Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
9 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
DIY: Compost pile

วันนี้มาออกแรงทำการงานฝีมือกันหน่อยดีไม๊ครับ อันที่จริงก็ไม่ต้องใช้ฝีมืออะไรมากนักหรอก เพราะถ้าต้องใช้ฝีมือมากผมก็คงทำไม่ได้เหมือนกัน อิ อิ

ผมจะทำ compost bin หรือ compost pile แบบบ้าน ๆ ให้ดูก็แล้วกัน แล้วไอ้เจ้า compost bin นี่มันคืออะไรครับ แหะ แหะ ลืมบอกไปครับวันนี้เล่นคำภาษาปะกิดเสียด้วย เจ้าสิ่งที่ผมกำลังจะทำนี้มันก็คือกองปุ๋ยหมักที่เราเคยได้ยินกันนั่นแหละครับ โดยผมจะทำปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ในบ้านครับ

เริ่มแรกเราต้องมีอุปกรณ์ก่อน มี 4 อย่างครับ
1. ตาข่ายพลาสติก ราคาเมตรละ 30 หรือ 35 บาท จำไม่ค่อยได้ โดยผมซื้อมา 10 เมตร น่าจะทำได้ 2 อันนะ
2. เชือกฟางสำหรับมัด ถ้าจะให้คงทน แนะนำให้ใช้ cable tile ครับ (ผมไม่มีรูป cable tie ให้ดู แต่หากเห็นแล้วต้องร้องอ๋อ) ดูรูปจากพี่วิกกี้เอาเองก็แล้วกัน

3. มีดสำหรับตัดเชือก ผมใช้มีดปอกผลไม้ที่บ้าน
4. แรงงาน หากเป็นคนทีไม่ค่อยมีแรง ให้ขอแรงมาจากคนที่บ้านมาช่วยทำ

เริ่มแรกนี่เป็นตาข่ายพลาสติกที่ผมซื้อมา วันนี้ทำไมผมถ่ายรูปชัดจัง สงสัยแสงกำลังดี ชักจะนอกเรื่องแล้ว


มาต่อดีกว่า เราก็คลี่พลาสติกออกมาทำเป็นถังรูปทรงกระบอกโดยพันสักสองรอบเพื่อความแข็งแรง ทรงกระบอกนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 80 ซม. กำลังสวยเลยครับ เนื่องจากพลาสติกมีหน้ากว้าง 90 ซม. หากเราทำถังที่แคบเกินไปแบบผอม ๆ สูง ๆ เวลาใส่ใบไม้ลงไปแล้วมันจะตั้งไม่อยู่และล้มได้ง่าย อีกประการหนึ่งคือมันจะเก็บความร้อนไม่อยู่ครับ
เดี๋ยวจะบอกว่าความร้อนมาเกี่ยวอะไรด้วย


หลังจากนั้นเราก็ใช้เชือกฟางทำการยึดผูกให้แน่น จะมัดเป็นสองแถวให้สวยงามแบบผมก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์อันใด ในที่สุดขั้นตอนการสร้างตัวถังก็เสร็จสิ้น ง่ายมากเลยใช่มั๊ยครับ มาถึงตรงนี้เราก็มีถังซึ่งมีน้ำหนักเบาสำหรับเอาไว้ใส่ใบไม้ทำปุ๋ยหมักได้แล้ว
Note: เห็นน้องจันผาของผมที่มายืนเชียร์ห่าง ๆ อยู่ด้านหลังไหมครับ


คราวนี้มาอธิบายวิธีการทำงานของ compost pile ของเรากันต่อว่า compost pile จะทำงานสมบูรณ์ก็ต้องมีองค์ประกอบ 4 อย่างคือ
- Carbon ซึ่งได้แก่ ใบใม้แห้งต่าง ๆ ซังข้าวโพดที่กินแล้ว
- Nigrogen ได้แก่ ใบไม้สด เศษผักจากในครัว เปลือกผลไม้ ยกเว้นเปลือกทุเรียน
- Oxygen มีอยู่แล้วในอากาศ
- น้ำ
หากอัตราส่วนขององค์ประกอยทั้งสี่เหมาะสมแล้ว จุลินทรีย์หรือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติจะทำให้เกิดขบวนการย่อยสลาย ซึ่งจะเปลี่ยนเศษใบไม้และพืชผักให้กลายเป็นอินทรียวัตถุหรือฮิวมัสซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อต้นพืชนั่นเอง

ข้อห้าม: ห้ามใส่เศษอาหารที่มาจากส่วนประกอบของสัตว์ ทั้งในรูปของสดหรือปรุงสุกแล้ว เช่น กระดูกหมู กระดูกไก่ ก้างปลา หนังไก่ เปลือกกุ้ง เป็นต้น เนื่องจากของพวกนี้จะส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรง และยังชักนำพวกหนูหรือสัตว์ต่าง ๆ มาคุ้ยเขี่ย รวมถึงแมลงวันด้วย

เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มใส่วัตถุดิบลงไปในถังของเรา โดยเราจะใส่เป็นชั้น ๆ สลับกันไประหว่างใบไม้แห้งกับใบไม้สด จำนวนที่จะใส่คือให้มีน้ำหนักเท่ากัน ขอย้ำอีกครั้งให้ใส่โดยน้ำหนักที่เท่ากันนะครับไม่ใช่ปริมาตร แต่ไม่ต้องถึงกับเอาใบไม้แห้งกับใบไม้สดมาชั่งหรอกครับ นั่นออกจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตเกินไป แค่กะเกณฑ์เอาด้วยสายตาก็พอแล้ว ส่วนใหญ่ผมมักจะเริ่มจากใบไม้แห้งก่อน ใส่เข้าไปเลยหนาสักประมาณ 1 คืบ อาจอาจจะเอาเสียม จอบ หรืออะไรก็ได้ กดให้แบน ๆ แน่นนิดนึง


มาถึงชั้นที่สองคราวนี้ก็ใบไม้สด หากมีเศษผักในครัวที่ผมมักจะแยกไว้ต่างหาก ก็เอามาใส่ได้ไม่ว่าจะเป็นเปลือกส้ม เปลือกแครอท เปลือกสับปะรด เศษหัวกะหล่ำ ใส่เข้าไปเลย


ยังไม่พอแค่นี้น้อยเกินไป เวลาผมทำปุ๋ยมักจะทำควบคู่กับการตัดแต่งไม้พุ่มในบ้าน อย่างวันนี้ก็เป็นเศษต้นหนวดปลาหมึกที่ถูกตัดแต่งเนื่องจากชักจะโตเกินไปแล้ว ทรงพุ่มก็เริ่มจะล้ม ผมก็เลยจัดการตัดแล้วเอามาทำปุ๋ยซะเลย
บางทีผมก็มีกิ่งพุด กิ่งต้นโมกที่ได้จากการตัดแต่งมาใส่ หากกิ่งยาวเกินไปก็ตัดให้สั้นซะ อย่าให้เก้งก้างเกะกะ เอาเฉพาะกิ่งเล็ก ๆ นะครับ กิ่งเท่าแขนอย่าใส่ลงไป เพราะไม่รู้ชาติไหนจึงจะผุเปื่อย ใส่ไปสูงประมาณอีก 1 คืบ กดให้แน่น ๆ นิดนึง แล้วก็สลับกลับมาเป็นใบไม้แห้งอีกครั้ง ทำแบบนี้ไปจนวัตถุดิบหมด


หลังจากนั้นก็รดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าให้แฉะเกินไป เอาแค่พอดีครับ เนื่องจากแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ของเราต้องการน้ำด้วย หากส่วนผสมของเราพอเหมาะ กระบวนการย่อยสลายก็จะเกิดขึ้น แล้วจะผลิตความร้อนออกมา ความร้อนนั้นก็จะสะสมอยู่ในกอง compost pile ของเรา ซึ่งจุลินทรีย์จะทำงานได้ดีในอุณภูมิที่ค่อนข้างร้อนครับ เราอาจดูว่ากองปุ๋ยของเราทำงานหรือไม่ โดยรอให้ผ่านไปสัก 3-4 วันแล้วเอามือไปลองแหวกดู หากมีไอร้อนขึ้นมา แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ หากแห้งไปก็รดน้ำ หากแฉะไปก็เติมวัตถุดิบลงไปเพิ่ม

หลังจากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ควรจะมีการกลับกองปุ๋ย เพื่อเป็นการเพิ่มอากาศ และลดอุณภูมิในกองลงบ้าง ส่วนตัวผมเองมักไม่ค่อยได้กลับครับ เนื่องจากทรงกระบอกแบบนี้ หากเราใส่ใบไม้จนสูงแล้วมันกลับกองยาก ผมก็เลยไม่ค่อยได้กลับ หากขยันหรือนึกครึ้มอกครึ้มใจไม่มีอะไรจะทำก็ 1 หรือ 2 เดือนจะลงมือสักครั้งหนึ่ง ในระหว่างนี้หากเรามีใบไม้ร่วงหรือมีตัดแต่งกิ่งอีกก็เอามาเติมได้ครับ กองปุ๋ยของเราจะยุบลงเรื่อย ๆ ไม่เต็มง่าย ๆ หรอกครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ดีควรจะมีสัก 2 กอง พอกองแรกเต็มก็ปล่อยให้ย่อยสลายไป แล้วย้ายไปทิ้งกองที่สองแทน

ส่วนภาพนี้เป็นตัวอย่างที่ผมทำมาในปีนี้ แต่เป็นตั้งแต่ช่วงไหนของปีก็บอกยากเต็มที เพราะผมมักจะมาคุ้ยเอาส่วนล่าง ๆ ที่เปื่อยแล้วไปผสมดินปลูกต้นไม้ สังเกตดูส่วนด้านบนที่เพิ่งใส่ได้ไม่นานยังสามารถมองเห็นใบไม้เป็นใบ ๆ อยู่เลย ส่วนทีอยู่ด้านล่างลงไปเริ่มเปื่อยไปเยอะแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสิ้นขบวนการ ต้องรอให้เปื่อยจนมีสภาพเป็นเหมือนดินเลยครับ ค่อยเอาไปใช้ได้


ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนไม่ยาวนะครับ แต่ทำไปทำมากลับยาวซะนี่ ขอจบดีกว่า

สวัสดี
มะโรง


Create Date : 09 ธันวาคม 2552
Last Update : 20 มีนาคม 2553 13:45:03 น. 29 comments
Counter : 21344 Pageviews.

 
มาเพิ่มอีกนิดครับ สามารถใส่เปลือกไข่ได้ครับ เป็นผลิตผลจากสัตว์ชนิดเดียวที่ใส่ได้ครับ


โดย: มะโรง วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:23:49:54 น.  

 
ขอบคุณคร๊าบ ถูกใจจริงๆ


โดย: คุณนายม่วง IP: 124.122.236.136 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:0:33:25 น.  

 
ที่บ้านก็ทำแบบนี้ แต่เอาใส่ในถึงปูนซีเมนต์ที่ก่อไว้ 1 x 1 เมตร (มีรูระบายน้ำ) .. แบบว่าต้นขนุน มะปราง มะยม ไผ่ พวกนี้ใบร่วงเยอะ จะเผาก็เป็นมลภาวะ เอามาใส่บ่อ รดน้ำทิ้งไว้ ทับถมกันเรื่อยๆ ประมาณ 3 เดือน .. แทบจะยุ่ยเป็นดินเลย .. ถ้าจะให้ดีพวกกิ่งไม้ ย่อยสลายช้าไม่ต้องเอาไปรวมด้วย ..


โดย: ซอมพอ@เจียงใหม่ IP: 118.172.35.68 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:1:03:05 น.  

 
ดีจังเลยค่ะ พวกหญ้าก็น่าจะได้นะคะ จะได้ลองทำที่บ้านดูบ้าง แต่ไม่รู้จะมีที่ให้ทำหรือเปล่าเดี๋ยวลองดูค่ะ ขอบคุณนะคะ ดูแล้วง่ายดี


โดย: oakome IP: 113.53.61.188 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:10:33:48 น.  

 
ดีกว่าเผาทิ้งเยอะเลยนะคะ


โดย: coji วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:13:13:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอบคุณเรื่องอั้วพวงมณีค่ะ นามเขาเพราะดีจังถ้าเจอที่ไหน ต้องเอากลับบ้านแน่ค่ะ

เรื่องการทำปุ๋ยใช้มีประโยชน์มาก ทำง่ายด้วยตอนแรกเห็นขึ้นโครงยังไม่ได้อ่านนึกว่า ทำที่เกาะกล้วยไม้


โดย: สวนสวยดอกไม้งาม วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:7:37:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ดีจังวิธีนี้ แอบเอาไปทำตามบ้างท่าจะดี(ขอบคุณค่ะ)


โดย: Katai_Akiko วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:13:58:55 น.  

 
ดูภาพทีแรก...งงว่าจะทำอะไร....ดูดูไปเข้าท่าแฮะ....ขอไอเดียไปทำมั่งนะคะ............


โดย: Calla Lily วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:16:24:03 น.  

 
เข้าท่าคะ น่าเอาไปประยุกต์
เป็นแบบนอนแล้วกลิ้งเพื่อกลับกองนะคะ
ที่บ้านตอนนี้ทำแบบกองบนดินแล้วพลิกด้วยคราด
แต่จะใช้ พ.ด.สำหรับหมักปุ๋ยช่วย
เสริมกับปุ๋ยน้ำที่ทำเองจาก พ.ด.เหมือนกันมารดกองให้ชุ่ม

ถ้าอากาศร้อนๆ สักเดือนเดียวก็ได้ดินแล้วคะ

ดีๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกลับกอง..อิอิ แตะกลิ้งแทนที่นี้ 55


โดย: mutcha_nu วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:20:45:47 น.  

 
น่าสนใจค่ะ เด๋วจะลองทำดูบ้างค่ะ


โดย: ก้อนหิน (cator ) วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:11:22:40 น.  

 
ของส่ง EMS ให้วันจันทร์นะครับ ก่อนหน้าไม่ได้ส่ง วันหยุดและกลัวมันตายระหว่างทางนะครับ


โดย: endless man วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:15:06:34 น.  

 
จับกลิ้งกลับข้างบ้างได้มั๊ยคะ
จะทำให้ย่อยสลายเร็วขึ้นหรือว่าผิดสูตร


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:21:33:52 น.  

 


เก็บต้นเงินหนามาฝาก จากงานสวนสามพรานค่ะ


โดย: สวนสวยดอกไม้งาม วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:10:42:54 น.  

 
คุณมะโรงผมส่งไหลมันเทศทานยอดให้แล้ววันนี้นะครับ รหัส EF 5331 6900 8 TH


โดย: endless man วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:9:27:03 น.  

 
อ่ะฮ้า นี่เลยครับ คุณมะโรง ที่หนูหล่ออยากทำมั่ง
ก็อปเลยนะ อาทิตย์นี้ไปทำที่บ้านป่าเลย 555
ขอบคุณครับ



อ้อ ดีใจด้วยที่น้องจันผาไม่ตายนะครับ

ขอแอดไปด้วยครับ


โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:11:03:22 น.  

 
มันเทศทานยอดหลังจากชำจนติดรากแตกใบแล้ว ต้องออกแดดนะครับ ถ้าปลูกแดดรำไร จะเป็นโรคเน่านะครับ


โดย: endless man วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:13:52:32 น.  

 
ดีจังครับ ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ดีกว่านำไปเผาทิ้ง...



โดย: kitpooh22 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:21:12:32 น.  

 
ชอบๆๆๆ เดี๋ยวลอกการบ้านบ้างนะค่ะ ให้หมดหนาวก่อน...
ที่นี่มีหน่วยงานของรัฐเค้าทำแจกค่ะ กองเท่าภูเขาให้ไปตักเอาเองค่ะ...เอามาใส่ต้นไม้งามดีจริงๆๆ ค่ะ...


โดย: kamonorchids วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:23:53:01 น.  

 
ว่างๆอยู่หรือเปล่าครับ มาชวนไปเที่ยวกัน



โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) วันที่: 17 ธันวาคม 2552 เวลา:21:04:56 น.  

 
ที่บ้านเอาท่อที่ทำบ่อน้ำมาทำคะ


โดย: Violeta Lady วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:20:33:53 น.  

 
แหม น่าสนใจ แต่เฮียว่ามันเล็กสำหรับเฮีย

เฮียว่า ปิดหัวปิดท้ายจับนอน น่าจะดีให้บรรดาแมลงช่วยย่อย


โดย: tiensongsang วันที่: 19 ธันวาคม 2552 เวลา:21:35:39 น.  

 
เรื่องดอกกระเทียมเถา...ไม่รบกวนเลย.....ยินดีค่ะ....แล้วเมื่อไหร่ฝักแก่...แล้วจะส่งข่าวนะคะ


โดย: Calla Lily วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:7:04:14 น.  

 
เป็นกลยุทธในการทำปุ๋ยที่ดีมากนะคะ
และอุปกรร์หาง่ายด้วย
ชื่นชมค่ะ



โดย: gripenator วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:9:56:03 น.  

 
วิธีนี้ใช้อุปกรณ์ง่ายดีนะคะอีกทั้งยังเคลื่อนย้ายสะดวกอีกด้วย
ที่ทำงานก็สอนชาวบ้านเอาขยะมาทำปุ๋ยเหมือนกันคะแต่ใช้วงบ่อ(คิดหนังกตรงวงบ่อนี่ละ)



โดย: พี่นู๋อ้อ (pinuaoo2006 ) วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:13:15:09 น.  

 
จากคำถามที่ถามไว้

ชื่อก็งามนามว่าฟ้าประดิษฐ์
มวลหมู่มิตรเข้ามาชมดมดอกสวย
เจ้ามีกลิ่นหรือไม่ใจระทวย
ขอพี่เทียนตอบด้วยช่วยชี้แจง

..........................................

ได้ฟังความ ตามมะโรง เอ่ยถามพี่
ตอบทันที ว่าไม่มี กลิ่นหรอกหนา
ดอกพราวพรั่ง ฟ้าครามม่วง อร่ามตา
เพลินอุรา ยามได้ยล ดลใจเปรม


โดย: tiensongsang วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:21:07:57 น.  

 
ใบไม้ที่บ้านก็มากมายนึกแล้วอยากจะทำบ้างจัง


โดย: สวนสวยดอกไม้งาม วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:21:45:48 น.  

 
ดีเลยครับ ทำใช้เองแบบนี้ได้รีไซเคิลเศษใบไม้ที่บ้านไปในตัว


โดย: ST.Exsodus วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:17:57:41 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ รอย้ายบ้านแล้วจะลองทำตาม ตอนนี้สะสมใบไม้ได้เยอะแล้ว


โดย: piangjit วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:12:33:24 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังปวดหัวกับหญ้าและใบไม้ที่บ้านอยู่พอดีเลยคะ


โดย: bualoy IP: 113.53.13.151 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:10:36:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มะโรง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาจากชลบุรี ปัจจุบันทำงานอยู่กรุงเทพ

free counters
Friends' blogs
[Add มะโรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.