The Secret Life of Walter Mitty (2014) เป็นชีวิตที่สวยงามสดใส The Secret of Walter Mitty ![]() "To see the world, things dangerous to come to, to see behind walls, draw closer, to find each other, and to feel. That is the purpose of life. " วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งแย่ๆของเรา จนทนนั่งต่อไปไม่ไหวต้องขอแว่บออกไปพักสมองก่อน ทีแรกอยากดู 47 Ronin แต่ไม่มีรอบที่อยากได้ เลยต้องดู Walter Mitty แทน แล้วก็ยังเป็นครั้งแรกที่ได้ดูโรงลิโด้ด้วยค่ะ ที่นั่งก็นุ่มดีแต่เรารู้สึกเมื่อยขามาก รอบละร้อยบาท เห็นมีคนบอกว่ารอบเช้าจะแปดสิบบาทไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ลิโด้ก็มีคนดูเยอะกว่าที่คิดนะคะ ทั้งที่เป็นรอบกลางวันวันธรรมดาด้วย จริงๆเรื่องนี้ไม่ค่อยได้อยู่ในสายตาเราเท่าไหร่เลย โปสเตอร์ก็ดูไม่ค่อยน่าสนใจอ่ะ ส่วนตัวอย่างก็ไม่เคยดู แต่ปกติเราดูหนังอะไรก็ได้อยู่แล้ว เลยเอาสะดวกไว้ก่อน แต่เดินออกมาเราออกมาด้วยหัวใจที่อิ่มเอม พองโต รู้สึกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาเต็มที่ และพร้อมที่จะก้าวไปสู่อะไรใหม่ๆเหมือน Walter Mitty ขอบคุณ 47 Ronin จริงๆที่ไม่มีรอบ ทำให้หนังเรื่องนี้เปลี่ยนวันแย่ๆของเราให้ดีขึ้นมาอีกนิด กลายเป็นหนังที่เราชอบมากๆในรอบหลายเดือนค่ะ แม้ว่าครึ่งแรกหนังจะทำเราไม่ค่อยแน่ใจก็ตามว่าตกลงเราคิดถูกหรือคิดผิดที่มาดู 555+ อารมณ์ประมาณ Bizzare มาก แต่กลับมารีบหาเพลง Space Oddity ของ David Bowie มาฟังทันทีเลยค่ะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ Based on เรื่องสั้นในปี 1939 ของ James Thurber ที่อ่านแล้วไม่ค่อยตรงตามภาพยนตร์เท่าไหร่ เหมือนจับแค่ไอเดียใหญ่ๆอย่างฝันกลางวัน และการเปลี่ยนแปลงตนเองมา Walter Mitty เป็นชายหนุ่มที่ธรรมดาสุดๆ เงินเดือนก็ธรรมดา การงานก็...คิดเองว่าไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่เคยไปสถานที่ที่น่าสนใจที่ไหนเลย ไม่เคยทำอะไรที่มันน่าสนใจด้วย ขนาดไปสมัครเวบหาคู่ยังไม่รู้จะใส่อะไรลงไปให้ตัวเองดูน่าสนใจ คิดจะจีบผู้หญิงสักคนนึงที่ทำงานในบริษัทเดียวกันก็ทำไม่ได้ เป็นผู้ชายที่เหมือนกระดาษเหี่ยวๆสีเทาๆ เป็นผู้ชายวัยกลางคนที่ใช้ชีวิตของตัวเองมาแบบตามแบบแผน เรียน ทำงานในบริษัท ทำตามที่เจ้านายสั่ง ![]() แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็หารูปใบสำคัญที่ต้องใช้ขึ้นปกนิตยสารไม่เจอ ทำให้ต้องไปหาช่างภาพที่ถ่ายรูปนี้ขึ้นมา ฌอณ ช่างภาพสุดติสต์ที่ใช้ชีวิตตามความฝันของตัวเองมาตลอด ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆถ่ายรูปอย่างที่ตัวเองอยาก ไม่เหมือน Walter Mitty ที่ทิ้งความฝันสีสดใสในวัยเยาว์ไปพร้อมกับก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานแบบผู้ใหญ่สีทึมๆแทน ทิ้งให้ความฝันเป็นเพียงความฝันกลางวันในจินตนาการที่ต้องเหม่อลอยคิดถึงอยู่ทุกวันแต่ไม่เป็นจริงสักที ![]() เราคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน สมัยเด็กเราอาจจะเคยเฟี้ยว ฝันนู้นนี่ น่าสนุกเต็มไปหมด จริงๆอาขีพแบบฌอณเป็นความฝันหนึ่งของเราเหมือนกันค่ะ เมือก่อนชอบ National Geographic มาก ส่วนที่ชอบที่สุดก็คือรูปถ่ายค่ะ คิดว่าเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ ถ้าได้ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา เคยอยากเป็นนักดนตรี อยากเดินทางรอบโลก อยากเป็นนักบินอวกาศ 555+ Walter Mitty ก้าวออกจากโลกของตัวเอง ไปยังที่ที่เขาไม่เคยไปมาก่อน มหาสมุทรเย็นเฉียบพร้อมฉลามในกรีนแลนด์ ภูเขาไฟระเบิด หิมาลัย หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เรายิ้มได้ตลอด แถมร้องไห้อีกต่างหาก ฉากที่ Mitty ใช้สเก็ตช์บอร์ดเดินทางแล้วใช้หินแทน ฉากที่เดินทางบนหิมาลัยแล้วเขียนบนสมุดบันทึกเดินทางที่พ่อให้ไปด้วย เหมือนได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก ![]() จากกระดาษสีเทากลายเป็นอินเดียน่าโจนส์ ไม่จำเป็นต้องเป็นซูเปอร์แมนกระโดดเข้าหน้าต่างตึกไปช่วยหมาสามขา ไม่จำเป็นต้องเป็นต้องเป็นผู้ชายละตินพร้อมกับนกอินทรีและขับร้องบทกวี ไม่ใช่ความฝันกลางวันที่เป็นจริง แต่คือการใช้ชีวิตให้สุดๆไปเลยต่างหาก ![]() นอกจากเนื้อเรื่องแล้วสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้อีกอย่างคือ ภาพค่ะ ภาพอลังการสวยงามตระการตา จนอยากจะตีตั๋วไปไอซ์แลนด์ กรีนแลนด์ อยากไปปีนหิมาลัยซะเดี๋ยวนี้เลย ทุกภาพเหมือน National Geographic บวกกับ The Lord of the Ring (เว่อป่ะ 555) แต่สวยจริงๆ ![]() หนังให้กำลังใจ และฟีลกู้ดมากๆ แต่นี่้ไม่ใช่ The Shawshank Redemption ไม่ใช่ Life is Beautiful แต่เป็นหนังเดินทางที่ฟีลกู้ดและอินสปายริ่งมากๆค่ะ :) สามารถดูได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องรู้สึกกดดัน แถมยังตลกเฮฮามาเป็นระยะๆอีกด้วย เรื่องนี้ ณ วันที่ 11 มกราคม ขณะที่เขียนอยู่นี่ Rotten Tomatoes Critics ให้แค่ 48 เปอร์เซ็นเท่านั้นค่ะ ส่วนคนดูให้ 78 เปอร์เซ็น ส่วน IMBD ให้ 7.7 คะแนนค่ะ ![]() ไปดูที่เมเจอร์มาครับ เหตุผลตรรกะยังไม่ได้
น่าจะเพิ่มเวลาไปอีกซัก 5 นาทีไปกับการบีบคั้นอารมณ์ของตัวเอกมากกว่านี้อีกซักหน่อย แต่ในเรื่องของฟีลลิ่ง ผมให้เต็มเลย (คะแนนใน IMDB ที่หายไป3.3 สงสัยเพราะเหตุผลนี้) ;) โดย: tanaka.r IP: 58.11.82.141 วันที่: 14 มกราคม 2557 เวลา:0:55:48 น.
ภาพสวยมากครับเรื่องนี้ เพลงก็เพราะเหมาะกับหนังมากๆ โดยรวมแล้วเลยถูกใจครับ ไม่เสียดายเงินและเวลาที่ได้ดูเลย
![]() โดย: ปีศาจความฝัน
![]() ฉากที่รูปใบที่ 25 เฉลย ทำให้ผมร้องไห้ เป็นรูปที่คุ้มกับที่วอลเตอร์ออกตามหา ส่วนณอนนั้นเหมือนกับเป็นพระเจ้าในโลกของวอลเตอร์เลยจริงๆ เขารู้ว่าวอลเตอร์มีดีอย่างไร และคนที่ทุ่มเทแบบวอลเตอร์ก็คู่ควรที่จะเป็นเหมือนที่ฌอนพูดว่า ...ผมแค่อยากอยู่ในนั้น...ไม่ใช่แค่ในภาพ แต่เป็น ส่วนรู้เห็นของชีวิตคนดีๆ สักคน ขอบคุณณอน ขอบคุณวอลเตอร์ ขอบคุณเบน สติลเลอร์ นี่คือหนังที่ดี เหมือนอย่างที่ณอนพูด ผมก็อยากเป็นผู้ร่วมรู้เห็นชีวิตของ วอลเตอร์ มิตตี้ ด้วยครับ
โดย: วอลต้า มิดด้าม IP: 171.100.138.162 วันที่: 30 มีนาคม 2557 เวลา:8:40:22 น.
|
marina_rain
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ติดต่อทางอีเมลได้ที่ wasineechann@gmail.com All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
วิวสวยมาก
เพลงเพราะด้วย
พล๊อตเรื่องก็ดี