27th July 2019



ทริปเส้นทางบนสันเขาที่วิ่งผ่าน 5 จังหวัดนี้ครานี้ ได้ไอเดียผุดขึ้นมาตอนนั่งดูรูปท่องเที่ยวสายเขียวในวันที่จิตใจห่อเหี่ยว และฝ่อ ๆ กับการกับงาน
จริงกว่านั้นคือ อยากทำทริปแบบเจอเพื่อนใหม่บ้างไรบ้าง เพื่อนใหม่ในที่นี่คือเพื่อนเก่าแต่ไม่ค่อยได้เดินทางด้วยกันเลยเพราะหลัง ๆ มานี่รู้สึกตัวเองจะมีแต่กลุ่มเพื่อนที่ทำงานติดทริปไปด้วยทุกครั้งไป ไอเดียนี้ทำให้นึกถึงเพื่อนเก่าอย่างเพื่อนสายฮา สายไม่ส่างอย่างเพื่อนสมัยเรียน "นี่แกร.. เราจัดสักทริปไหมเอาสา เอาลูกไปด้วย" คำตอบคือตกลง หาวันได้วันแล้ว ทุกอย่างก็เป็นหน้าที่ของจขบ.ที่จะแพลนและแมนเนจให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา



สายเขียวกับสายฝนมันเป็นเรื่องเดียวกัน
เส้นทางท่องเที่ยวสายเขียวไม่พ้นสันเขา ธรรมชาติ และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสินะ  และดูเหมือนว่า "ธรรมชาติ" ต้อนรับเราอย่างดีในวันเดินทางฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาตั้งแต่ฟ้าไม่สาง เส้นทางเดินทางจากเชียงใหม่สู่จังหวัดพะเยาก็จะประมาณนี้ค่ะ



กรุ๊ปเรามีทั้งหมด 10 คน 3 ครอบครัว รวมคนขับรถด้วยค่ะ
เราเลือกเหมารถตู้รายวันจำนวน 3 วันแบบหาร ๆ ทุกอย่างซึ่งมันก็จะแฟร์ ๆ ค่ะ ซึ่งข้อดีของการเช่ารถพร้อมคนขับคือ ชำนาญ และแม่นยำ ซึ่งอันนี้พวกเราที่เป็นผู้หญิงทำได้ไม่ค่อยดีเท่าค่ะ




..............

ที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติดอยหลวง อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

การเดินทาง จากอำเภอวังเหนือ ใช้ทางหลวงหมายเลข 120 (วังเหนือ-พะเยา) ไปทางอำเภอเมืองพะเยา ถึงหลักกิโลเมตรที่ 74 น้ำตกอยู่ทางด้านซ้ายมือ

น้ำตกธารทอง เป็นน้ำตกที่เที่ยวสะดวกแม้จะตั้งอยู่ในป่าใหญ่ จากทางหลวงหมายเลข 120 เลี้ยวเข้าไปไม่ไกลก็จะพบลานจอดรถ จากนั้นเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะพบน้ำตกธารทองแล้ว น้ำตกธารทองเป็นน้ำตกหินปูนขนาดเล็กลดหลั่นเป็นชั้นๆ หลายสิบชั้นรวมกันสูงประมาณ 30 เมตร บริเวณน้ำตกร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ และมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำประมาณ 4-5 แอ่ง สายน้ำเย็นสบายจึงเหมาะแก่การพักผ่อนเล่นน้ำ ด้วยความเป็นน้ำตกหินปูนจึงไม่ต้องกลัวลื่น เพราะตัวน้ำตกไม่มีตะไคร่น้ำเกาะจึงสามารถเดินเที่ยวชมน้ำตกได้เป็นอย่างดี และด้วยบริเวณลานจอดรถมีร้านค้าแผงลอยของชาวบ้าน และมีห้องน้ำของทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวง น้ำตกธารทองจึงเป็นจุดแวะพักรถพักคนระหว่างเดินทางที่นิยมที่สุดของเส้นทางสายนี้"   เครดิต : น้ำตกธารทอง   

เราวิ่งต่อเพื่อเข้าเมืองพะเยาหาข้าวเที่ยงกินกันค่ะ

เกือบ 20 ปีได้มั้ง.. ที่ไม่เจอกัน "กว๊านพะเยา"
.......