>>One Day Trip : พาแม่เที่ยวราชบุรีในหนึ่งวัน <<
พาแม่กะคุณพี่สาวไปเที่ยวราชบุรีมาค่ะ..
ไปเมื่อไหร่น่ะรึ??
เมื่อปีที่แล้วก้ะ
ด้วยความขี้เกียจตัวเป็นขน ไปเที่ยวมาหลายต่อหลายทริป ไม่ได้รีวิวเลยซักกะอัน จนเมื่อสงกรานต์เพิ่งกลับมาจากอังกฤษ และมีทริปอังกฤษต้องรีวิวชุดใหญ่ ด้วยความที่จิตใจคงอยากหลีกหนีความจริง จึงรู้สึกอยากที่จะไปรื้อทริปเก่ามารีวิวก่อน
มามะ ไปเที่ยวราชรีกัน..
คราวนี้เราไปกันแค่ 3 สาว ซึ่งเป็นช่วงไพรม์ทาม อาเฮียกลับไปเยี่ยมญาติ อิฉันจึงพาสาว ๆ ที่บ้านไปเที่ยวกันตามใจได้
ซึ่งราชบุรีนี่ที่เที่ยวสุดฮิตจะเป็นอะไรไปได้นอกจากสวนผึ้ง ดังนั้น เมื่อเรามีเวลาแค่วันเดียว เพราะคุณนายแม่ขี้เกียจค้างคืน เราจึงอัดตารางค่อนข้างแน่นเอี๊ยดเลยทีเดียว แต่ราชบุรีเป็นที่เที่ยวที่ค่อนข้างสะดวก เพราะทุกสิ่งอันมันอยู่บนถนนสายเดียวเลย ขับวันเดียวสามารถเก็บที่เที่ยวได้มากมาย
ตารางของเราวันนี้ เป็นดังนี้ ช่วงเช้า - ตัวเมืองราชบุรี กินข้าวเช้าที่อาตี๋โกปี๊ / พิพิธภัณฑ์ / เดินดู Street Art สวย ๆ / ต่อด้วยโรงงานเซรามิกซ์
ก่อนเที่ยงขับรถต่อออกไปสวนผึ้ง
ช่วงบ่าย - ร้านกาแฟโมอาย / กินข้าวเที่ยงร้านม่อนไข่ / อัลปาก้าฟาร์ม / แวะบ้านหอมเทียนก่อนกลับบ้าน
และแวะมื้อเย็นที่ร้านแดงอาหารทะเลด้วยย
มา ๆ ตัดฉากฉับมาที่ตัวเมืองราชรีเลยละกัลลล ขับรถจากกรุงเทพประมาณสองชั่วโมงก่า ๆ เราออกกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ดังนั้น รถยังไม่ค่อยติด
เข้าเมืองราชบุรีมาได้ เราก็มาที่ร้านอาตี๋โกปี๊ จอดรถข้างถนนได้เลย ร้านนี้ตกแต่งแบบโบราณ อาหารมีให้เลือกเพียบ
มื้อเช้ากินข้าวต้มปลาค่ะ แต่มีแบบแห้งด้วย เค้าเรียกข้าวแห้งปลา มันก็คือข้าวต้มปลาแยกน้ำนี่เอง อร่อยดี
ปอเปี๊ยะทอด และไข่กระทะ
กินกันเบา ๆ แค่นี้ก่อนมื้อเช้า
ร้านนี้มีมุมขายของฝาก อย่าพลาดนะคะ น่ารักเก๋ไก๋และอร่อยดี
เค้กโอ่งค่ะ ที่เป็นเค้กนมสดใช้ช้อนตักกินและเก็บโอ่งเป็นที่ระลึกได้ แต่เค้ามีแบบเค้กผลไม้ด้วย อันนี้กินได้ทั้งโอ่งเลย
อิ่มแล้วออกมาเดินย่อยอาหาร
ตัวเมืองช่วงนั้นมีงานอะไรก็ไม่รู้ ติดธงซะรอบเมือง
แค่เดินข้ามฝั่งจากอาตี๋โกปี๊มานิดนึงก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ละ ตัวอาคารเป็นสีชมพูปิ๊งน่ารัก
สนามหญ้าด้านหน้าจะมีหมาจุดตัวใหญ่ ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลย
ถ่ายรูปกะน้องหมากันจนหนำใจและร้อนโฮก เราก็เดินไปหลบแดดกันที่พิพิธภัณฑ์
ค่าเข้าไม่แน่ใจว่าฟรีรึ 20 บาทอะไรประมาณนี้ แต่ข้างในมันดีซะจนต้องมาหย่อนตังค์ให้อีก 200 ตอนขาออกมา ทำได้สะอาดและน่าสนใจมากเลยค่ะ ทีมคนดูแลก็น่ารักใส่ใจดี ห้องน้ำข้างในสะอาดเอี่ยม
ข้างในแบ่งเป็นห้อง ๆ หลายห้อง แสดงข้าวของเก่าที่ขุดได้ ตั้งแต่สมัยโบราณ
โบราณสถานบางแห่งตอนนี้กลายเป็นไปอยู่ในโรงงานกระดาษ
แต่งละห้องเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงยาวที่ขัดถูซะเรี่ยม
มีแผนที่ที่แสดงถึงเมืองในสมัยก่อน
ห้องท้ายๆ จะแสดงถึงความแตกต่างหลากเชื้อชาติที่มาอยู่ร่วมกันในราชบุรี ห้องนี้น่าสนใจมาก เพราะจะมีรายละเอียดมากมายที่แสดงถึงความเป็นชนชาตินั้น ๆ ทั้งเพลง การละเล่น ประเพณีต่างๆ มีให้กดฟังเพลงเห่ของแต่ละชนชาติด้วย
อย่างอันนี้น่าสนใจนะคะ เค้าพูดถึงประเพณีขันอาสา ที่ก่อนแต่งงานฝ่ายชายต้องอาสาทำโน่นนี่นั่นทำข้าวของเครื่องใช้กำนัลฝ่ายหญิง ในห้องจะมีบอร์ดเล่าถึงประเพณีหลาย ๆ อย่างเลย
ตรงทางออกมีโมเดลหมาจุดและความหมายของมัน
เดินต่อมาอีกเล็กน้อยทางแม่น้ำ
จะเป็นดง Street Art
และเมื่อมี Art ก็ต้องมีแมว
ตรงนี้จะเป็นร้านกาแฟเก๋ ๆ แต่เราอิ่มมาก จึงได้แค่ชะเง้อเมียงมอง
ขับรถต่อมาที่โรงงานเซรามิกซ์เถ้าฮงไถ่ มาราชบุรีแล้วต้องไปดูโอ่งสินะ แต่โรงงานโอ่งสมัยนี้ไม่ได้มีแต่โอ่งมังกรอีกแล้ว
เข้าฟรี มีกองโอ่งอ่างกระถางอยู่สูงท่วมหัวตามรายทางในโรงงาน สวยงามมากฮ่ะ สามารถเลือกซื้อหากันได้ และมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบเลย
เกือบเที่ยงแล้ว เราชักหิว จึงคิดว่าเริ่มออกนอกเมืองกันได้แล้ว จึงมุ่งหน้าไปทางสวนผึ้ง ฟ้าใส ๆ ถนนโล่ง ๆ มีต้นไม้เขียว ๆ นี่มันชื่นใจจริง
ขับมาเรื่อย ๆ มาเจอโมอายคาเฟ่
ร้านตกแต่งน่ารักฮ่ะ มีมุมถ่ายรูป เหมาะจะไปเช็คอิน แต่เค้กกะกาแฟงั้น ๆ
Next stop ครัวม่อนไข่ ขับรถออกไปค่อนข้างไกลเลยทีเดียว พวกเราหิวจนจะกินวัวได้ทั้งตัว และแล้วก็ถึง
ทีแรกคิดว่าเป็นร้านเล็ก ๆ แต่พอไปถึงตกกะใจ ใหญ่โตแบบเหมือนจะเอาทัวร์จีนมาลง
เค้าเอาขนมมาให้ลองชิม (ฟรี)
แกงส้มชะอมไข่ และยำผักอะไรซักอย่างที่เค้าว่าห้ามพลาด
ปลาทอด
ไข่เจียวแบบฟูฟ่อง
อร่อยฮ่ะ หลายคนบอกรสชาติมันไม่อร่อยเหมือนแต่ก่อนที่จะเริ่มดัง แต่อิฉันว่าของเค้าก็ยังอร่อยอยู่นะ
ชอบบบบ ไว้จะมาอีก..
เมื่ออิ่มแล้ว เราก็พร้อมลุยที่อัลปาก้าฮิลล์ละ อิฉันมาราชรีเพื่อที่นี่เลยนะนี่
จ่ายค่าตั๋วกันเรียบร้อย พอเข้ามาเค้าก็จะต้อนเราเข้าไปนั่งฟังบรรยายสั้น ๆ จากทีวี
ในนั้น จะแบ่งเป็นโซน ๆ สัตว์เยอะแยะและ friendly ทั้งสัตว์ทั้ง staff
มีหญ้าให้เราหยิบป้อนได้เลย
เมื่อหมดจากโซนแกะ ซึ่งเป็นโซนแรก ฝนก็เริ่มตก ถึงแม้เค้าจะมีร่มให้ก็เถอะ พวกเราก็เละเทะมอมแมมกันพอดู
เดินถัดไปเจอเฮ็ดวิก นกฮูกแฮรี่พ็อตเตอร์ ลูบหัวเล่นได้ด้วยย
เนื่องจาก ฝนเริ่มตกหนักขึ้นทุกที เราจึงข้ามไปหลายซุ้มและมุ่งหน้าไปหาอัลปาก้า
น่ารักมากกกกก แต่ละตัวหน้าตามีเอกลักษณ์มากมาย นิสัยก็ต่าง ๆ กัน ที่นี่เราจะเอาคูปองอาหารที่เค้าให้ ไปแลกอาหารมาให้อัลปาก้า
อาหารเป็นงี้
ถัดไปเป็นโซนกระต่าย ที่นี่กระต่ายเยอะ แล้วก็นิสัยกระต่ายอ่ะน่ะ มันก็ชอบขุดรูหนีไปที่อื่น ดังนั้น ทั่วทั้งอัลปาก้าฮิลล์ จะเจอกระต่ายแฝงตัวอยู่มันทุกโซนเลย จะโซนหนู โซนกวาง โซนนก ก็จะมีกระต่ายมาแอบขออาหารกินด้วย
ถ้าฝนไม่ตก เราคงได้อุ้มกระต่ายมาฟัดแน่ๆ
บ่ายแก่ ๆ และเริ่มหมดแรง เราคงต้องเริ่มเดินทางกลับละ
ก่อนถึงทางออกจะมี ให้หยอดเหรียญว่าพอใจกะอัลปาก้าฮิลล์ขนาดไหน
เอาคะแนนเต็มไปเลยจ้ะ
มุงหน้ากลับบ้าน..
ระหว่างทางเราแวะบ้านหอมเทียน เค้าขายของที่ระลึกและเทียนนนนน
ได้ของกุ๊กกิ๊กคิขุมานิดหน่อย ระหว่างทางเราก็แวะกินข้าวเย็นที่ร้านแดงตรงสมุทรสงคราม อร่อยยยยทุกเมนู
แล้วก็กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ทริปนี้เราสามารถยัดโปรแกรมให้เที่ยวได้เยอะเชียวในหนึ่งวัน เหนื่อยกำลังดี อิ่มกำลังดี คุณนายแม่แฮปปี้มาก
อันนี้เป็นของฝากที่เราได้มาวันนี้
Create Date : 11 มิถุนายน 2560 |
|
1 comments |
Last Update : 11 มิถุนายน 2560 22:20:39 น. |
Counter : 4542 Pageviews. |
|
|
|