No. 2 : เดือนธันวาคมที่อินสบรุค - ออสเตรีย ( Innsbruck – Austria )

วันนี้หลักๆตั้งใจจะไปเที่ยว :
- Crystral World : เป็นร้านคริสตัลและโชว์คริสตัลของสวารอฟสกี้ (Swarovsik) ที่อยู่นอกเมืองออกไป
- Golden Roof Museum : หลังคาทองคำ ไฮล์ไลท์ ของอินสบรุค
- Tiroler Volkskunstmuseum และ Court Church of Innsbruck (Hofkirche) : เป็นพิพิธภัณฑ์ของคนทีทีโรล (Tirol) ด้านในมีของมากมายแปลกตา


ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อคืน ว่าเป็นไงเป็นกัน จะให้นอนป่วยที่นี่ไม่ได้เจอะเจออะไรได้ยังไง ขับรถมาตั้งไกล วันนี้ใส่ 2 ชั้น ป้องกันเดี๋ยงกลางอากาศ อาหารเช้าก็ดื่มน้ำส้มไป 4 แถ้ว(ทำไปได้ไงเนี่ย) ไม่ลืมหยิบทิชชูออกมาด้วย (น้ำมูกไหล) ถึงกายไม่พร้อมแต่ใจพร้อมก็ลุยโลด

อากาศดีเราเลยเดินเข้าเมืองกัน จะไปซื้อ Innsbruck Card แล้วไปเที่ยว Crystal World ก่อน น้ำเป็นน้ำแข็ง สิ่งก่อสร้างแปลกตา เหมือนเป็นของใหม่สำหรับ Innsbruck เป็นสะพานสำหรับ Cable Railway เพื่อขึ้นไปบนเขา









ใจกลางเมืองอินสบรุคในตอนเช้าเงียบมาก แสงแดดยังส่องมาไม่ถึง อากาศหนาวเย็นสุดๆไปเลย แหงนหน้ามองหอนาฬิกา ฟ้าใสนะวันนี้








Golden Roof - หลังคาทองคำ (แต่จริงๆไม่ใช่ทองคำหรอก) เอกลักษณ์ของอินสบรุค แสงแดดตกมาพอดี สวย









มีตุ๊กตาเต็มไปหมดเมืองไปหมด เล็กบ้างใหญ่บ้าง มีแนวน่ารัก บางตัวออกน่ากลัวหลอนๆเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเค้าติดทุกครั้งที่มีงาน หรือเฉพาะตอนสิ้นปี และมันมีความหมายว่าอย่างไร ไม่รู้เลยคะ









ไป Crystal World ถ้ามี Innsbruck Card ฟรี
แต่....ถ้าไม่มี ก็ ตั๋วไปกลับ 8,50 ยูโร (ราคา ณ.วันที่ไป) นอกจากจะเสียตัวค่ารถแล้วยังต้องซื้อตั๋วหน้า Crystal World อีก...เราไม่แน่ใจราคา 8.50 ยูโรรวมค่าเข้าด้วยหรือเปล่า แต่ถ้ามี Innsbruck Card แลกบัตรค่าเข้าได้ฟรีไม่มีเสียตังค์เพิ่ม คุ้มกว่าคะ (มารอขึ้นรถตรงหมายเลขหนึ่ง)









ถ้าขับรถไปเที่ยว Innsbruck เอง เอารถไป Crystal World เองดีกว่าคะ ไม่ต้องรอรถ Bus คนเยอะ แย่งกันขึ้น แบบบางทีอยากกลับก่อนก็ไม่ได้ ต้องรอ Bus อย่างเดียวเลย

แล้วก็เป็นตารางเวลา ซึ่งแต่ละช่วงเวลาห่างกันเป็นชั่วโมง ถ้าพลาดคันนี้ รอไปอีกเป็นชั่วโมง (รู้สึกแต่ละคันห่างกันประมาณ 2 ชั่วโมง) ไม่มีรถเมล์หรือตุ๊กๆ แท็กซี่ไให้เรียกด้วย แบบมันอยู่ห่างจาก Innsbruck ออกไปพอสมควร









อยู่ในภาวะ น้ำแข็งท่วมปาก ถ้าหน้าร้อนเป็นแค่น้ำพ่นออกมา แต่พอหน้าหนาวพ่นออกมาไม่เท่าไหร่เป็นน้ำแข็งแล้ว แปลกตาดี









เราคาดหวังว่าที่นี่สวยหรูกว่านี้ พอเห็นรู้สึกผิดหวังนิดๆ อาจจะเป็นเพราะเค้าต้องรองรับนักท่องเที่ยวและนักช๊อปจำนวนมากก็เป็นได้ ด้านในก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมาย เหมือนจัดนิทัศการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ที่น่าสนใจและคนถ่ายรูปกันมากก็ต้องเจ้าแมงกระพรุนยังคริสตัลตัวนี้ เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ









เลยแมงกระพรุนยังษ์ก็มาโผล่ที่บริเวณร้านขายของ ของเค้าเยอะกว่าร้านตามเมืองต่างๆ มีหลากหลายราคาให้เลือก

เราดูแหวนไว้วงนึง เจอคนจีนมาเบียดๆ หมดอารมณ์ซื้อเลย คิดว่า...ก็ดี ประหยัดตังค์ ไว้ไปเดินหาแบบเก๋ๆตรงตรอกข้าวสารดีกว่า ไม่โหลด้วย อยากได้เอาไปเลยเจ๊ ไม่ต้องแย่งกัน เค้าไม่ได้ให้ฟรี ไม่รู้ว่าราคาต่างกันในร้านมากหรือเปล่า แต่เราสมัครใจซื้อในร้านดีกว่าซื้อที่นี่ ของใช้ฟุ่มเฟือยมันต้องบิ้วอารมณ์ในการซื้อกันหน่อย....ไม่ได้รักแนวนี้เป็นทุนอยู่แล้ว ความอดทนมีจำกัด บายละคะ

ของที่อยากได้ที่สุดในนี้คือม่านคริสตัล อันนี้ไม่ต้องบิ้วอารมณ์ในการซื้อ เพราะเกินวาสนาจะหามาเป็นของส่วนตัว 555 ด้านหลังเป็น Cafe (เอาไว้นั่งมองให้เกิดกิเลส ยังมีเวลากลับตัวมาซื้อทัน แหมเข้าใจคิด หิหิ)









ใช้เวลาด้านในไม่นาน ทัวร์ลงเยอะ ร้านแน่น คนเยอะ ออกมาสูดอากาศหนาวๆด้านนอกรอรถเมล์เที่ยวต่อไปเพื่อกลับเข้าเมือง









วันนี้อากาศไม่ดี หนาว แต่หน้าร้อนคงไม่เลวเลย









เบื่องหลังเป็นภูเขาสูง ท๊อปปิ้งด้วยหิมะขาวๆ พวกรอรถ Bus นานมาก(ในความรู้สึก) รอตั้งแต่ยังไม่มีคนรอ แต่พอรถมาฝรั่งแซงคิวหม๊ด ใครว่าฝรั่งมีระเบียบวินัยกันทุกคนขอเถียงคะ ขึ้นรถเจอน้ำหอมคนนั่งข้างๆ ปวดหัวตึบ ไม่รู้ว่าฉีดน้ำหอม หรืออาบน้ำหมดกัน









กลับเข้าเมืองไปดู Museum ที่ Golden Roof รูปนี้ถ่ายจากหน้าต่างใน Museum เห็นถนนที่ขายของที่ระลึก ใน Museum นี้ไม่มีอะไรมากเดินแป๊บเดียวก็ออกมา ใช้สิทธิ Innsbruck Card เข้าฟรีคะ









ร้านค้ามากมายเปิดเรียงๆกัน มีอาหารเร่งด่วนให้เลือกซื้อ พวกเราสั่งเจ้านี้มาก เอาแบบแค่รองท้องพอ









ประเทศ Austria กับ Australia สองประเทศที่จำสลับกันบ่อยๆ จำได้ว่าตอนเด็กๆทำข้อสอบผิดไป 2 ข้อ เรื่องเมืองหลวงของสองประเทศนี้ ที่ออสเตรียไม่มีจิงโจ้นะจ๊ะ ^^









หม้อต้มยาแม่มดที่เคยเห็นตามหนังสือการ์ตูน เค้าใช้งานกันจริงๆ









ซื้อพรั้นซ์รสส้มไม่ใส่เหล้าแก้วนึง ซื้อพร้อมแก้ว แก้วเป็นลายสถานที่สำคัญของอินสบรุค เก็บกลับบ้านเป็นของที่ระลึก รสอร่อยแต่กลิ่นนี่สิ เค้าใส่ดอกอะไรไปไม่รู้คล้ายๆกลิ่นพะโล้ เหมือนกินน้ำส้มกลิ่นพะโล้อะไรทำนองนี้









ไปดู Tiroler Volkskunst Museum ( Museum of Tirolean folk art ) ที่ Museum นี้เราชอบหลายๆอย่าง บางอย่างไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ว่าใช้ยังไง น่าสนใจมากๆ

ถาดเขียวๆเป็นหลุมๆ เหมือนขนมครก เห็นขายที่เต๊นข้างนอกเหมือนกัน แต่เค้าใช้วัสดุอื่นทำแล้ว มันคือกะทะหลุม เค้าไว้ใส่หอยอบเนยเครื่องเทศ หอยที่มีเปลือกกลมๆโตๆ หอยพวกนี้อยู่ตามไร่องุ่น (พี่คนนึงบอกมาไม่งั้นก็ยังไม่รู้ว่าอะไรจนถึงทุกวันนี้ )

ชุดช้อนส้อม เค้าก็มีกันมานานแล้ว ตอนแรกคิดว่ามีแต่ที่ญี่ปุ่นซะอีก ภูมิประเทศของที่นี่เป็นเขาสูง คน Tirol จะเดินเขาไปล่าสัตว์กันบ่อย อาจเป็นที่มาของการทำกล่องใส่อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารเพื่อความสะดวกในการพกพาก็ได้









บ้านของคนสมัยก่อน มีกำแพง 2 ชั้น (หรือมากกว่านั้นหว่า) มันคงหนาวมากๆ หน้าต่างก็หลายชั้น ขนาดวันนี้มีปัญหาโลกร้อนแล้วนะมันยังหนาวจับจิต ถ้าเป็นสมัยก่อนคง บรื๋อ.. การเดินทางบนหิมะ จะมีอะไรดีไปกว่า "รถเลื่อน" ในพิพิธภัณฑ์นี้มีเลื่อนหลายอัน ตกแต่งงดงาม เห็นงานฝีมือ เห็นถึงความระเอียดของคนยุคก่อน









หนึ่งอย่างที่ตั้งใจไว้ว่าถ้าได้มา Innsbruck จะต้องมาเห็นสิ่งนี้ คือโบสถ์ที่อยู่ในบริเวณ Tiroler Volkskunst Museum ต้องสังเกตุดีๆ ไม่งั้นจะเดินผ่านเฉยเลย Hofkirche ( Court church ) มีรูปหล่อคนดัง(สมัยก่อน) อีกฝั่งก็มีเรียบแถวอยู่ มีรูปหล่ออันนึง ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีความหมายยังไง เห็นมีแต่คนลูบตรงเป้าเค้าหละ









สังเกตุตรงวงกลมสีแดง โดนลูบซะจน...










ออกมาจาก Tiroler Volkskunst Museum เดินทะลุรูปซ้ายมือ จะไปโผล่ถนนคนเดินข้าง Golden Roof ถนนที่มีร้านขายของมากมาย









ตรงนี้มีร้านขายเครื่องดื่มมีดีกรี เลือกได้หลายรส มีขวดสวยให้เลือกตามใจชอบ อยู่ตรงตรอกที่ขายของที่ระลึก..แวะดูได้คะ เราซื้อมาขวดนึง เหล้าช่วยย่อย ใช้ได้เลยคะ รูปซ้ายล่าง : อันนี้เหล้าช่วยย่อยประจำถิ่น จะซื้อแล้วเชียว ยังดีขอชิมก่อน โอ..แม่เจ้า แรงมากๆ ทิ้งห่างยาดองเหล้าตราเสือ 11 ตัวอยู่หลายโยด









ต้นคริสมัสที่ประดับไปด้วยไฟ มองไกลๆเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า









ระยิบระยับ " Marry Christmas "









ตอนกลางคืนมีวงดนตรีเล่นที่ระเบียงของ Golden Roof ด้วย เสียงก้องไปหมด คนหยุดเดินยืนฟังกัน แต่ที่เก๋าไปกว่านั้น เค้าแยกกันเล่น มีอีกกลุ่มอยู่อีกยอดตึกนึง พอกลุ่ม Golden Roof เล่นจบท่อนนึง กลุ่มอื่นบนยอดตึกอื่นๆ ก็จะเล่นแล้วส่งต่อๆ กันไปมา มันเลยเหมือนฟังจากเครื่องเสียงชั้นดีเลยหละ มันคุ้มค่ามากๆ ที่อุตส่าห์ลากสังขารเสื่อมสภาพของตัวเองออกจากเตียงจริงๆ









มุมมหาชน









เมนูอาหารเย็นชื่อว่า Tyrolean Speciality มันฝรั่งผัดหรืออบกับ Speck ( Speck มันเป็นแฮมดิบที่ทำมาจากบ่าของหมู ) ที่นี่ Speck มีชื่อมากคะ ควรลองอย่างยิ่ง บริเวณ Golden Roof มีร้านขาย Speak โดยเฉพาะเลย อยู่แถวๆร้านขายของที่ระลึกนะคะ ร้านอาหารที่ทานนี้ก็ติดกับ Golden Roof เลยคะ





ไฟในช่วงคริสมัสตกแต่งสวยงาม ก่อนคริสมัสจะครึกครัก เป็นช่วงเทศกาล คนที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว หรือแยกไปอยู่ต่างหากจะกลับมาเจอกันมาทานข้าวร่วมกัน และบางบริษัทจะหยุดยาว ผู้คนมีความสุข

ก่อนคริสมัสร้านค้าจะขายดี คนจะออกมาซื้อของเพื่อเป็นของขวัญ วันที่ 25 และทานข้าวที่บ้าน ร้านอาหารส่วนมากจะปิด คนจะไปที่โบสถ์กัน วันที่ 26 ตอนกลางวันก็จะเงียบเหงา กลางคืนก็เงียบเข้าไปใหญ่ คืนที่ 26 ผู้คนจะทานข้าวนอกบ้าน , บ้านเพื่อนหรือญาติก็ว่ากันไป มีการจองโต๊ะที่ร้านอาหาร เพราะฉะนั้น ร้านอาหารจะเปิดแต่อาจจะไม่มีโต๊ะถ้าไม่ได้จอง ใครพักที่โรงแรมใหญ่ๆก็คงไม่มีปัญหาอะไร ในความรู้สึกเรา ช่วงคริสมัสไม่ใช่ช่วงที่น่าท่องเที่ยวเลย

Create Date : 01 มีนาคม 2553		0 comments
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 21:14:47 น.
Counter : 5232 Pageviews.
Share Tweet