( 1 ) Sicily : เยือนถิ่นมาเฟีย เกาะซิซิลี เมือง Catania - ประเทศอิตาลี ( Italy )

อยากไปมานานแล้ว พอดีมีวันหยุดติดต่อกันบวกกับเจอโรงแรมลดราคาอยู่ 4 คืน จ่ายไป 150 ยูโร ตก 37.50 ยูโรต่อคืน เกาะซิซิลีเป็นเกาะที่ใหญ่ มีชื่อเสียงเรื่องมาเฟีย(คนที่ไม่ควรเอ่ยนาม) มีอาหารอร่อย ทะเลสวย วัฒนธรรมเก่าแก่ ถ้ามาช่วงหน้าร้อนคนตรึม

เดินทางครั้งแรกกับโลคอสแอร์ไลน์ ค่าเสียหายจากมิลานไปซิซิลี ( Milan - Sicily ) 142 ยูโรต่อคน/ไปกลับ เช็คอินไม่มีปัญหา เครื่องใหม่สะอาด ไม่มีอาหารเสริฟ พนักงานยิ้มแย้ม แต่ตอนขากลับเจอเครื่องดีเลย์ไปประมาณ 40 นาที และเราก็ไม่รู้มาก่อนว่า ถ้าเวลาเดินทางแล้วไม่มีสัมภาระโหลใต้เครื่องจะประหยัดอีกตั้ง 15 ยูโรต่อกระเป๋า 1 ใบ..(เซ็งเลย) ไม่มีหมายเลขที่นั่ง ใครขึ้นก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน เล่นเก้าอี้ดนตรีกันสนุกสนาน พอบินไปใกล้ถึงเกาะ กัปตันบอกว่าจะเห็นภูเขาไฟเอ็ดน่า เราเตรียมกล้องเลย ได้เห็นภูเขาไฟเอ็ดน่าจากบนฟ้า ผ่านภูเขาไฟเอ็ดน่าไม่นานก็ถึงสนามบินคะ










Sicily อันกว้างใหญ่ มีเมื่องสำคัญหลายเมือง ภายใน 4 วัน คงไม่สามารถเที่ยวรอบเกาะได้ พวกเราลงที่ฝั่ง Catania เป็นเมืองใหญ่ของฝั่งนี้ และมีเมืองใหญ่ๆอีกเมืองที่อยากคือ Palermo แต่คงต้องยกยอดไปรอบหน้า











สนามบินเมืองคาตาเนีย หรือออกเสียในภาษาอิตาเลี่ยนว่า คาทานญ่า (Catania) สวยและทันสมัย (สำหรับเราแล้ว สนามบินเป็นตัวบงบอกถึงจำนวนนักท่องเที่ยวทางหนึ่งเลยแหละ) เดินออกจากสนามบิน หาออฟฟิตรับรถเช่าที่จองออนไลน์ เหลือบไปเห็นรถโดยสารเพื่อไป Taormina จอดอยู่ ออกทุกชั่วโมง ค่าบริการเขียนไว้ 5 ยูโร (ณ.วันที่ไป) เมืองนี้ถ้ามาฝั่งคาทานญ่าก็ไม่ควรพลาด ไปเดินดูเมืองนี้วันต่อๆไปคะ

พอติดต่อที่ออฟฟิตเรียบร้อย ถือกุญแจเดินไปที่รถ รถจอดเรียงๆกันเหมือนที่จอดรถอะไรอย่างนั้น ด้านหลังเห็นภูเขาไฟเอ็ดน่าเลย รถที่เราได้เป็น Fiat Panda ใหม่เอี่ยม ตลอด 5 วันดมแต่กลิ่นใหม่ เช่ารถ 5 วันในราคา 280 ยูโร ขับได้ 500 กิโลเมตร เกินมาคิดตังค์เพิ่มกิโลเมตรละ 0.22 ยูโร

ได้รถแล้วติดเครื่องนำทาง(GPS)แล้ว ก็ไปตามที่เครื่องบอก แล้วนะ..ก็พาเราเข้าไปในเมือง โฮ้..โรคประสาทจะกิน รถติ๊ดติด มีแต่เสียงบีบแตร นึกภาพถนนสีลมตอนยังไม่มีรถไฟฟ้า หลงเข้าไปไม่มีทางให้ออกอีก ต้องรอ รอ และรอ คนขับรถและจอดรถไม่เป็นระเบียบอย่างแรง กว่าจะหลุดมาได้ เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง ถนนสั้นๆแค่นี้










เอาของไว้ที่โรงแรม เค้าบอกว่าเดินเข้าเมืองได้ไม่ไกล๊ไม่ไกล ดันหลงเชื่อ เลยเดินซะเหนื่อย หิวก็หิว สงสัยคนที่นี่เค้าจะเดินกันระจำเลยไม่รู้สึกระยะทางขนาดนี้ มันไกลนะ

จริงๆแล้วไม่มีรมณ์ถ่ายรูปอะไรหรอกคะ หิวมากๆ แต่รอร้านอาหารที่โรงแรมแนะนำเปิด เค้าทานกลางวันกันตอน 11.30 am บางร้านเปิดบ่าย 1 ระหว่างหิวและหงุดหงิด หากาแฟดื่มแก้เซ็ง เจอขนมนี่แหละ เราเคยชิมที่งานท่องเที่ยวที่มิลาน อร่อยมากๆ มาถึงที่นี่ทั้งที จะพลาดได้ไง

เดินไปเกาะกระจกน้ำยายไหยยืด ขอซื้อ 2ชิ้น คนขายมองหน้ากัน and พูดภาษาใต้ ฟังไม่ออก เราหันไปมองหน้าคุณสามี สงสัยเราถูกเชือดแน่ๆ แต่กลับพลิกล็อก เค้าให้เราทานฟรีๆแหละ เป็นงง(และเสียใจมากที่มองเค้าในแง่ร้าย) และเราก็ดื่มกาแฟ(แรงเป็นบ้าเลย) จ่ายตังค์ในราคาปกติ..เริ่มชอบคนทางใต้










โบสถ์เล็กๆ นี้ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว มีเยอะทั้งใหญ่ทั้งเล็ก อยู่ใจกลางเมือง มีสวนหย่อมให้นั่งเล่น










สวนนี้ก็อยากดู แต่เค้าปิด ทริปนี้พลาดอะไรหลายอย่างเลย มีอะไรให้ดูเยอะ แต่กำลังเรามันไม่ไหว










ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงซะที เดินกลับไปที่ร้านอาหาร เมนูขึ้นชื่อของเกาะซิซิลี ที่เค้าบอกว่ามาแล้วต้องชิมคือ พลาสต้าต่างๆที่ราดด้วยซอสที่ทำมาจากมะเขือม่วง..

* (รูปขวาบน)Casarecce fresche ~ Pesce spada e melenzane ค่าเสียหาย 10 ยูโร พาสต้าหนาๆนี้เราไม่ค่อยชอบ แต่ซอสที่ราดทำมาจากมะเขือม่วงและปลาที่ปากยาวๆแหลมๆฮะคะ อร่อยลิศ ค่าเสียหายแพงกว่าที่คิด สงสัยเพราะทานในเมืองใหญ่ๆ

มาทริปนี้คุณสามีเค้าบ้ากับพืชชนิดหนึ่ง เรียกว่าปีสตักเกียว(Pistacchio) หรือปิสตักคีโอ ข้างนอกเปลือกหนาๆ เม็ดข้างในสีเขียว เอามาทำอาหารและของหวาน จานนี้คุณสามีเลยสั่งอาหารที่ทำมาจาก Pistacchio

*(รูปล่าง)Agnolotti con Pistacchi e prezzemolo จานนี้ก็อร่อยมากๆคะ จริงๆเราสั่งปลาหมึกชุบแป้งทอดด้วย แต่ก็เหมือนทุกครั้งคะ ถ่ายไม่ทัน ..แหะๆ










ไปเดินหาของหวานอันมีชื่อของชิชิลี นั่นก็คือ The Sicilian Cannoli ( I Cannoli siciliani ) มีเขียวๆโปะตรงหัวกะท้ายทั้ง 2 ข้างก็คือ Pistacchio คะ

ร้านนี้ขนมตรึม..เป็นร้านเก่าแก่ ชื่อว่า Savia เค้าเริ่มทำกันตั้งแต่ 1897
( Savia - Dolcezze Siciliane dal 1897) มีเวปด้วย ถ้าใครมีโอกาสไปไม่ควรพลาดที่จะลองคะ (คลิกดูเวปของร้าน)










มองไกลๆ อาจจะไม่เห็นความอลังการของ คานโนลี ( Cannoli )
นี่คะ.......ซื้อมาชิมคนละอัน ใหญ่ประมาณอุ้มมือ ชิ้นละ 2 ยูโร(โดยประมาณ) อร่อยมากๆ










ถนนสายหลัก สวยงาม ตึกซ้อมแซมแล้ว มีร้านค้าเยอะแยะ เมืองนี้อะไรเก่าๆกะใหม่ๆอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน *(รูปบนขวา) Anfiteatro Romanoบริเวณรูปบน ถ่ายไกลๆ มีเสาโบราณตั้งอยู่ข้างหน้า










เดินตรงไปเรื่อยๆคะ ถนนตรงๆ โบสถ์สวยๆ แต่จำชื่อไม่ได้ สัญลักษณ์ของเมืองนี้เป็นรูปช้าง ความเป็นมา ไม่ทราบคะ










*(รูปซ้ายบน) ตึกมหาลัย(เค้าเขียนว่าอย่างนี้ แต่ตอนนี้เค้าเอาไว้ทำอะไรก็ไม่แน่ใจคะ) ต้องข้ามถนนสองเลนส์เพื่อไปโบสถ์ ที่ควรระวังมากๆ รถเยอะ ตลอดเวลาเราจะได้ยินเสียงบีบแตร แต่อยู่หลายวันจะสังเกตุเห็น เค้าไม่ได้บีบแบบดุด่าว่ากล่าว แต่เค้าแค่บีบเบาๆ เหมือนการเตือนกันมากกว่าคะ
บริเวณจัตุรัส *(รูปซ้ายล่าง) รูปสลักสวยงามอยู่ด้านบนข้างล่างเป็นทางระบายน้ำ










ขายของที่ระลึกมีให้เลือกมากมาย ตุ๊กตาหุ่นเชิดเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งอขงเกาะซิซิลี










เราสนใจถ้วยชามรามไหมากกว่า ของขึ้นชื่อของเกาะซิซิลีเช่นกัน










เดินหา Castello Ursino ...(ขาเริ่มปวดจากการเดินทรหด) ดูไกลๆเหมือนเล็กๆ ลองให้ที่รักไปยืนที่ประตูเทียบขนาด ที่นี่ไม่เสียค่าผ่านประตู เสียแค่ 1 ลายเซ็นต์ เค้าเปิดให้ชมแค่บางส่วน เราเห็นบันไดอยากจะขึ้นไปชมวิว แต่เสียดายที่เค้าไม่เปิดให้คนทั่ว รูปบนเป็นพื้นดั้งเดิมของเค้า อีกรูปคืออะไรไม่ทราบคะ แต่เค้าเดินตามเราตลอดกลัวเราใช้เฟร็ตถ่ายรูป










บรรไดไปดูชั้น 2 มีภาพวาดของเก่า (แล้วเค้าก็หวงด้วยแหละ เดินตามตลอดเลย) สมบัติเก่าๆของเค้า ยังวางกองๆตากแดดตากลมข้างนอก










กลับถึงโรงแรมสะบักสะบอม คิดถึงยาหมองที่ลืมไว้ที่บ้าน ก่อนถึงโรงแรมเจอรถเทศบาลหน้าที่พัก เห็นผ่านๆนึกว่าของประเทศไทยซะอีก

PS.ใครมาเที่ยวเมืองนี้แล้วเช่ารถ ดูสัญญาเช่าให้ดีด้วยคะ ของเราเค้าระบุไว้ว่าห้ามจอดรถข้างทาง เป็นไปตามนั้น เราสักเกตุรถส่วนใหญ่ของเมืองนี้มีรอยไม่มากก็น้อย และที่จอดรถในเมืองนี้หายากมากๆ






พรุ่งนี้มีโปรแกรมไปภูเขาไฟเอดน่า

Create Date : 15 มีนาคม 2553		7 comments
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 6:10:22 น.
Counter : 16197 Pageviews.
Share Tweet