ให้ปากกามันพาไป ให้หัวใจมันขีดเขียน
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
30 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
หลงทางกลางทุ่ง

วันนี้เกิดอาการคึก หรือจริงๆแล้วรู้สึกผิด ที่สลบตั้งแต่เก้าโมงยันบ่ายสอง(ขี้เกียจมาก) Extern ไอติมตัดสินใจออกกำลังกายด้วยการขี่จักรยานเล่น

ขึ้นจักรยานคิตตี้สีชมพูเน่า ออกจากหอไปตั้งแต่ราวๆห้าโมงเย็น จุดมุ่งหมายคือไปไหนก็ได้ที่ไม่เคยไป ว่าแต่ มันที่ไหนล่ะ ก็ไปมาหมดแล้วหลังโรงพยาบาลจรดโรงงานอารหารสำเร็จรูป ด้านข้างชนคลองสิบหก อย่ากระนั้นเลย วันนี้ลองไปทางที่ไม่รู้จักดีกว่า ว่าแล้วไอติมก็ขี่จักรยานดุ๊กๆๆไป ผ่านตัวอำเภอองครักษ์ ผ่านวัดอะไรสักอย่าง ไปยังถนนที่ไม่กล้าไปมาก่อน คราวนี้แหละจะไปสำรวจให้หายอยาก

ด้วยความคิดบ้าๆที่ว่า "ไม่มีถนนสายไหนที่ไม่มีปลายทาง" ไอติมไม่เคยคิดหันหลังกลับ ทว่าไอติทลืมคิดไปว่า บางครั้ง ปลายถนนที่ว่ามันก็ไกลเกินกว่าเราจะเดินทางไปถึงด้วยจักรยานเน่าๆ

หกโมงเย็น อากาศกำลังสบายลมพัดเย็นๆ พระอาทิตย์แดงเรื่อๆ ไอติมแหกปากร้องเพลงอยู่กลางทุ่งคนเดียว ร้องผิดคีย์ตกร่องก็ช่างมัน ควายที่ไหนจะมาฟัง ต้นไม้ใบหญ้าก็หามีหูไม่ ขี่ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ โอ๊ะ! นั่นไงนากุ้ง อยู่ตรงนี้นี่เอง อ๊ะ! นกอีเสือ อา...ธรรมชาติงดงาม

มาถึงแยกแห่งหนึ่ง พระอาทิตย์ใกล้จะตกรอมร่อ ป้ายบอกทางชี้ตรงไปบ้านนา เลี้ยวขวาขึ้นสะพานกลับเข้าถนนองครักษ์-บางน้ำเปรี้ยว ไอติมเพิ่งตระหนัก ตายห่ะ กลับได้แล้ว เดี๋ยวมืดจะมองทางไม่เห็น เลยตัดสินใจเลี้ยวขวาไม่ย้อนกลับทางเดิม ขืนกลับทางเดิม มืดแน่ๆ ทางก็ไม่ดี ตกร่องตกรูไปจะทำไง อีกอย่าง วิวบนสะพานก็ดี๊ดี

โชคร้ายสิ้นดี ไอติมลงสะพานมาเจอกับถนนที่ไม่รู้จักอย่างสิ้นเชิง นี่มันถนนขนานคลองนี่หว่า ไอติมเริ่มใจเสีย เอาเถอะ ยังอีกหน่อยกว่าจะมืด ไปทางนี้เรื่อยๆเห็นจะถึงได้ ว่าแล้วไอติมก็ขี่ไป ผ่านบ้านคนและมัสยิดอาคุอะไรนี่แหละ จำชื่อไม่ได้ ไอติมถามทางกับป้าแถวนั้น ป้าแกทำท่าตกใจว่านี่ไอ้หนุ่มจะเอาจักรยานเน่าๆนี่ขี่ไปถึง มศว เชียวเรอะ ว่าแล้วก็ชี้มือไปข้างหน้า ไอติมโล่งใจ คิดถูกที่ไม่ย้อนกลับ แสดงว่าทางนี้ใกล้กว่าจริงๆ ป้ากำชับว่าสี่แยกแล้วเลี้ยวขวา เจอกี่แยกๆขวาไว้ก่อน ไอติมนึกในใจ มันก็วิ่งเป็นวงกลมสิฟะ ช่างเถอะ ถ้าไม่เชื่อป้าก็ไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว

ไม่นานนักก็มาถึงแยก ไอติมเลี้ยวขวา พร้อมๆกับที่พระอาทิตย์ตกดิน โชคดีที่กินข้าวเย็นมาแล้วและติดน้ำมาด้วย ไอติมค่อยๆจิบน้ำ คอแห้งผากแล้ว แต่มันอีกไกลแค่ไหนกันกว่าจะไปถึง ความมืดเริ่มปกคลุมทุ่งองครักษ์ รูจักทางก็ไม่รู้จักมองก็มองไม่ค่อยเห็น ขี่รถตกหลุมตกร่องก้นระบม ในใจไอติมคิดว่าเดี๋ยวพระจันทร์ขึ้นก็คงสว่างเอง อนิจจา วันนี้แรมเก้าค่ำ กว่าพระจันทร์จะมาก็โน่น เที่ยงคืน..

สุดถนนแล้วแต่ไอติมยังไม่ถึงที่หมาย ข้างหน้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ มองไม่เห็น ขุดคลองมั้ง? เอาไงดีมีทางเบี่ยงซ้ายกับขวา ความรู้สึกไอติมบอกให้ไปทางซ้าย แต่มีรถกระบะบ้าจากไหนไม่รู้มันไปทางขวา ไอติมลังเลอยู่พักหนึ่ง "ถ้าจะตาย ขอตายเพราะโง่เองก็แล้วกัน" ว่าแล้วก็ไปทางซ้าย โว้ย มืดก็มืด ไฟถนนก็ไม่มี เปลี่ยวซะจนโจรไม่น่าจะอยู่ได้เพราะถ้ากว่าจะปล้นเหยื่อได้สักคนโจรคงอดตายไปสามรอบ ก็มันมีแต่ทุ่งกับทุ่ง ลมแล้งโหมกระพือ มันจะพัดอะไรกันนักกันหนา ขี่ต้านลมแบบนี้ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิม เอาเถอะไม่มียุงก็ยังดี

ทางแยกอีกครั้ง โชคดีมีบ้านคน ไอติมไม่รอช้ารีบถามไถ่เส้นทาง อีกครั้งที่ทุกคนฉงนสนเท่ห์ ไอ้บ้านี่มันคิดจะลากสังขารพร้อมจักรยานเน่าๆนี่ไปถึง มศว จริงๆเหรอ ว่าแล้วก็ชี้ทาง ข้ามสะพานนี่ไป ตรงไปเรื่อยๆนะ ไอ้เรื่อยๆนี่มันไกลขนาดไหนกัน ไอติมก็ไม่รู้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาปั่นไป สองข้างทางมีแต่ทุ่งนา บ่อกุ้ง สลับกับเล้าเป็ดเล้าไก่ ไอติมขี่จักรยานกลางถนนแล้ว เพราะข้างทางมันมีเงาต้นไม่มืดมาก แล้วรถก็ไม่มี ทั้งทุ่งมีมนุษย์ชื่อไอติมอยู่คนเดียวนี่แหละ

ดาวกำลังสวยเลย แต่ไอติมไม่มีอารมณ์จะชมดาวแล้ว มันมืดมาก แถมมีฝูงหมาเฝ้านาออกมาไล่เห่ากรรโชก ไอติมอยากร้องไห้แล้ว ขาสองข้างเริ่มประท้วง ก็มันทำงานหนักไม่หยุดมากว่าสองชั่วโมงแล้ว ไอติมจำใจลดความเร็วลง ขืนปล่อยให้ตะคริวกินตรงนี้ อย่าหวังเลยว่าจะมีใครมาช่วย ถึงจะโทรไปบอกได้ไอติมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนขององครักษ์ เส้นทางนั้นเหยียดยาวดูไร้ที่สิ้นสุด คอเริ่มแห้งผาก น้ำหมดไปครึ่งขวดแล้ว ต้องประหยัด

ปวดขา หมาก็ไล่เห่า ทางก็มองไม่เห็น ตกหลุมตกร่อง แล้วนี่ไอติมต้องขี่ไปอีกไกลแค่ไหนกัน กำลังใจที่มีอยู่กำลังจะหมด ทำไงดี... ไอติมไม่อยากสติแตกอยู่กลางทุ่งทั้งๆที่หลงทางแบบนี้

ขอบคุณจริงๆที่รับโทรศัพท์เราตั้งแต่โทรไปครั้งแรก เรามั่นใจว่าเธอต้องรับ เพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเราจะไม่ผิดหวังแน่ๆ "อะไรนะ หลงทาง อ๋อ ไม่เป็นไร เราอยู่เป็นเพื่อน"

ก็แค่นั้นแหละ ใจชื้นขึ้นเป็นกอง ถึงจะวางสายเราไปตอนนั้นเราก็เจอสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติแล้ว นั่นน่ะไกลที่สุดที่เราเคยมาเลยนะ อีกแค่สี่ห้ากิโลก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว แล้วก็ ถึงตรงนั้น ยังไงก็ต้องวางแล้วล่ะ เพราะหลังจากนั้นก็เป็นการเสี่ยงตายบนทางหลวงหมายเลย ๓๐๕๑ องครักษ์-บางน้ำเปรี้ยว ก็ถนนนี้ รถบรรทุกชุม ถ้าขับแฉลบหน่อยเดียว รถบรรทุกงาบไปกินแน่ๆ เรื่องอะไรจะมาตายกลางถนนแบบนี้ ไม่สมศักดิ์ศรี Extern เลย (ติดเชื้อจากผู้ป่วยตายยังดีซะกว่า)

ไอติมบรรจงบังคับจักรยานไต่ไปเรื่อยๆตามไหล่ทาง มีตัวอะไรก็ไม่รู้วิ่งแสกสากลงข้างทาง กลัวไอติมเรอะ ไอติมก็กลัวรถบรรทุกเหมือนกัน ไม่เป็นไรหรอก..

สองทุ่มแล้ว ไอติมมาถึงตลาดองครักษ์ รีบหาน้ำหวานเย็นๆเติมพลัง เพื่อนก็โทรตามให้ไปช่วยดูสไลด์ ไอติมก็ปั่นไปจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล แทบเดินไม่เป็นแล้ว ขาระบม พรุ่งนี้ปวดขาแหงๆเลยจะทำคลอดไหวป่ะเนี่ย...



Create Date : 30 มีนาคม 2551
Last Update : 30 มีนาคม 2551 22:22:50 น. 4 comments
Counter : 555 Pageviews.

 



เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ เพราะเคยนั่งรถไปกับเพื่อน มันชอบขับรถเล่นตอนกลางคืน วันนั้นกะว่าจะไปอีกอำเภอ เป็นอำเภอที่ไม่เคยไป จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น (ว่างั้น) พอรถห่างจากตัวเมือง สองข้างทางก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ ไฟถนนที่นานๆ มีทีก็เริ่มไม่มี แม้กระทั่งรถที่สวนมาก็ไม่มี ความกลัวเริ่มปรากฏช้าๆ เมื่อรู้ว่าทั้งเส้นทางมีรถแล่นอยู่แค่คันเดียว ในที่สุดก็เลยตัดสินใจชวนมันกลับ (ขนาดตัวเองนั่งรถยนต์ยังกลัวขนาดนั้น ของคุณหมอปั่นจักรยาน ยกให้เป็นสุดยอดของความทรหดเลยค่ะ )


โดย: f a i f u n (oHsINa ) วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:19:29:13 น.  

 
จักรยานน่าถีบ

แต่คนถีบน่ากิน เอิ๊กๆๆๆ


โดย: Play Losz วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:23:38:02 น.  

 




หนี่ฯ แวะมาอ่านค่ะไอติม
อ่านไป แอบบ ขำ ขำ ไป ไม่เคืองกันน๊า
ก็ไอติมเล่าไปใช่ปะ หนี่ฯ ก็นึกภาพตาม
จะไม่ขำ ขำ ได้ใง ก็ภาพชวนให้ขำ ขำ นี่หน่า

ว่าแต่ ถึง 2 ทุ่มเลยรึค่ะ




โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:13:01:04 น.  

 
ทรหดอดทนสมกับเป็น Extern จริงๆคับพี่ไอติมมมมม

สุดยอด ซูฮกเลย

ผมปั่นอย่างมากก็ภายในรัศมี 5 กม. แหละครับ

ขี้เกียจปั่นไกลมันเหนื่อย หุๆๆๆ

กลับมาได้โดยปลอดภัยก็ดีละคับ


โดย: prezcot วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:18:52:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ดูเผินเผินเหมือนบ้าปัญญาอ่อน
ดูนานนานแล้วหลอนคล้ายคล้ายผี
ดูดูไปเหมือนว่าไม่มีดี
ดูอีกทีดู"................"

เติมเองตามใจชอบเลยครับ
Friends' blogs
[Add คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.