ธันวาคม 2555

 
 
 
 
 
 
1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
กล่องความทรงจำต่อฝัน ตอน ความเชื่อ เรื่องบังเอิญ หรือพรหมลิขิต..

กล่องความทรงจำต่อฝัน.. 

ตอน.. ความเชื่อ เรื่องบังเอิญ หรือพรหมลิขิต


เคยมีความเชื่อเกี่ยวกับอะไรซักอย่างไหม.. 
แล้วคิดว่าสิ่งที่เชื่อนั้นมีจริงหรือเปล่า..


วาดฝัน..หญิงสาวผู้ซึ่งเชื่อมั่นในเรื่องของแรงอธิษฐาน เธอคิดเสมอว่าการที่จะตั้งมั่นนึกถึงสิ่งใดซักสิ่งหนึ่งเพื่อให้เกิดปาฏิหาริย์ส่งผล เราจะต้องมีความเชื่อมั่นในสิ่งนั้น และทุกอย่างจะประสบผลดังตั้งใจ..


‘ในวันที่ฉันได้เจอที่แห่งนี้.. ทำให้ฉันได้รู้ความหมายของการได้พบเจอ..
โลกก็ยังคงหมุนไป.. อะไร อะไร ก็เหมือนเดิม แต่สิ่งที่มีเพิ่มเติมก็คือเธอ.. 
เธอทำให้ฉันรับรู้ด้วยหัวใจ.. เธอทำให้ฉันรับรู้ถึงความผูกพัน.. 
รู้ถึงบางสิ่งที่ฉันไม่เคยเชื่อเลยในสักวัน.. เพิ่งรู้เพิ่งเข้าใจก็วันนี้ว่าพรหมลิขิตมีจริง..’**


เสียงเพลงคลอเบาดังแว่วไกลและใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ตามก้าวเดินจนหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ มือเรียวเล็กเอื้อมหมุนลูกบิดเปิดออกอย่างเชื่องช้า ต้องการพบเจอใครบางคนที่อยู่ภายในห้อง ๆ นี้

“วาดฝันทำอะไรหน่ะ..”

“...” เจ้าของชื่อละสายตาจากทุกสิ่งตรงหน้าหันมองตามเสียงทักทาย สีหน้าประหลาดใจพาเธอหลุดขำแทนการตอบคำถาม เพื่อนสนิทมองดูกิจกรรมของวาดฝันด้วยอาการงุนงงเนื่องจากไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังตั้งใจทำซักเท่าไหร่ นั่นคงเป็นเพราะการเข้าใจความคิดของใครอีกคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายหากไม่เอ่ยปากบอกออกไปให้ได้รู้

“ว่างมากนักเหรอเอากระดาษมานั่งตัดเล่น”

“เราตัดกระดาษไว้พับดาว”

“พับดาว.. พับไปทำอะไร นี่เธอว่างมากนักหรือไง แล้วงานขงงานเขียนไม่ทำต่อแล้วเหรอ ฉันรออ่านอยู่นะ”

“เขียนสิ เรามีเวลาออกถมไป ถ้ารู้จักวางแผนให้กับชีวิตตัวเอง”

“ย่ะ.. แม่นักวางแผน”

“...” น้ำเสียงเสียดสีหยอกเย้าพาวาดฝันระบายยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อนึกถึงสิ่งของในมือซึ่งเธอพยายามตั้งใจทำเพื่อใครบางคน

“ฉันเห็นเธอฟังแต่เพลงนี้ซ้ำซากไม่เบื่อบ้างหรือไง”

“ไม่เบื่อหรอกเพลงโปรดนิ.. นี่.. ว่าแต่.. เธอเชื่อเรื่องคำอธิษฐานหรือเปล่า”

วาดฝันตั้งคำถามตรงยังเพื่อนสนิทที่ย่างเดินทรุดกายลงนั่งข้าง ๆ พลางหยิบจับกระดาษมาถือไว้คล้ายต้องการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหน้าที่

“ไม่เชื่อหรอก คำอธิษฐานอะไร ไม่มีจริงซักหน่อย เธอก็เลิกงมงายซะทีเถอะ ว่าแต่.. ไอ้ที่เธอทำอยู่เนี้ย ทำไปเพื่ออะไรแล้วทำไปให้ใครเหรอ”

“ไม่บอก..”

วาดฝันได้แต่อมยิ้มน้อย ๆ กับความลับที่เก็บไว้ภายในใจ ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเอ่ยบอกให้ใครได้รู้ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม เพราะเธอเชื่อว่าหากเพื่อนของเธอได้รับรู้ว่า ‘ใคร’ คือคน ๆ นั้น รับรองว่าเธอคงโดนบ่นจนหูชาไปทั้งคืนแถมถึงพรุ่งนี้ให้อีกวันเลยก็ยังได้ เนื่องจากเพื่อนสนิทของเธอไม่เคยคิดสนับสนุนอย่างยิ่งหากวาดฝันจะนึกถึงใครที่ไม่มีตัวตนและคงไม่มีวันได้พบเจอ อาจเปรียบเสมือนกับเส้นขนานที่ทำอย่างไรก็ไม่มีวันบรรจบลงเอยประมาณนั้น 

หากทว่าความคิดคนเรามักแตกต่างกันเสมอ วาดฝันเองไม่เคยหวังเช่นนั้นเพราะเท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ทำให้มีความสุขมากเพียงพอแล้ว กับการได้คิดถึงและส่งผ่านความรู้สึกดี ๆ ให้ ‘ใคร’ คนนั้น คนที่เป็นเหมือนกำลังใจ สร้างแรงผลักให้เธอมีความเชื่อมั่นก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางของความฝัน

“โธ่! วาดฝัน ทำเป็นมีลับลมคมนัยไปได้ แค่มองตาเธอฉันก็เห็นทะลุยันตับไตไส้พุงหมดแล้วล่ะย่ะ”

“รู้แล้วจะถามทำ.. บ้าอะไร..”

“สมมุติว่าเธอพับดาวจนเต็มขวดโหล แล้วเธอจะเอาไปให้เขายังไงไม่ทราบ”

“ทำไมต้องคิดว่าเราจะเอาไปให้ใคร เราจะเอาไปลอยทะเลต่างหาก”

เสียงขำขันสนุกสนานกลบความเงียบเหงาจางหาย รอยยิ้มของวาดฝันมอบความสุขให้คนรอบข้างเสมอ แม้บางครั้งจะมีเรื่องทุกข์ใจหนักหนา แต่เธอก็เลือกที่จะแสดงความร่าเริงออกมาให้ใครต่อใครได้หัวเราะแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ไปด้วยกัน

วาดฝันค่อย ๆ ลงมือตัดกระดาษหลากหลายสีสันเป็นเส้นเล็กๆ เพื่อพับดาววันละดวงใส่ขวดโหล ระหว่างที่บรรจงพับอย่างประณีต เธอจะอธิษฐานส่งคำอวยพรหลายสิ่งลงในดวงดาวทุกดวงที่ตั้งใจทำ เพราะเธอเชื่อว่าคำอธิษฐานขอพรของเธอจะส่งผลถึงใครคนนั้น คนที่เธอยังคงคิดถึงเขาในทุก ๆ วัน

“เธอเชื่องั้นเหรอ ว่าทุกสิ่งที่เธอเจอะเจอมันเป็นพรหมลิขิต”

“เราไม่เคยบอกสักคำว่า ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตต้องเป็นพรหมลิขิต มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากๆ ก็เท่านั้น ที่ทำให้เราได้พบเจอใครต่อใครที่เข้ามาอยู่ในความคิดและ..”

“และอะไร..”

“ปล่ะ เปล่า”

จะให้เธอบอกไปได้อย่างไรว่าคนที่ไม่เคยมีตัวตนจะวนเวียนอยู่ในความคิดและจิตใจได้ตลอดเวลา สะบัดเท่าไหร่ก็ไม่เคยหลุดออกจากสมองได้เลยแม้ซักนาที


พรหมลิขิตมีจริงงั้นหรือ?

ใครหลายคนคงเคยตั้งคำถามนี้ และอีกหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพรหมลิขิตมาบ้าง แต่หลายคนเหล่านั้นจะเชื่อหรือไม่ว่าพรหมลิขิตมีจริงบนโลกใบนี้ คงไม่มีใครตอบได้ เพราะมันเป็นแค่สัมผัสทางความรู้สึก อาจเป็นความเชื่อเฉพาะตัวบุคคลก็ว่าได้

“ฉันเห็นออกบ่อยไปตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ ฉุด กระชาก ฆ่ากันตาย ตั้งกี่รายในแต่ละวัน เธอเห็นไหมว่าขนาดคนเคยไว้ใจกันมาก เคยเห็นหน้าค่าตากันเป็นประจำยังเชื่อใจไม่ได้ นับภาษาอะไรกับคนไม่เคยเจอกันซักครั้ง ฉันว่าเธอกำลังลุ่มหลงหรือเปล่าวาดฝัน”

“จะบ้าหรือไง เราโตจนป่านนี้แล้ว เรื่องรักใคร่ก็เคยผ่านมาหมด ทั้งผิดหวัง ทั้งเสียใจ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็ตั้งเยอะ กับความรู้สึกแค่นี้ เราไม่ปัญญาอ่อนขนาดแยกแยะไม่ออกหรอกนะว่าอะไรเป็นอะไร”

ประโยคสนทนากลั้วหัวเราะในลำคอทำเอาเพื่อนสาวข้างๆ ตวัดสายตาส่งค้อนให้เธอวงใหญ่ สำหรับวาดฝันแล้วความห่วงใยที่เพื่อนมอบให้ เธอรับรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี เพราะรักและหวังดีเพื่อนถึงคอยเตือนสติเธออยู่ตลอดเวลา แต่จะให้อธิบายอย่างไร ว่าสิ่งที่เธอรู้สึกมันไม่ใช่ความต้องการแบบรักใคร่ อยากเจอ อยากเห็น หรืออยากคบหาเป็นคนรักกัน มันไม่ใช่อะไรอย่างที่เพื่อนเธอเข้าใจเลยซักนิด  

“เอาเถอะ.. ความรู้สึกของเธอเป็นแบบไหน ฉันคงไม่เข้าใจ แต่อย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งซบอกฉันก็แล้วกัน”

“ไม่มีวันซะล่ะ ล้านเปอร์เซนต์”

“ย่ะ มั่นใจซะเหลือเกิน โน้น.. มาโน้นแล้ว ข้อความกะพริบแหน่ะ มาแล้วสิ.. คุณแสนดีของเธอ”

วาดฝันละสายตาจากงานฝีมือ หันตามจุดสนใจของเพื่อนที่เอ่ยทักขึ้น บุคคลที่เธอรอคอยกับการมาเยือนของเขาในทุก ๆ วัน แม้จะผ่านตัวอักษรแต่มันกลับทำให้หัวใจชุ่มชื้นมีชีวิตชีวาทุกครั้ง

“สวัสดีครับ ผมเพิ่งกลับถึงบ้านครับ กลับมาก็รีบเข้ามารายงานตัวเลย ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”

“เหนื่อยหรือเปล่าคะ ทานอะไรมาหรือยัง”

การสนทนาทักทายทางจอคอมพิวเตอร์ยังคงมีต่อเนื่องทุกวันไม่เคยขาด เสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน จากการติดต่อผ่านโลกไซเบอร์สร้างความคุ้นเคย แทรกซึมผ่านความรู้สึกจนทุกอย่างเกือบกลายเป็นชีวิตจริง คล้ายคนสองคนได้ใกล้ชิดกันโดยมีกระจกเงากั้นไว้เท่านั้นเอง

จากหนึ่งชีวิต ไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่เคยต้องห่วงใยความรู้สึกคนอื่น แต่ทุกวันนี้กลับต้องคอยคิดถึงความรู้สึกของใครอีกคน ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร รอคอยการกลับมาในทุก ๆ วัน

“วันนี้วาดฝันมีงานเร่งด่วนค่ะ คงต้องกลับดึก คุณแสนดีไม่ต้องรอนะคะ ง่วงก็นอนหลับได้เลย”

“ไม่ครับ ผมจะรอจนกว่าคุณจะกลับถึงบ้าน เป็นห่วงครับ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ”

ประโยคเพียงเท่านี้สามารถส่งผลให้เธอรีบเร่งทำงานให้เสร็จเร็วกว่ากำหนด เพื่อจะได้รีบกลับบ้านให้ไวขึ้นเพียงเพราะมีใครบางคนต้องอดทนรอ ยอมอดนอนเพื่อให้เธอได้กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย ซึ่งกับความเป็นจริงแล้วมันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องสนใจอะไรมากมายเท่านี้ เพราะถึงอย่างไร เขาก็ไม่ได้รับรู้หรือมองเห็นการดำเนินชีวิตของเธอแม้แต่น้อย แต่เขากลับแสดงความห่วงใย ดูแล สร้างความรู้สึกปกป้องให้กับคน ๆ หนึ่งได้อบอุ่นหัวใจ 

“วันนี้วาดฝันจะร้องเพลงให้คุณแสนดีฟังนะคะ”

วาดฝันเริ่มพิมพ์ตัวอักษรทีละตัวใส่ลงในข้อความ มันเป็นเพลงอวยพรวันเกิด และคำอธิษฐานขอพร เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณแสนดี

‘แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู’

“ทีนี้วาดฝันอยากให้คุณแสนดีจินตนาการว่ามีเค้กปอนด์ใหญ่ๆ วางอยู่ตรงหน้านะคะ หลับตาอธิษฐาน เสร็จแล้วเป่าเทียนด้วยค่ะ เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ นับแต่วันนี้เป็นต้นไปวาดฝันขอให้คุณแสนดีมีความสุขกับทุก ๆ วันที่กำลังจะมาถึงตลอดไป ขอให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง สิ่งเลวร้ายหรือมารผจญทั้งหลายอย่าได้กล้ำกลายเข้าใกล้ ขอให้คำอธิษฐานที่วาดฝันตั้งใจขอพรส่งผลถึงคุณแสนดีโดยไวค่ะ”

“ขอบคุณมากครับ”

ในทุก ๆ วันสิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่พร้อมเก็บรวบรวมเข้ากล่องความทรงจำต่อฝัน มันจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคนสัมผัสรับรู้และสื่อถึงกันได้ตลอดไป

ไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดจากเรื่องบังเอิญ หรือพรหมลิขิต ก็คงไม่สำคัญอะไร หากแต่ใจเรายังเชื่อมั่นที่จะสานฝันต่อไปร่วมกันไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม มันจะยังคงอยู่ในความทรงจำตราบนานเท่านาน..


** เพลงดินแดนที่มีเธอ Note สมัชญ์พล






Create Date : 04 ธันวาคม 2555
Last Update : 5 ธันวาคม 2555 9:04:17 น.
Counter : 1267 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments