- กลบท นาคบริพันธ์ -
-๐ ภวังค์รัก ๐-
๑. แสงเดือนจ้าพร่าพราวแสงดาวพร่าง
แสงดาวพร้อยเพริศพลางกระจ่างใส
กระจ่างสวยหิ่งห้อยร้อยเรืองไร
ร้อยเรืองเรื่อหฤทัยชวนให้ชม
๒. ชวนให้ชื่นรื่นฉ่ำนะยามรัก
นะยามแรกร้อยถักประจักษ์สม
ประจักษ์ซ่านหวานซึ้งซึ่งอารมณ์
ซึ่งอารามรักห่มภิรมย์ราย
๓. ภิรมย์ร่วมสวมสู่เป็นคู่ชิด
เป็นคู่เชยชื่นจิตสนิทหมาย
สนิทเหมือนเดือนดาวที่พราวพราย
ที่พราวพร่างพรมสายอยู่ปลายฟ้า
๔. อยู่ปลายฟากฝั่งฝันนิรันดร์สุข
นิรันดร์สิ้นสร่างทุกข์สมสุขสา
สมสุขแสนแม้นเหมือนมิเคลื่อนคลา
มิเคลื่อนคลาดปรารถนารักสองเรา
๕. รักสองรักภักดีไม่มีสิ้น
ไม่มีโศกสูญจินต์ถวิลเศร้า
ถวิลสร้อยสื่อสารแนบนานเนา
แนบนานเนิ่นนานเข้ายิ่งอุ่นอวล
๖. ยิ่งอุ่นอกเอิบอาบยิ่งซาบซึ้ง
ยิ่งซาบทรวงซ่านตรึงคะนึงหวน
คะนึงเห็นเด่นแดมิแปรปรวน
มิแปรปรับเปลี่ยนล้วน.. ชั่วกัปกาล ๚ะ๛
:
.
- Black Sword -
(มยุรธุชบูรพา)
ขอบคุณรูปภาพประกอบจากInternet
๐--------------------๐
โดย หลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
จากตำรากลบท ศิริวิบุลกิตติ์ หน้า ๑๕ ลำดับที่ ๙
๐ กรุงกระษัตริย์ชัดคำโหรทำนาย
โหรทำนูนทูลหมายอาไลยสูญ
อาไลยเสียงเหลียวหลังให้คั่งคูน
ให้คั่งแค้นแน่นหนูนด้วยดวงจันทร์
ด้วยดวงจอมสุดาโหราทาย
โหราทูลว่าร้ายพระไทยหวั่น
พระไทยหวังสังเกตสังเวชครัน
สังเวชครุ่นจิตรมั่นเอาขัน
ออกขันต่อรอป้องประคองรับ
ประคองรานดานดับตัวโศกศรี
ตัวโศกเศร้าเคล้าคล้อยลดถอยที
ลดถอยทางตัวหิริทวีทับ
ทวีทุกข์รุกโถมกระโจมรับ
กระโจนรานด้านหลบโศกสลับ
โศกสละละถอยค่อยลอยลับ
ค่อยลอยละพระก็จับพระขรรค์จร
พระขรรค์จากที่ย่างขึ้นปรางค์ราช
ขึ้นปรางค์เรียกหมู่อำมาตย์บังคมสลอน
บังคมสละละวังตั้งหน้าจร
ตั้งหน้าจากพระบวรสถานวัง
............. ฯลฯ .............
*----------------------*
ส่วนหนึ่งจากต้นแบบ "กลอนกลบทนาคบริพันธ์"
โดย หลวงนายชาญภูเบศร์
จากตำรากลบท : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ หน้า ๕๔๓/๒๕๑๐
๐-------------------------๐
ได้เหนน้องปองรักษสมักหมาย
สมักมิตรพิศวาสไม่คลาศคลาย
ไม่คลาศคลาทิวาวายเทวศครวญ
เทวศคร่ำรำพึงคำนึงนุช
คำนึงนานมิได้หยุดลห้อยหวร
ลห้อยหาผู้เมตาก็เปรปรวน
ก็เปรแปรแต่ล้วนเหนเลื่อนลอย
เหนเลื่อนไหลใจยิ่งร้อนอาวรหวาด
อาวรหวิดจิตร์จะขาดแต่โศกสร้อย
แต่โศกสั่งฟังสารรำคาญคอย
รำคาญเคืองเรื่องรอยเหนเกินการ
............. ฯลฯ .............