Hua Hin 2012
ไปหัวหินมา.. เนื่องจากอยู่ ๆ อาเฮียก็บ่น... I need a holiday.. (หลังจากกลับจากปรากมาเมื่อเมษา เฮียเพิ่งไปอังกฤษกับสเปนมา 2 เดือนที่แล้ว และปลายปีก็กำลังจะไปฮ่องกง ไม่ค่อยโลภเลยนิ.. ปีนึงจะเอากี่ Holiday ฟระ ) อิฉันซึ่งวันลาพักร้อนเหลือล้นหลามมาก ก็เลย เอาวะ ขอลาซัก 2 วันละกัน ไป Holiday กับอาเฮียเค้าหน่อย.. แต่ขี้เกียจคิด ขี้เกียจวางแผน ก็เลยเอาง่าย ๆ นี่ละ.. หัวหิน.. และแสดงถึงความขี้เกียจคิดไปยิ่งกว่า.. เราจึงไปพักที่เดิมที่พักกันครั้งที่แล้ว Resort de paskani ห้องก็ได้ห้องเดิมซะด้วย.. ตั้งใจว่าจะไปผ่อนคลายสุด ๆ ไปแบบไม่คิดอะไรเลย อยากไปไหนก็ไป รีวิวนี้เลยออกมาแบบ.. เอิ่ม.. ไม่เห็นมีไรเลยนี่หว่า... เอาเป็นว่านี่เป็นทริปที่ไปถ่ายรูปเล่นกันสองคนละกัน เราเริ่มออกเดินทางกันวันศุกร์ ขับรถช้า ๆ ชิลล์ ๆ เรื่อย ๆ มาแวะหยุดที่ชะอำ เดี๋ยวนี้เค้าทำลานกิจกรรมไว้ติดทะเลเลย มีรูปปั้นกุ้งหอยปูปลาไว้ให้ถ่ายรูปเล่นด้วย ตัวอื่น ๆ กุ้งหอยปูปลาน่ะดูง่าย แค่ไอ้ตัวข้างหลังเฮียเนี่ย ไม่แน่ใจว่าคือตัวอะไร เหมือนผสมกันระหว่างโลมา ฉลาม และหมา ก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูดีนะ ถ่ายบนลานกิจกรรม.. ชะอำไม่เคยเปลี่ยนเลย.. อาเฮียแวะกระจายรายได้ให้แม่ค้าขายเชือกถัก ขับต่อมาอีกหน่อยแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่.. ดุสิตโปโลคลับ.. ดุสิตโปโลคลับ ชะอำ เป็นโรงแรมที่เราสองคนชอบที่สุด ทั้งสถานที่ Layout สระว่ายน้ำ การบริการ ห้องพัก เมื่อ 8 ปีที่แล้วเรามาจัดงานแต่งกันที่นี่ด้วยนะคะ.. ที่ห้องนี้.. วันนี้ ฟ้าใส เมฆสวยเชียว.. นี่คือหน้าห้องที่เราจัดงาน.. ชอบบรรยากาศโดยรวมมาก ๆ เลย.. อิฉันว่าสระว่ายน้ำที่นี่เริ่ดที่สุดในสามโลก.. เงียบดี.. ไม่ค่อยมีเด็กด้วย แฮะ แฮะ.. แวะกินเบา ๆ มื้อเที่ยง.. ที่ศาลาริมสระ ร้อนจิ๊บเป๋งเลยค่ะ.. อิฉันได้พาสต้าคาโบนาร่า และเฮียได้ฮ็อตด็อก.. ริมทะเลที่โปโลคลับ.. ขับรถต่อมาถึงที่พัก Resort de paskani เนื่องจากพักที่เดิม ห้องก็พักห้องเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย (แม้แต่แมกกาซีน มาร์ธา สจ็วต ในห้องก็ยังไม่เปลี่ยนเลย - _ -") ดังนั้น อิฉันไม่ทำรีวิวอ่ะนะคะ ใครสนใจ ขอเชิญ Blog นี้ >> //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mangamania&month=09-2011&date=04&group=12&gblog=2 แต่บล็อกที่แล้วลืมถ่ายรูปสระว่ายน้ำ คราวนี้เลยแก้ตัว.. สระเค้าอยู่ชั้น 2 ค่ะ เราพักกันที่ห้องที่อยู่ในรูปนั่นแหละ พอไม่มีแขกอื่นลงสระ ยังกะได้พักพูลวิลล่าเลย หุ หุ.. อาเฮียสามารถมานั่งผึ่งพุงอาบแดดได้สบาย ๆ.. หรือมานั่งดื่มเบียร์.. แล้วหลับคร่อกไปอย่างงี้.. อิฉันลงสระมันทุกวันเลย กลับมาดำเป็นกะปิตามรอยบิกินี่เลย.. ได้ตรูดทูโทนกลับบ้าน.. ออกไปเดินเล่นริมทะเล ทางไปเขาตะเกียบ.. แวะโซ้ยเบียร์กันที่ร้าน snack bar เล็ก ๆ ของคุณลุงชาวอังกฤษแถว ๆ เขาตะเกียบ.. ร้านนี้.. เมื่อปีที่แล้ว คุณลุงเค้ามีชุด Scone ด้วย คงขายไม่ค่อยดี ปีนี้เลยอด.. คืนแรกเราไป Cicada Market กัน เหมือนของน่าสนใจจะน้อยลง มีข้าวของที่ไม่ใช่งาน art มาขายหลายร้าน เช่น มีร้านขายผ้าปูที่นอน (ซึ่งเราก็ซื้อมา) ทั้งที่จริง ๆ ตลาดน่าจะเน้นงานศิลปะน่ะนะ แต่ก็อย่างว่า งานศิลป์งานฝีมืออาจขายไม่ค่อยได้ คนไทยให้ค่างานฝีมือน้อยเหลือเกิน งานบางชิ้นคนทำทำเป็นวัน ๆ แต่เวลาคนซื้อตีราคาดันตีแค่ค่าอุปกรณ์ ตลาดงาน Handmade ที่มีดีไซน์ของเมืองไทย จึงอยู่ไม่ค่อยได้ งาน Handmade ที่อยู่ได้เหลือแต่พวกงานที่ให้ชาวบ้านตามต่างจังหวัดนอกฤดูทำไร่ทำนาทำ ซึ่งทำแบบแทบไม่คิดค่าแรง เหนื่อยเปล่าจริงๆ.. ถ้ารัฐสนับสนุนให้ความรู้ให้ชาวบ้านพัฒนาเรื่องการดีไซน์งานฝีมือ รวมทั้งพยายามยกระดับราคางานฝีมือขึ้นบ้างก็น่าจะดีกับชาวบ้านนะ.. เอ๊ะ.. อิฉันนอกเรื่องไปไหนแล้วเนี่ย... กลับมาหัวหินก๊อน.. เช้า ๆ เดินดูทะเล.. อากาศดี๊ ดี.. อยากมีบ้านริมทะเลซักหลัง.. หมาทะเลแถว ๆ ที่พัก.. เมื่อปีที่แล้ว ตาม link นี้ >> //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mangamania&month=09-2011&date=04&group=12&gblog=2 เราเจอสามขากับไฮโซ มาปีนี้ทั้งสองตัวหายไปแล้ว ขอให้หายไปเพราะมีคนมารับพวกมันไปอยู่ด้วยเถอะ.. แต่หมาแถวหัวหินดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ เห็นชอบวิ่งตามรถ และไม่เคยหลบรถเลย.. ถ้ามาอยู่แถวบ้านอิฉันคงกลับบ้านเก่าตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่แล้วล่ะ.. มื้อเช้าที่ที่พัก อาหารดีเหมือนเดิม.. แถมตอนนี้มีข้าวต้มให้ตักได้เองเลย วันที่สองนี่ เราไปกิน High tea ที่ โซฟิเทลค่ะ รู้สึกว่าน่าจะเริ่มประมาณบ่ายสามถึงหกโมงเย็น หัวละ 650 บาท มีเครื่องดื่ม แซนวิช ปอเปี๊ยะสด พาย ช็อกโกแลต ขนมเค้ก มาการง ไอติม มูส ให้กินแบบบุฟเฟ่ห์ละลานตามาก.. ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมานะคะ แต่ราคา 650 บาทนี่อิฉันว่าคุ้มดี.. เสียดายที่ตอนนี้ใช้บัตร Accor ลดไม่ได้แล้ว.. พวกมูส แยม เค้าอร่อยมาก ๆ ค่ะ.. ชอบแยมราสเบอรี่ที่สุดเลย.. อาเฮียจ้วงไม่หยุด.. ที่นั่ง.. ก่อนกลับ เดินเล่นในโซฟิเทล มีหมากรุกยักษ์ให้เล่นด้วย สวนเค้าเขียวครึ้มดีจัง.. โซฟิเทล หรือโรงแรมรถไฟ(เดิม) เค้ามีชื่อเสียงเรื่องต้นไม้ดัดมาแต่ไหนแต่ไร สมัยก่อนนู๊นนนนน.. เรามักจะมาดูต้นไม้ดัดเป็นรูปช้างตัวใหญ่ ๆ ที่นี่.. แต่ตอนนี้เค้าพัฒนาไปอีกขั้น.. ตะโกดัดรูปไส้กรอกผ่าหัว 3 แฉก.. หรือหอยทาก.. วันที่สาม เราขับรถอ้อมไปดูอีกฝั่งของเขาตะเกียบ ทางที่จะไปเขาเต่าหรือเกาะเต่าเนี่ยแหละ ชายหาดมันดูดิบ ๆ เลอะ ๆ นิ.. มาดวลกันคนละแชะ.. วันนี้ เราว่าจะตระเวนกิน.. เริ่มด้วยเครื่องดื่มรอบเช้าหลังอาหาร เรามาแวะกันที่สถานีรถไฟ.. สถานีรถไฟหัวหินมีเสน่ห์เสมอ มีคนมาถ่ายรูปอยู่เต็มไปหมด.. มีมุมน่ารัก ๆ อยู่ทุกที่ บริเวณสถานีเลย มีร้านกาแฟน่านั่งด้วย.. ในร้านมีมุมขายของที่ระลึก มีโปสการ์ด ให้เขียนและส่งได้เลยด้วย ร้านตกแต่งแบบย้อนยุค น่ารักดี.. เราสั่งกีวีปั่นกับสตรอเบอรี่ปั่นมากินกัน รสชาติใช้ได้ค่ะ.. เราไปต่อมื้อกลางวันกันที่ซอยหัวหิน 51 ได้ยินว่าแถวนั้นของกินเยอะดี.. มาหยุดที่ บ้านถั่วเย็น.. คนเยอะมาก.. ร้านตกแต่งน่ารัก อาหารไม่แพง มีเมนูน่าสนใจหลายอย่าง เป็นแนวถั่ว ๆ อาหารเพื่อสุขภาพ และไม่สุขภาพ มีทั้งอาหารและของหวาน.. อาเฮียสั่งสตรอเบอรี่สไปรส์ หรืออะไรซักอย่างชื่อประมาณนี้.. รสชาติเหมือนสตรอเบอรี่แช่แข็งตกลงไปในสไปรส์ - -" ของอิฉันเป็นมะม่วง lassi อิฉันว่ารสชาติมันต่างจาก lassi ตามร้านอาหารอินเดียอยู่หน่อย ๆ อาหารมาแล้ว.. ข้าวชุดมัสมั่นไก่ของเฮีย อันนี้อร่อยดีค่ะ.. ของอิฉันเป็นข้าวชุดปลาทูต้มซีอิ๊วออกหวาน ๆ ต้มจนก้างอ่อนกินได้เลย อร่อยถูกปากดีค่ะ.. แต่เราไม่ได้กินขนมที่นี่.. เราเดินต่อมาเรื่อย ๆ .. เจอหมาหัวหินใส่สร้อยมุก - -" มาเรื่อยๆ เพื่อจะมากินเค้กที่นี่.. บ้านใกล้วัง เค้าดังเรื่องเค้ก.. คนเยอะมาก ที่เต็มเกือบทุกที่ แต่พวกเราโชคดี ได้ที่นั่งริมทะเลเลย.. บรรยากาศเหมือนนั่งกินขนมในสวนบ้านคุณป้า.. แต่เป็นคุณป้าที่ไม่ยอมยกพัดลมมาให้ด้วย ร้อน.... สั่งเค้กโรลไอติม กับชีสเค้กมะนาว.. ตรงทางออกได้ถ่ายรูปคู่กับเชฟด้วย.. ยังกินไม่สะใจ.. หลังจากกลับมานอนพัก ว่ายน้ำทะลายพุงแล้ว มื้อดึก เราก็ออกไปหาอะไรกินกันต่อ.. เจอร้านนี้.. ทางเข้าเขาตะเกียบ จำชื่อไม่ได้ฮ่ะ ชื่อไทย ๆ น่าจะเป็น Wilaiwan หรืออะไรประมาณนั้น.. ร้านน่ารักมากกกก... หวานแหวว มีเค้กละลานตามาก เสียดายพวกเราโคตรจะอิ่ม เลยทานได้แค่มื้อเย็นเท่านั้น.. สามารถรับได้แค่ข้าวคนละจานเท่านั้น.. ฝากไว้ก่อนเหอะ คราวหน้าจะมาแก้แค้นใหม่.. วันรุ่งขึ้น พวกเราก็กลับบ้าน สถานที่แวะสุดท้ายจึงเป็นที่เที่ยวภาคบังคับเมื่อคุณไปหัวหิน.. เพลินวาน.. มุมมหาชน.. อ สงกะสัย ไอ้เนี่ย มันตัวอะไรวะคะ หน้าตายังกะคอนดอม.. จบทริปหัวหินกันแบบแช่มชื่น สบาย ๆ ไม่รีบร้อน อยากแวะไหนก็แวะ อยากกินไรก็กิน.. ปีนึงเที่ยวชิลล์ ๆ อย่างงี้ซักครั้งสองครั้งก็ผ่อนคลายดีนะคะ..
Create Date : 08 ธันวาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 8 ธันวาคม 2555 19:11:21 น. |
Counter : 2617 Pageviews. |
|
|
|