไรนะ เจ้าความสุข ชอบจะแวะมายามเผลอ แล้วก็จากไปไม่บอกกล่าวเลย

เป็นอะไรนะ เจ้าความกลัว ทำให้ก้าวต่อไปยากจริงๆ หยุดอยู่กับที่เลย...

เหล่านี้สินะ ความอ่อนแอ อันเปราะบางด้านหนึ่ง...

กล้าหน่อย.. ยอมรับ เหงาจริงจัง มันถาโถมใจพอตัว..

น้องใกล้ชิดบอก พี่... ต้องอยู่กับปัจจุบันค่ะ แล้วจะรู้อะไรตามจริงมากขึ้น

เออ ความจริงที่ลืมไปนี่เอง..ขอบคุณน่ะ ^^

เฮ้อ เอาล่ะ ดีขึ้นและ กลับไปทำงานต่อดีกว่า

Deadline เดือนหน้าก็ต้องเอาให้เสดกันล่ะ มันไม่ได้ยาก แต่ไม่หมูเลย..

ถึงฉันจะไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่เลือกจะมาก็ยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป...

ฟังเพลงปิดท้าย เอาให้ตายกันไปข้าง

I don't like to sleep alone_Paul Anka

Credit: Listen from Blog of K.Dew of this month...



เฮ้อ เธอคนไกล...
ฉันขอโทษที่รู้สึกว่าเธอยังคงไกล และไกลยิ่งกว่าเดิม
ด้วยรู้สึกว่า ตัวฉันเติมเต็มด้วยตัวเอง
ไม่ได้ชุ่มชื่นใจจากเธอที่ติดต่อมาเลย
คำคิดถึง กลวงๆ ซ้ำๆ.. ฉันมองว่า มันเรี่ยราด
ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ย้ำไว้หลายครั้ง
เธอชาเย็น หรือฉันเป็นไปเอง...
space ของเธอคงลดลงนะ กินพื้นที่โดยใช่เหตุ
จากนี้ไป คงเป็นฉันเท่านั้นเอง ที่บรรเลงทุกความรู้สึก...



Create Date : 13 มิถุนายน 2553
Last Update : 30 มิถุนายน 2553 16:33:55 น.
Counter : 747 Pageviews.

6 comments
  
ชีวิตต้องมีตอนต่อไปเสมอนะคะ

เก็บไว้แต่สิ่งดี...ที่เมื่อนึกถึงแล้วยิ้มได้ดีกว่า

ความเฉยชา..อย่าไปสนใจ

อะไรที่เป็นความสุข..ทำไปเถอะค่ะ

แวะมาส่งกำลังใจ

โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:13:34:18 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ

ก่อนอื่น ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ที่ไม่ได้ response คอมเมนต์ Entry ที่แล้วเลยค่ะ
ที่ผ่านมาค่อนข้า่งวุ่นๆ อยู่น่ะค่ะ

ได้จดจ่อกับงาน ก็ทำให้ใจค่อยๆ ออกมาจากห้วงอารมณ์สุดติ่งของตัวเองพอควรเลยค่ะ

จริงนะคะว่าบางที นึกถึงแต่แง่มุมดีๆ ก็ทำให้สุขใจ ยิ้มได้

ความสุขเล็กๆ ก็เลือกเก็บมาจำดีกว่า

ตอนต่อไปของชีวิตนี่ บางทีก็ทำให้อยากรู้เหมือนดูละครเลยค่ะ

อยากรู้ตอนจบซะงั้น ทั้งที่รู้ว่ามันก็ออกแบบไม่ได้...

ไม่งั้น ทุกคนคงมีชีวิตที่สวยหรูกันหมดแน่เลย

คิดแผลงไป ถ้ามี time machine โดเรมอนคงดี แหะๆ

ขอบคุณอีกครั้ง และขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ ;)
โดย: เลื้อย วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:17:17:22 น.
  
ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ
ไม่มีทางที่จะปนเปื้อนแน่ะ
คุณภาพชีวิตคนเกาหลีที่ขวํญเคยไปเที่ยว
มีสูงเลย(ในความรู้สึกของขวัญนะคะ)

น้อยประเทศนักค่ะ..ที่จะปล่อยทุกอย่างตามสบาย
เหมือนบ้านเรา

อิอิ
โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:20:56:16 น.
  
วันเวลาผ่านไปทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง
โดย: ตามเส้นทางของหัวใจ วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:22:10:06 น.
  
ก่อนอื่นขวัญแอดเป็นเพื่อนเลยนะคะ(ขอทีหลังแต่แอดก่อนแล้วค่ะ แหะแหะ)

สงสัยเราจะชอบสีม่วงเหมือนกันนะคะเป็นสีโปรดของขวัญเลยล่ะ โดยเฉพาะแบ็งค์สีม่วง อิอิ

ปีนี้บอลโลกดูจะคึกคักค่ะ ขวํญยังรู้สึกเลย เห็นข่าวชาวเกาหลีในไทยเชียร์ทีมประเทศตัวเองยังทึ่งเลย ดูเค้ารักชาติมากมาย ตัวขวํญเองถ้ามีเพื่อนชวนไปนั่งดริ้งก์ไปด้วยดูไปด้วยตามร้านนะ จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีน้ำเมามาช่วย..ทำให้บอลสนุกมากขึ้น (อันนี้พ่อบอกว่าข้ออ้างนี่หว่า) ร้านที่มีทีวีจอยักษ์ หรือโรงเบียร์นี่ถึงขนาดต้องจองโต๊ะกันเลยทีเดียวค่ะ

แต่อาทิตย์นี้คงต้องพักดูอยู่กับบ้านก่อนค่ะ..เพราะนายทุนของขวัญ(พ่อ) เริ่มจะมองค้อนแล้ว...ต้องเจียมตัวนิ้ดนึง...
ไม่งั้นเด๋วอดเบี้ยเลี้ยง แย่แน่ ๆ

ยังไงก็มาลุ้นด้วยกันนะคะ




โดย: ในความอ่อนไหว วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:19:00:58 น.
  
สวัสดีจ้า

- ขวัญ
ขอบคุณมากเลยนะ ที่แอดเป็นเพื่อน เป็นเกียรติจริงๆ ยินดีจ้า ;)
เรียกเรา เลื้อยก็ละกันนะ...

สีม่วงเป็นสีประจำใจ เห็นที่ไหนจะสะดุดตาตลอดเลย
เป็นสีที่ดูแล้วสบายตา นุ่มนวล สดใส เงียบเหงาก็ได้
แล้วแต่โทนสีและอารมณ์ แต่ถ้าแบงค์ ชอบสีเทามากกว่า แพงดี อิอิ

เกาหลีใต้น่ะ ชาตินิยมสูงจริงๆ ไปไหนก็ยังเอาความเป็นเกาหลีติดตัวไปด้วยตลอด
ที่เห็น จะแข่งเบสบอล, ฟุตบอล, โอลิมปิค โอลิมปิคฤดูหนาว เอาหมด เชียร์หมด ให้เป็นชาติเดวกันนะ
ฟุตบอลนี่กีฬายอดฮิตสากลอยู่แล้วด้วย เลยไม่แปลกที่จะเชียร์กันเอาจริงจัง

ถ้าไปดูบอลที่ร้าน คงสนุกน่าดูจริงๆ เคยไปตามร้านอาหารหรือผับ ตอนแข่งบอล ถ้าเข้าโกลที ก็เฮกัน พลอยสนุกไปด้วย
ถ้าไปดูที่ร้านกับเพื่อน แล้วเชียร์ทีมเดวกัน คงมันส์น่าดู...
น้ำเมา มักใช้เป็นข้ออ้าง ตลอดรายการแหละ
จะนัดกระชับมิตร จะเฮฮา ปาร์ตี้ จะเศร้า อกหัก
ถ้าได้ลองเข้าปากไปแล้วน่ะ เคลิบเคลิ้มไปกับทุกอารมณ์
เด่วนี้ไม่ค่อยดื่มแล้วล่ะ แก่แล้วมั้ง ไม่มีโอกาสด้วย...

อยู่กท.รอบนอกไหม คนเชียร์บอลกันคงคึกคักนะ
ไม่เคยไปมีโอกาสไป เคยไปแต่ร้านแถวบ้านนอก
เพราะมีโต๊ะนั่งเยอะ คนไปเที่ยวน้อยกว่า จึงไม่เคยเต็มถึงขั้นจองเลย
อย่างมากก็ยืนรอหน้าร้านซักพัก เด่วก็มีบางโต๊ะลุก ให้เสียบแทน หน้าบอลก็คึกคักเป็นพิเศษเหมือนกัน
ดูจอยักษ์ ใหญ่เห็นชัด สะใจดี

อยู่นี่ ดูกันผ่านเน็ตเท่านั้น
ดูอยู่บ้านก็ดีไปอย่างนะ อยากเฮ อยากกินเคี้ยว ทำไรก็สบายอารมณ์ไปเลย เสียดายจอเล็กไปหน่อย...

- ตามใจ,
ใช่เลย พอเวลาผ่านไป ซักพักอารมณ์ก็เปลี่ยนไปแล้วล่ะ ;)
โดย: เลื้อย วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:10:02:05 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เลื้อย
Location :
Seoul,  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดี ชาวโลก...ออนไลน์

ขอบคุณที่แวะเข้ามาแล้วเยี่ยมชมค่ะ

นานๆ จึงจะได้มาอัพซักกะครั้งแหละ...
ตามแต่ใจจะพาไป

หากเข้ามาอัพบ่อย ตายแน่เลย
งานท่วมหัว เอาตัวไม่รอด..

จะทักทาย ติชม ประการใด ตามสบายละกัน ^^'

ไว้คุยกันค่ะ ;)

ปล. ชักงงๆนิดหน่อย ตรูแปะไว้คราวก่อน
แล้วไฉนจึงหายไปได้ละเนี่ย...งึ่มๆ