มหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ได้ เพราะอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำทั้งหลาย.....................
หนีร้อนไปพึ่งเย็นช่วงสงกรานต์ที่แคชเมียร์(ภาค3)...Pahalgam




กลัวคนจะเบื่อกันจังเลย..ทำมาสองกระทู้แล้ว
วันนี้ยัดเยียดเอามาให้ดูอีกหนึ่ง..
และอีกสองสามวันจะเอามาให้ดูอีกหนึ่ง..
ตามไปดูภาคสองที่ลิงค์นี้
คลิกที่นี่เพื่อดู ภาคสอง แคชเมียร์

และคลิกด้านล่างเพื่อดูภาคแรก
คลิกที่นี่เพื่อดู ภาคแรก แคชเมียร์

หรือคลิกข้างล่างเพื่อดูภาพที่ใหญ่กว่าจากห้อง Gallery พันทิพ
คลิกที่นี่เพื่อดู กระทู้ในห้อง Gallery
แต่ไหนๆก็หลวมตัวมาแล้วเนอะ..มาดูกันต่อเลยดีกว่า
วันนี้จะพาไปเที่ยว Pahalgam..บางคนอาจงงว่ามันคืออะไร
Pahalgam ก็ยังอยู่ในแคชเมี่ยร์..ประเทศอินตระเดียนี่แหละ
ห่างจากตัวเมืองศรีนากาไปทางตะวันออก 95 กิโลเมตร
เป็นเมืองที่มีการไหลมาบรรจบกันของแม่น้ำสองสาย
คือแม่น้ำ Lidder ฝั่งตะวันออก และตะวันตก

ที่นี่เป็นเมืองที่มีเสน่ห์อีกเมืองหนี่งของแคชเมียร์
เพราะอยู่ในหุบเขาที่สูงชัน..
ปกคลุมไปด้วยต้นสนและหิมะ...
เริ่มสนใจกันแล้วใช่มั้ยหล่ะ..งั้นตามมาเลย





เราออกจากบ้านเรือที่ศรีนากาแต่เช้าโดยเรือซิคารา
เมื่อมาถึงที่ท่าเรือก็เป็นเรื่องปกติซะแล้วที่จะมีคนมาขายของ

มีทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่...แต่ไม่ยักกะมีผู้หญิงมาขายแฮะ





ก่อนไปเที่ยว Pahalgam ก็มาแวะตลาดแป๊บนึง
ไม่รู้จะทำอะไรก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อยเปื่อย

ขอบอกว่าคนอินเดียเนี่ยชอบกล้องถ่ายรูปมาก
และก็ชอบเข้ากล้องมากๆด้วยเช่นกัน
(เป็นส่วนใหญ่น่ะครับ..แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ชอบ)





จักรยาน..ยังเป็นพาหนะที่จำเป็นสำหรับเมืองนี้
ถึงแม้มันจะดูวุ่นวายไปด้วยรถยนต์น้อยใหญ่ไปทั้งเมืองก็เหอะ

เข้ามาในเมืองแล้วปวดหัวมากๆ
เสียงแตรรถมันยังก้องอยู่ในหูชั้นในของผมอยู่เลย
เค้าบอกว่ารถที่นี่ถ้าบีบแตรไม่ดัง..ขับออกจากบ้านได้ห้าเมตร
รับรองเกิดอุบัติเหตุชัวร์..เค้าใช้สัญญาณแตรแทนไฟสัญญาณครับ





ขนมอะไรก็ไม่รู้..ท่าทางน่ากิน
แต่ตอนนี้ยังเป็นช่วงหัววัน..กลัวกินไปแล้วจู๊ดๆระหว่างวันแย่เลย
ก็เลยไม่ได้ซื้อกินซะงั้น
ประกอบกับวันนี้ตอนเช้ากินอาหารเช้าที่เอร็ดอร่อยที่บ้านเรือ
ท้องและพุงน้อยๆของผมจึงยังไม่สามารถรับอาหารเพิ่มได้






สักพักเราก็เริ่มออกเดินทางไปสู Pahalgam ตามโปรแกรม
วันนี้อากาศปลอดโปร่ง..ไม่หนาวไม่ร้อน
คาดว่าอุณหภูมิน่าจะประมาณ 20 องศา(ที่ตัวเมืองศรีนากา)

นั่งรถไปซักพักเริ่มเห็นทุ่งกว้างๆ..
มีดอกไม้บานเต็มทุ่ง..ผมกดชัตเตอร์ไม่หยุด
สงสัยคนขับรถคงรำคาญเสียงชัตเตอร์..เลยเบรคเอี๊ยด
แล้วบอกว่าให้ไปถ่ายรูปข้างล่างซะให้สะใจไป๊
(อันนี้คิดแทนคนขับน่ะครับ..ฮิฮิ)





นี่แหละครับดอกไม้ที่ว่า..
ดูไปคล้ายๆดอกทิวลิป..แต่กลีบดอกบางกว่า
และสีดูจะสดกว่า
มันมีเต็มทุ่งเลยน่ะครับ..สุดลูกหูลูกตา
มีฉากหลังเป็นทิวเขาหิมาลัย...สวยชะมัด





อีกมุมนึง..ที่เห็นข้างหลังลิบๆนั่นคือทิวเขาหิมาลัยครับ
ดอกไม้พวกนี้คนขับรถบอกว่าชื่ออะไรซักอย่าง
ผมจำไม่ค่อยได้..ขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
(ความจำสั้นจริงๆ)
ใครรู้วานบอกหน่อย

เหมือนมันจะขึ้นเองโดยธรรมชาติน่ะ
เพราะดูๆมันขึ้นสะเปะสะปะ
ไม่มีรูปแปลงชัดเจน
เอ๊ะหรือมีคนปลูกเอาไว้ ชักไม่แน่ใจ





เด็กน้อยชาวอินเดียเห็นมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูป
ก็เดินถือช่อดอกไม้มาขายให้พวกเรา

พวกเราไม่ได้ซื้อหรอกครับ
เพราะมีบางคนเงินหมดกระเป๋าเพราะถูกพ่อค้าที่ทะเลสาบ
หลอกให้ซื้อดอกทิวลิปไปจดแล้ว...ฮิฮิ

แต่เราก็ขอถ่ายรูปกับน้องเค้า
แอบให้ทิปน้องเค้าไปนิดหน่อย..ค่าที่เป็นดาราหน้ากล้อง





ขับมาอีกสักพักก็แวะจอดที่หมู่บ้านนึง
ที่นี่จะมีร้านค้าเล็กๆขายสินค้าจำพวกแอลมอน
วอลนัท..และแซฟฟรอน

งงหล่ะสิว่าแซฟฟรอนคืออะไร?
แซฟฟรอนคือเกสรของดอกไม้ในรูปที่วางอยู่ด้านหน้าของลุงนี่แหละ

มันเป็นดอกไม้ที่ไม่มีใบ
เกสรนี้มีค่ามาก...ดอกหนึ่งจะเก็บได้ไม่กี่อัน
เค้าจะเอามาตากแห้ง
ใช้เกสรนี้มาทำสี..ผสมกับชา..หุงข้าวเพื่อให้เป็นสีเหลือง

ราคาหน่ะเหรอ...แพงมาก
แพงกว่าทองอีกถ้าเทียบเป็นกรัมต่อกรัม
ซื้อแทบไม่ลง





ขับมาอีกก็เริ่มที่จะเข้าใกล้เทือกเขาหิมาลัยอีกด้านเข้ามาเรื่อยๆ
อากาศก็เริ่มเย็นลง...ผมเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ

ที่เห็นนี้คือแม่น้ำ Lidder ที่เกิดจากการละลายของหิมะ
น้ำคงเย็นใช่ย่อย...ไม่กล้าจุ่มครับ
(ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน เหอๆๆ)





และแล้วเราก็เข้ามาอยู่ที่ตัวเมือง Pahalgam
เป็นเมืองเล็กๆอยู่ในหุบเขา
ผู้คนก็ดูจะบางตาเมื่อเทียบกับเมืองอื่นที่เราไปกัน

ที่สำคัญคือรถไม่ค่อยเยอะ
เพราะฉะนั้นมลภาวะเสียงแตรจึงไม่ค่อยมาก
ขอบคุณที่ไม่บีบแตรครับ(จะบ้าตายจริงๆน่ะ)





พาหนะที่สำคัญอีกอย่างของคนในเมืองนี้คือ"ม้า"
เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไปไหนก็ได้ที่รถยนต์เข้าไปไม่ถึง

เราเห็นคนขี่ม้าจนชินตากันเลยหล่ะครับที่นี่





ขนมแบบนี้ค่อยกล้ากินหน่อย
เพราะเค้าจะทอดกันสดๆ...ให้เห็นกันจะๆ

เพียงแต่จะต้องเสี่ยงกับสารก่อมะเร็งนิดๆ
เพราะ....น้ำมันดำปี๋ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทอดมาหลายรอบ
แถมตอนห่อขนมให้เนี่ย..ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อให้
โห...สารตะกั่วทั้งน้านนน
แต่ก็กิน..ก็มันหิวนี่หว่า
ท้องร้องโครกคราก





บ้านเรือนที่นี่เค้าก็ปลูกได้เข้ากับบรรยากาศหิมาลัยจริงๆ
ดูสวยงาม..ถึงแม้บางทีจะมีขยะเยอะไปหน่อยก็เหอะ
คิดอะไรมาก...มาเที่ยวที่อินเดียห้ามบ่น..เข้าใจ๋?





เกสต์เฮาส์ที่นี่ก็มีให้เลือกเยอะแยะ
หลากสไตล์..หลากราคา
แต่ของผมเนี่ยคุณรุ่ง ทริปลีดเดอร์ของเราจองเอาไว้แล้ว
เกสต์เฮาส์ก็สวยดีน่ะ

แต่เค้ากำลังมีการทาสีข้างล่าง
กลิ่นทินเนอร์แรงไปหน่อย..เราเลยออดอ้อนขอให้เปลี่ยน
แต่ก่อนไปขอเก็บภาพแถวๆนี้ก่อนน่ะ





ความจริงวิวที่เกสต์เฮาส์ที่นี่ก็เจ๋งดี
เห็นทั้งแม่น้ำ Lidder และเห็นเทือกเขาที่มีหิมะคลุมด้วย
แตที่ใหม่ที่เราจะไปเนี่ยเห็นแต่ภูเขาอย่างเดียว

ไม่เป็นไร...เดินมาเล่นที่แม่น้ำก็ได้นี่เนอะ





สักพักเราก็เริ่มโปรแกรมท่องเที่ยวที่จะพลาดไม่ได้
โปรแกรมที่ว่านี่คือการขี่ม้าชมเมืองและชมเทือกเขา

แต่ม้าที่นี่ตัวมันเล็กๆเนอะ...ตอนแรกนึกว่าล่อซะอีก





พวกเราค่อยๆขี่ม้าลัดเลาะเขามาเรื่อยๆ
ตอนแรกก็ไม่ค่อยคุ้น...ม้ามันจะเฉออกนอกทางตลอด
หลังๆมาก็เริ่มชิน
บางคนได้ม้าซนก็พาไปซะไกลเดือดร้อนคนต้องไปจูงกลับมา

แต่ผมค้นพบว่าความลำบากอีกอย่างนึงของการขี่ม้าคือ
คือ..คือ...มันเจ็บ"ตรงนั้น"มากเลยครับ
แนะนำว่าถ้าใครจะไปขี่เนี่ยให้เตรียมกางเกงพิเศษไปเลยครับ
ถ้าได้กางเกงแบบที่นักจักรยานไปได้ก็เจ๋ง
(ไม่รู้ว่าผู้หญิงจะมีปัญหาแบบผมหรือเปล่า..มิได้ถาม แหะๆ)





แต่พินิจจากแววตาและสีหน้าที่กระดี๊กระด๊าของสาวๆแล้ว
ผมว่าเค้าคงไม่เจ็บ"ตรงนั้น"เหมือนผม(มั้ง)

มีแต่ผมที่ต้องขี่ม้าแบบเขย่งๆเอา
ยิ่งตอนมันวิ่งแล้วกระแทกๆเนี่ย..คุณเอ๊ย!
แทบตาย...หมันถาวรไปแล้ว





ที่เห็นหลังไวๆนี่คือทริปลีดเดอร์ของพวกเรา
สาวเอวบางร่างน้อย(ไปหมด)

สังเกตดูว่าม้าตัวนี้หลังจะแอ่นมากกว่าของเพื่อนในกลุ่ม
คาดว่าคงเป็นกรรมเก่าของม้าที่ทำมาแต่ชาติปางก่อน ฮิฮิ

(หวังว่าทริปลีดเดอร์คงไม่แวะมาอ่านกระทู้นี้น่ะ)





และแล้วเราก็ขี่ม้ามาถึงทุ่งหญ้ากว้างซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา
ตอนแรกนึกว่าเป็นสนามกอล์ฟซะอีก
อยากเปิดเพลงแดนซ์แบบแขก...แล้ววิ่งไปมาทำมิวสิควิดีโอ





ที่นี่เห็นมีม้าหลายตัวกินหญ้าอยู่อย่างเอร็ดอร่อย
(รู้ได้ไงว่าอร่อย?...เป็นม้าเรอะ?)

ภาพทุ่งหญ้าสีเขียว ตัดกับทิวเขาหิมาลัยที่มีหิมะเนี่ยสวยสุดๆ
ลมเย็นพัดผ่านหน้าพวกเราไป..เหมาะแก่การฟอกปอดจริงๆ





อีกมุมนึงของทุ่งหญ้าที่ Pahalgam
งามไม่มีที่ติ





ม้าบางตัวก็ลงไปชักดิ้นชักงอ
ไม่แน่ใจว่ามันจะเดี้ยงเพราะรับน้ำหนักคนบางคนหรือเปล่า
เห็นแขกผู้หญิงบางคนแล้วเนี่ยหุ่นแบบว่า...สามคนโอบ

ไม่อยากเกิดเป็นม้าเลย..ให้ตายสิ

(ความจริงภาพนี้เป็นภาพม้าลงไปเล่นกับพื้นหญ้าเฉยๆน่ะ)





บางมุมของทุ่งหญ้าที่นี่ก็เห็นมีลำธารเล็กๆ
ลำธารพวกนี้เกิดจากการละลายตัวของหิมะ
แล้วไปไหลรวมกันเป็นแม่น้ำข้างล่าง
ลองเอามือจุ่มน้ำดูแล้ว...เย็นเจี๊ยบ

บางมุมของทุ่งหญ้ายังถูกปกคลุมโดยหิมะอยู่บ้าง
(โปรดดูมุมขวาบน)





เห็นทุ่งหญ้าและลำธารแบบนี้อยากเอาเตนท์มากางมากๆ
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่กลางคืนหนาวมากๆ
แม้แต่ที่ตัวเมืองข้างล่างก็เหอะ
พวกเราเกือบตายกันแล้วตอนกลางคืน
หนาวจนแทบขยับตัวไม่ได้
แถมโรงแรมที่เราไปพักเนี่ยเครื่องทำน้ำอุ่นเจ๊งอีก..ซวยเจงๆ
คืนนั้นพวกเราเลยต้องอาบน้ำเย็นกัน
ทรมาณสุดใจเลยหล่ะ





ต้นสนที่นี่ก็ต้นใหญ่ๆทั้งนั้น...แถมขึ้นกันตรงแหน่วยังกะไม้บรรทัด
สวยงามแต๊ๆ




และแล้วก็ได้แก่เวลาที่ต้องนั่งม้าลงไปข้างล่าง
โปรดสังเกตความลำบากใจของเจ้าของม้า ฮิฮิ





มีการเจรจากันเล็กน้อย

(ความจริงไม่ได้คุยกันแบบนี้จริงๆน่ะ
แค่อำทริปลีดเดอร์ของเราเฉยๆ เด้อ)





อำลาทุ่งหญ้าไปด้วยใจอาวรณ์
ปีหน้าฟ้าใหม่ข้อยสิมาเยือนใหม่เด้อ
ว่าแล้วก็ตะโกน"เหินฟ้า" เลียนแบบศรรามซะหน่อย





นี่แหละครับคือโรงแรม Pine view ที่เราพักกันคืนนี้
พรุ่งนี้ก็ต้องเตรียมตัวไปเล่นสกีที่ Gulmarg กันอีก
นอนเอาแรงแต่หัวค่ำใต้ผ้าห่ม และถุงน้ำร้อนที่มีให้บริการ
(ถุงน้ำร้อนแบบที่คนแก่ใช้ประคบนั่นแหละ)





ถ้าถามว่าชอบที่ Pahalgam ไหม
ผมตอบได้เลยว่า"เทใจให้อีกแล้ว"
ก็ผมมันคนใจง่ายนี่นา 5555

อีกสองวันจะอัพเรื่องไปเล่นสกีที่ Gulmarg ให้น่ะครับ
รักกันจริงต้องชมต่อเด้อ







Create Date : 19 เมษายน 2550
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 21:34:42 น. 32 comments
Counter : 682 Pageviews.

 
โอยยยย อยากไปๆๆๆ

ชอบแคชเมียร์ในภาพของคุณจังค่า


โดย: แพนด้ามหาภัย IP: 125.25.151.130 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:23:51:54 น.  

 
สวยมากเลยคะ โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้คะ คุ้มจริง ๆ บ้านเราไม่มีละ ม้าตัวเล็กมาก บ้านเราเรียกว่าม้าแกลบมั้ง คุ้มจริง ๆ ไม่เบื่อคะ ติดตามภาคสี่ละ


โดย: nakwan6 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:23:58:43 น.  

 
ทั้งต้นและดอก..ดูคล้ายดอกทิวลิปพันธุ์ที่กลีบบานเป็นแฉกมากเลยค่ะ
ถ้าไม่ใช่ก็ขอเดาต่อไปว่า..เหมือนดอกป๊อปปี้อ่ะค่ะ
เวลา spring - summer ที่อิตาลี ดอกPoppy จะบานเต็มทุ่ง เต็มเขาอย่างนี้เลยล่ะค่ะ
ไม่รู้ว่าถูกรึเปล่านะคะ..แต่ดูคล้ายกันมั่กๆ

ตอนนี้นี่สวยเกินบรรยายจริงๆ...

ปล. เค้าว่ากันว่า...ที่อินเดียเนี่ย...คันเร่งอยู่ที่แตรค่ะ...ถ้าไม่กด...ก็ขับรถไม่ได้...


โดย: จันทร์สวย วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:1:50:27 น.  

 
พี่หมอคะ เห็นแซว Tour Leader ของเรามาหลายตอนแล้ว ระวังนะคะ ถึงทุกคนจะเห็นด้วยก็ตาม

ภาพสวยมากเลย ฟ้าสดจริงๆ อยากกลับไปอีกครั้งจัง


โดย: Goy IP: 202.12.118.36 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:7:39:26 น.  

 


โดย: หม๋องแหม๋ง วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:8:22:36 น.  

 
จะรอตอนต่อไปนะคะ


โดย: oriole IP: 72.181.94.177 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:10:30:22 น.  

 
ตามมาด้วยความเต็มใจค่ะ
แม่น้ำLidder สวยจัง
ขี่ม้ากันระบมเลยช่ายม้ายล่ะ... คริคริ ผู้หญิงแค่ระบม ไม่มีส่วนเกินให้รุงรัง

โอ้โฮ..ขี่กันจนม้าตายเลยเหรอ (ถึงไม่ตายแต่มันคงยากตายละ)

ตอนนี้หนุกมากค่ะ อ่านไปหัวเราะไป

บ้านแถวนี้มุงหลังคาด้วยสังกะสีเคลือบสีรึเปล่าคะ เห็นเขานิยมกันมาก ดูขัด ๆ ตายังไงไม่รู้

รอตอนใหม่อยู่นะคะ เดี๋ยวกลับจากกระบี่จะมาอ่านค่ะ


โดย: ชิงดวง วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:15:03:23 น.  

 
ภาพเกสต์เฮาส์ติดกับลำธารสวยมากๆค่ะหมอ บรรยากาศดูดีจังมีทั้งลำธาร ทั้งภูเขาหิมาลาทวย 555+

แต่ดูท่าทางการเดินทางแต่เที่ยวฟังดูหมอเล่า น่าจะระทวยจิงๆ เหนื่อยมะคะ เอิ๊กๆๆ


โดย: Miss sandy IP: 124.121.0.51 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:15:43:11 น.  

 
โอ๊ยยย อยากไปมั่ง


โดย: zmen วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:15:51:23 น.  

 
เข้ามา...อิจฉา


โดย: man@ (manatto ) วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:18:29:37 น.  

 
ไม่เคยคิดไปแคชเมียร์เลยครับ
แต่เจอไปสามกระทู้ติดๆ ในห้องแกลเลอรี่
ชักจะเปลี่ยนใจแล้วหล่ะครับ ฮ่าๆ สวยมาก

แม้จะเสียบรรยากาศไปหน่อย สไตล์เมืองแขกๆ (ความเห็นส่วนตัวครับ)
แต่ออกไปข้างนอกแล้วโหยเจอบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ สวยมากๆ

ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ เรื่องราวสนุกๆ ครับ
ว่าแต่ ใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับเนี่ย แฮะๆ


โดย: JayMelb IP: 124.121.79.41 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:22:26:45 น.  

 
ตามมาชม ครับสวยอีกแล้ว ดูรูปจากกล้องหมอ แล้ว ว่าจะเอา cannon ผมไปทิ้งเลย


โดย: pannawat IP: 58.9.148.139 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:23:29:14 น.  

 
ลงชื่อไว้ก่อน รูปไม่มาวันนี้... เน็ตเต่า...


โดย: ผีคิวฯ+ผีเหม่ง (namit ) วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:0:53:47 น.  

 
ชอบผู้ชายควบม้าที่สุดเลยหละค่ะคุณหมอ หนูแหวนชอบเค้าจัง


โดย: หนูแหวน IP: 125.24.192.208 วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:13:57:57 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปที่ blog น๊า
ตอนนี้ ยังไปไม่ถึง แคชเมียร์ เลย เพิ่งปล่อย blog ภาคที่ 1 : ทัชมาฮาล เองอ่ะ

ส่วน ภาค 2 : ป้อมอัครา ก็เกือบเสร็จแล้ว หลังจากนั้น ถึงค่อยบินไป แคชเมียร์

แต่รูปเราไม่สวยเหมือนของหมอน่ะ กล้องที่ใช้มันต๊องตั้งแต่ออกจากเมืองไทยแล้ว ก็ทนใช้จนจบทริปได้


โดย: น้องปลาดาว วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:15:12:16 น.  

 
โอยย..ๆๆๆๆ อยากไปบ้างงงง..


โดย: เข้ามาบ่นเหมือนเดิม (นายกาเมศ ) วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:19:19:52 น.  

 
เหมือนสวิสเลยครับ

แต่ค่าไปคงถูกกว่ากันเยอะ

สรุป...

น่าไปมากๆๆ


โดย: CDCR265 วันที่: 21 เมษายน 2550 เวลา:19:22:21 น.  

 
ทุ่งดอกไม้สวยมากกกก สดใสดีจัง


โดย: random-4 IP: 58.147.120.61 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:10:29:06 น.  

 
สวยจังคุณหมอ...คนที่บ้านก็อยากไปเหลือเกิน...สบายดีนะคะ


โดย: nissan4848 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:11:21:11 น.  

 
วันก่อนไปให้กระเบนแทงหัวใจมาด้วยครับ ไวจะเอารูปมาให้ดูนะครับ ว่าแต่ครั้งนี้ได้ไปเที่ยวแล้วนำรูปสวยๆ มาฝากอีกเช่นเคย ขอบคุณคุณหมอแมนต้ามากนะครับ


โดย: นายวุ้นกะทิ วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:15:23:26 น.  

 
^
^^
^^^
^^^^
แล้วจะรอดูภาพน่ะครับ"นายวุ้นกระทิ"


โดย: Dr.Manta IP: 222.123.68.162 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:16:36:30 น.  

 
ช่างเป็นเว็บที่สวย , เหมือนเราได้ตามไปด้วย

ขอบคุณครับที่ตั้งใจสรรสร้างให้พวกเรา ชาว

Blogger ได้มีโอกาสได้ดูก่อน

ทำอย่างไร ? เว็บสวย , น่าชม ช่วยสอนหน่อยครับ

ขอบคุณครับ

หมอยุ่น

//www.oknation.net/blog/moryoon
//moryoon.tapee.ac.th


โดย: หมอยุ่น ตามรอยพุทธทาส IP: 202.149.102.4 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:21:52:00 น.  

 
สวยจัง...อยากไปมั่ง...
ใช้กล้องอะไรถ่ายเหรอครับ?
ได้บรรยากาศดีแท้...


โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:22:28:51 น.  

 
ถ่ายภาพเก่งจังเลยค่ะ ภาพออกมาสวยมากๆ
ทำให้อยากไปเที่ยวบ้าง...เลยล่ะค่ะ หุหุ


โดย: smileyimaim IP: 203.113.51.104 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:22:31:45 น.  

 
ขอถามเหมือนคุณหมีบางกอกนะคะ ว่าใช้กล้องอะไรค่ะ รูปสวยมากๆ แต่คนถ่ายก็เก่งมากด้วยค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยตอบด้วยนะคะ คราวหน้าซื้อกล้องจะได้เลือกถูก


โดย: Pim IP: 203.131.209.242 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:17:17:26 น.  

 
คุณหมอยุ่นครับ...
เรื่องบล๊อกเนี่ยผมก็ทำตามวิธีที่เค้าสอนกันในบล๊อกครับ
โดยดูจากบล๊อก"ป้ามด"
ส่วนเรื่องแบคกราวนด์ผมเลียนแบบคุณ"ณ มิตร"ครับ

ส่วนกล้องผมใช้รุ่น Nikon D80 ครับ
เลนส์ก็ใช้ Nikkor 12-24
Nikkor 18-135
Nikkor 50 mm f 1.8 ครับ


โดย: Dr.Manta วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:7:03:40 น.  

 
โอ้ว โอ้ว เก็บตังค์ เก็บตังค์

ไปแคชเมียร์


โดย: เด็กดี IP: 202.183.233.12 วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:12:51:10 น.  

 
ชมต่อ ชมต่อ

ว้าว ว้าว


โดย: นมัสเต IP: 58.8.181.192 วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:18:59:01 น.  

 
มาถึงตอนสาม ก็ยังคงงามไม่หยุด ทุ่งดอกไม้แบบนี้อยากให้มีในบ้านเราจัง หายากนะนี่

ปล. หนุ่มๆเมืองนี้ดูจะหน้าตาดีกว่าเมืองที่ผ่านๆมานะ


โดย: ป้อจาย วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:17:22:12 น.  

 
หน้านี้ดูไม่ทันครับ กำลังจะออกไปข้างนอก ค้างไว้สองหน้าเดี๋ยวมาใหม่นะครับผม


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:16:35 น.  

 
กลับมาดูต่อครับ หายไปหลายวันเลย 555+

ผมชอบรูปแม่น้ำ+ลำธารนะครับ สวยดี
แล้วบ้านช่องก็ดูไม่ใหญ่โต มีวิวด้านหลังเป็นภูเขา น่าไปอยู่จัง
เห็นภาพทุ่งหญ้าแล้วแอบนึกถึงสนามกอล์ฟเหมือนกัน
แล้วก็ผมไม่เคยขี้ม้าครับ เลยไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่ามันสะเทือนรึเปล่า



โดย: พลทหารไรอั้น IP: 210.246.69.139 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:24:13 น.  

 
แค่ได้ยินเพลงประกอบก็เคลิ้มแล้ว
ยังจะเอารูปสวย ๆ มาให้ดูอีก
อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจริง ๆ


โดย: Ed IP: 125.26.34.53 วันที่: 20 สิงหาคม 2550 เวลา:23:26:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dr.Manta
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




&key



Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Dr.Manta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.