นอกจากฝ้ายแล้ว Liverpool ยังนำเข้าทาสอีกด้วย มีการจัดพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องทาสไว้อย่างน่าสนใจค่ะ สามารถเข้าชมฟรีที่ Merseyside Maritime Museum & International Slavery Museum ในบริเวณ Albert Dock
พิพิธภัณฑ์ Merseyside Maritime Museum ในบริเวณ Albert Dock ยังมีการแสดงประวัติของเมือง ประวัติการเดินเรือที่สำคัญ เช่น ไททานิค เป็นต้น
บริเวณ Albert Dock นี้ยังเป็นท่าเรือด้านการค้าที่เรียกว่า enclosed wet dock แห่งแรกของโลกด้วย
ค.ศ. 1760 Liverpool เป็นเมืองท่าสำหรับการค้าขายทาสที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
ค.ศ. 1807 สิ้นสุดการค้าทาสในสหราชอาณาจักร
"Is freedom anything but the right to live as we wish? Nothing else." ~ Epictetus (2nd Century AD)
Liverpool ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในประเภท Maritime Mercantile City World Heritage Site เมื่อปี ค.ศ. 2004 ความหมาย ลักษณะเฉพาะเป็นอย่างไรในประเภทนี้ ต้องรบกวนพี่เชอร์ผู้สันทัดกรณีเป็นผู้บรรยายต่อไปนะคะ
รัฐบาลอังกฤษ ได้เสนอต่อ UNESCO ว่าเมืองนี้มีลักษณะเป็นตัวอย่างสุดยอดของเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญในยุค ที่สหราชอาณาจักรเฟื่องฟูมีอิทธิพลต่อชาวโลก
ในปี ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลได้รับการโหวตให้เป็น European Capital of Culture อีกด้วย
นี่เลย...ตึกนก สัญลักษร์ของเมืองเลยล่ะ ชื่อตึกว่า Royal Liver Building เรื่องเล่าจากไกด์คือ ยอดตึกนี้มีนกสองตัว หันหน้าไปคนละทาง