ฟิค y นะคะ ใครหลงเข้ามาก็ขออภัยค่า
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

Short Fic Let me take you in my arms part 2End

akame and friend


ภายในห้องรับแขกของบ้านหลังเล็ก มีคนสองคนนั่งจ้องหน้ากันอยู่นาน
สองนาน
บางคนซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับอีกคนที่ไม่ยอมจรลีหนีหายไปไหน
สำรวจตรวจตราบ้านเค้าเสร็จยังจะมานั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงหน้าให้โมโห
จนเลิกโมโหไปแล้ว ตาแป๋ว ๆ ตอนนี้กลับหรี่ลง หรี่ลง เรื่อย ๆ เพราะฤทธิ์ยา
ผลสุดท้ายก็หลับคอพับคออ่อนลงบนโซฟา คนบางคนถึงกับอมยิ้ม
ให้กับความน่ารัก นึกว่าจะทนได้นานกว่านี้เสียอีก

“ คาซึยะ เข้าไปนอนในห้องนะครับ “ เอ่ยเสียงนุ่มกับคนตัวเล็ก
อุ้มไปยังประตูห้องที่มีรูปเต่าตัวเล็กตัวน้อยติดอยู่บนบานประตู
เสียงพึมพำดังออกมาจากปากสีชมพู แต่จับใจความไม่ได้ เมื่อจินวางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม เจ้าตัวเล็กก็ซุกหน้าเข้ากับหมอนหลับต่อ
จินเอื้อมมือเกลี่ยผมนุ่มที่ละใบหน้าบดบังความใสของแก้มออกเบา ๆ
ตาคมจ้องมองหน้าหวานของคนหลับอย่างหลงใหล เขี่ยจมูกโด่ง ๆ
แก้มนุ่ม ๆ เล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
เจ้าตัวเล็กคงรำคาญขยับใบหน้าหลบหนีมือ ซุกหายไปกับหมอนนุ่ม
กริยาน่ารัก ๆ ทำให้คนชอบแกล้งหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ ไม่กวนแล้วก็ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน ฝันดีนะตัวเล็ก “ ก้มลงกดจูบไปบนผมนุ่มก่อนผละออกห่างอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวอดใจไม่ไหว

.............................................
......................................
.............................

“ เฮียคิขอบใจมากนะเฮีย “ เจ้าตัวเล็กตบป้าบ ๆ ไปบนไหล่พี่รหัส
อย่างไม่มีเกรงอกเกรงใจ โทรมาปลุกตั้งแต่ตีห้า
บอกให้ไปรับมันที่บ้านหน่อยเพราะเดี้ยงเดินไม่ได้ หนอยไอ้เปี๊ยกนี่
มันเรียกใช้อย่างกะเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างเดลิเวอรี่
แต่อดตามใจมันไม่ได้ก็มันน่ารัก ( เฮ้ยไม่ใช่และ)
ถ้าไม่ตามใจมันมีหวังมันตามหลอกตามหลอนไปทั้งชาติ
ใคร ๆ ก็รู้กิตติศัพท์มันดี ไอ้น่าตาน่ารักนี่มันเอาไว้หลอกล่อให้ตายใจ
พอตกหลุมพรางมันก็ฆ่าอย่างเลือดเย็นก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ (- -“)
มันจะตามสิง ตามรังควาน ตามกดดันให้รำคาญแล้วก็ต้อง
ยอมมันไปเองโดยปริยาย อยากรู้นักไอ้นิสัยห่าม ๆ ของมันนี่
จะมีใครมาปราบจะยอมเลี้ยงม่าม่าคัพตลอดชีวิตเลยเอ้า

“ ฮิโระจ๋า ปลาทองน้อยของเค้าล่ะ “ กระโดดกระต่ายขาเดียว
ตรงไปหาฮิโระสุดสวยของคณะสถาปัตย์ ทิ้งพี่รหัสหน้าเหลี่ยม
ให้นั่งตาปริบ ๆ อยู่บนมอเตอร์ไซค์หน้าตาเฉย

“ ยังไม่เห็นเหมือนกัน เป็นไงบ้าง นั่งก่อน นั่งก่อน “ สุดสวยกุลีกุจอช่วยพยุงเพื่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้ประจำ

“ ปวดมากกกก ฮิโระ เนี่ยกดยังเจ็บอยู่เลยอ่ะ “ อ้อนเพื่อนรัก
จนพี่เหลี่ยมที่ยังไม่ไปไหนส่ายหัวไปมา

“ เฮีย!!! ยังไม่ไปอีกเรอะ “ หันมาถามพี่รหัสอย่างสงสัยเมื่อเห็นยังอยู่ที่เดิม

“ ไอ้เต่าแล้วตอนเย็นแกจะกลับไง ข้าน่ะติดโปรเจคนะโว้ย คงไปส่งแกไม่ได้หรอก “ ยังไงก็ห่วงมันอยู่ดี ขามันน่ะคงเจ็บเอาการ
เดินไปไหนมาไหนคงไม่ค่อยสะดวก

“ ไม่ต้องห่วงน่าเฮีย มีคนอาสาเยอะแยะเลือกไม่หวาดไหว “ ตอบพลางยักคิ้วแผล่บ
ให้พี่เหลี่ยมหมั่นใส้เล่น

ไอ้ตัวเล็กหัวเราะเอิ๊กอ๊ากตามหลังพี่รหัสที่ก่อนขับรถจากไป
เขวี้ยงค้อนมาทีนึง

“ เออพ่อเนื้อหอม ทีหลังไม่ต้องมาง้อเลยเอ็ง “

...........................................
..............................
......................

พักเที่ยงเพื่อน ๆ ต่างเดินตามกันเป็นขบวนตรงไปยังโรงอาหาร
แต่คนตัวเล็กถูกยามะพีกับฮิโรกิบังคับให้นั่งรออยู่กับโต๊ะหน้าคณะ
เพราะไม่อยากให้เดินไปเดินมามากนัก ส่วนทั้งคู่อาสาไปซื้อข้าวให้เอง

คนนั่งรอนั่งหน้าหงิกหน้างอ อย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
เคยเดินไปไหนต่อไหนได้สะดวก แต่ตอนนี้กลับต้องมานั่งจุ้มปุ้กอยู่กับที่ เลยทำให้พาลโมโหไปถึงไอ้ตัวการที่ทำให้ต้องอยู่ในสภาพนี้
เมื่อคืนเผลอหลับไปได้ไง มีคนหน้าด้านอย่างหมอนั่นนั่งอยู่ในบ้าน
ยังจะหลับลงอีก อดหงุดหงิดตัวเองไม่ได้เสียฟอร์มสุด ๆ
เมื่อเช้าเลยต้องรีบโทรหาเฮียคิให้มารับ ไม่อยากเจอหน้ากวน ๆ นักหรอก
อืมมมม แต่ตรงนี้ทำเลดีใช่เล่น มีสาวน้อยหน้าหวานเดินผ่านให้กระชุ่มกระชวยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หันไปเก๊กหล่อให้สาวน้อยทั้งหลาย
ที่เดินผ่านแถมส่งยิ้มมาให้แหม ๆ มีกรี๊ดให้ด้วย เรานี่ก็ใช่ย่อย
นั่งยืดอยู่สักพักความรู้สึกไม่ค่อยดีซะแล้วสาว ๆ ที่กรี๊ดให้เนี่ย
ชักแปลก ๆ เหมือนกรี๊ดผ่านหัวไปไงไม่รู้
เงยหน้าขึ้นดูก็เห็นสาเหตุ ไอ้คนกวนประสาทมันมายืนค้ำหัวอยู่เนี่ย
โอ้ย!!!! มันจะตามมาทำไมนักหนาวะ

“ เมื่อเช้ามาได้ยังไง มากับใคร ทำไมไม่รอ บอกว่าจะมารับไม่ใช่เหรอ “ เป็นชุดมาเป็นชุด ไอ้คนหน้าบูดเหมือนตูดลิง
มันใส่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ ก็ได้ยินอยู่ แต่ทำไมต้องทำตามด้วยล่ะ “ ตอบออกไปมั่งเมื่อตั้งสติได้ ไอ้เรื่องนั่งหงอเงียบเรียบร้อยน่ะไม่ใช่นิสัย

“ กินข้าวหรือยัง แล้วเอายามาด้วยหรือเปล่า “ เสียงนุ่ม ๆ ที่ถามกลับมาเปลี่ยนโหมดกะทันหัน เลยทำให้ปากที่กำลังเตรียมส่งวาจาเผ็ดร้อนต่อไปต้องหุบฉับลงอย่างงง ๆ

“ ยัง……เพื่อนไปซื้อให้อยู่ “

“ เอ้านี่..... ซื้อมาฝาก “ วางข้าวกล่องหน้าตาหน้ากินลงตรงหน้าคนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดที่เหลือบตามองอย่างสนใจ
ส่วนสาว ๆ ที่ยืนกรี๊ดกันอยู่เมื่อครู่ต่างยืนมองกันเป็นตาเดียว
หยุดกรี๊ดเหมือนโดนปิดสวิทจะอะไรซะอีกก็หนุ่มวิศว ที่สาว ๆ คลั่งไคล้
ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง มายืนทำหวานใส่หนุ่มน่ารัก
แสนเฮี้ยวแห่งสถาปัตย์น่ะสิ ข่าวใหญ่แห่งปีล่ะทีนี้
แล้วดูสิเอาอกเอาใจขนาดซื้อข้าวกล่องมาให้กันด้วย

“ อร่อยนะร้านนี้ ลองชิมหน่อยสิ “ นั่งลงข้าง ๆ คนตัวเล็ก พลางบรรจงเปิดกล่องข้าวออก
ยั่วน้ำลายพวกท้องยุ้งพุงกระสอบอย่างคนบางคน
ได้เป็นอย่างดีแถมจิ้มหมูย่างหน้าตาหน้ากินป้อนกันถึงปากเลยทีเดียว


“ ไม่ต้อง!!! กินเองได้ขาเจ็บนะ ไม่ใช่มือหัก “ กระชากซ่อมมาจากมือ
อย่างกระแทกกระทั้น
หันไปค้อนให้คนนั่งยิ้มข้าง ๆ ส่งหมูย่างเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ
เอ๋......มันอร่อยจริง ๆ ด้วยแฮะ แต่เรื่องอะไรจะบอก

ส่วนยามะพีและฮิโรกิที่ไปแย่งซื้อข้าวให้เจ้าตัวเล็กและของตัวเอง
ต่างก็รีบกลับมาเพราะรู้ว่าเพื่อนรักเต่าน้อย
อาจกลายเป็นไดโนเสาร์เต่ายักษ์ไปได้เมื่อโมโหหิว กลัวคนอื่นจะโดน
ลูกหลงเจอลูกเต่าขบหัว เมื่อมาถึงต้องเกิดอาการอึ้ง ทึ่ง แปลก
ก็สาว ๆ เพียบเลยอ่ามาทำอะไรกันแถวนี้ หรือมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เกิดขึ้นหน้าคณะถาปัตย์ ทั้งสองเพื่อนซี้ต้องอ้าปากค้างอีกรอบ
ก็จะอะไรเสียอีกเมื่อเห็นเต่าน้อยเพื่อนรัก
กำลังนั่งโซ้ยข้าวกล่องแก้มตุ่ย ข้าง ๆ มีชายหนุ่มที่ใคร ๆ ในมหาลัยนี้
ไม่รู้จักเป็นไม่มี
อ่อ.....อาจจะมีอยู่คน ก็ไอ้เต่านั่นไง ที่วัน ๆ มันไม่เคยสนใจใคร
อะไร ที่ไหน อยู่หนึ่งในนั้นนั่งยิ้มหล่อคอยส่งนั่น ส่งนี่ให้อย่างเอาอก เอาใจ

“ คาเมะ..... “ ฮิโรกิเอ่ยปากเรียกเพื่อนด้วยคิ้วผูกโบว์ บ่งบอกว่า
ไม่ค่อยเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่
ก็นะ รุ่นพี่ อคานิชิ จิน คนนี้ เป็นคนที่ไม่น่าจะโคจรมาสนิทชิดเชื้อ
กับเจ้าเต่าได้นี่นา

“ ฮิโระ ยามะจัง...... มาแล้วเหรอซื้อไรมากินอ่ะ “ ถามเพื่อนถึงของกิน
ทั้ง ๆ ที่ปากยังเคี้ยวตุ้ย ๆ อยู่เลย

“ รุ่นพี่เอารถไปคืน คาเมะหรือยังฮะ “ ยามะพีเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อน

“ ยังเลยซ่อมอยู่น่ะ “ ส่วนเจ้าตัวเล็กหันไปจ้องมองสำรวจตรวจตรา
คนข้าง ๆ เหมือนเพิ่งจะนึกสนใจเอ้าอยู่มหาลัยเดียวกันหรอกเรอะ
แถมเป็นรุ่นพี่อีก........... นี่ไม่คิดจะสนใจกันจริง ๆ ใช่ไหม (- -“)

“ อ่าวพี่จินหรอกเหรอฮะที่ขับรถเฉี่ยวคาเมะน่ะ “ ฮิโรกิอุทานออกมา โห...มิน่าจากที่เห็นสงสัยจะกลายเป็นอุบัติเหตุรักชัวร์ ฮิโรกิฟันธง

………………..

…………….

………..

“ คาซึยะ......กลับบ้านเถอะ “

เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วสำหรับบรรดาเพื่อน ๆ และคนในคณะสถาปัตย์
เห็นจนชินตา ได้ยินจนชินหู รุ่นพี่อคานิชิ จิน แห่งวิศวะ
ต้องโผล่หน้ามาหาทุกวันเช้า กลางวัน เย็น สามเวลากันเลยทีเดียว

“ ย้ายคณะเลยดีมั้ยไอ้จิน “ ไอ้คนแซวน่ะ ไม่ใช่ใครที่ไหน
เพื่อนสุดเลิฟนากามารุ ยูอิจินั่นแหละ ส่วนไอ้คนพูดไม่ได้ดูตัวเองเล้ย
ติดสอยห้อยตามมานั่งส่งตาหวานให้ยามะพี วันละสามเวลาเหมือนกัน

“ คาเมะกลับไปแล้วฮะพี่จิน “ ยามะพีหันมาตอบแทน มือเล็กกำลังง่วน
อยู่กับการเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมกลับบ้าน

“ พี่โคคิมารับเมื่อกี้ บอกว่าจะพาไปสมัครงานที่ใหม่ “

สมัครงาน ทำไมล่ะ ......คิดด้วยความโมโห เขาอยู่ทั้งคนถามกันสักคำไม่ได้เชียวเหรอ
ไอ้เจ้าโคคินั่นถ้ามันไม่พาไปสมัครที่บาร์
ก็คงเป็นร้านอาหารที่ใช้งานอย่างกับทาส อุตส่าห์โทรไปสั่งที่เก่า
ให้เลิกจ้าง ยังจะหาเรื่องลำบากใส่ตัว....ดื้อจริง ๆ เจ้าตัวเล็กนี่

“ ยามะจัง!!!!! พี่ยูมารับแล้วครับ “ ไอ้เพื่อนตัวดีมันส่งเสียงโหวกเหวก
มาแต่ไกล ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันจะถึงเลยด้วยซ้ำ หมั่นใส้มันจริง ๆ

“ ใครเขาอยากกลับกับนายไม่ทราบ มาทำไมทุกวัน น่าเบื่อจริง ๆ “

“ โธ่.....ยามะจังอ่ะ ไปขึ้นรถไฟให้คนเบียดทำไมครับ นั่งรถพี่ยูกลับ
สบายกว่ากันเป็นไหน ๆ

“ สบายกายน่ะใช่ แต่ไม่น่าไว้ใจเข้าใจไหม “ หันมาโค้งให้จิน
แล้วจ้ำอ้าวไปไม่เหลียวหลัง

“ เฮ้ยไอ้จินข้ากลับก่อนโว้ย “ ตะโกนลาเพื่อนที่ยืนหน้าหงิก
วิ่งตามหลังปลาทองไปจนฝุ่นตลบ

“ ยามะจัง!!! รอพี่ยูด้วยครับ “

จริงสินะตั้งแต่เจ้ายูมันเจอยามะพี ไม่เห็นมันชวนเขาไปสำมะเลเทเมา
ที่ไหนอีกเลย สงสัยคนนี้รักจริงหวังแต่ง แล้วเขาล่ะ
คาซึยะยอมให้ไปรับไปส่ง
อาจเป็นเพราะตอนนี้ขายังเจ็บ ถ้าขาหายล่ะ เขายังคงรับส่งได้อีกหรือเปล่า คงไม่สินะ
....................................
............................
...............

“ ขาหายเจ็บหรือยัง “ คนตัวสูงข้าง ๆ หันมาถามคนตัวเล็กที่นั่งสนอกสนใจโทรศัพท์
เครื่องเล็กในมือ รอสายเฮียคิน่ะสิ
ไหนว่าจะโทรบอกเรื่องงานนี่เกือบสองวันแล้วหายเฮดไปเลย

“ เอ่อ...อ่อ....ยัง ลงน้ำหนักมาก ๆ มันเจ็บแปล๊บ ๆ น่ะ “ ถามทำไม
เมื่อเช้าก็ถามทีแล้ว

“ ไปหางานใหม่ ได้หรือเปล่า “

“ ถ้าเขารับ ก็โทรหาเองแหล่ะ “ เอ่ยตอบห้วน ๆ เสหันหน้ามองข้างทาง
จนคนถามนึกหงุดหงิด ไม่อยากพูดด้วยขนาดนั้นเลยเหรอ

“ ถ้าหายเจ็บก็บอกแล้วกัน “ จะได้เตรียมใจเมื่อเวลานั้นมาถึง
คาซึยะคงไม่ยอมให้มารับมาส่งแบบนี้อีกคนตัวสูงคิดอย่างนั้น
แต่คนที่ได้ฟังกลับคิดไปกันคนละทาง
หลังจากรถสปอร์ตคันหรูจอดลงหน้าบ้านหลังเล็ก ร่างบางจึงผลุนผลันลง
จากรถโดยที่ไม่รอให้คนตัวสูงมาช่วยพยุงเหมือนทุกครั้ง
เดินกระเผลก ๆ ไปไขกุญแจประตูบ้านอย่างไม่สนใจ
คนที่วิ่งตามหลังมาด้วยความห่วงใยแม้สักนิด เปิดประตูได้ก็หันมาตวาดคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างโมโห

“ นายตามมาทำไม ส่งแล้วก็กลับไปสิ พรุ่งนี้ไม่ต้องมารับนะ “
กำลังจะปิดประตูใส่แต่ถูกคนร่างสูงดันไว้
ก่อนพาตัวเองเข้ามายืนประจันหน้ากับคนตัวเล็ก
ข้อศอกถูกดึงไว้ด้วยมือใหญ่เมื่อกำลังจะเบี่ยงตัวหนี
ไม่อยากตามรับตามส่งกันขนาดนั้นบอกกันตรง ๆ
ก็ไม่มีใครว่า คงทำให้เสียเวลามาหลายวันแล้วสินะ
จินมองใบหน้างองุ้ม ริมฝีปากบางขบกันแน่นบ่งบอกความไม่พอใจ
ของคนตรงหน้า เขาทำอะไรอีก
ถึงแสดงอาการออกมาแบบนี้ ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากคุยด้วยขนาดนี้
เลยหรือ

“ ถ้าไม่อยากเห็นหน้ากันนัก บอกมาคำเดียวจะไปให้พ้น ๆ “ ตัดพ้อออกไปอย่างน้อยใจ
จริงสินะถึงคาซึยะยอมให้เขามารับมาส่ง แต่พูดดีด้วยเป็นบางครั้งเท่านั้น

“ ใครกันแน่!!!! วันนี้ถามถึงเรื่องขาหายเจ็บหรือยังมากี่รอบแล้ว ถ้าเสียเวลามารับมาส่งนักไม่ต้องลำบากก็ได้ “
พยามปลดมือใหญ่ออกจากข้อศอก แต่กลับโดนรวบตัวมากอดไว้กับอกกว้าง

“ เคยพูดหรือไง ว่าเสียเวลา ว่าลำบาก “
คนตัวเล็กพยายามดันตัวเองออกจากวงแขนที่รัดแน่น ทำไมชอบกอดกันนักนะ รู้บ้างไหมว่ามันทำให้ใจเต้นทุกที
ที่ทำเพราะอยากแกล้งเล่นหรือไง หรือเป็นการค่าเวลา

“ ไม่ต้องพูดก็รู้ พรุ่งนี้นายไม่ต้องมาแล้ว เดี๋ยวให้เฮียคิมารับก็ได้ “

“ โคคิ โคคิ อะไร อะไร ก็ โคคิ สนิทกันมากเลยหรือไง “ ถามออกไปอย่างฉุน ๆ รัดอ้อมแขนแน่นขึ้นอย่างหงุดหงิด

“ ปล่อยนะ!!!! สนิทมากกว่านายแล้วกัน “ ทุบอกกว้างปึก ๆ ดิ้นสุดแรงหวังให้หลุดออกจากอกกว้างให้ได้
“ สนิทมากแล้วไง ไอ้เจ้าโคคิมันเคยกอดคาซึยะแบบนี้ไหม “ กระชับแขน
รัดเอวบางแน่นจนร่างกายแนบชิดกันทุกสัดส่วน
ไม่สนใจคนตัวเล็กที่พยามดิ้นรนแม้สักนิด

“ เคยแตะต้องคาซึยะ แบบนี้หรือเปล่า “ ฝ่ามืออุ่นลูบไล้แก้มใสแผ่วเบา ละเรื่อยลงมาจนถึงปากนุ่มสีชมพูซึ่งตอนนี้เจ้าตัวขบแน่น
แถมเบี่ยงหน้าหลบ แต่มืออุ่นกลับจับใบหน้าเล็กให้หันมาหา

“ อย่า.....อื้อ!!! “ เสียงห้ามขาดหายไปเมื่อปากนุ่มถูกริมฝีปากอุ่นร้อนบดเบียดแนบแน่นหนักหน่วงลิ้นอุ่นถูกส่งเข้าไปควานหาความหวาน
ตวัดดูดดึงลิ้นนุ่ม เสียงครางรอดออกมาจากริมฝีปากบาง
เมื่อจินถอนปากไล้จูบลงบนลำคอขาวขบเม้มเบา ๆ ทำให้เกิดรอยแดงสีกุหลาบเป็นจ้ำ ๆ ก่อนจะวกขึ้นไปดูดเม้มริมฝีปากแดงช้ำ
เลียไล้อย่างอ่อนโยน ปากบางเผยอออกน้อย ๆ เพราะแรงหอบหายใจ
มือเล็กกำอกเสื้อจินจนยับยู่ยี่ ร่างกายสั่นสะท้านจนจินรู้สึก

“ เคยทำแบบนี้หรือเปล่าคาซึยะ “ กระซิบถามอยู่ข้างใบหูเล็ก
ขบเม้มจนคนตัวเล็กสะดุ้งส่ายหน้าไปมา ซุกหน้าลงกับอกกว้าง
เพื่อหลบริมฝีปากอุ่นที่คลอเคลียไม่ยอมห่าง

เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายที่ล่วงหล่นอยู่กับพื้นข้าง ๆ
ทำให้คนตัวเล็กเริ่มขยับตัวออกห่างจากอ้อมแขนที่ยังรัดแน่นไม่ยอมคลาย

“ งานน่ะไม่ต้องไปทำ ไม่ให้ทำ ที่ไหนก็ไม่ให้ทำ “ คนตัวโตเอ่ยออกไปเสียงดังฟังชัด
แต่ถูกคนในอ้อมแขนเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าน่ารักที่ยังคงแดงระเรื่อเริ่มงอ

“ ไม่ทำงานจะเอาอะไรกิน ฉันไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนนาย ไม่ต้องทำงานไปทั้งชาติก็อยู่ได้น่ะ ปล่อย บอกให้ปล่อยไงเล่า โอ๊ะ!!! โอ๊ย.... “

ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อทิ้งน้ำหนักลงบนขาที่เจ็บอย่างลืมตัว เพราะอยากจะดิ้นหนีอ้อมแขนคนที่ทำให้โมโห เจ็บจนน้ำตาคลอ

“ เห็นไหมเล่า เด็กดื้อ “ เอ่ยเสียงนุ่ม พร้อมกับอุ้มคนหน้ามุ่ยไปวางลงบนโซฟาแต่รอยยิ้มที่ระบายบนหน้า ทำให้อีกคนไม่พอใจหนักเข้าไปอีก เปลี่ยนโหมดจนตามไม่ทันคนบ้าอะไร

“ ยิ้มอะไร “ รอยยิ้มของคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าทำเอาคนตัวเล็กทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
ซะเฉย ๆ เสก้มลงมองข้อเท้า ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาหวาน

“ ก็ดีใจที่คาซึยะยังไม่หาย พี่จะได้หาเรื่องมารับทุกวันไง “ คำตอบทำเอาคนได้ฟัง
ไม่รู้จะเอามือไม้ที่เกะกะของตัวเองไปวางไว้ตรงไหน

“ แล้วงานน่ะ อย่าทำเลยนะ พี่ไม่ชอบ “

“ ชอบหรือไม่ชอบเกี่ยวอะไรกันด้วยล่ะ “ เงยหน้าแดง ๆ ขึ้นเถียง
แต่ถูกคนตัวโตฉกจูบที่ริมฝีปากงอน ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ในความน่ารัก
ขบเม้มเคล้าเคลียไม่ยอมห่างพอได้สัมผัสอดใจไม่อยู่ซะแล้วสิ

“ พี่ไม่อยากให้คนที่พี่รักเหนื่อยผิดด้วยเหรอ “ เอ่ยตอบกับปากบาง
ที่กำลังกัดเบา ๆ แต่ถูกมือสั่น ๆ ของคนตัวเล็กเอื้อมมาปิดริมฝีปากรุกราน
เสียก่อน
ตาใสแจ๋วสบเข้ากับตาคมหวานอย่างลังเลสงสัย
ปากบางเผยอน้อย ๆ เหมือนกำลังอยากจะถามบางสิ่งบางอย่าง
ปากน่าจูบจริง ๆ คนอะไร จินคิดเคลื่อนนิ้วสวย ๆ
ไล้ไปบนริมฝีปากบางเบา ๆ แต่ถูกคนตัวเล็กงับนิ้วซน ๆ นั่นเสียก่อน

“ โอ้ย!!! เจ็บนะครับคาซึยะ “ ชักนิ้วหนีฟันคมของคนตรงหน้า

“ คนฉวยโอกาส ปล่อยหน่อยชักได้ใจ “ แว้ดเข้าให้เสียงเขียว
เผลอนิดเดียวโดนค้ากำไรเกินควรพลักอกคนตัวโตให้ถอยห่าง ทั้ง ๆ ที่แก้มใสยังคงแดงก่ำ บอกรักกันได้หน้าตาเฉย ไม่รู้จักอาย

“ ผู้ชายบอกรักกันได้ไง ฟ้าผ่าพอดี ไปบอกบรรดาสาว ๆ ที่กรี๊ดนายเป็นเข่งโน่นไป
แล้วก็กลับบ้านได้แล้ว “ ถอยหนีคนตัวโตที่ตอนนี้นั่งตาปริบ ๆ
จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอมองเห็นหน้าแดง ๆ
ปากสั่น ๆ ที่ขบเม้มเข้าหากันแน่นจึงเริ่มเข้าใจ
คนปากแข็งคงอายล่ะสิถึงพยายามหาทางชิ่งหนี

“ ไม่กลับ จนกว่าคาซึยะรับปากก่อนว่าจะไม่ไปทำงานที่ไหนอีก “
เจอผู้ใหญ่ดื้อแถมหน้าด้านอีกคนเลยไปไม่เป็น

“ แล้วกับพี่รหัสหน้าเหลี่ยมนั่น ไม่ต้องไปสนิทมากนักก็ได้ “
เอากับพี่ท่านสิ คนตัวเล็กที่ไม่เคยยอมลงให้ใครยังต้องสงบปากสงบคำ
เพราะดูไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควรถ้าเกิดขัดใจตอนนี้

“ แล้วเมื่อไหร่จะเรียกชื่อ เรียกนาย นายอยู่นั่น คนอื่นเค้าเรียกกันเยอะแยะ
ชื่อยาวเป็นวาซะก็เปล่า “
จากเสียงนิ่ง ๆ เรียบ ๆ เริ่มเปลี่ยนโทนแปลก ๆ จนคนฟังชักใจไม่ดี
จะทำไงกันล่ะทีนี้เจอคู่ต่อสู้ที่ใช้วิธีโกงทุกรูปแบบจะเอาชนะอย่างไรล่ะนี่
เสียงโทรศัพท์เริ่มดังจากกระเป๋าใบเล็กที่กองอยู่บนพื้น
คนตัวเล็กได้แต่ปรายตามอง แต่จินกลับลุกขึ้นเดินไปหยิบ แถมคว้าโทรศัพท์ในกระเป๋า
ออกมาดูหน้าตาเฉย

“ นายจะทำอะไร “ เสียงโวยวายดังมาจากคนตัวเล็ก
พลางกระโดดหยองแหยงเข้าหาหน้าตาเอาเรื่องสุด ๆ
ไม่กงไม่กลัวมันแล้ว เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์จากจากคนตัวโตที่หันหน้าหนี
ทำให้หน้าคมำจมูกโด่งเลยชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเต็ม ๆ

“ อื๋อ!!! นายนี่มันน่านัก “ เอ่ยออกมาอย่างขัดใจ เพราะทำอะไรไม่ได้
อย่างที่คิด

“ ถ้าได้ยินคำว่านายออกจากปากอีกล่ะก็ จะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ “ จินหันหน้ากลับมาหาอย่างรวดเร็ว หน้าตาตอนพูด ไม่เหมือนคนล้อเล่นเลย
สักนิดจนทำให้คนตัวเล็กถอยหลังหนีโดยอัตโนมัติ
เอื้อมมือออกไปรับโทรศัพท์ ที่จินส่งให้อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ สบตาคมอย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก

“ บอกไปเลยว่าไม่ทำแล้วงานน่ะ “
คาซึยะกดรับโทรศัพท์ด้วยหน้ามุ่ย ๆ เมื่อได้ยินคนตัวโตพูด
อยากให้พูดแบบนั้นใช่ไหมจัดให้แต่ไม่ได้บอกว่าจะทำตามเสียหน่อย
เชอะอย่าหวังเลย

“ ฮัลโหลเฮีย..... เออน่าก็รับแล้วนี่ไงบ่นทำไมนักหนา ไปทำไม่ได้แล้วงานน่ะ
ขามันเจ็บขึ้นมาอีกแล้วคงไปทำไม่ไหวอ่ะ เออ เออ เดี๋ยวกิน
ไม่ต้องห่วงน่าไม่ใช่เด็กอมมืออ๊ะ!!! “
โทรศัพท์ถูกกระชากไปจากมือโดยคนที่ยืนฟังอย่างไม่สบอารมณ์

“ อะไรของนา.......จินเนี่ย “ เปลี่ยนสรรพนามอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะเผลอหลุดคำที่ทำให้ไม่ปลอดภัยต่อตัวเอง

“ ฮัลโหลนายไม่ต้องห่วง คาซึยะมีคนดูแลอย่างดีแล้ว ธุระมีแค่นี้ใช่ไหม บาย “ กดปิดฉับ ส่วนคาซึยะตอนนี้อ้าปากเหวอไปแล้ว
เฮียจะเข้าใจว่าไงล่ะ พรุ่งนี้โผล่ไปไม่ต้องตอบคำถามทั้งวันหรือไง
แต่พี่เหลี่ยมของเรานี่สิ ยืนมองโทรศัพท์ตาปริบ ๆ สักพักจึงหัวเราะออกมาเสียยกใหญ่ท่ามกลางสายตาคนที่เดินผ่านไปมา
คงกำลังนึกสงสัยคนหน้าแปลกแถมทำตัวแปลก
ได้ยินไอ้เต่าแสบมันเอ่ยชื่อจินสุดหล่อแห่งคณะวิศว คนที่เทียวรับเทียวส่งเต็มรูหูเลยนี่
ท่าทางต้องเสียมาม่าคัพตลอดชีพซะล่ะมั้ง

ส่ายหัวเกรียนไปมาขับมอไซค์คู่ใจออกไปอย่างอารมณ์ดี มีคนมารับช่วงดูแลไอ้ตัวป่วนค่อยโล่งใจหน่อยคนที่มารับไม้ต่อดูไปดูมาคงไม่ธรรมดา
เอาเจ้าแสบอยู่แน่นอน

“ คาซึยะจะกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ทำให้ “ คนตัวโตถามคนตัวเล็กที่ยืนหน้ามุ่ย
อยู่ตรงหน้าอย่างเอาใจเหมือนเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนโดน
ส่งค้อนกลับมาให้

“ ในตู้เย็นไม่มีของเหลือแล้วมั้ง ขาเจ็บเลยไม่ได้ไปซื้อของเข้า “

“ เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาทำให้ คาซึยะอยากกินอะไรครับ “

“ ไม่ต้อง บะหมี่ถ้วยก็ได้ ลำบากเปล่า ๆ ฉันทำเองได้ แค่รินน้ำร้อนใส่
จะยากอะไร “ เสียงห้วน ๆ ที่ตอบมาจากปากคนตัวเล็ก
ทำให้จินต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจ

“ คาซึยะ ทำไมไม่เข้าใจสักทีว่าพี่ทำทั้งหมดนี่เพราะอะไร
พี่คอยเป็นห่วง พี่ตามรับตามส่งเพราะว่าพี่เต็มใจ
ที่พี่ถามเรื่องขาของคาซึยะเพราะว่าพี่กลัว กลัวว่าพอขาหายเจ็บ
คาซึยะจะไม่ให้พี่มาหาอีก ไม่ให้พี่มารับมาส่งคาซึยะอีก
พี่กลัวรู้ไหม “ เดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่ตรงหน้า
พลางคว้ามากอดไว้แนบอก

“ คาซึยะ…..พี่ขอเป็นคนปกป้องคาซึยะได้ไหม พี่ขอดูแลคาซึยะไปตลอดชีวิตได้ไหม
พี่รักคาซึยะได้ยินหรือเปล่าครับ “ ก้มถามชิดหน้าผากเนียน
ส่วนคนตัวเล็กตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว
เมื่อได้ยินคำสารภาพออกจากปากเจ้าของอ้อมกอดอุ่น แต่เสียงที่ดังออก
มาจากท้องนี่สิทำให้อายยิ่งกว่า

“ ไหนบอกจะไปซื้ออะไรให้กินไง คนหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย “

“ หึ หึ หึ “ คนตัวโตได้แต่หัวเราะ พลางกอดรัดตัวเล็กแน่นขึ้นอย่างหมั่นเขี้ยว
ในความน่ารักน่าชัง ถึงไม่ได้ตอบรับออกมาตรง ๆ
แต่เท่าที่ยอมให้กอดโดยไม่ดิ้นหนี หรือฮึดฮัดใส่
ก็มากเกินพอแล้ว ต่อให้หนีก็ไม่มีทางหนีพ้นหรอก
ยังไงก็ตามจับมาอยู่ในอ้อมกอดจนได้แหละน่า

“ งั้นขอรางวัลหน่อย จะได้มีแรงขับรถไปซื้อของอร่อยให้กิน “

“ เอ๋…..อย่าน้า ไม่ ไม่ ปล่อยเลย “ เสียงโหวกเหวกโวยวายค่อย ๆ เงียบลง
ไม่รู้ว่าคนตัวโตขอรางวัลแบบไหนจากคนตัวเล็ก
แต่งานนี้รู้อย่างเดียวเฮียคิเสียมาม่าคัพตลอดชีพชัวร์




End จ้า

หายไปนานขอบคุณคนอ่านจ้า ขอบคุณคนเม้นด้วยน้า
รักนะจุบุ จุบุ
















 

Create Date : 25 มิถุนายน 2552
5 comments
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 18:48:37 น.
Counter : 567 Pageviews.

 

สนุกอะ

 

โดย: บิว IP: 118.173.85.15 8 กรกฎาคม 2552 19:58:42 น.  

 

เอ่ รางวัลแบบไหนกันน๊า ~~~

55+

ชอบค่ะ หนุกหนาน ๆๆ

 

โดย: nande~~ IP: 58.9.156.83 22 สิงหาคม 2552 0:49:15 น.  

 

น้องมีงอนด้วย น่ารักมาก
จินขอรางวัลหวานหรือเปล่า
สนุกมากเลย ไว้แต่งแบบนี้อีกนะค่ะชอบ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ilovejinme IP: 58.11.40.117 10 มกราคม 2553 21:24:17 น.  

 

ฟิคไรเนี่ยยยยยย....น่ารักกกเว่อร์อะ นั่งอ่านไปยิ้มไปจนเพื่อนว่าบร้าแล้วเนี่ย 55 น่ารักมากๆๆเลยค่ะ บรรยายไม่ถูกมันมีชีวิตชีวาน่ะ

ขอบคุณที่แต่งฟิคสนุกๆมาให้อ่านนะคะ วันหน้าแต่งอีกนะจะเข้ามาอ่าน

น่ารักทั้งคาเมะจังและิจินคุงเลยยย

 

โดย: MaEwA IP: 122.154.33.87 23 พฤษภาคม 2553 11:49:14 น.  

 

อ่านไปยิ้มไป น่ารักมากๆ

 

โดย: จินเมะ IP: 110.49.87.159 14 สิงหาคม 2553 2:57:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mamesu
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ถ้าใกล้กว่านี้ก็กลัวว่าเธอจะถอยไป ห่างใจฉันไปไกลไม่กลับมา
Friends' blogs
[Add Mamesu's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.