"Laughter will always be the best medicine"
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 มีนาคม 2560
 
All Blogs
 
Sutter's Mill+Rhinestone Cowboy สองบทเพลงคันทรี่ในดวงใจที่ไพเราะตลอดกาล




ขอบคุณผู้อัพโหลด JMEagle101






"Sutter's Mill" และ "Rhinestone Cowboy" เป็นสองบทเพลงคันทรี่ ในดวงใจ
ที่ฟังเมื่อไหร่ก็ไพเราะตลอดกาล โดยเฉพาะเพลง "Sutter's Mill" ชอบเสียงแบนโจกับเม้าท์ออแกนในเพลงนี้มากๆ
ฟังแล้วนึกถึงบรรยากาศชนบทของฝรั่ง หรือหนังคาวบอย และเพลงนี้ Dan Fogelberg ร้องได้เท่ห์สุดๆ ฟังเพลินมากมาย
-- อันที่จริงเคยนำทั้งสองเพลงมาลงบล็อกครั้งนึงแล้วเมื่อปี 2556 แต่วันนี้นำมาปัดฝุ่นเปิดฟังอีกครั้งค่ะ --










Dan Fogelberg แต่งเพลงนี้ในวันคล้ายวันเกิดปีที่ 33 ที่รัฐเมน
อยู่ในอัลบัม High Country Snows ในปี พ.ศ. 2528
หลังจากกลับจาก Telluride Bluegrass Festival
เขาตั้งใจที่จะเขียนเพลงที่เป็นความเป็นมาของบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกา
ที่เคยคิดจะทำนานแล้ว

ปัจจุบัน Dan Fogelberg ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อ เมื่อวันที่ 16
ธ.ค.50 หลังจากต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมาตั้งแต่ปี 2004
เขามีเพลงดังๆในบ้านเราหลายเพลงเช่น Sutter's Mill, Rhythm Of The Rain,
Leader Of The Band และ....Longer






Sutter's Mill


In the Spring of Forty-seven,
So the story, it is told,
Old John Sutter went to the mill site
Found a piece of shining gold.

Well, he took it to the city
Where the word, like wildfire, spread.
And old John Sutter soon came to wish he'd
Left that stone in the river bed.

For they came like herds of locusts
Every woman, child and man
In their lumbering Conestogas
They left their tracks upon the land.

Some would fail and some would prosper
Some would die and some would kill
Some would thank the Lord for their deliverance
And some would curse John Sutter's Mill.

Well, they came from New York City,
And they came from Alabam'
With their dreams of finding fortunes
In this wild unsettled land.
Well, some fell prey to hostile arrows
As they tried to cross the plains.
And…






คำอธิบาย โดยละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเพลง


ในศตวรรษที่ 19 John Sutter ผู้บุกเบิกการขุดทองแห่งเมือง Coloma, รัฐ California
ณ ริมฝั่งแม่น้ำของอเมริกา เป็นครั้งแรกที่ถูกบันทึกไว้คือในเดือนมกราคม 1848 เขาขุดพบทองจำนวนมากจนกลายเป็น
ตำนานของเพลง "sutter's mill" และเป็นตำนานแห่งยุคตื่นทองในแคลิฟรอเนียที่ทำให้ผู้คนกว่า 300.000 คน
หลั่งไหลเข้าไปในแคลิฟรอเนียด้วยความหวังที่จะเป็นเศรษฐีกับการค้าทอง กลุ่มผู้ขุดทองรุ่นแรกๆถูกเรียกว่า "forty-niners"
ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นที่มาของชื่อทีม อเมริกัน ฟุตบอล ชื่อดัง หรือที่เรียกว่า "ทีมนักขุดทอง"





ยุคตื่นทอง (Gold Rush) ในสหรัฐอเมริกา


คุณค่าของโลหะทองคำในสายตาของมวลมนุษย์นั้นมีค่ามากมหาศาลเมื่อเทียบกับโลหะมีค่าชนิดอื่นๆ
แต่ก่อนหน้า ค.ศ. 1848 ใครจะเชื่อว่าฐานะและบทบาทของทองคำเมื่อเทียบกับโลหะเงินในทางเศรษฐกิจและการค้าของ
ประชาคมโลกแล้ว ถือว่าน้อยจนกระทั่งไม่อาจจะเทียบกันได้เลย





การค้นพบสายแร่ทองคำครั้งยิ่งใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ


กลางฤดูหนาวอันเย็นยะเยือกของ ค.ศ. 1847-1848 ที่โรงเลื่อยของจอห์น ออกัสตัส ซัตเตอร์ ชานเมืองซาคราเมนโต
คนงานผู้หนึ่งนามว่า "จอห์น มาร์แชล" ได้พลัดตกลงไปในธารน้ำข้างโรงเลื่อยและบังเอิญได้พบว่าโคลนในแม่น้ำที่ตนตกลงไปนั้น
เต็มไปด้วยทองคำ

ข่าวการค้นพบทองคำครั้งนี้ของเขาแพร่กระจายไปทั่วเมืองในเวลาอันรวดเร็ว คนนับพันต่างทะลักกันมาที่โรงเลื่อยดังกล่าว
พร้อมกับอุปกรณ์ขุดค้นหาทองคำที่คาดว่าจะร่อนทอง ได้ทั้งในแม่น้ำและริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งทองคำที่พบในอเมริกานี้ มีลักษณะเป็นฝุ่นผง
ขนาดเล็กที่ต้องนำไปร่อน และหลอมด้วยวิธีพิเศษเท่านั้นเพื่อให้ฝุ่นผงเกาะตัวกันเป็นสินแร่และก้อนทองคำที่มีค่า

เสียงร่ำลือที่กระจายออกไปดุจไฟไหม้ป่าทำให้ ผู้คนต่างหลั่งไหลอพยพมาราวกับฝูงแมลง ผู้หญิง เด็กและพวกผู้ชาย
เดินทางมาในเกวียนไม้มีประทุนลากด้วยม้า ทิ้งรอยไว้เป็นทางนับ 100 ไมล์

ภายใน 1 ปีถัดจากนั้นมา กระแสตื่นทองคำได้ผลักดันผู้คนนับแสนพากันหลั่งไหลเข้ามาในรัฐแคลิฟอร์เนีย
และเมื่อถึง ค.ศ. 1853 จำนวนคนตื่นทองพุ่งขึ้นไปมากกว่า 300,000 คนเพราะกระแสตื่นทองคำไม่เพียงแต่นำนักแสวงโชค
ที่มากับความเพ้อฝันที่จะร่ำรวยในชั่วข้ามคืน หากยังนำคนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างพ่อค้า นักการเงิน นักการพนัน และอื่นๆ
เข้ามาด้วย บางคนก็ล้มเหลว..มีบ้างที่ร่ำรวย บางคนก็ล้มตายไป..ส่วนบางคนถูกฆ่า บางคนสวดอ้อนวอนกับพระผู้เป็นเจ้า
ขอพรให้ได้ทองจำนวนมากพอที่จะทำให้ชีวิติของพวกเขาเปลี่ยนไป





พวกเขาพากันมาจากนิวยอร์ค มาจากอลาบามา ด้วยความฝันที่จะพบกับโชค ในดินแดนป่าเถื่อนเต็มไปด้วยชนพื้นเมือง
หรือพวกอินเดียนแดง เพื่อไปยังดินแดนที่ยังไม่มีใครตั้งถิ่นฐาน

ผู้คนพากันดั้นด้นไปจนถึงแคลิฟอร์เนีย บ้างก็หยุดและตั้งถิ่นฐานตามรายทางจนกลายเป็นชุมชน จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิ
ของปี 1860 พวกเขาก็เปิดเส้นทางมุ่งสู่ตะวันตก มีการสร้างทางรถไฟเชื่อมจากทางตะวันออกไปยังตะวันตก

บริเวณที่พบแร่ทองคําหรือการทําเหมืองแร่ทองคํา จะถูกขุด โค่นต้นไม้ ปรับพื้นที่แผ้วถางป่าจนทําให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์และสภาพแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซานฟรานซิสโก เมืองเก่าของชุมชนสเปนในอดีต ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้กลายมาเป็นแหล่งชุมชนที่มั่งคั่ง
เพราะเป็นศูนย์กลางการค้าของยุคตื่นทอง และยั่งยืนต่อมา แม้ทองจะหมดไปก็ตามที นอกจากนั้นแล้ว ซานฟรานซิสโก
ยังได้กลายเป็นแหล่งรับคนงานเหมืองชาวจีนที่ถูกระดมมาจากเมืองจีน ซึ่งถือได้ว่าเป็นกรรมกรอพยพรุ่นล่าสุด
ของอเมริกายุคหลังสงครามกลางเมือง

คนงานชาวจีนเหล่านี้ไม่ได้มาเพราะสมัครใจ หากมีหลักฐานจำนวนมากที่ยืนยันว่า คนงานชาวจีนเหล่านี้ ส่วนใหญ่
ถูกแอบอุ้มมาจากโรงยาฝิ่นในหัวเมืองชายทะเลของจีน แล้วส่งลงเรือกลไฟเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาที่ซานฟรานซิสโก
ก่อนจะถูกแจกจ่ายให้กับนายจ้างยังเหมืองทองคำที่ต่างๆ

จำนวนชาวจีนที่หลั่งไหลเข้ามายังอเมริกาในช่วงตื่นทองนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้นายจ้างอเมริกันได้เรียนรู้พลังของแรงงาน
ผิวเหลืองจากเอเชียตะวันออกเท่านั้น หากยังได้ทำให้ชาวจีนจำนวนมากได้เรียนรู้ที่จะอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตกในเวลาต่อมาด้วย
จนทำให้ชุมชนการค้าของชาวจีนในซานฟรานซิสโกได้กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุคตื่นทองที่มีเอกลักษณ์
มาจนถึงปัจจุบันซึ่งเรารู้จักกันในนามของ "ไชน่าทาวน์"


CR:goo.gl/RwZiLz







Rhinestone Cowboy







Rhinestone Cowboy


I've been walking these streets so long
Singing the same old song
I know every crack and crevice
out here in Broadway
Where hustle's the name of the game
And white boys get washed down the drain like the snow and the rain
It's easy love compromising
On the road to my horizon
But I wanna be where the lights are shining on me
Like a rhinestone cowboy
Riding out on a horse in a star-spangled rodeo
Like a rhinestone cowboy
Getting cards and letters from people I don't even know
And offers coming over the phone
Well, I really don't mind the rain
And a smile can hide all the pain
But you're walkin these streets so long out here in broadway
And i dream of the things I'll do
With a subway token and a dollar tucked into my shoe
It's easy love compromising
On the road to my horizon
But I ganna be where the lights are shining on me

Like a rhinestone cowboy
Riding out on a horse in a star-spangled rodeo
Rhinestone cowboy
Getting cards and letters from people I don't even know
And offers coming over the phone
Like a rhinestone cowboy
Riding out on a horse in a star-spangled rodeo
Rhinestone cowboy
Getting cards and letters from people I don't even know
Like a rhinestone cowboy





"Rhinestone คือเพชรพลอยปลอมที่นิยมใช้ตกแต่งเครื่องแต่งกายแนวลูกทุ่ง แต่คาวบอยที่แท้เขาจะไม่ใส่มันเลย
Rhinestone Cowboy คือใครก็ได้ ที่ต้องการเป็นคาวบอยตัวจริง แต่เขาไม่ใช่คาวบอยที่แท้
มันเหมือนกับคนที่ซื้อรถออฟโรด แต่ดันขับมันแค่แถวๆ ชานเมืองนี่มันก็เหมือนกับพูดว่า
คนเรามักใฝ่ฝันจะเป็นอย่างหนึ่ง แต่ความเป็นจริงมันดันไปเป็นอีกแบบหนึ่ง"







"Larry Weiss" ผู้แต่งเพลงนี้ให้สัมภาษณ์หลังจากเพลงนี้ดังไปทั่วโลกว่า
เพลงนี้เป็นการสรุปความรู้สึกของเขาต่อคาวบอยที่เป็นวีรบุรุษในดวงใจของเขาจากหนังเรื่อง Hopalong Cassidy
(เป็นหนังเกี่ยวกับคาวบอยขาเป๋ที่ชอบช่วยเหลือคนและเก่งเรื่องปืนมาก) ซึ่งความชื่นชม
และอยากเป็นคาวบอยอย่าง ฮอพอะลอง แคสสิดี้ ของเขานี้ แม้จะมากเพียงใด แต่ในชีวิตจริงแล้ว
เขากลับต้องดำรงชีพด้วยการพยายามสร้างชื่อเสียงจากการแต่งเพลงอยู่แถวๆ โรงละครบรอดเวย์เท่านั้นเอง

เพลงนี้กล่าวถึงบรอดเวย์ด้วยและเนื้อความถ่ายทอดความรู้สึกของนักแต่งเพลง
ที่ต้องต่อสู้แย่งชิงเพื่ออาชีพและความโด่งดังของ Weiss บนถนนบอร์ดเวย์ ซึ่งเปรียบเสมือนหนึ่ง
ความใฝ่ฝันอยากจะเป็นคาวบอยของเขาในวัยเด็กนั่นเอง แต่ในอีกมุมมองหนึ่ง

คนอเมริกันบางคนก็มักใช้คำว่า "Rhinestone cowboy" หมายถึงนักร้องลูกทุ่งที่อยากมี
ชื่อเสียงติดระดับในวงการ ไม่ได้หมายถึงอยากเป็นคาวบอยเสมอไป (มีคนๆ หนึ่งโพสต์ไว้ว่า
" Don't be an idiot. Rhinestone Cowboy is about a country singer who wants to be famous. Not a wannabe
cowboy" - Paula, Lexington, KY)


CR:goo.gl/jPkv1n
ขอบคุณไลน์สวยๆจากคุณ Rainfall in August










Create Date : 31 มีนาคม 2560
Last Update : 1 สิงหาคม 2560 19:12:15 น. 25 comments
Counter : 3305 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณกะว่าก๋า, คุณmoresaw, คุณClose To Heaven, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณเรียวรุ้ง, คุณฝากความคิดถึงไปกับสายฝน, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณmastana, คุณรัชต์สารินท์, คุณหอมกร, คุณSweet_pills, คุณMitsubachi, คุณcomicclubs, คุณmcayenne94, คุณpantawan, คุณInsignia_Museum, คุณTui Laksi, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณที่เห็นและเป็นมา


 
สวัสดีคะคุณแหม่ม

เราคงจะอายุมากแล้วเน้อะ..

ได้ทันฟังเพลงฮิตในอดีตทั้ง 2 เพลงนี้เลย..อิอิ

โหวตให้เลยคะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:6:08:42 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณแหม่ม


ชอบทั้งสองเพลงเลยครับ
แต่จะชอบ Sutter's Mill มากกว่า
เพราะตอนหัดล้นกีตาร์ใหม่ๆ
ผมใช้เพลงนี้ฝึกร้องเพลงด้วย


โหวต Music Blog ครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:6:37:30 น.  

 
สวัสดีครับ
มาฟังเพลง เพราะทั้งสองเพลงเลย
และยังได้ทราบที่มา กับความหมายด้วยดีครับ


โดย: moresaw วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:7:11:03 น.  

 
mambymam Music Blog ดู Blog

บุ๊งว่าเพลงแนวนี้ฟังสบายดีค่ะพี่แหม่ม


โดย: Close To Heaven วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:8:36:30 น.  

 
เพลงแรกนี่น่าจะเป็นเพลงคันทรี่แรกๆ เลยค่ะที่หนูรู้จักหละพี่แหม่ม

ขอบคุณสำหรับความรู้เสริมด้วยนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Eat Lek Lek Review Food Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:8:45:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาฟังเพลงคันทรี่ในดวงใจพี่แหม่ม เลยได้รู้ที่มาด้วย

mambymam Music Blog


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:9:29:50 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่าพี่แหม่ม

ก๋วยเตี๋ยวหลอด ตัวไส้หมูแดงหนูชอบนะคะ

ทาร์ตก็อร่อย แต่ซาลาเปาไส้หมูแดงอร่อยค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:11:07:16 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับคุณแหม่ม

ผมเล่นแบบเปลี่ยนคอร์ดให้ง่ายขึ้นน่ะครับ
เล่นคีย์ Am F G C
แต่เนื้อเพลงยาวมาก 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:12:06:31 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
zungzaa Parenting Blog ดู Blog
ออมอำพัน Literature Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Hobby Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
พันคม Literature Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Pet Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Review Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog

มาโหวตให้คุณแหม่มค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:13:38:58 น.  

 
รับแมวสักตัวมั้ยล่ะคะ^^


โดย: ความคิดถึงฉันหอมหวาน วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:13:54:47 น.  

 
มาบล็อกนี้เรียกได้ว่ามาฟังเพลงดังวันวานเลย เป็นเพลงคันทรี่ที่ติดหูครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:17:24:06 น.  

 
ชอบทั้งสองเพลงค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:20:14:35 น.  

 
เพลงโปรดของอ้อ
ร้องได้ทั้ง สองเพลงเลย

และหากเข้าโรงหนังสกาล่า
จะเปิดเพลงนี้ในชุดเพลงก่อนหนั
โฆษณา
และก่อนหนัง ตัวอย่าง
ก่อนหนังฉายค่ะ

Vote music blog ค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 31 มีนาคม 2560 เวลา:20:33:11 น.  

 
เพราะค่ะพี่แหม่ม ได้ความรู้ด้วย


โดย: ออมอำพัน วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:5:27:18 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับคุณแหม่ม



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:6:38:55 น.  

 
mambymam Music Blog ดู Blog
เพลงร่วมสมัยเลยนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:8:18:37 น.  

 
เพลงไพเราะมากค่ะคุณแหม่ม
ได้ทราบประวัติเพลงด้วย
ขอบคุณนะคะ

mambymam Music Blog

สุขสันต์วันหยุดค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:10:50:07 น.  

 
ชอบเพลงเก่าๆสมัย 80 คะ
ฟังได้ตลอดกาล เพลงปัจจุบันนี้
สู่เพลงเก่าๆไม่ได้เลยคะ



โดย: Mitsubachi วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:11:04:01 น.  

 
ยุคบุกเบิกของอเมริกาเลยนะคะ
ย้อนนึกถึงหนังสือ ชุด บ้านเล็กในป่าใหญ่ของ ลอร่า อิงกัลล์
เป็นหนังสือ และ ซีรีส์อีกชุดที่ชอบมากๆค่ะ ไม่ทราบพี่แหม่มเคยอ่านรึเปล่า ลอร่า บรรยายวิถีชีวิตยุคนั้นไว้ละเอียดเป็นปูมชีวิต ประมาณ สี่แผ่นดินของไทยเลยค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:12:51:24 น.  

 
เพลงเพราะมากๆครับ
ยามบ่ายครึ้มฟ้าครึ้มฝน ฟังเพลงแบบนี้นึกครึ้มๆไปกับฟ้าฝน
จะตกหรือไม่ตกก็ไม่กังวลครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:15:09:47 น.  

 
สวัสดีคะคุณอหม่ม
เราก็ชอบเพลงคันทรีนะคะเพลงที่ 2
เคยฟังบ่อยมาก...แต่ที่ชอบในบล๊อกวันนี้
คือเรื่องราวที่มา ที่เรายังไม่เคยอ่านมาก่อน ชอบแต่ฟังเพลงคะ
ขอบคุณคะ

mambymam Music Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:17:36:08 น.  

 
ขอบคุณครับคุณแหม่ม



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:21:59:25 น.  

 
ชอบแดนมากค่ะ เพลง Longer เพราะได้ใจมว๊ากกกกก
ขอบคุณคุณแหม่มมาก ๆ ที่แวะไปโหวตให้นะคะ
ยังไม่ว่างเล่นบล็อกแบบเต็มตัว
เลยต้องปิดเม้นท์ที่บล็อกต่ออีกสักพัก
อากาศร้อนมาก รักษาสุขภาพด้วยค่ะ


โดย: haiku วันที่: 1 เมษายน 2560 เวลา:22:08:50 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับคุณแหม่ม



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 เมษายน 2560 เวลา:5:46:44 น.  

 
เพลงคันทรี่ของฝรั่งก็ให้ความรู้สึกคล้ายเพลงลูกทุ่งของไทยเหมือนกันนะคะ ชอบค่ะ

mambymam Music Blog ดู Blog


โดย: Raizin Heart วันที่: 2 เมษายน 2560 เวลา:10:24:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

mambymam
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 296 คน [?]




เขียนบล็อกเพื่อผ่อนคลาย
ไว้พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ
และไว้ฟังเพลงเพราะๆด้วย
สาระบล็อกนี้จึงมีไม่มาก
ไปเรื่อยๆ หนุกๆ สบายๆ
ไม่ซีเรียสค่า



ขอขอบคุณทุกคะแนนโหวต ที่มอบให้กับบล็อกนี้ค่ะ



BG Poppular Awards#13


BG Poppular Awards#12


BG Poppular Awards#11


BG Poppular Awards#10


BG Poppular Awards#9


BG Poppular Awards#8

New Comments
Friends' blogs
[Add mambymam's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.