[Ghibli Collection Review] The Secret World of Arrietty คนตัวจิ๋ว
 The Secret World of Arrietty

เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมของเล็กๆบางอย่างจึงหายไปจากบ้านของเรา หายังไงก็หาไม่เจอสักที นั่นเป็นเพราะ มีคนตัวจิ๋วๆอาศัยอยู่ในบ้านของเรา คอยหยิบยืมข้าวของของเราไปใช่น่ะสิ นี่เป็นคำคร่าวๆที่เราจำได้จากหนังสือ คนตัวจิ๋วของแมรี่นอร์ตั้น หนังสือที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และยังได้รับรางวัลคาร์เนกี้อีกด้วย



เราดูแว่บแรกเราก็คิดถึง หนังสือที่เราเคยอ่านในห้องสมุดที่โรงเรียนสมัยประถม คนตัวจิ๋ว ของแมรี่ นอร์ตั้น พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ที่เราอ่านเล่มคนตัวจิ๊วแล้วชอบมาก จนไปหาเล่มอื่นๆมาอ่านต่อ แต่ก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าคนตัวจิ๋ว ก็เลยเลิกไป หนังสือชุดนั้นก็ขายไปแล้ว แต่ที่จำได้ว่าของสำนักพิมพ์ผีเสื้อก็เพราะ สำนักพิมพ์ผีเสื้อเป็นสำนักพิมพ์โปรดของเราในสมัยเด็กๆ เวลาไปร้านหนังสือต้องไปดูมุมของสำนักพิมพ์นี้ตลอด หลังจากเราดูไปยี่สิบนาที ก็คิดอีกว่า เหมือนจริงๆ +_+ จนเราต้องไปเปิดวิกิพีเดียดู เลยรู้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเค้าโครงมาจากหนังสือเล่มนั้นน่ะเอง The Borrowers ของ Mary Norton แต่เราจำไม่ได้ก็ไม่แปลกอะไร เราอ่านรอบเดียว แถมผ่านมาเกือบๆสิบกว่าปี เกือบๆยี่สิบ ...แต่เราก็อดประทับใจไม่ได้ เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าในที่บังเอิญยังไงยังงั้น เหตุผลนี้เป็นเหตุผลเดียวกันที่เราจะดู Earthsea ต่อจนจบ เพราะว่ามันทำมาจากหนังสือที่อยู่ในความทรงจำของเรานั่นเอง



คนตัวจิ๋วยังเป็นหนังสือเล่มแรกๆที่เราได้อ่านตอนย้ายเข้าโรงเรียนตอนป.1ด้วย มันเป็นหนังสือภาษาไทยที่อยู่ในหมวด Fiction ไม่กี่เรื่องในตอนนั้น(โรงเรียนเราเป็นไบลิงกัว มีหนังสือภาษาอังกฤษเยอะกว่า) เรายังจำได้อยู่เลยว่ามันอยู่ตรงไหน แต่กลับจำเนื้อหาข้างในไม่ค่อยได้ซะนี่ ...คิดอีกทีก็ดีเหมือนกันจะได้ดูอย่างเต็มที่

อย่างไรเราก็รู้สึกขอบคุณจิบลิที่เลือกหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา แม้ว่าเราจะจำเนื้อหาได้คร่าวๆ แต่เราก็มั่นใจว่าคนที่เคยอ่านหนังสือต้องไม่ผิดหวังแน่นอน มิยาซากิเคยให้สัมภาษณ์ถึงแรงบันดาลใจในการทำ Spirited Away ว่า เป็นเพราะว่าเขาได้เห็นลูกสาวของเพื่อนที่มาเยี่ยมอ่านหนังสือที่ไม่เหมาะสมเข้า เขาจึงคิดว่าจะทำอะไรที่เหมาะกับเด็ก เราเองรู้สึกขอบคุณตัวเองในวัยเด็กเสมอที่เป็นคนรักการอ่าน เรารู้สึกว่าเมื่อก่อนหนังสือดีๆมีเต็มร้านหนังสือ เราโตมากับมิคาเอ็ล เอนเต้, แมรี่ นอร์ตั้น, ซีเอส ลูอิส, อีนิด ไบลตัน, จอร์เจีย บิง, โรอัล ดาห์ล, เจเคโรลลิ่ง นั่นเป็นวัยแรกเริ่มการอ่านหนังสือของเรา เดี๋ยวนี้หนังสือวรรณกรรมเยาวชนแปลชื่อก้องโลกเหล่านี้หาได้ยากตามร้านหนังสือ :)



ภาพยนตร์เรื่องนี้ของจิบลิ เป็นภาพยนตร์ปี 2010 ที่กำกับโดย Hiromasa Yonebayashi นี่เป็นผลงานเดบิวต์ของผู้กำกับคนนี้เลยล่ะค่ะ ฮิโรมาสะอายุ 40 ปี เป็นผู้กำกับที่เด็กที่สุดของจิบลิอีกด้วย เห็นได้ชัดว่างานในช่วงหลังๆของจิบลิอย่าง Arrietty หรือ Poppy Hill กำกับโดยคนที่ไม่ใช่ผู้บุกเบิกจิบลิทั้งนั้น ทั้งนี้ก็เพราะผู้บุกเบิกจิบลิอย่างมิยาซากิ ,อิซาโอะ ทาคาฮาตะ หรือ โทชิโอะ ซึซึกิ นั้น อายุมากกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าทำไม่ไหว แต่ว่าต้องการคนรุ่นใหม่ๆที่จะมาสานต่อจิบลิต่อไป แต่เป็นที่น่าสังเกตนะคะ ว่าทั้งสองเรื่องนั้นไม่มีการทำสกอร์โดย Joe Hisaishi เลย ก็น่าเสียดายอยู่นะ

สิ่งแรกที่เราประทับใจก็ไม่พ้นเรื่องเดิมๆ เอกลักษณ์ของจิบลินั่นแหละ เสียงเพลง และ ภาพ สำหรับอารีเอตตี้นี่ ที่ถือเป็นภาพยนตร์รุ่นใหม่ของจิบลิ ภาพสวยมากๆ มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จิบลิไม่เคยลืม อย่างฉากเทน้ำชา หยดน้ำชาไหลออกมาจากกาทีละหยด ให้เรารู้ว่า อารีเอตตี้ตัวเล็กขนาดไหน แค่สองสามหยดก็เต็มถ้วยชา ฉากที่โชมองขึ้นไปบนต้นไม้เห็นแสงแดดลอดลงมา



ฉากที่ทำให้เรานึกถึงการผจญภัยในฝันสมัยเด็กๆอย่างฉากที่ อารีเอตตี้เดินข้ามตะปู ขึ้นบันได ฉากทำนองนี้ก็มีให้เห็นทั่วไปเช่นกัน อย่างฉากในถ้ำของ Laputa หรือ ฉากจิฮิโระเดินรอบนอกของโรงอาบน้ำ ในสมัยเด็กๆ เราจำได้ว่าการเดินออกไปเที่ยว ข้ามต้นกล้วยที่วางพาดคลอง ก็ตื่นเต้นแล้ว

ชอบฉากที่อารีเอตตี้เข้ามาในบ้านครั้งแรก แล้วได้ยินเสียงทำครัว ก้องๆอยู่ เสียงเข็มวินาทีเดิน ทำให้รู้สึกว่า โห...มันใหญ่จริงๆนะ แล้วทำให้คนดูอย่างเราตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆกับอารีเอตตี้ ทั้งๆที่จริงๆมันเป็นบ้านของมนุษย์ธรรมดานี่เอง 555



บ้านตุ้กตา ... เราว่ามันเป็นความฝันของเด็กผู้หญิง หรืออย่างน้อยก็เรานี่แหละ ที่อยากอยู่ในบ้านตุ้กตา

บางทีอาจจะไม่มีเหตุผล แต่ว่าทุกๆฉากทุกๆตอนของเรื่องนี้ เรามีอารมณ์ร่วมไปด้วยมากๆ ฉากที่โชเอาก้อนน้ำตาลมาวางทิ้งไว้ เขียนโน้ตถึง แล้วอารีเอตตี้แต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก เราแบบตื้นตันขึ้นมา



พระนางของจิบลิต่างมีคาแรกเตอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ว่ามั้ยคะ อย่างนางเอกก็มักจะเป็นเด็กผู้หญิงแกร่ง กล้าหาญ ฉลาด พระเอกก็กล้าหาญ แล้วก็มักจะดูเงียบขรึม เป็นผู้ใหญ่ อย่าง โช ฮาคุ อาชิทากะ โชนี่ค่อนข้างเงียบเป็นพิเศษเลย จนออกจะนิ่งไปในบางที แต่เราก็ชอบน่ะนะ เรารักโช แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจพ่อของอารีเอตตี้ แล้วโชก็พูดเรื่องใจร้ายได้หน้านิ่งมากๆ คือเราก็เข้าใจอ่ะนะ ว่าโชเป็นเด็กขี้โรค คงไม่ค่อยเจอใคร ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับใคร ทำให้กลายเป็นคนเงียบๆ เย็นชาแบบนั้น



แต่บอกตรงๆว่าเกลียดป้าแม่บ้านมากกก =_= แต่เราชอบแมวมาก Niya ถามจริงนี่เป็นญาติกับแมวใน Whisper of Heart รึเปล่า 555 ตัวอ้วนๆกลมๆหน้าบูดๆ แต่นิสัยน่ารัก เราชอบฉากที่อารีเอตตี้จ้องตากับนิยะมาก เหมือนกำลังวัดใจ สื่อสารกันเบาๆ



นี่เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นจากจิบลิที่เราคิดว่าค่อนข้างเหงา เราร้องไห้เลยตอนฉากบอกลาของอารีเอตตี้กับโช เราไม่อยากให้อารีเอตตี้จากไปเลย อยากให้อารีเอตตี้อยู่กับโชตลอดไป ตอนจบคล้ายๆ Spirited Away ที่ฮาคุบอกลากับจิฮิโระ หรืออชิทากะแยกกับซังใน Mononoke



โดยรวมเราชอบมากๆ มากๆเลย ภาพสวยมากๆ อาจจะสวยที่สุดเลยในบรรดาจิบลิ อาจจะเป็นเพราะมันใหม่ด้วย จริงๆเราอยากให้มีฉากระหว่างโชกับอารีเอตตี้อีกสักนิด เรารู้สึกว่าทั้งสองคนต่างกลายเป็นคนที่สำคัญในความทรงจำของกันและกันไปแล้ว อารีเอตตี้ทำให้โชอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป โชทำให้อารีเอตตี้รู้ว่ามนุษย์ไม่ได้โหดร้ายทุกคน แม้เราจะคิดว่าสปิลเลอร์ก็ทำให้อารีเอตตี้มีความสุขได้แน่นอน แต่เราก็ยังเชียร์โชอยู่ดี ;)

ปล.มีใครเคยดู Detective School Q ฉบับซีรีย์บ้าง โชและอารีเอตตี้ให้เสียงโดยเมงุและคิวนะจ้ะ Mirai Shida กับ Ryonosuke Kamiki หลังจากสองคนนี้ไม่เคยเล่นด้วยกันอีกเลย ก็โคจรมาเจอกันอีกครั้งในเรื่องนี้



Create Date : 18 พฤษภาคม 2557
Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 9:32:51 น.
Counter : 6030 Pageviews.

1 comments
  
อ่านแล้วซึ้ง
โดย: อ่านแล้วยิ้ม IP: 1.46.207.208 วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:11:45:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

marina_rain
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]



ติดต่อทางอีเมลได้ที่ wasineechann@gmail.com
พฤษภาคม 2557

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31