ให้ปากกามันพาไป ให้หัวใจมันขีดเขียน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 

หมู่เกาะอลเวงชุดที่ ๓ ราคาผัดไท การขูดรีดหรือกลไกการตลาด ตอนที่๑

*เหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องสั้นนี้ล้วนเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาสถานที่และตัวละครต่างๆไม่มีอยู่จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้าถ้าหากอ่านๆไปแล้วเกิดรู้สึกว่ามันคลับคล้ายคลับคลา หรือบังเอิญไปพ้องกับอะไรเข้านั่นเกิดจากที่ท่านคิดเองเออเองล้วนๆนะจ๊ะ*

ในห้วงสมมติอันไกลโพ้นจากความเป็นจริงยังคงมีประเทศหนึ่งซึ่งเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ภูมิใจหนักหนาว่าเป็นแผ่นดินอันอุดมในดินมีหญ้าในฟ้ามียุง เอ๊ย! มีนก ใช่แล้ว ถ้าคุณยังจำกันได้เกาะสับปะรดนั่นแหละ (อ่านได้ที่เรื่อง มคอ.)ก็ใครเล่าจะไปรู้ว่านอกจากนิยมกินและผลิตสัปปะรดกระป๋องแล้วอาหารที่คนในประเทศแห่งนี้โปรดปรานก็คือ "ผัดไท"

ในอดีตกาลนานเนิ่นเมื่อประเทศแห่งนี้ยอมเปิดประตูสู่โลกภายนอก วิทยาการต่างๆก็หลั่งไหลเข้ามายังเกาะแห่งนี้ทั้งการไปรษณีย์โทรเลข การอัดกระป๋องสับปะรด กฏหมายสมัยใหม่ การทหาร การก่อสร้าง การรถไฟ(ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปน้อยมากตั้งแต่เข้ามายังเกาะแห่งนี้ได้ร้อยปีกว่าแล้ว) และรวมไปถึง"อาหาร" หนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์

เราจะไม่ขอกล่าวถึงการเข้ามาของผัดไทเอาเป็นว่ามันเข้ามาก็แล้วกัน แล้วอาหารชนิดนี้ก็กลายเป็นที่นิยมเป็นอย่างยิ่งของคนในเกาะนิยมจนถึงขนาดคนทั้งเกาะต้องกินผัดไทแทบทุกมื้อเป็นอาหารเที่ยง และเนื่องจากอาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ทำให้ทั่วทั้งเกาะมีร้านผัดไททั่วทุกหัวระแหง ตั้งแต่หาบเร่แผงลอย ร้านรถเข็นเพิงข้างถนน ตึกแถว จนไปกระทั่งถึงภัตตาคารและโรงเรียนสอนทำผัดไท และผัดไทที่ประเทศนี้ก็มีความหลายหลายมากตั้งแต่แค่ผัดเส้นกับถั่วงอกและน้ำซ้อสปรุงรสใส่ใบตองแห้งให้ไปหยิบกินด้วยมือไปจนกระทั่งถึงผัดไทหูฉลามใส่เป๋าฮื้อโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลราสซ้อสกุ้งมังกรเสิร์ฟในจานกระเบื้องเคลือบทองฝังมุกประดับเพชรพร้อมช้อนส้อมทองคำขาวและตะเกียบเงินและแน่นอนรับประทานบนเรือสำราญริมฝั่งเงียบสงบพร้อมบริกรและพ่อครัวที่สามารถปรุงผัดไทสูตรไหนก็ได้ที่ท่านต้องการ

ร้านขายผัดไททั้งหมดนี้สามารถแบ่งออกได้คร่าวๆเป็นสองประเภทคือร้านที่ดำเนินงานโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และร้านที่ดำเนินงานโดยเจ้าของร้านโดยไม่พึ่งภาครัฐในสมัยก่อน ร้านผัดไทจะเก็บค่าผัดไทไปตามเรื่องตามราวร้านผัดไทของรัฐบาลก็เก็บราคาย่อมเยาว์เนื่องจากภาครัฐอุดหนุนค่าวัตถุดิบและค่าจ้างบุคลากรส่วนที่ดำเนินงานแบบเอกชนก็เก็บราคามากน้อยต่างๆกันไป ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยจะประสบปัญหาอะไรเท่าไหร่เนื่องจากสูตรผัดไทยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และมีอยู่เพียงไม่กี่สูตรอย่างมากก็ผัดไทห่อไข่ใส่กุ้ง และว่ากันว่า "พ่อครัวผัดไท" นั้นเป็นพ่อครัวที่มีจรรยาบรรณสูงส่งทำอาหารเพื่อบรรเทาความหิวแก่มวลมนุษยชาติโดยไม่ต้องพะวงถึงปากท้องของตนเอง(อ่านเพิ่มเติมที่บทความประกอบ เรื่อง "กว่าจะมาเป็นพ่อครัวผัดไทย") และเหล่าชาวเกาะก็ปลายปลื้มกับรสชาติของผัดไททุกจานโดยไม่มีข้อโต้แย้งพ่อครัวทำอะไรมาให้ก็กิน และความสัมพันธ์ของพ่อครัวและลูกค้าเป็นไปแบบพึ่งพาอุมถัมป์กัน

แต่เมื่อจำเนียรกาลผ่านไป ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้ามาพ่อครัวผัดไทบางคนกลายเป็นพ่อครัวหน้าเลือดเห็นแก่ได้ ขูดรีดค่าอาหารแบบกะขายจานเดียวรวยไปทั้งชาติทั้งที่คุณภาพของผัดไทกับสถานที่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากคนอื่นมากนักชาวเกาะบางคนเริ่มหาว่าผัดไทไม่อร่อย กินแล้วท้องเสีย(ทั้งๆที่บางทีเป็นเพราะตัวเองกินส้มตำปูมาก่อนหน้านี้)เรียกพ่อครัวมาด่าว่าต่างๆนาๆ บางครั้งก็ฟ้องร้องเป็นคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายกันทีละเป็นล้านๆอีกทั้งสูตรผัดไทเริ่มหาได้ในอินเตอร์เน็ต หนังสือและสื่อต่างๆมากขึ้นนำไปสู่ปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างเหล่าพ่อครัวและลูกค้าซึ่งไม่พอใจในรสอาหารที่ไม่ตรงกับจริตหรือสิ่งที่ตนได้รับรู้มาจากสื่อต่างๆซึ่งบางครั้งความขัดแย้งก็พิลึกพิลั่นเกินกว่าจะพรรณนา (อ่านเพิ่มเติมที่บทความประกอบเรื่อง "ผัดไท ข้อเท็จจริงและความขัดแย้ง")

ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพ่อครัวและลูกค้าได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อรัฐบาลของเกาะได้เล็งเห็นความสำคัญของผัดไทและปากท้องจึงได้ออกนโยบาย "กินฟรีทุกจาน" ออกมาแต่แรกเริ่มเดิมทีก็ให้ใช้แต่ในร้านของรัฐบาลและต้องโทรมาจองล่วงหน้า ต่อมาก็ให้เดินเข้าไปกินได้เลยเมื่อหิว ต่อมาอีกก็เริ่มมาใช้ในร้านของเอกชนได้ทันทีถ้าหากเกิดหิวขึ้นมาแล้วแถวนั้นไม่มีร้านขายผัดไทของรัฐบาลโดยทางรัฐบาลได้กำหนดให้ "คณะกรรมการสวาปามและส่งเสริมช่วยกันกิน" หรือสปสช. เป็นผู้พิจารณาจ่ายค่าอาหารให้ร้านผัดไท

ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาเนื่องจาก "คณะกรรมการสวาปามและส่งเสริมช่วยกันกิน" นั้นจะพิจารณาค่าอาหารจากดัชนีมวลกายและค่าอัตราการเผาผลาญพลังงานพื้นฐาน (Basalmetabolic rate) ของชาวเกาะที่เข้ามากินอาหารในขณะนั้น (พ่อครัวเป็นผู้จดบันทึก) ซึ่งบางครั้งไม่สอดคล้องกับปริมาณหรือประเภทของผัดไทที่ชาวเกาะกินและส่วนมากมักจะประเมินราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เหตุผลที่ประเมินราคานี้เป็นที่พอเข้าใจได้เนื่องจากราคากลางของวัตถุดิบจะถูกกำหนดโดยกรมราคาตลาดกลางซึ่งกรมที่ว่านี้เป็นกรมที่แต่เดิมทำหน้าที่เบิกจ่ายค่าผัดไทสวัสดิการให้กับข้าราชการทำงานแบบอนุรักษ์นิยมคือไม่ขึ้นราคาของตามอัตราเงินเฟ้อ ไม่มีการใส่วัตุดิบใหม่ให้ทันสมัย(ไม่ Update) แถมยังคิดราคาจากต้นทุนการผลิตที่ถูกที่สุดเช่นถั่วงอกคิดราคากิโลกรัมละ ๑๕ บาทไม่ขาดไม่เกินโดยไม่สนใจว่าร้านบางร้านอาจจะใช้ถั่วงอกถอดหัวตัดราก หรือต้นอ่อนทานตะวันซึ่งราคาสูงกว่าแทนถั่วงอกลีบๆที่ผลิดโดยองกรณ์ภักษาธัญญาหาร(อภ. Government organization of poultry andplanting, GPO) ทำให้ร้านผัดไทของรัฐบาลมีแต่ขาดทุน ขาดุน และขาดทุน

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการคิดราคาผัดไทเกินจริงและการประกอบอาหารเกินความต้องการของร่างกายชาวเกาะจากภัตตาคารขนาดใหญ่ซึ่งคิดราคาค่าบริการแต่ละครั้งแพงมาก คิดยิบย่อยทุกอย่างแม้แต่ค่าถั่วลิสงคั่วที่โรยหน้าผัดไท(บางร้านใช้อัลมอลต์ แมคคาเดเมีย หรือวอลนัทคั่วแทนโดยไม่มีความจำเป็น) ไม่รวมค่าประกอบอาหารและค่าเช่าอุปกรณ์เครื่องครัวอีกต่างหาก และบางภัตตาคารก็แทบจะไม่สนใจคนที่แทบจะหิวตายอยู่หน้าร้านเพียงเพราะไม่มีเงินจะจ่ายแม้เมนูที่ถูกที่สุดของร้าน

ปัญหานี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ไม่มีทางออกไปเสียแล้วเนื่องจากฝ่ายหนึ่งคิดราคาต้นทุนแบบเหมาๆด้วยวัตถุดิบที่ราคาถูกโดยคาดหวังให้อาหารอร่อยจากฝีมือพ่อครัว กับฝ่ายหนึ่งคิดหากำไรให้ได้มากที่สุดโดยบางครั้งก็ใช้วัตถุดิบที่ดีเกินไปหรือใส่เครื่องปรุงมากเกินความจำเป็นแต่บางครั้งวัตถุดิบที่จำเป็นก็กลับไม่ได้รับการบรรจุเข้าไปในรายการของกรมราคาตลาดกลางจนถึงในขณะนี้ "เครือข่ายผู้ท้องร่วงจากการกินผัดไท"ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดกับ "สภาพ่อครัว"และมีเรื่องฟ้องร้องกับพ่อครัวต่างๆอยู่หลายคดีได้ออกมาเรียกร้องให้มี"คณะกรรมการควบคุมราคาผัดไทแห่งชาติ"ขึ้นมาเพื่อกำหนดราคาผัดไทของร้านผัดไทที่ดำเนินงานโดยระบบเอกชน

จนบัดนี้ การถกเถียงยังคงเป็นไปอย่างเข้มข้นและแม้แต่พ่อครัวด้วยกันเองก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยคำถามก็คือ คณะกรรมการนี้จะตั้งขึ้นมาจากใคร แล้ว "คณะกรรมการสวาปามและส่งเสริมช่วยกันกิน"หรือ สปสช. นี่มันทำงานอะไรกัน (วะ)แทนที่จะออกมาทำหน้าที่ตรงนี้คือไกล่เกลี่ยเคสที่หิวขึ้นมาจริงๆจังๆจนต้องเดินเข้าไปกินผัดไทในภัตตาคารหรูด้วยความจำเป็นด้วยราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรมผู้ประกอบการไม่ต้องมารับภาระขาดทุนกับชาวเกาะที่ตอนนี้ไม่ยอมทำอาหารกินเองคือถ้าไม่มีผัดไทกินก็คงอดตาย แล้วทำไมมันไม่รู้จักกินผัดซีอิ้วกันบ้างก็ไม่รู้

*เหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องสั้นนี้ล้วนเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาสถานที่และตัวละครต่างๆไม่มีอยู่จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้าถ้าหากอ่านๆไปแล้วเกิดรู้สึกว่ามันคลับคล้ายคลับคลา หรือบังเอิญไปพ้องกับอะไรเข้านั่นเกิดจากที่ท่านคิดเองเออเองล้วนๆนะจ๊ะ*




 

Create Date : 01 พฤษภาคม 2558
1 comments
Last Update : 1 พฤษภาคม 2558 23:29:57 น.
Counter : 1367 Pageviews.

 

สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: peepoobakub 14 มีนาคม 2560 13:34:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน
ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี
ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี
ดูอีกทีดู"................"

เติมเองตามใจชอบเลยครับ
Friends' blogs
[Add คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.