BlogGang.com : : i will ok : #13 มาเลเซีย สิงคโปร์ 7 วันหกพันกว่าบาท>>1มิ.ย.52 <1 night in singapore(มั่วไปเรื่อยๆ)

#13 มาเลเซีย สิงคโปร์ 7 วันหกพันกว่าบาท>>1มิ.ย.52 <1 night in singapore(มั่วไปเรื่อยๆ)

ความเดิมตอนที่แล้วครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=mangiang&month=20-08-2009&group=2&gblog=12

ขอบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าที่ผมมาสิงคโปร์นั้น ไม่ใช่เพื่อการมา shopping แต่อย่างใด แล้วก็มาเพียงอค่สองวันหนึ่งคืนด้วยครับ เพราะผมแค่อยากมาเห็นบ้านเมืองเค้าเท่านั้นครับ อย่าง sentosa นี่ผมว่ามัน fake อ่ะครับ underwaterworld บ้านเราก็มี แล้วก็อีกหลายๆอย่างครับ เลยไม่ขอไปดีกว่า แถมย่านช็อปปิ้งนี่ผมคงไม่ไปเกลือกกลั้วหรอกครับ(กล้าพูดเนาะ) เพราะเงินไม่ถึง อิอิ เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าจะได้เจอแหล่งช็อปปิ้งหรูๆจากบล็อกผมนะครับบบบบบ(ที่จริงแค่จะมาเพื่อมาอวดชาวบ้านเค้าว่า กูเคยไปสิงคโปร์มานะเว้ยยยยยย!!!!!!!! ห้าาาา)

หลังจากที่เราได้ที่พักในสิงคโปร์พร้อมกับกินมาม่าประทังชีวิตกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอาล่ะ พร้อมลุย!!!!!!!!!

ก็ที่ที่เป็นเป้าหมายของผมเลยคือ Fountain of Wealth กับ Merlion ครับ แค่ผมได้ไปถ่ายรูปกับสองสิ่งนี้ก็พอใจแล้วครับสำหรับการมาสิงคโปร์ ก็เอาล่ะ ไปดูน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain of Wealth)กันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทันเค้าแสดง เพราะตอนนั้นก็จะทุ่มนึงแล้วล่ะ เราต้องไปดู laser show ตอนสองทุ่ม เพราะฉะนั้น ช้าไม่ได้ ไปกันเลยยยย

***** Fountain of Wealth หรือ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ได้รับการจดบันทึกโดยกินเนสส์บุ๊ก เมื่อปี ค.ศ. 1998 ว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก (สูง 13.8 เมตร) ตั้งอยู่กลางวงเวียนของหมู่ตึก Suntec Tower 1-5 ที่เปรียบเสมือนนิ้วมือตามหลักฮวงจุ้ย บางคนเชื่อว่ามาที่นี่แล้วต้องเดินวนรอบและสัมผัสน้ำพุ เพื่อเพิ่มความมั่งมีศรีสุขและเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต โดยสามารถสัมผัสน้ำพุได้ในเวลา 9.00 – 12.00 น. , 14.30 – 18.00 น. , 19.00 – 19.45 น. และรอบสุดท้ายคือ 21.30 – 22.00 น. และมีช่วงการแสดง Laser Show คือ 20.00 น. , 20.30 น. และ 21.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและสัมผัสน้ำพุ*****

หมายเหตุ : ข้อมูลจากหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยสิงคโปร์ โดย ธเนศ แสวงดี(ผมเอามาจากลายแทงของผมอีกทีครับ เดี๋ยวให้เครดิตในตอนสุดท้ายครับ)

ออกจากโฮสเทลประมาณทุ่มนึง เดินไปขึ้น MRT Outram เช่นเคย นั่งไปลงที่สถานี EW13 City hall ไม่นานมากนัก ใช้ EZ link ไม่ต้องเสียตังค์(ในสิงคโปร์ไม่เสียค่าเดินทางอีกแล้ว เพราะจ่ายค่า EZ link ไปเรียบร้อย)ก็ออกจากสถานีมา ก็จะเจอป้ายบอกทาง ไป marina square กับ suntec city mall ให้ไปทาง suntec city mall ก็จะเจอป้ายบอกทางไป Fountain of wealth ตลอดทางเลยล่ะ ก็เดินตามนั้นไปเรื่อยๆครับ

ผมก็เดินมาสักพักก็เจอกับน้ำพุครับ แต่มันทะแม่งๆยังไงไม่รู้สิ มันจะใช่ Fountain of Wealth รึป่าวหว่า เพราะมันเล็กจัง ถามคนแถวนั้นเค้าก็ไม่รู้จักว่าไอ้น้ำพุแห่งความมั่งคั่งเนี่ย มันอยู่ที่ไหน เอาแล้วไง มันใช่ป่าวหว่า นี่รีบเดินทางมาเพื่อน้ำตกจิ๋วนี่นะ(ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ เพราะมัวแต่อึ้งอยู่)แต่จากคอมมอนเซนส์(มีกะเค้า้ด้วยหรอ?)คิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะมันเล็กเกินแล้วก็อยู่ในอาคารด้วย คงไม่ใช่ล่ะ เดินต่อมาสักพักก็ อืมมม เจอป้ายบอกทางไปต่อ โอเคๆ ตามทางไปเลย เดินไกลมาก แต่ก็เป็นการเดินในห้างอ่ะแหละ คือออกมาจาก MRT city hall แล้วมันก็เชื่อมเป็นห้างออกมาเลย เหมือนเป็นศูนย์การค้าใต้ดินล่ะ บังคับให้คนต้องเดินวนดูของของเค้าล่ะ แต่อย่าหวัง ไม่ได้แอ้มหรอก เชอะ(ผมจนครับ) แล้วเราก็เจอจนได้ "Fountain of Wealth"

โชคดีมากๆเลยเรามาทันเวลาที่เค้าให้สัมผัสน้ำพุ ประมาณ 19.40 ล่ะ เฉียดไปห้านาที!!! แล้วเราก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้สัมผัสด้วย ว้าวววว !!!!

เค้าให้วนๆๆๆสามรอบอ่ะนะ บอกว่าถ้าครบสามรอบแล้วจะโชคดี แล้วเห็นเคยได้ยินประมาณว่ามีน้ำจากน้ำพุนี่ขายเป็นขวด ติดตัวไปจะโชคดี แต่จะโชคดีแค่ปีเดียว ต้องมาซื้อไปใหม่ทุกๆปี การตลาดชิบ เจออย่างนี้เลยไม่คิดอะไรมาก เอาแค่เดินๆ ถ่ายรูป ไม่รู้ว่าครบสามรอบด้วยรึป่าว ขอแค่มาสัมผัสก็พอใจแล้วววว

สัมผัสเสร็จก็ออกมานั่งรอ เดินไปด้านบนเพื่อดูน้ำพุจากด้านบน เค้าจะมีจุดให้ยืนตามปีเกิดของตัวเองด้วย ฮวงจุ้ยทั้งนั้น ก็แยกย้ายกันไปยืน พอ 20.00 laser show ก็ทำการแสดง สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็นานอยู่ ครึ่งชัวโมงได้มั้ง พอใจแล้ว ก็ออกเดินทางตามหาจุดหมายต่อไป "Merlion"

<<<ว้าวววว Fountain of wealth!!!!!

<<< เดินไปสัมผัสน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง

<<<เอามือแตะๆ เดินวนๆสามรอบ

<<<แตะๆน้พพุเสร็จ ก็ออกมารอดู laser show ใกล้แล้วๆๆ ด้านหลังนั่นคือกลุ่มอาคาร suntec city ออกแบบมาคล้ายนิ้วทั้งห้านิ้ว(ใช่ป่าวหว่า? ผมเห็นเป็นอย่างนั้นนะ)

<<<มาแล้วๆ เริ่มแล้ว

<<<เปลี่ยนสีได้ด้วย

<<<เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

<<<ยิง laser แล้วว

<<<งดงาม

ดูกันจนหนำใจแล้วก็เอา่ะ เดินทางต่อไป Merlion ก็เงอะๆงะๆอยู่พักนึงว่าจะข้ามถนนเลยหรือว่าจะมุดไปใต้ดินดี สุดท้ายข้ามถนนดีกว่าเพราะถ้ามุดใต้ดินเหมือนจะต้องไปอ้อมในห้างอีก แต่สุดท้ายก็ต้องมุดลงใต้ดินอยู่ดี

***** Esplanade-Theatres on the Bay เป็นงานสถาปัตยกรรมอันโด่งดังและโดดเด่นของสิงคโปร์ โดยมีลักษณะภายนอกคล้ายเปลือกทุเรียน จึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “Durian Tower” ตั้งอยู่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ตรงข้ามกับ Merlion ประกอบไปด้วย Concert Hall , โรงละคร , ห้องพัก , ศูนย์การค้า , ร้านอาหาร , บาร์ และลานกิจกรรม *****

หมายเหตุ : ข้อมูลจากหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยสิงคโปร์ โดย ธเนศ แสวงดี

ออกจาก Fountain of Wealth แล้วก็มุ่งหน้าสู่ตึกทุเรียน หรือ Esplanade เพื่อข้ามฝั่งไปยัง The Merlion เพื่อเก็บบรรยากาศยามค่ำคืนของจุดยุทธศาสตร์สำคัญของสิงคโปร์ ที่ตั้งอยู่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) โดยเดินกลับไปที่ Suntec City Mall เพื่อลงไปยัง City Link Mall ก่อนที่จะหาทางขึ้นที่ไปโผล่ใน Esplanade ได้เลย ระหว่างทางใต้ดินก็จะมีพวกงานศิลปะมาจัดให้เดินดูตลอดทาง แล้วก็จะผ่านลานกิจกรรม ดึกๆหยั่งงี้ยังมีเด็กๆมาทำกิจกรรมกันอยู่เลย ส่วนใหญ่กำลังเต้น B-Boy กันอยู่

หลังจากเดินผ่านลานกิจกรรม ก็โผล่ขึ้นมาตรงที่จอดรถของ Esplanade เดินขึ้นบันไดมาก็จะถึงโถงกลางของ Esplanade พอดี เสร็จแล้วก็เดินออกมานอกตึก เลี้ยวซ้ายเพื่อเดินข้ามสะพาน Esplanade ท่ามกลางฝนที่ยังโปรยลงมาเบาๆ พอเดินมาถึงอีกฝั่งก็เจอแล้ว Merlion ทั้ง 2 ใช่ๆ มี 2 ตัว (รวมทั้งหมดที่สิงคโปร์ จะมี 3 ตัว อยู่ตรงปากแม่น้ำสิงคโปร์นี่ 2 ตัว อีกตัวนึงจะอยู่ที่เกาะ Sentosa) <<<ข้อมูลจากลายแทงของผมครับ

ก็เดินมาตามนั้นเลยก็จะเจอกับ Merlion

จุึดสังเกตบางอย่าง
1.คนสิงคโปร์เวลาขึ้นบันไดเลื่อนจะชิดด้านซ้าย เพื่อให้ด้านขวาเป็นที่ว่างสำหรับผู้ที่เร่งรีบ ไม่เหมือนเมืองไทยหรอก ไม่มีระเบียบ
2.ในสถานีรถไฟใต้ดิน คนสิงคโปร์จะมารวมตัวทำกิจกรรมกัน เห็นมีบางกลุ่มมานั่งประชุมคุยงานกันแบบชิวๆด้วย อยากให้มีวัฒนธรรมแบบนี้ที่เมืองไทยบ้างจัง

เมื่อเจอ merlion ของเราแล้ว รอช้าอยู่ไย??? ถ่ายรูปสิครับบบบบบ

<<<เดินข้ามสะพานมามองกลับไปเป็นตึกทุเรียน esplanade ที่ที่เราจากมา งดงามครับ

<<<แสงสีศิวิไลซ์

<<<เจอแล้ววว

<<<อันนี้เป็นตัวเล็ก อยู่ที่เดียวกับตัวใหญ่

หลังจากดื่มด่ำความศิวิไลซ์เรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่รู้จะไปไหนต่อดี จะกลับเลยก็ใช่ที่เพราะนี่ก็ยังไม่สี่ทุ่มเลย เลยคิดว่านั่งรถเมล์เล่นแล้วกัน เพราะถ้านั่งรถไฟฟ้าพอเข้าเขตเมืองก็มุดดิน อดดูเมืองพอดี ไหนๆก็มี EZ link แล้ว นั่งไปเรื่อยๆเดี๋ยวค่อยว่ากัน ก็เดินข้ามถนนจาก merlion ไปฝั่งตรงข้าม เห็นรถเมล์ผ่านมา ไม่สนใจว่าจะไปไหน โบกไว้ก่อน แล้วก็ขึ้นไป รู้สึกว่าจะเป็นสาย 131 นะ นั่งไปเรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านที่ไหนมั่ง เพราะตามดูแผนที่ไม่ทัน จำได้แค่ว่าผ่าน little india นอกนั้นก็ได้แต่นั่งมองไม่รู้ว่าคือที่ไหน แต่ก็คุ้มล่ะ ประทับใจดี นั่งรถดูเมืองยามราตรี ชอบบบบบบบบบบบบบ

สักพักรถก็เริ่มวิ่งออกนอกเขตเมืองมากขึ้นๆๆๆๆ จนข้างทางแทบจะไม่มีอะไรเลย ก็ยังคิดว่า เอาน่า เดี๋ยวมันก็วนกลับล่ะ สักพัก เอ นี่มันก็สี่ทุ่มครึ่งแล้วนะ เดี๋ยวรถไฟฟ้าจะหมดรึป่าว??? แล้วจะกลับยังไง ค่ารถแทกซี่ก็แพงบรรลัย แล้วที่นี่มันที่ไหนหว่า??? รถไฟฟ้าก็ไม่เห็นเลย

ไม่ได้การ หยิบแผนที่ไปถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านหน้าว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน เค้าก็มองๆๆๆๆๆๆ แ้ล้วก็เอามือไล่ๆๆๆไปตามแผนที่แล้วก็หลุดออกจากแผนที่ มันไม่มีในแผนที่!!!

เอาแล้วงัย กรูออกมาไกลจังวะ?? แต่เธอก็บอกว่า ไม่ต้องกลัว เพราะเดี๋ยวข้างหน้านี่จะมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ เธอก็จะลงไปต่อรถไฟเหมือนกัน เดี๋ยวลงพร้อมกันเลย แล้วก็ไม่ต้องกลัวรถไฟหมด เพราะรถไฟหมดเที่ยงคืน นางฟ้ามาโปรดแท้

แล้วแปบเดียวเท่านั้นเราก็ลงมาพร้อมกัน ถ้าเกิดเราถามช้ากว่านี้อีกนิดเดียวนะ คงไม่ได้ลงตรงนี้แน่ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงไหนเหมือนกันนนนน

เราลงมาที่สถานี MRT Yio Chu kang NS15 สถานีนี้เมื่อเช้าเราก็ผ่านนะตอนเข้าเมืองก็ยังดี พอจับทางได้แล้ว แต่เรากับเธอไปคนละทางกันก็ขอบคุณและบอกลากันตรงนั้น ขอบคุณครับ (คุยกับเธอ เธอทักเราว่ามาจากเมืองไทยหรอ? เลยงงว่ารู้ได้ยังไง เธอบอกว่าฟังจากสำเนียง

มันบ่งบอกหรอว้าาา?? แล้วก็ตามเคย เธอเคยมาเมืองไทย)

เราก็นั่ง MRT มาลงที่ chinatown NE4 เพื่อจะมาหาไรกินหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องไปกินตรงไหน เดินเจอป้าคนนึงปั่นจักรยานมาถามเค้า เค้าก็ไม่รู้ว่าต้องไปกินที่ไหน ป้าบอกว่าไม่ใช่คนที่นี่ เราเลยเดินออกมาแล้วพูดกัน สักพักป้าก็ทักเรา

คนไทยหรอคะ?

ครับป้า เหอๆๆ ป้าบอกว่านึกว่าพวกเราเป็นพวกนักท่องเที่ยวอินโดนีเซีย(เจ้คนเมื่อกี้ทักผมเป็นคนไทยนะ!!!!) แล้วป้าก็บอกทางไปหาของกิน(อ้าว ไหนว่าไม่รู้ไงป้า?)คือประมาณป้าไม่อยากพูดอังกฤษมั้งเลยไม่บอกเราแต่แรก คุยกันได้ความว่า ป้ามาทำงานเป็นกุ๊กอยู่ร้านอาหารไทยแถวนี้ล่ะ มาทำได้หกเจ็ดปีแล้ว เลยขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยแล้วกันครับ ขอบคุณครับป้าาาา

ก็เดินไปแถวๆ Smith street ของกินทั้งถนนเลย แบบทีี่เป็นรถเข็นอ่ะนะ อาหารไทยเยอะมาก แต่ดูเหมือนเราจะมาทันเวลาพอดี ใกล้จะปิดแล้ว ก็ไปนั่งกันสามคน(ทริปคืนนี้มากันแค่สามคน) เป็นร้านอาหารไทย แม่ค้าคนไทย ก็สั่งมากินกันมี

Bah Guh Tae 8 SGD
โป๊ะแตก 8 SGD
ข้าวเปล่าคนละ 1 ชาม 1 SGD
น้ำเปล่า 2 ขวด เดินไปซื้อที่ 7-11 พอดีวันนั้นมีโปรโมชัน จำไม่ได้ว่าน้ำยี่ห้ออะไร ขวดละ 2.2 SGD แต่ซื้อ 2 ขวด ราคา 2.9 SGD เลยสอยมาสองขวด แถมพนักงาน 7-11 มาทักว่าเราเป็นคนมาเลย์หรอ?(พนักงานดูท่าทางเหมือนคนมาเลย์มาทำงานในสิงคโปร์อ่ะ)เอาสิ วันนี้กูเป็นสามชาติแระ จะให้กูเป็นชาติไหนต่อดีอ่ะ???

สรุปอาหารมื้อนี้ หารกันสามคน ตกคนละ 7 SGD แพงใช่ย่อยนะเนี่ย แต่ก็อิ่มมากกก

<<<หญิงใจบุญของเรา(เสื้อขาว ขวามือ)ที่พาเราลงจากรถเมล์แล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า

<<<บนรถไฟฟ้าขากลับ

<<<สถานี chinatown

<<<ย่านchinatown ยามค่ำคืน เงียบจัง

<<<ป้ายรถเมล์ ถ่ายไปงั้นแหละ เห็นมันสวยดี

<<<ตึกคลาสสิคดีจัง

<<<ป้าคนไทยผู้บอกหนทางไปสู่แหล่งอาหารแก่เด็กน้อยผู้หิวโหย

<<<ถนนของกิน smith street ใกล้จะวายแล้ว ฝากท้องที่นี่แล้วกัน

<<<โป๊ะแตก 8 SGD

<<<ข้าวเปล่าชามละ 1 SGD บะกุดเต๋ 8 SGD

กินเสร็จแล้วก็เดินกลับที่พักของเรา(MRT chinatown อยู่ใกล้ MRT Outram เราจึงสามารถเดินจากที่พักไปได้ทั้งสองสถานี)แล้วก็นอนหลับประมาณเกือบตีหนึ่ง พรุ่งนี้เจอกันใหม่ครับ

ข้อสังเกต

1.ที่ที่ผู้หญิงใจดีที่พาเราลงจากรถเมล์ไปต่อรถไฟฟ้าผมว่าค่อนข้างเปลี่ยวเลยล่ะ แต่เธอก็คงเดินคนเดียวทุกๆคืน โดยไม่กลัวอันตราย แปลว่าประเทศนี้ ปลอดภัยจริงๆครับ
2.ค่าโดยสารรถเมล์ที่นี่แพงมากกกกกก แต่ถ้าเป็นรถไฟฟ้าจะถูกมากกก ถูกกว่าบ้านเราซะอีก เพื่อสนับสนุนให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้า รถจะได้ไม่ติดครับ เนี่ยแหละ ผู้นำมีวิสัยทัศนืก็เงี้ยะ

<<<ขอปิดท้ายด้วยภาพที่พักของผมอีกครั้งครับ อยู่บนชั้นสองตึกนี้ คืนละ 22 SGD

สำหรับตอนหน้า มาดูกันว่าผมจะกลับยังไง เพราะในตอนนั้นถ้าถามผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าจะกลับเมืองไทยยังไง ขอแค่ไปนอนก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

พรุ่งนี้ไปเดิน bugis(small jatujak คนสิงคโปร์เค้าว่าอย่างนั้นครับ) ดูหอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์ ดูห้างเปิดใหม่ วัดจีน ย่านคนไทย และเดินทางกลับครับ ติดตามตอนต่อไป ตอนหน้าคงเป็นตอนสุดท้ายของทริปแล้วครับ

ตอนที่14 วันที2มิ.ย.2552 วันสุดท้ายของทริปมาเล สิงคโปร์>>จะกลับเมืองไทยยังไงละนี่?<<คนสิงคโปร์พาเที่ยวเอง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mangiang&month=09-2009&date=03&group=2&gblog=14

Create Date : 20 สิงหาคม 2552

Last Update : 15 กันยายน 2552 2:05:05 น.

9 comments

Counter : 1823 Pageviews.

ด่วนเลยคร๊ะ ติดตามอยู่นะ

โดย: pooh IP: 61.90.87.68 วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:21:05:08 น.

พี่คะ

ไปสิงคโปร์ ได้ไปดูน้ำพุเต้นระบำที่sentosaมารึป่าว
สวยมากๆเลย ^ ^

ที่มาเลก็ด้วย วันหลังถ้ามีโอกาศแนะนำไปเที่ยวปินังนะค่ะ
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหาดใหญ่ ^ ^

แล้วจะมาติดตามบล็อคต่อน่ะ

sweet dream kaa ^ ^

^_____^

โดย: YaWeN

วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:0:11:22 น.

ติตตามอ่านมาตั้งแต่แรก ขอเข้ามา memt หน่อยนะคะ
สนุกมากกกก เลยคะ ตั้งใจว่าจะไปมาเลเซียช่วงปลายปีนี้เหมือนกัน แต่กะจะเอารถไปเอง ขอเข้ามาเก็บข้อมูลนะคะ

โดย: ปุณ IP: 222.123.138.77 วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:1:08:57 น.

ติดตามผลงานอยู่นะค่ะ อยากอ่านอีกเร็วๆน๊า..

โดย: poo (นางแมว

) วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:12:26:39 น.

คุณ Yawen ครับ ผมไม่ได้ไปเกาะ Sentosa อ่ะครับ เนื่องด้วยเวลาไม่พออ่ะครับ อิอิ

คุณ pooh,ปุณ,poo

ครับ จะรีบอัพครับ ไม่น่าเกินสัปดาห์นี้ครับ ตอนนี้เน็ตที่บ้านเจ๊งอ่า ให้ช่างมาซ่อมอยู่อ่ะครับ

ไว้รออ่านต่อแล้วกันนะครับ

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ

รอตอนหน้านะครับ ตอนสุดท้ายแล้วววววว

โดย: i will ok

วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:13:15:33 น.

รบกวนนะครับ ผมกำลังจะไป ผมอยากรุ้เรื่องราคาต่างๆอะ คือจะไปแบบประหยัด แต่ไม่รุ้จะหาข้อมูลที่ไหนครับ............อยากจะถามแบบลึกๆเจาะตงจัง ใครรุ้ช่วยบอกผมด้วยครับ

โดย: ท้อป IP: 58.9.13.33 วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:0:11:02 น.

คุณท้ิอปครับ ในรีวิวนี้ ผมแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายไว้โดยระเอียดแล้วครับ ลองอ่านไล่มาตั้งแต่ตอนแรก จนจบ น่าจะพอช่วยได้นะครับ
อันนี้ลิงค์ตอนที่ 1 ครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mangiang&month=06-2009&date=11&group=2&gblog=1

ส่วนลิ้งค์ตอนอื่นๆ จะอยู่ด้านซ้ายมือนะครับ ค่อยๆอ่านนะครับ มีปัญหาตรงไหน ก็ถามเข้ามาได้ครับ

โดย: i will ok

วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:20:43:34 น.

กำลังจะไปเที่ยวกับลูกๆค่ะ อยากทราบว่าถ้าไม่ได้จองที่พักล่วงหน้าแต่ไปหาเหมือนน้องๆนี่จะยากไหมคะ และที่น้องๆพักกันนี้ ติดต่อง่ายไหมคะเพราะถูกดี และรถจากมาเลเซียมาสิงคโปร์มีหลายเที่ยวไหมคะ กรุณาช่วยหน่อยค่ะ อยากเดินตามทางที่น้องเคยเดินค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดย: ป้า ป้า IP: 124.121.148.131 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:22:47:42 น.

ตอบคุณ ป้า ป้า ครับ
ที่พักไปหาข้างหน้าได้ครับ ผมว่าไม่น่าเต็ม แต่ก็ต้องรู้แหล่งนะครับ ว่าจะไปหาที่ไหน เพราะเค้าไม่ได้มีแหล่งรวมตัวเหมือนข้าวสารบ้านเราน่ะครับ
ที่ที่ผมไปก็ติดต่อไม่ยากครับ ผมก็เดินเข้าไปถามเลย ฮ่าๆ ตกลงราคากันก็โอเคแล้วครับ แต่ว่าตอนนั้นผมก็เช็คในเว็บมาก่อนว่า ที่ไหนถูก ไปยังไง คือเตรียมไว้หลายๆที่ แล้วก็ไปเดินดูของจริงเอาน่ะครับ ถ้าโอเคก็ตกลงเอาเลยครับ
รถจากมาเลเซียไปสิงคโปร์ เยอะครับ แต่ว่าจะขึ้นจากที่ไหนครับ? ผมนั่งจากมะละกาไปสิงคโปร์ ถ้าที KL จะมีรถไฟไปสิงคโปร์ ซื้อแบบไปกลับจะถูกกว่าครับ

ขออภัยที่เข้ามาตอบช้านะครับ ไม่ทราบว่าได้ไปมารึยังนะครับ?

โดย: i will ok

วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:15:20:46 น.