Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
บันทึกความทรงจำย่ำ Scandinavia (Finland 4)

ช่วงนี้คึกอัพ blog ค่ะ
ปกติจะไม่อัพติดๆ กันเท่าไหร่

แต่มานั่งคิดๆ ดู...

ถ้าอัพแค่อาทิตย์ละครั้ง
สงสัยบันทึกความทรงจำเก่าเก็บนี้
คงเป็นเดือนกว่าจะจบ (ฮา)

ปล. คราวนี้รูปเยอะและอาจจะยาวหน่อยนะคะ




25 June 2004
เอาล่ะค่ะ... วันนี้คือวัน Helsinki city tour กันอย่างแท้จริง

ดีนะเนี่ยที่พ่อขับรถไป ไม่งั้นวันเดียวคงเก็บได้ไม่เยอะหรอก ก็กว่าจะเดินกันไปถึงแต่ละที่ คงขาลากซะก่อน เพราะบางที่ก็อยู่ค่อนข้างไกลกันพอสมควร

Tip: ถ้าคุณมีเวลาแค่ไม่กี่วันในเฮลซิงกิเนี่ย ลองเข้าไปที่ Helsinki City Tourist & Convention Bereau (click here!) ดูสิคะ เราว่า Helsinki your way (เป็น pdf ไฟล์ให้ดาวน์โหลด) ให้ basic travel information สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนจะไปได้อย่างดีเลยค่ะ

ก็คิดว่าจะสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (ที่พอจะมีและยังจำได้อยู่บ้าง) เป็นระยะๆ นะคะ เพราะคิดว่าน่าจะดีกว่าที่เราแค่มาเล่าเรื่องไปเที่ยวเฉยๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่อาจจะกำลังวางแผนไปเที่ยวสักเล็กน้อยก็ยังดี

มาต่อกันดีกว่าค่ะ...

นับเป็นโชคของเราจริงๆ ที่วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส พวกเราเลยไม่รอช้ารีบมุ่งไปที่ Market Square กันก่อนเลย เพราะการเดินเที่ยวตลาดนัดกลางแจ้งแบบนี้ ถ้าฝนตกก็คงจะไม่สนุกเท่ากับตอนแดดออกจริงมั้ยคะ


Market Square @ South Harbour



ทำทีเป็นดูปลา...แอ็คท่าถ่ายรูป


แม่ Tuula เป็นคนใจดีมากเลยค่ะ ช่างสังเกตและเอาใจใส่ รูปแรกข้างบนในมือเค้าถือสตรอว์เบอร์รี่สดที่ซื้อมาจากแผงขายผลไม้ เพื่อมาให้เรากับแม่ได้ชิม ลูกโตและรสชาติหวานฉ่ำดีจริงๆ เห็นเค้าว่าเป็นสตรอว์เบอร์รี่จาก East Finland นะคะ (ตอนเค้ามาเมืองไทยบ้านเราก็ไปหาซื้อมะม่วงสุกมาให้เค้าได้ลองชิมกันค่ะ และเค้าก็ติดใจกันมาก โดยเฉพาะแม่ Tuula) ส่วนรูปที่สองเป็นเรือหาปลาที่จับปลามาได้ก็จะมาวางขายบนเรือที่จอดอยู่ข้างอ่าวเรียงรายกันให้เลือกซื้อหา ที่เห็นแม่เราไปแอ็คท่าอยู่นั่นไม่ได้จะไปซื้อปลาอะไรกับเค้าหรอกค่ะ แต่คุณเธอ (อย่าว่าเราอกตัญญูที่เรียกแม่แบบนี้เลยนะ บ้านเราออกแนวเพื่อนกันมากกว่าแนวคุณพ่อคุณแม่) ชอบถ่ายรูปในหมู่ฝูงชนและกับป้ายค่ะ อิอิ ติดตามกันต่อไปก็จะรู้เอง

Market Square : ตลาดสดกลางแจ้งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเฮลซิงกิอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเป็นอันดับต้นๆ แผงขายของที่นี่จะขายพวกอาหาร งานฝีมือ และของที่ระลึก ปกติจะเปิดวันจันทร์-เสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ก็เปิดเหมือนกันค่ะ แต่ Sunday market เนี่ยจะเปิดเฉพาะช่วงฤดูร้อนเดือนพ.ค.-ก.ย. เท่านั้น แต่ถ้าใครมีโอกาสไปช่วงเดือนต.ค. ก็จะพิเศษค่ะ คือจะมี Herring market ด้วย

เดินกันได้ซักพักก็เริ่มหิว ก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วนี่นะ เลยต้องไปหาอะไรฟาดท้องซักหน่อย


(อดีต)แฟนของ Terhi ในตลาดเก่า


นอกเรื่องเล็กน้อย... บังเอิญได้อ่าน "กรุงเทพธุรกิจ@TASTE" ฉบับวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2550 (คอลัมน์ : t-trip / เรื่อง : บรูเช็ตต้า) เกี่ยวกับ "10 สิ่งที่ควรทำในเฮลซิงกิ" ซึ่ง Michelle Rowe นักเขียนจากนิตยสาร Gourmet Traveller ได้ถ่ายทอดสารคดีท่องเที่ยว บอกเล่าให้คนไปเที่ยวเฮลซิงกิ แล้วทำ 10 อย่างที่ว่านี้ ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึงและพลาดของดีค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือ...

ช็อปปิ้งในตลาดเก่า : Old Market Hall เปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1889 เป็นตลาดในห้องโถงใหญ่ ขายทุกสรรพสิ่ง ตั้งแต่แซลมอนสด เนื้อวัว เนื้อกวางเรนเดียร์ ขนมปัง เนื้อเสียบไม้ย่างหรือเคบับ ร้านขายเค้ก ชีส และร้านขายช็อคโกแลต มาที่นี่จะได้รู้จักแซลมอนทุกชนิด (เพราะชาวฟินน์มีปลาแซลมอนเป็นอาหารประจำชาติ) และอาจจะได้เดินกระทบไหล่เชฟใหญ่จากภัตตาคารดังทั่วเฮลซิงกิ เพราะที่นี่คือแหล่งช็อปของกิน ของสด คนชอบปรุงอาหารติดใจแน่ๆ

กองทัพเดินด้วยท้อง กินอิ่มก็มีแรงเดินต่อแล้วค่ะ คราวนี้เรามุ่งหน้าไปยังถนน Mannerheimintie ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง


National Museum of Finland



ใต้ร่มไม้หน้า Finlandia Hall



อีกมุมหนึ่งของ Finlandia Hall



หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฟินแลนด์



Parliament



ขั้นบันไดหน้ารัฐสภา


ทั้ง 3 ที่ข้างบนที่เอารูปมาให้ดูนี่ ไม่อาจจะกล่าวได้ว่าไปเยี่ยมชมมาแล้วได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เรียกว่าไป "โฉบ" มาแล้วน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะแต่ละที่นี่ไม่ได้เข้าไปข้างในเลยซักที่ค่ะ เนื่องจากเวลามีจำกัด เลยได้แต่ไปเก็บภาพประทับใจด้านนอกพอสังเขป แต่ยังดีเมื่อตอนสมัยเป็นนร.แลกเปลี่ยน เราเคยเข้าไปใน National Museum กับ Parliament มาแล้วค่ะ เลยไม่ได้เสียดายอะไรเท่าไหร่

National Museum of Finland : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฟินแลนด์จัดเป็น main attraction อีกแห่งหนึ่งของเฮลซิงกิค่ะ เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ผู้ใหญ่เสียค่าเข้าชมคนละ 6€ แต่ถ้าวางแผนดีๆ จัดตารางวันอังคารช่วง 17.30-20.00 น. ให้ว่างก็จะได้เข้าชมฟรีค่ะ กลับออกมาคุณจะได้รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศฟินแลนด์ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันเลย

Finlandia Hall : ใครสนใจงานด้านสถาปัตยกรรมไม่ควรพลาดชมที่นี่ค่ะ Finlandia Hall ออกแบบโดย Alvar Aalto กระทั่งการตกแต่งภายใน การจัดวาง และอื่นๆ เรียกได้ว่ารายละเอียดทุกอย่างล้วนออกแบบโดย Alvar Aalto ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "Father of Modernism" เป็นสถาปนิกและดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของฟินแลนด์และของโลกเลยก็ว่าได้ ที่นี่เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงที่มีงานแสดงเท่านั้นค่ะ

Parliament : ตึกรัฐสภาใหญ่โตน่าทึ่งมากค่ะ เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิกช่วงยุค 1920s ภายนอกตัวอาคารด้านหน้าทำจากหินแกรนิตล้วนๆ เห็นว่าเป็น "red granite from Kalvola" ค่าเข้าชมฟรีค่ะ แถมค่าไกด์ทัวร์ก็ฟรีอีกต่างหาก แต่ทัวร์ที่เปิดให้เข้าชมสำหรับสาธารณชนจะเปิดแค่วันเสาร์และวันอาทิตย์ วันละสองรอบเท่านั้น ถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลย เพราะฉะนั้นต้องวางแผนดีๆ นะคะ

มีสถานที่อีกแห่งนึงที่ถ้าคุณไปเฮลซิงกิแล้วจะพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะมีชื่อเสียงและสวยงามมาก มองจากข้างนอกแทบจะไม่รู้เลยว่าข้างในเป็นโบสถ์ เพราะออกแบบมาได้มีเอกลักษณ์จริงๆ


Temppeliaukio Church



เปียโนบรรเลงเพลงไพเราะ



อีกมุมหนึ่งภายในโบสถ์



แสงลอดผ่านเพดานโบสถ์มายังภายใน


ฝีมือถ่ายรูปของเราอาจจะยังไม่ถึงขั้น แต่การันตีความงดงามภายในตัวโบสถ์จริงๆ ค่ะ อลังการมากมาย เอิ่ม... สองรูปสุดท้ายสังเกตผู้ชายใส่แว่นเสื้อฟ้าสิคะ ไม่รู้จะจ้องอะไรกันนักกันหนา รูปแรกที่ถ่ายติดเค้านั้นเราตั้งใจถ่ายพ่อ Tapio ค่ะ ส่วนรูปที่สองก็อุตส่าห์ถ่ายเครื่องดนตรีจากด้านหลังนะคะ เค้าก็ยังอุตส่าห์เอี้ยวตัวมาจ้องเราอีก มองทำไมเนี่ย

Temppeliaukio Church : โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งใน "Helsinki's most popular tourist attractions" สร้างขึ้นโดยการระเบิดชั้นหินธรรมชาติ ส่วนกำแพงด้านในโบสถ์ก็สร้างด้วยหินให้เหมือนธรรมชาติ Temppeliaukio Church ออกแบบโดย Timo และ Tuomo Suomalainen สองพี่น้องสถาปนิกชาวฟินแลนด์ เปิดทุกวันและไม่เสียค่าเข้าแต่ประการใดค่ะ

ออกมาข้างนอกก็เห็นแม่ Tuula นั่งรออยู่แล้ว พวกเราจึงรีบเดินไปขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปทำกิจกรรมสุดโปรด... ช็อปปิ้งนั่นเอง


แม่ Tuula นั่งอาบแดดรอ



โลโก้ของ firm ที่เราทำงานอยู่


ณ ตอนนี้ก็ถึงเวลาช็อปปิ้งที่รอคอย แต่เดินๆ ห้างนู้นห้างนี้แล้วก็ไม่ได้ถูกใจอะไรเป็นพิเศษค่ะ เลยไม่ได้เสียเงินอย่างที่ตั้งใจไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะเพราะมากับแม่ก็เป็นได้ ไอ้นี่ก็แพง ไอ้นั่นก็แพง ไอ้โน่นก็แพง อย่าซื้อเลยลูก จริงๆ ข้าวของที่ฟินแลนด์ก็ราคาพอๆ กับบ้านเรานะคะ แต่แม่เราคงติดนิสัยคูณเงินยูโรเป็นเงินบาทไทย เลยยังทำใจไม่ได้ 555+ (จริงๆ คือแพงกว่าเยอะมากมายค่ะ) ตอนที่เดินๆ กันอยู่จากห้างนี้ไปห้างนั้น พลันสายตาเราก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อ firm ที่เราทำงานอยู่บนตึกๆ นึงค่ะ คงเป็น Helsinki office โอ้ว... ยังตามมาหลอกหลอนกันอีกหรือนี่

จากนั้นเราก็นั่งรถมุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เพื่อไปดูอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อสดุดีนักแต่งเพลงชาวฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายที่เราจะไปกันในวันนี้ค่ะ


Sibelius Monument @ Sibelius Park



โฉมหน้าของ Jean Sibelius



ใจกลางฐานของอนุสาวรีย์



ภาพถ่ายจากมุมเงย



แม่ดิฉันหรือจะพลาด...อิอิ



เดินกลับรถกันดีกว่า


สรุปการเดินทางวันนี้แดดออกทั้งวันเลยค่ะ โชคดีอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น อย่างรูปข้างบน เวลาอากาศแจ่มใส ชาวฟินน์จะชอบออกมานั่งเล่นในสวนสาธารณะกัน ก็ทั้งปีจะมีช่วงเวลาแบบนี้แค่แป๊บเดียวนี่เนอะ ต้องรีบตักตวง ถ้าเป็นสวนหลวงร.9 แถวบ้านเราก็คงต้องไปตอนเย็นๆ หรือเช้าตรู่เท่านั้น ไม่งั้นมีดำกระจายแน่

Sibelius Monument : อนุสาวรีย์ตั้งอยู่ใน Sibelius Park สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้ออกแบบคือ Eila Hiltunen ซึ่งเป็น "pioneer modern sculptor" ในช่วงยุคนั้น อย่างตอนที่เปิดตัวอนุสาวรีย์นี้ในปี 1967 นี่เป็นที่ฮือฮาและโจษจันกันมากเลยทีเดียวค่ะ มีทั้งเสียงก่นด่าและชื่นชม ตัวอนุสาวรีย์สร้างโดยการเชื่อมโลหะเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของ organ pipe สูง 85 ม. กว้าง 10.5 ม. และลึก 6.5 ม. มีจำนวนทั้งสิ้น 600 ท่อ และหนักถึง 24 ตัน (โห...สุดยอด) Sibelius Monument ถูกจัดให้เป็น "Helsinki's most popular statues" และก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากที่สุด

ถึงตอนนี้ทุกคนก็เริ่มเหนื่อยและเมื่อยขากันถ้วนหน้าแล้ว ตะลอนกันมาทั้งวันคงถึงเวลานั่งพักผ่อนหย่อนใจยืดเส้นยืดสายกันบ้าง


แม่ Tuula กินไอติม



พ่อ Tapio กินชามะนาว Lipton



นั่งเล่นกินอะไรเย็นๆ ชื่นใจจัง


ถึงตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่เราต้องไปขึ้นเรือ เพื่อข้ามจากฟินแลนด์ไปยังสวีเดน ประเทศที่ขึ้นชื่อด้านหนุ่มหล่อหน้าตาดี (เอ๊ย...ไม่ช่ายยย เก็บอาการนิดนึง) พวกเราจึงต้องกลับไปขึ้นรถกันอีกครั้ง เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Helsinki South harbour

ก่อนขึ้นเรือเรานัดเจอกับเพื่อนเก่าคนนึง ที่ไม่ได้เจอกันมานานเกือบสิบปี ก็ตั้งแต่เรากลับไทยคราวโน้นแหละค่ะ เห็นเธอครั้งนี้เราถึงกับอึ้งไป 5 วินาที เพราะหน้าตาเธอไม่เปลี่ยนเท่าไหร่นัก แต่หุ่นของเธอนี่เปลี่ยนแปลงไปมากจนไม่น่าเชื่อ


Sanna เพื่อนเก่ากับแฟนหนุ่มหน้าตาน่ารัก


ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเพื่อนกันแป๊บเดียวก็ต่อติด ทั้งที่ไม่ได้คุยกันมานานขนาดนี้ แรกๆ ที่เรากลับไทยก็ยังมีติดต่อกันบ้าง แต่หลังจากนั้นเป็นเราเองแหละค่ะที่หายหัว ก็ทำตัวทุเรศแบบนี้หลายที แต่ทำยังไงก็แก้ไม่หายจริงๆ โรคไม่ชอบเขียนจม. ไม่ชอบเขียนอีเมล์เนี่ย

วินาทีที่ต้องร่ำลากันมาถึงแล้ว น้ำตาคลอเต็มสองตา ยิ่งแม่ Tuula นี่คลอชัดเจนมาก พ่อ Tapio ก็นิดหน่อย ส่วนเรากับแม่นี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะความ sensitive / sentimental มันเป็นกรรมพันธุ์ของครอบครัวเราค่ะ ไม่ชอบการลาจากเลยจริงๆ โดยเฉพาะครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่มีพบก็ต้องมีจาก เป็นสัจธรรมของโลก เราจึงสวมกอดกันพร้อมทั้งกล่าวคำลา "Hei Hei" (bye bye ภาษาฟินนิช) จากนั้นก็ไปต่อแถว check in ค่ะ ส่วนตั๋วนั้นซื้อไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว

ที่เราเลือกการเดินทางโดยเรือก็เพราะ (1) ราคาไม่แพงมาก (2) แม่เราอยากลองดูเพราะไม่เคยนั่งเรือสำราญแบบนี้มาก่อน และ (3) เราก็จะได้ค้างคืนกันบนเรือสำหรับค่ำคืนนี้ด้วย

Tip: การเดินทางโดยเรือสำราญข้ามจากประเทศนึงไปยังอีกประเทศนึงอาจจะไม่เร็วทันใจเหมือนเครื่องบิน แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ดีนะคะ Silja Line เป็นบริษัทเดินเรือที่มีประวัติยาวนาน เส้นทางที่เป็นที่นิยมก็หนีไม่พ้น Helsinki - Stockholm ค่ะ route อื่นๆ ก็มีนะคะ (ใครสนใจเชิญ คลิกที่นี่) นอกจาก Silja Line ก็มี Viking Line อีกเจ้า จากประสบการณ์ที่นั่งมาทั้งหมด 4 ครั้ง (Silja : 2 ครั้ง / Viking : 2 ครั้ง) เราคิดว่า Silja หรูกว่าค่ะ แต่ Viking จะมีหนุ่มสาวเยอะกว่า เนื่องจากราคาถูกกว่าเล็กน้อย

หลังจากเก็บกระเป๋าสัมภาระเสร็จสรรพและสำรวจตรวจตราเคบินของพวกเราเป็นที่เรียบร้อย เราสองแม่ลูกก็เริ่มออกเดินสำรวจรอบๆ เรือกันค่ะ แม่เราก็ตระการตาในความใหญ่โตของเรืออยู่มิใช่น้อย ก็เรือนี่ใหญ่ขนาดจุผู้โดยสารได้เกือบสามพันคนเชียวนะคะ เคบินอีกเกือบพันห้อง ถึงเวลา 17.00 น. เรือก็ออกจากท่ามุ่งหน้าสู่ Stockholm


เรือค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจาก Olympia Terminal



Goodbye Helsinki



มีแต่โรส...แล้วแจ็คอยู่ไหนล่ะเนี่ย



แอ็คท่าตามสไตล์...อิอิ



pedestrian street Promenade ท่ามกลางฝูงชนสมใจ


อาหารบนเรือแพงมากค่ะ แล้วก็ดูไม่น่ากินเลยซักนิด แต่สุดท้ายก็ต้องกิน เราเลยกินเข้าไปซะไม่เหลือที่ว่างในกระเพาะอาหารเลย อ้าว...ไหนบอกไม่อร่อยไง? ก็ไม่อร่อยน่ะสิคะ แต่เดี๋ยวไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป (จริงๆ ตะกละก็บอก 555+) บนเรือมี duty free ให้ช็อปด้วยนะคะ แต่แม่เราบอกแพง อย่าไปซื้อเลยลูก อีกแล้ว สรุปเลยไม่ได้ซื้ออะไรเลย เศร้าจังตังค์อยู่ครบ

ตกกลางคืนแม่เราก็พักผ่อนสิคะ แต่เราไม่พักด้วยหรอก เสียเที่ยว ต้องออกท่องราตรีซะหน่อย บนเรือมีผับค่ะ เราก็เดินเข้าๆ ออกๆ แต่น่าเบื่อมาก ไปผับคนเดียวมันจะไปสนุกอะไร แถมยืนเต้นยึกยักอยู่แป๊บนึงก็มีหนุ่มแขกมาชวนแด๊นซ์ วุ้ย...ไม่ไหวล่ะค่ะ เผ่นดีกว่า

ออกมาข้างนอกเจอพวกเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม (แต่หน้าตาหล่อเหลือรับประทาน ) ยืนเตร็ดเตร่อยู่ด้านหน้า เนื่องจากเข้าผับไม่ได้ เราก็ทำเป็นไปยืนเล่น slot machine แถวนั้นอ่อยเหยื่อ สรุปเด็กเดินมาทักจริงๆ ค่ะ ถามว่าเราเข้าผับไม่ได้เหมือนกันหรอ (ก๊ากกก... ป้าอายุตั้งเท่านี้แล้วมีหรอจะเข้าไม่ได้) แต่ก็ฟอร์มไปค่ะว่าใช่ แล้วก็ถามว่าพวกนั้นอายุเท่าไหร่ ได้คำตอบมาว่า 17 เองยังละอ่อนอยู่เลย พอเด็กถามกลับ เราเลยให้เดา เด็กบอกคงใกล้ 18 ดีใจจังเลยว่ะค่ะ



ก็ขอจบตอนนี้ไปดื้อๆ หลังได้รับคำชมนี่ล่ะค่ะ
ถ้ามีใครตามอ่านจนจบก็ช่วยลงชื่อด้วยนะคะ
ขอบคุณมากๆ ที่ติดตาม
แล้วไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าที่ Stockholm



Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2551 17:03:20 น. 16 comments
Counter : 2113 Pageviews.

 
แวะเข้ามาอ่านค่า ชอบเที่ยวเหมียนกันโรยยยย

มีเพื่อนคนนึงเป็นสวีดิช รักมันมากๆ เคยสัญญากันไว้ว่าวันนึงจะไปเยี่ยมคุณยายเธอให้ได้ จนป่านนี้ยังไม่ได้ไป...

อ่านเรื่องของเจ้าของบล็อกแล้วชวนนึกถึงเพื่อนที่ถูกลืมน่ะค่ะ


โดย: kikou วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:2:10:12 น.  

 
มีแพลนจะไปช่วงสิงหาค่ะ

ยังไงเข้ามาโพสต์ต่อนะคะ

ขอบคุณสำหรับรูปและความรู้ค่า


โดย: news IP: 124.121.8.90 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:28:17 น.  

 
แวะมาเยี่ยมชมค๊า น่าติดตามมั่กๆ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจัง

ขอถามนิดค่ะ พอดีจะต้องไปดูงานที่ Brussel-Belgium + Sweden ประมาณอาทิตย์นึงค่ะ (เดินทางคืนวันพุธนี้แล้ว)แต่คิดว่าคงมีเวลาได้เที่ยว Brussel 1 วันเต็มๆ พอจะมีที่ไหนแนะนำบ้างไหมคะ เพราะไม่เคยไปแถบ Scan มาก่อนเลยค่ะ
ขอบคุณมั่กๆเลยคร้า


โดย: Lekky IP: 58.9.85.41 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:16:04 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะคุณปลา ขำจังแม่โดนแซวตลอดเลยฮ่า ๆ ชอบ Sibelius Momument จัง แต่ต๊กใจนิดหน่อยจากมุมเงย เหมือนแท่งเหล็กมันจะพุ่งลงหาตัว ฮี่

แล้วก็ขำคุณปลาหลอกเด็กน่ะ ฮ่า ๆ


โดย: MoneyPenny วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:09:03 น.  

 
เคยไป Helsinki เมื่อนานมากๆแล้ว สมัยยังเป็นเด็กๆอยู่เลย แต่เท่าที่จำได้ หลายๆอย่างยังเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย~

มาดูบล็อกนี้ก็ได้ข้อมูลเอาไว้เผื่อได้ไปอีกครั้ง

ชอบคุณแม่ น่ารักเชียว post ท่าถ่ายรูปเป็นนางแบบ เวลาฉันไปเที่ยวกับแม่ก็เหมือนกัน ถ่ายรูปแต่รูปแม่หมดเลย แม่ดูเป็นนางแบบตัวจริงมากกว่าลูกซะอีก haha~

แล้วจะมาอ่านต่อเรื่อง Stockholm อีกนะคะ ตอนนี้เป็นแฟนบล็อกนี้ไปแล้ว ตามอ่านตลอดเลย แล้วก็ขอบคุณที่ไปตามด้วยค่ะ


โดย: MOMO วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:20:09 น.  

 
kikou - อ้า... มาเยี่ยมกันด้วย บางทีอยู่ๆ มีอะไรมาสะกิดก็ทำให้เรานึกถึงเพื่อนบางคนขึ้นมานะคะ เราก็ยังรอลุ้นว่าจะได้กินข้าวเมื่อไหร่อยู่นะ อิอิ

news - ก็จะเขียนเรื่อยๆ จนครบทุกประเทศที่ไปมานะคะ เหลือ sweden, norway, denmark ค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไป

Lekky - เราก็ไม่เคยไป Brussel เหมือนกันค่ะ ลองไปดูที่นี่นะคะ //www.brussels.org/ หรือไม่ก็ //www.lonelyplanet.com/ เราว่าสองที่นี้ก็น่าจะให้ข้อมูลเพียงพอสำหรับเที่ยวแค่วันเดียวแล้วค่ะ Have a nice trip!


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:29:21 น.  

 
คุณจูน... สบายดีป่าวคะ เราว่าสาวเอเชียส่วนใหญ่ก็หลอกฝรั่งได้ทั้งนั้นแหละค่ะ อิอิ

คุณโมโม - เราก็ถ่ายแต่รูปแม่กับรูปวิวค่ะ แม่ชอบบ่นว่าถ่ายไม่เป็น ฮา... ดีใจที่รู้ว่ามีแฟนบล็อกกับเค้าด้วย และเราก็เป็นแฟนบล็อกคุณโมโมเหมือนกันนะคะ (^.^) ส่วนเรื่องตามนี่ด้วยความยินดีเลยค่ะ ต้องขอบคุณที่ตามอ่านกันมาเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

ทั้งคุณจูนและคุณโมโมเลย ดีใจที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์บ่อยๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้เรามากเลย


โดย: MaRiMeKKo วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:40:52 น.  

 
รูปน่ารักดีค่ะ บรรยากาศน่าร่มรื่นดีจริงๆ


โดย: ColdOut/รรร IP: 203.146.147.13 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:4:08:29 น.  

 
อยากไปบ้างจังเลย

แต่พอดูกระเป๋าสตางค์...
มีพอแค่สิ้นเดือนเอง


แค่มาดูก้เหมือนได้เที่ยวแลเนอะๆ


โดย: I_palmy (palmy_yoyo ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:18:42:05 น.  

 
ดูน่าเที่ยวจังค่ะ ขนาดเป็นเมืองหลวงแต่ดูไม่วุ่นวายเลยน่าอยู่จัง :)


โดย: LillY (baby_jane ) วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:48:50 น.  

 
อยากเที่ยวบ้างจังเลยยยยยยยยยยยยย


โดย: happy-on-love วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:25:19 น.  

 
คุณปลา ไม่ชอบไม่มาเป็นขาประจำหรอกนะ อย่ามากก็แค่ผ่านมาและผ่านไป (จริง ๆ นะ)

เรื่องเสื้อเหรอคะ คุณปลา มันเป็นเดรสน่ะค่ะ (แต่ผ้าฝ้ายธรรมดา ๆ) ส่วนตัวอื่น ๆ ก็จะเป็นพวกแจ็คเก็ตเลยแพงหน่อยค่ะ

ร้านดีไซน์พวกนี้จะตั้งราคาเป็นบ้าเป็นหลังเลย เพื่อนของจูนที่จบจากโรงเรียนเดียวกันนี้ (วันหลังเอางานของเขามาโชว์ให้ดูนะคะ) ตอนนี้ไปทำงานกับ John Galliano แล้ว เสื้อตั้งราคาเสื้อของเขาที่ชนะการประกวด Young Designer ตัวละ 4000 ยูโรอ่ะค่ะ (ราคาน่ากลัวมาก- น่ากลัวจะขายไม่ออกน่ะค่ะ ฮ่า) คือสวยก็สวย งานฝีมือก็งานฝีมือ แต่ตั้งราคางี้ไม่ได้หรอก แบรนด์ยังไม่ดังสักหน่อยนึง


โดย: MoneyPenny วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:30:59 น.  

 
เขียนเล่าเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ มี tip แทรกด้วย

อยากทราบว่าหมาดำ 2 ตัวนั้นพันธุ์อะไรคะ ชอบมากๆเลย


โดย: ภ.สำเภากางใบ วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:04:04 น.  

 
มาส่งแท็ก 50 คำถามค่ะคุณปลา ฮ่า ๆ


โดย: MoneyPenny วันที่: 10 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:09:03 น.  

 
ตามมาเที่ยว Scandinavia ด้วยคนนะครับ


โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:16:43 น.  

 
next week i will go to Helsinki..

i hope my trip ... very nice same your trip ka,

jay


โดย: jay IP: 203.153.166.91 วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:10:50:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MaRiMeKKo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





Announcement
This blog is best viewed at 1280*800 screen resolution.

Latest posts
l 7 พ.ค. 54 | ครั้งแรกกับการ review hair products เล็กๆ น้อยๆ จ้า
l 1 ม.ค. 54 l เดินสายดูที่วันปีใหม่
l 4 เม.ย. 53 l "กลับมา" ได้รึเปล่า?
l 1 ก.พ. 53 l ติด BAKUMAN แอบบ่น Moommam

Next stops
ธ.ค. 54 ไปเชียงใหม่

Now reading
โจเซฟ นีดแฮม ผู้ชายที่หลงรักเมืองจีน


Special thanks
code สำหรับ blog จาก ป้ามด
icons จาก Nami Yoshida
f0nt จาก
เลย์อิจิ
Friends' blogs
[Add MaRiMeKKo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.