|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
งาน มิตติ้ง ที่เชียงใหม่ของ ริค วชิรปิลันธิ์
นำมาจากบล็อคของคุณ sasawat
//www.last.fm/user/sasawat/journal
Journal
* ราตรีมรกต กับ ริค วชิรปิลันธิ์
13 Sep 2008, 13:31
ริค วชิรปิลันธิ์เปรยไว้ในเวบ Hi5 ของเธอว่าจะมีการมีตติ้งแฟนเพลงที่เชียงใหม่ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ชมรมคนรักริคจะได้พบปะสังสรรค์กัน ส่วนเหตุใดจึงเป็นที่เชียงใหม่ผมก็จนเกล้าที่จะทราบได้
ก่อนหน้าวันมีตติ้ง ในช่วงชิวีตนี้ผมเคยเจอ ริค วชิรปิลันธ์ตัวเป็น ๆ 2 ครั้ง ครั้งแรกในคอนเสิร์ต "อาณาจักรแห่งสายเสียง" ได้พูดคุยกับเธอตอนไปขอลายเซ็นหลังคอนเสิร์ตเลิก น้อง ๆ ที่ไปขอลายเซ็นก่อนหน้านั้นได้แก่ โจ้ กับ ม้อ ต่อมาก็ได้รู้จักกัน ครั้งที่สองเมื่อตอนที่เธอรับหน้าที่เป็นนักร้องของ Crescendo เธอกับทางวงเดินทางมาเล่นมินิคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ไม่กี่เพลงที่ห้างกาดสวนแก้ว เชียงใหม่
หลังจากเคยเจอที่คอนเสิร์ตผมเคยเพียงแต่คุยกับเธอผ่านเวบมายสเปซและไฮไฟว์ ผมเดินไปหาเธอก่อนขึ้นโชว์ ความประหม่าเกิดขึ้นราวกับไม่มีวันสิ้นสุด เธอกล่าวกับผมว่าดีใจมากที่ได้เจอตัวเป็นแล้ว (ซึ่งนั้นควรเป็นคำพูดของผมมากกว่า) แถมเธอยัีงแซวผมว่าตัวใหญ่กว่าที่เห็นในเวบนะคะ แถมยังกล่าวขอบคุณผมที่เขียนรีวิวอัลบั้มลงในบล็อกให้ ผมยืนคุยกับเธอนานมาก (ในขณะที่ไอ้อีฟเพื่อนผมก็ยืนคุยกับพี่นอน้ำไหลไฟดับเช่นกัน) ช่างเป็นห้วงเวลาที่แสนสุขเสียเหลือเกิน ใครจะคิดจะฝันว่าศิลปินหญิงที่เราชื่นชอบจะยืนอยู่ตรงหน้าและได้คุยกัน เรื่องธรรมดา ที่มิใช่เพียงการสนทนาที่ผ่านเลยไป
วันเวลาที่ประกาศในเวบไซต์ได้แก่ เย็นวันพุธที่ 10 กันยายน ณ ร้าน Bakerista เป็นร้านเค้กไม่เล็กไ่ม่ใหญ่แถวหลัีงศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ไกลจากที่ทำงานผมซึ่งตั้งอยู่ถนนนิมมานเหมินทร์สักเท่าใดนัก ทว่าแม้ผมจะเป็นคนในพื้นที่แถวนั้น แต่ก็เล่นเอาเสียหลงทางเพราะโง่เองไม่น้อย ร้านนี้มีเฉลียงยื่นออกมา สามารถจัดเวทีการแสดงเล็ก ๆ ได้ ดูจากรูปในร้านแสดงว่าคงมีกิจกรรมในทำนองนี้หลายครั้งแล้ว
คุณนัท คุณไก่และคุณปอมเป็นเจ้าภาพประสานงาน ตอนแรกที่คุยกันไว้จะให้ซื้อเค้กคนละชิ้น และเครื่องดื่มคนละแก้วเพราะทางร้านไม่เก็บค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจเป็นเก็บคนละ 200 บาท เงินอีกประมาณร้อยบาทที่เหลือก็เอาไปทำบุญกันที่วัดพระสิงห์ในวันรุ่งขึ้น
ผมไปถึงที่ร้านก่อนเวลานิดหน่อย มีแฟนเพลงท่ีานอื่นนอกจากทีมงานมากันแล้ว 4 คน พอสั่งเค้กกับคาราเมลลาเต้เสร็จ ก็มานั่งชิลดูต้นไม้ใบหญ้า ร้านเขาทำได้ร่มรืนและสงบพอสมควร กลุ่มลูกค้าที่มาใช่แต่นักศึกษา มองไปรอบร้านคุณลุงคุณป้ามานั่งคุยกันหลังเลิกงานก็มิน้อย ส่วนริค เธอกำลังนั่งคุยกับแฟนเพลงอยู่ คนอื่น ๆ ก็นั่งเมาท์รอเวลา เธอทักทายผมไม่นานนัก เพราะก็ถือว่าสำหรับคนมาร่วมงานไม่นับทีมงาน เราเคยเจอกันมาก่อนบ้างแล้ว ไม่ต้องเริ่มต้นบทสนทนากันตั้งแต่ทำความรู้จักกันแต่แรก
เวลาผ่านไปได้สักพัก ริค วชิรปิลันธิ์ ก็เริ่มการแสดงของเธอพร้อมด้วยนักแสดงอีก 3 ชีวิตโดยมีคุณไก่เป็นพิธีกร บรรยากาศก็เป็นกันเองเพราะคนที่มานั้นมีราวสิบกว่าชีวิต ทว่าเป็นสิบชีวิตที่ตั้งใจมาและพูดคุยเรื่องเดียวกัน ปริมาณหาใช่สำคัญไม่ ถ้าเพียงมีแฟนเพลงระดับแฟนพันธ์แท้สักเพียงหยิบมือ ก็น่าประทับใจกว่าเป็นใครไม่รู้มากมายมาร่วมงาน
บทเพลงแรกที่ริคขับร้องได้แก่ "น้ำตาไข่มุก" ก่อนร้องเธอเล่าให้ฟังถึงเบื้องหลังเพลงว่า เธอสะท้อนอารมณ์ของการเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าอันเป็นปรมาตมัน ทว่ามิใช่เรื่องง่ายแม้ัแต่น้อยเปรียบเหมือนยืนอยู่บนหน้าผาชันที่ เบื้องหน้าเต็มไปด้วยหมอกขาว ช่างเคว้งคว้างไร้จุดหมาย
น้ำเสียงของเธอตรึงผมติดอยู่กับเก้าอี้ ราวกับต้องมนต์ เธอพูดคุยสักนิดก่อนจะต่อด้วยเพลง Automata ซึ่งเป็นเพลงที่เธอร่วมทำกับนรเทพ มาแสง (อดีตมือเบสวงพอสและปัจจุบันกับ Crescendo) เสร็จแล้วเพลงปีกแห่งความฝัน พร้อมอดีตที่ยังชัดเจนของเธอก็พรั่งพรู
เธอเคยอาศัยเช่าบ้านอยู่กับซิลลี่ฟูลส์และพอส สมัยยังเป็นวัยรุ่น เพลงปีกแห่งความฝัน หากฟังแล้วมีท่วงทำนองนี้่คล้ายกับเพลงของซิลลีฟูลส์ยิ่งนัก เธอบอกมิใช่เรื่องแปลก เพราะอิทธิพลเพลงที่มีผลต่อ โต ซิลลี่ฟูลส์ ก็มีผลต่อเธอเช่นเดียวกัน ก่อนเธอขับร้อง ก็มีแขกรับเชิญเป็นกีตาร์ที่ โจ้ วงพอสเคยยืมไป แล้วทำปืนลั่นใส่จนเป็นรอยกระสุน 2 รูประทับบนกีตาร์ ปีกแห่งความฝันบรรเลงอย่างทรงพลัง ริคสะบัดเสียงกีตาร์ประสานกับเสียงร้องอันแสนวิเศษ ได้บรรยากาศคล้ายกับกิจกรรมของ MTV ที่ดีเยี่ยมในอดีตอย่าง MTV Unplugged ก็มิปาน
เธอตั้งคำถามกับหลาย ๆ คำถามที่คนมักถามเธอว่าทำไมเธอถึงร้องเพลงแบบประหลาด ไม่ร้องให้ชัดให้ฟังรู้เรื่อง ทั้ง ๆ ที่ก็ทำได้ เธอขอใช้การร้องเพลงไทยเดิมเพลงหนึ่งเป็นคำตอบแทน เธอบอกว่าเพลงไทยในอดีตก็ไม่ได้ร้องตรงคีย์เป๊ะเหมือนกันแล้วทำไมเธอถึงร้อง ในแบบของเธอไม่ได้
ผ่านไปสี่เพลงในช่วงแรกเป็นการโชว์เสียงของเธอเพียว ๆ เสียสาม ในเพลงที่ห้าเธอเลือกเอาเพลงสั้น ๆ ในชุดปฐมที่ชื่อว่า ระบำพราย มาร้อง ริคทำเอาพวกเราฮาเมื่อเธอดันลืมเนื้อเพลงของตัวเอง เลยได้คุณปอม แฟนพันธ์แท้มาร่วมกันร้อง พอร้องเสร็จแบบไม่ล่ม เธอก็หัวเราะขึ้นด้วยความอารมณ์ดี พร้อมเล่าเบื้องหลัีงว่าเพลงนี้แต่งขึ้นตอนที่กำลังทำครัวต้มมาม่า พลันเมโลดี้และคำก็วิ่งเข้ามาในหัว จึงรีบวิ่งไปจนเนื้อและบันทึกดนตรีแบบง่าย ๆ ไว้ กลายเป็นเรื่องโจ๊กเด็ดของงานทีเดียว
ตัวจริงของริค วชิรปิลันธ์ เป็นคนที่ฮา และยัีงเป็นกันเองมาก ๆ ทว่ายามเธออยู่บนเวที อารมณ์เพลงและความหมายพาให้เธอนำเสนอตัวตนออกมาเป็นอีกภาคหนึ่ง เธอเล่าติดตลกว่า คนที่เบเกอรี่ฯ แซวว่า เธอเหมือนหุ่นรบ Getter ที่เกิดจากเอาหุ่นตัวอื่นสามตัวมาประกอบกัน ความคิดเช่นนี้ ถ้ามองจริง ๆ ก็มิใช่เรื่องน่าแปลก เพราะตามปกติ คนเราก็มีกันหลายหน้าหลายภาคใส่หน้ากากตามสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว มิมีใครคนใดคงสถานะเพียงสภาวะเดียว แต่ล้วนมีความหลากหลาย เหมื่อนพระผู้เป็นเจ้าที่มีหลายปาง หลายมิติ
ครึ่งหลัีงจากการแสดง เหมือนเป็นงาน Tribute ให้กับโจ้ วงพอส เพราะหยิบเอางานคัฟเวอร์ที่โจ้เคยขับร้องมาบรรเลงถึงสามเพลง คือ ลาสาวแม่กลอง (เธอแซวว่าแป้กอย่างแรง) ข้อความและรักเธอหมดทั้งหัวใจ อีกเพลงหนึ่งเป็นงานคัฟเวอร์วงลูกเมียน้อยของเบเกอรี่ (ที่เธอบอกว่าแม้ทั้งเธอและ pixyl จะเป็นลูกเมียน้อยเหมือนกัน และ pixyl นั้นเป็นลูกเมียน้อยมากกว่า) เพลงนี้ก็เคยมีให้ฟังในอัลบั้ม Trois ซึ่งก็คือ ไม่ต้องทำอย่างนี้ แน่นอนว่าคนดูก็เข้าสู่โหมดคาราโอเกะกันทันที
จบไปเก้าเพลง ก็พักกันหน่อย ด้วยร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ใหักับนักดนตรี พร้อมกับเป่าเทียนกินเค้ก ช่วงนี้ใครปวดฉี่ก็รีบวิ่งไปปลอดปล่อยกัน
เข้าสู่เพลงที่สิบ เป็นเพลงสุดท้าย (ตามสคริปท์) เป็นเพลงจากเกม Final Fantasy 8 ชื่อเกมว่า Eyes on me เธอเล่าปนขำว่าคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเธอกับเทคโนโลยีมักแปรผกผันกัน อย่างอินเตอร์เนตคงไม่รู้จักหรอก ทว่าความจริงแล้ว เกมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น play 2 play 3 ฯลฯ เธอล้วนเป็นขาประจำเล่นอยู่ตลอด เพลง Eyes on me เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่เธอร้องได้อย่างน่าประทับใจในค่ำวันนั้น
แน่นอนว่าแฟนเพลงยังไม่อยากเลิก ขนาดน้องพนักงานที่ร้านซึ่งไม่เคยรู้จักและฟังของริคมาก่อนเลยยังมานั่งดู ด้วย เธอเลยร้องเพลงชุดใหม่แบบ sample ให้ฟังนิด ๆ พร้อมกับร้องเพลงการ์ตูน Powerpuff Girl ให้ฟัง
ตอนแรกก็นึกว่าสงสัยพี่ริคคงร้องให้ลูกฟังบ่อย ที่ไหนได้เธอได้รับจ๊อบร้องเพลงประกอบการ์ตูนครับ ซึ่งเสียงของเธอนั้นคงละเรื่องกับที่ได้ฟังกันในงานของเธอเลย เธอบอกว่าให้โจทย์มาก็ต้องร้องค่ะ ก่อนหน้านี้ก็ร้องเพลงประกอบหนังผีมาอีกเรื่อง ใครอยากได้เสียงหลอน ๆ คิดอะไรไม่ออกก็จ้างเธอโลด
สามเพลงสุดท้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดละครับ เป็น MTV Unplugged ได้เลย นักดนตรีเยี่ยม performance ยอด เพลงที่เล่นก็อัดกันไม่มียั้งทั้ง ๆ ที่ใช้กีตาร์โปร่งเล่น ไม่ว่าจะเป็น อีเดน เมืองต้องทัณฑ์ ก่อนจะปิดท้าย เทวี เสียงปรบมือดังลั่นเมื่อการแสดงจบลง
ก่อนร่ำลามีการทำฮาด้วยการล้อมวงจับมือร้องเพลงสามัคคีชุมนุม จบเพลงแบบล่มแล้ว เธอนำเอาเนื้อเพลงคืนร้อยมารและไหมมายามาให้ผม เพราะผมคุยกับเธอว่าอยากได้เนื้อเพลงมาก ๆ ผมก็เลยจัดการขอลายเซ็นเสียเลย 555 พอผมขอก็เริ่มเกิดเทศกาลขอลายเซ็นและถ่ายรูปก็เกิดขึ้น แฟนเพลงเองก็แลกเปลี่ยนอีเมล ไฮไฟว์เพื่อเอาไว้คุยกันในภายหลัง
ตอนสุดท้ายหลังจากที่ท่านอื่นเข้าไปคุยกับเธออย่างยาวนาน ก็คงเหลือผมเป็นคนสุดท้าย พี่ริคถามผมว่า ดอง เราคุยอะไรกันดีคะ ผมบอกว่าไม่ต้องคุยที่นี้ก็ได้ครับ เพราะเราคุยกันได้หลายช่องทางอยู่แล้ว พร้อมกับเสียงหัวเราะของทีมงาน
เทคโนโลยีทำให้เกิดสิ่งดี ๆ ขึ้นมากมาย เรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีเช่นกันที่ทำให้เกิดขึ้น
น่าเสียดายรูปบรรยากาศ ทีมงานยังไม่ได้โพสต์ลงไฮไฟว์เลย ผมก็กะจะไปจิ๊กมาแปะ ทว่าหาไม่เจอสักรูปเลยครับ เอาเป็นว่าได้มาเมื่อไหร่จะมาแปะให้ดูอีกทีครับ
ป.ล. ขอขอบคุณ คุณนัท คุณไก่และคุณปอม นักดนตรีทุกท่าน ร้านเบเกอริสต้า ชาวรักริคทุกท่าน ที่ทำให้เกิดงานวันนี้ขึ้นนะครับ Rik Hualampongriddim
Create Date : 12 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 23:36:30 น. |
|
1 comments
|
Counter : 389 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
Cameron54 |
|
|
|
|