|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มะระ
ชื่อ : มะระจีน
ชื่อสามัญ : Bitter cucumber-chinese
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Momordica charantia Linn.
วงศ์ : CUCURBITACEAE
ชื่อ : มะระขี้นก
ชื่อสามัญ : Bitter gourd
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Momordica charantia Linn.
วงศ์ : CUCURBITACEAE
มะระมีรสขม แต่ทำไมคนชอบกิน
คำโบราณที่แพร่หลายว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา นั้นไม่เคยตกยุค เพราะยาอีกจำนวนมากยังคงขมอยู่ บางคนอาจเถียงว่ายาบางชนิดก็หวาน (กินอร่อย) แต่นั้นเป็นการเติมน้ำตาลหรือรสเพื่อกลบรสขมมากกว่าการที่ยานั้นหวานโดยตัวมันเอง
ทำไมสิ่งที่ใช้เป็นยาจึงต้องขม กินก็ยาก ก็คงเพราะขมนี่แหละที่ทำให้เรารู้ว่านี่คือยา ไม่ใช่ของกินเล่นหรือขนม และคงต้องรักษาสุขภาพให้ดีไว้ก่อนที่โรคาพยาธิจะเบียดเบียน และต้องกินของที่ขม ที่แสนขื่นลิ้นอย่างยาทั้งหลาย (อันนี้ผู้เขียนคิดเอง)
แต่ทุกอย่างก็ต้องมีข้อยกเว้น มีรสขมบางอย่างที่อร่อย นั่นคือมะระ
กว่าจะรู้ว่ารสขมนี้แสนอร่อยปานใดก็ต้องรอให้เติบโตจากเด็กเล็กมาสู่เด็กโตสักนิด เพราะอย่างไร ๆ เด็กส่วนมากถึงมากที่สุดก็ไม่ถูกกันกับรสขมอยู่ดี คงฝังใจจากการถูกบังคับให้กินยาเมื่อป่วย ต่อให้มะระนั้นขมน้อยลงด้วยวิธีการต้มก็ตามที
ชนิดของมะระ
มะระที่เราว่าคุ้นนั้นมี 2 ชนิด อย่างแรกคือมะระจีน หรือบางทีก็เรียกมะระเฉย ๆ ผลจะมีลักษณะอวบอ้วน ลูกโต สีเขียวอ่อน และรสขมน้อยกว่าอีกชนิดหนึ่ง คือมะระขี้นก ที่ขมมากกว่า (บางคนอาจบอกว่าขมกำลังดี) ชนิดนี้ผิวตะปุ่มตะปำป้อม ๆ ลูกเล็กกว่า และมีสีเขียวเข้มกว่า มีเนื้อบาง ปลูกง่ายกว่ามะระจีน
มะระชอบดินร่วนซุย แดดแรง สำหรับมะระขี้นกบางทีก็ขึ้นเอง ออกดอกออกผลเองให้เราเก็บกินสบาย ๆ อยู่ตามรั้วตามดิน
ถิ่นกำเนิด
มะระจีนนั้นว่ากันว่าเป็นพันธุ์ที่นำมาจากเมืองจีน ซึ่งก็คงนำเข้ามานานนักหนาแล้ว ลักษณะลำต้น ใบ ดอกนั้นแทบไม่ต่างจากมะระขี้นก เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า ก็อ่อนกว่าเล็กน้อยและขนาดผลของมะระจีนใหญ่กว่ามาก เส้านผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-8 เซนติเมตร เนื้อหนา ผิวขรุขระ มีเมล็ดแบน ๆ สีเหลืองอื่น อยู่ในเนื้อฟ่าม ๆ ตรงกลางลูก เมื่อแก่จัดเนื้อในผลจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม และมักถูกแลงกัดกินได้ง่าย การรับประทานจึงต้องระมัดระวังเรื่องการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และควรใช้น้ำยาล้างผัก หรือด่างทับทิมแช่ไว้สักครู่ก่อนนำมาประกอบอาหาร
ส่วนมะระขี้นกนั้นเป็นผักพื้นบ้านของไทย เป็นที่นิยมรับประทานกันแพร่หลายมานานแสนนานแล้ว และมีความต้านทานโรคดีกว่ามะระจีน
คุณค่าทางอาหาร
คนไทยนิยมกินมะระกันหลากหลายรูปแบบโดยไม่หวั่นต่อความขม เมนูหลัก ๆ ที่เป็นที่ชื่นชอบกันก็ได้แก่ ต้มจืดมะระ ถ้าขมนักก็เติมผักกาดดองเล็กน้อยเพื่อตัดรสขม หรืออาจต้มโดยเปิดฝาหม้อไว้หรือต้มนาน ๆ ท่านผู้เชี่ยวชาญแนว่าจะทำให้รสขมลดลงเล็กน้อยเหลือแต่ความขมอร่อย ต้มจืดหรือตุ๋นมะระยัดไส้หมูสับซึ่งเป็นของโปรดของเด็ก (หมูสับข้างในท่อกลวงของมะระจะถูกเด็ก ๆ เอาออกมากินก่อนเสมอ) แกงคั่วมะระ มะระผัดไข่ ลวกหรือต้มจิ้มน้ำพริก กินกับขนมจีนน้ำยา ส่วนมะระสดฝานนั้นเห็นวางเคียงมากกับหมูมะนาวและกุ้งแช่น้ำปลา อย่างหลังนี้เป็นที่ถูกใจพวกคอเหล้า และคอของสดอย่างยิ่ง นัยว่ามะระสดนั้นช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสขมที่กลมกล่อมให้กับของสด ๆ เป็นพิเศษ
ส่วนมะระขี้นกนั้นเมนูน้อยกว่า เพราะรสชาติที่ขมมากกว่ามะระจีน โดยมากก็เห็นเพียงต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก แต่หากว่ามีกะทิสดราดมาด้วยก็จะทำให้รสเอร็ดขึ้นมาก ขมนั้นจะเป็นเสนห์ขึ้นมาโดยพลัน นอกจากผลแล้ว ใบของมะระขี้นกก็นำมาทำอาหารได้ อย่างแกงทางอีสานบ้านเรานั้นก็นิยมนำใบมะระขี้นกใส่ลงไปในแกงเห็ดแบบพื้นบ้านจะช่วยให้รสชาติของแกงหม้อนั้นกลมกล่อมมากขึ้นเพราะมีรสขมนิด ๆ มาช่วยทำให้ครทุกรส บางที่ก็นิยมนำมาต้ม หรือลวกจิ้มน้ำพริกเหมือนกัน ครั้งหนึ่งเมื่อผู้เขียนยังเด็ก ได้กินมะระขี้นกยัดไส้หมูสับต้มจืด ต้มนานสักนิดพอให้รสขมเจือจาง
ประโยชน์
ส่วนคำที่ว่าหวานเป็นลมขมเป็นยานั้น สำหรับมะระก็ต้องว่าจริงแท้แน่เทียว เพราะมะระขี้นกนั้นมีพิเศษขึ้นมาอีก คือน้ำต้มรากกินเป็นยาลดไข้ บำรุงธาตุ เป็นยาฝาดสมาน แก้ริดสีดวงทวาร แก้บาดแผลอักเสบ
ใบเป็นยาเจริญอาหาร ช่วยระบาย น้ำคั้นใบกินเป็นยาทำให้อาเจียน บรรเทาอาการท่อน้ำดีอักเสบ ดอกชงกินกับน้ำแก้อาการหืดหอบ ผลกินเป็นยาขม ช่วยเจริญอาหาร บำรุงร่างกาย ขับพยาธิ แก้ตับและม้ามอักเสบ เมล็ดใช้เป็นยาขับพยาธิตัวกลม
เพราะคุณสมบัติที่โดดเด่นเรื่องสมุนไพรนี่เองที่ปัจจุบันมีผู้สนใจรับประทานกันแพร่หลาย ใครที่ไม่ชอบกินสดเพราะความขมก็มีแบบแคปซูลให้กินง่ายขึ้น หรือจะคั้นน้ำมะระมารับประทานสัปดาห์ละไม่เกิน 1 แก้ว เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด และเป็นยาระบาย เคยมีความเชื่อฮือฮาเป็นข่าวมามื่อไม่กี่ปีนี้ว่าผลมะระขี้นกช่วยยับยั้งเชื้อเอดส์ในร่างกายมนุษย์ ช่วงนั้นมะระขี้นกขายดีเป็นพิเศษแทบเกลี้ยงตลาด หากคิดว่าเป็นการปรับสมดุลในร่างกายแล้วก็มีความเป็นไปได้มากทีเดียว
มะระมีฤทธิ์เย็น จึงมีคำแนะนำว่าไม่ควรรับประทานติดกันเกินไป กินแค่พอเย็นๆ ใจ เว้นระยะบ้างแล้วช่วงที่เว้นก็ลองรับประทานอาหารผักอย่างอื่น ๆ ให้ร่างกายเกิดสมดุล แล้วค่อยกลับมากินใหม่ให้ชื่นใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ท
Create Date : 30 สิงหาคม 2554 |
|
40 comments |
Last Update : 30 สิงหาคม 2554 17:03:50 น. |
Counter : 3628 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 31 สิงหาคม 2554 16:07:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 1 กันยายน 2554 20:45:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 3 กันยายน 2554 22:58:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 5 กันยายน 2554 20:16:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 6 กันยายน 2554 23:51:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 9 กันยายน 2554 12:57:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 10 กันยายน 2554 21:54:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 12 กันยายน 2554 16:00:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 14 กันยายน 2554 0:23:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 16 กันยายน 2554 13:08:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 18 กันยายน 2554 15:06:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 19 กันยายน 2554 21:13:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 20 กันยายน 2554 21:17:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 22 กันยายน 2554 0:34:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 23 กันยายน 2554 0:42:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 27 กันยายน 2554 15:05:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 29 กันยายน 2554 13:44:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 2 ตุลาคม 2554 20:42:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 4 ตุลาคม 2554 19:36:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 7 ตุลาคม 2554 23:20:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 9 ตุลาคม 2554 20:33:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 10 ตุลาคม 2554 22:50:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 11 ตุลาคม 2554 23:18:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 13 ตุลาคม 2554 17:45:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 16 ตุลาคม 2554 0:54:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 20 ตุลาคม 2554 23:10:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 22 ตุลาคม 2554 0:11:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 23 ตุลาคม 2554 16:30:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 24 ตุลาคม 2554 22:42:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 6 พฤศจิกายน 2554 23:09:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 15 พฤศจิกายน 2554 18:47:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 25 พฤศจิกายน 2554 1:28:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 3 ธันวาคม 2554 14:45:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 6 ธันวาคม 2554 12:37:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 24 ธันวาคม 2554 21:37:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 27 ธันวาคม 2554 20:45:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 30 ธันวาคม 2554 21:37:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 22 มกราคม 2555 14:10:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 24 มกราคม 2555 16:40:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 16:43:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
* กลบท สารถีชักรถ ๑,๒ *
หอมสวาทแหนหวงถนอมรสหอมสวาท
เจ็บอกคลาดรอยเหน็บคลายเจ็บอก
รื่นรกหวังซ่านกลืนซึ้งรื่นรก
เลือนลดหมกมุ่นเตือนฟุ้งเลือนลด
ตื่นฝันเคลิ้มเคลิ้มฝืนซ่านตื่นฝัน
หมายหมดพลันคล้ายคล้ายราญหมายหมด
รุ้งพจน์ประสงค์ประสงค์ปรุงในรุ้งพจน์
เมียงพาดระทดเคืองคาดคาดพาดเมียง
ขัดข้องมลายมลายลัดลดขัดข้อง
ใสเสียงจองเพลงไหวใสใสเสียง
คอยเคียงพิสมัยพิสมัยพลอยมาคอยเคียง
ป่าปานเลี่ยงนิทรานิทราไกลป่าปาน
หรรษาด้วยจุมพิตชุ่มหรรษา
หอมหวานพาจินต์ล้อมหวิวหอมหวาน
สำราญหลงไหลร่ำแสนสำราญ
ใจปองน้ำตาลใฝ่คืบใจปอง
หอมขลังซ่านก่อกล่อมให้หอมขลัง
เดินต้องยังพฤกษ์เพลินจิตเดินต้อง
หมายมองหมื่นหอมร่ายเข้าหมายมอง
ละเมอล่องไม่ผละจินต์ละเมอ