สะบายดีเมืองลาว - ย่ำราตรีหลวงพระบาง

หลวงพระบาง (3 พฤศจิกายน 2550)

Blog ต่อมาเร่งตามกันมาติดๆ มาถึงหลวงพระบางวันแรกก็เข้าที่พักแล้วก็ล้างหน้าล้างตาเดินเที่ยวต่อกันทีเดียวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่ก่อนจะออกเดินทางก็ขอแนะนำที่พัก "Udomsouk Guesthouse" ค่ะ





อุดมสุขเกสต์เฮาส์ ที่นี่เพิ่งเปิดได้ 6 เดือนเองสำหรับแหม่มคิดว่าที่พักดีชอบค่ะ อุปกรณ์ต่างๆ สะอาดใหม่ แต่กระดาษในห้องน้ำเป็นสีแดงนี่สิ แปลกจัง เราเช่า 3 ห้องๆ ละ 2 คน ราคาคืนละ 500 บาทเองค่ะ ที่พักของเราเข้าได้ 2 ทาง ทางแรกคือปากทางหน้าร้านโจมา ร้านเบเกอรี่ดังของที่นี่ ส่วนอีกทางจะเข้าทางใกล้ๆ ร้านกาแฟประชานิยม หาได้ง่ายมาก และจุดเด่นคือใกล้สี่แยกใกล้ไปรษณีย์





วันนั้นฝนตกลงมาปรอยๆ ด้วย ก็ผ่านหน้าไปรษณีย์ลาวมาแล้ว เจอร้านข้าวจี่ชุปไข่ปิ้งและร้านเมี่ยงของลาว แวะซื้อทานกันสักหน่อย ข้าวจี่ราคาอันละ 1,000 กีบ ส่วนเมี่ยงคำไม่ทราบราคา เด่วไว้ถามเจ้าเบียร์มาให้ค่ะ



เดินไปอีกนิดก็จะเป็นตลาดม้งขายของพื้นเมืองคล้ายๆ ภาคเหนือของไทยค่ะ ก็มีหลายร้านเหมือนกันนะคะ ที่นี่แหม่มได้กระเป๋าสีเขียวถูกใจมา 1 ใบ ชอบมากค่ะ พอเห็นนะก็พุ่งเข้าไปซื้อและต่อรองราคากันเลยทีเดียว และในที่สุดก็ได้มาในราคา 70 บาท โปรดชมกระเป๋าค่ะเพิ่งถ่ายเลย และ ชมบรรยากาศของตลาดม้งกัน


++ ใบนี้แหละค่ะ ราคา 70 บาท ที่แสนจะภูมิใจในการต่อราคา ++











เดิมชมตลาดม้งกันจนเพลินแล้ว (เหนื่อยแล้ว อิอิ) ตังส์ในกระเป๋าก็เริ่มออกมาเดินเล่นแบบไม่กลับกันบ้างแล้ว จากนั้นพวกเราก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อเดินเที่ยวหลวงพระบางในยามค่ำคืน เดินสักพักก็เจอร้านอาหารบุเฟ่ต์มังสวิรัติราคา 5,000 กีบต่อคน โดยตักเท่าไหร่ก็ได้ มากน้อยแค่ไหนก็ได้แต่ตักได้รอบเดียวเท่านั้นจ้าและเจอร้านขายกาแฟของลาวด้วย





เดินท่ามกลางฝนปรอยๆ ก็หนาวเหมือนกันแฮ่ะ อ่ะอ่ะเดินมาอีกหน่อยก็เจอตลาดมืด ตอนแรกเข้าใจผิดนึกว่าตลาดมืดคือตลาดขายของใต้ดิน แต่เพิ่งทราบว่ามีตลาดเช้าด้วย ทีนี้ถึงได้ถึงบางอ้อว่าตลาดเช้าจะขายของสด ส่วนตลาดมืดจะขายของแนวที่ระลึก แฮนด์เมด แต่มาชมบรรยากาศตลาดมืดกันก่อนของคืนนี้เลยค่ะ มีแต่ของสวยๆ งามๆ และของแปลกตา โปรดสังเกตุเต้นท์ที่นี่เค้าจะมีรูปร่างสวยงามกว่าเมืองไทยอ่ะคะ













เดินกันเพลิน จขบ. ว่าที่ตลาดมืดวันนี้ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาติดไม้ติดมือกลับมาเลย อิอิ น้องนุ่นและนู๋กุ้งบอกว่าวันนี้เดินถามราคาของก่อนดีก่าเรายังมีเวลามาซื้อที่ตลาดมืดอีกตั้งหลายวัน อืม.. เห็นด้วย ทีนี้ก็เริ่มหิวแล้วล่ะ ก็เดินไปหาร้านทานกันดีก่า ก็เดินไปเรื่อยๆ ดีนะที่ตลาดและร้านในกลางเมืองไม่ไกลกันเลย เดินกันเพลินก็ไปเจอร้าน Tum Tum Bamboo ก็เลยตัดสินใจเข้าไปทานกัน



ร้านนี้จะเป็นอาหารหลายสัญชาติมากเลย เจ้าของเป็นคนลาว สามีเป็นฝรั่ง ส่วนมากจะเป็นคนต่างชาติแบบฝรั่งตะวันตกแวะเข้ามาทานทั้งนั้นเลย มองๆ ไปเห็นมีกลุ่มเราคนไทยกลุ่มเดียวที่เป็นต่างชาติเอเซีย...555++ หัวดำอยู่กลุ่มเดียว อาหารที่พวกเราก็สั่งแนวไทยๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง ผัดกระเพราไก่ ผัดผักรวมมิตร ไก่ตะไคร้ (เหมือนต้มข่าไก่) แต่เป็นแบบคลุกคลิก และ ไอ้สุดท้ายขอเรียก "แกงเลียง" นะคะ เพราะว่าจำไม่ได้ว่าที่ลาวเค้าเรียกว่าอะไรแล้ว ส่วนรสชาติก็จืดๆ ไม่จัดจ้านเหมือนไทยอีกแล้ว ปริมาณอาหารที่ใส่มาในจานค่อนข้างเยอะ แต่ขอบอกอีกนิดว่าเด็กเสริฟร้านนี้หน้าตาหล่อม๊ากมาก หน้าตาอินเตอร์ทั้งน๊าน อิอิ อยู่ชมรม "รักเด็ก" อีกคนแว้ว เกี่ยวกันมั๊ยนี่ สรุปราคา 162,000 กีบ มื้อนี้กินหรูอีกแล้ว

ทานเสร็จก็คิดกันว่าพรุ่งนี้จะเที่ยวที่ไหนกันแล้ว ก็ได้ร้านรับจองทัวร์ครึ่งวันเพื่อเที่ยวน้ำตกตาดกวางสีและหมู่บ้านม้งกัน ราคาทัวร์ก็ตกคนละ 55,000 กีบ โดยรวมค่ารถตู้และค่าธรรมเนียมเข้าชม รถออกบ่ายโมงสิบห้านาที จากนั้นก็เดินชมเมืองกันต่อ











เริ่มได้เวลาที่ควรจะพักผ่อนกันได้แล้ว แกงค์ของเราก็ได้เดินทางกลับไปที่พักกัน ระหว่างทางไปเจอร้านเบเกอรี่หรือขนมขาย นู๋กุ้งก็ซื้อกลับไปรองท้อง อิอิ แหม่มได้อานิสงค์ไปด้วย

และแผนเที่ยวพรุ่งนี้ของเรา ช่วงเช้าเดินชมเมือง วัดสวยงามตามแผนที่ ช่วงบ่ายไปเที่ยวน้ำตกตามทัวร์ครึ่งวันตามทัวร์ที่เราจองไว้ จากนั้นก็เดินชมเมืองกันต่อ

จขบ. ว่าเมืองหลวงพระบางนี้ยังเล็กก่าเมืองพัทลุงบ้านแหม่มซะอีก แต่ที่นี่จะอนุรักษ์ของเก่าๆ ไว้สมเป็นมรดกโลกจริงๆ เลยค่ะ บรรยากาศดี๊ดี สงบ และไม่มีบ้านเรือนใหญ่โตสูงหลายชั้นเหมือนในเมืองหลวงกรุงเทพฯ ของเรา ที่เห็นมากสุดจะเป็น 5 ชั้นเองซึ่งสามารถนับจำนวนได้เลย แม้จะมีคนมาเที่ยวเยอะแต่ก็ไม่ได้พลุกพล่านจนเกินไป



ปล. ไว้ blog ต่อไปเที่ยวชมเมืองหลวงพระบางแบบเต็มๆ กันต่อเลยค่ะ

ผลการตรวจซีส // == > แวะเป็นกำลังใจ Click ที่นี่

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2550 Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 12:19:08 น. Counter : 2983 Pageviews.		45 comments
Share Tweet