Group Blog
 
 
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

เรื่องเล่าคุณแม่ ตอน "จีจี้..ลืมตาดูโลก"

วันที่ 18 พฤษภาคม 2551

จุดเริ่มต้น 7.30 น. ออกเดินทางไป รพ. แต่เช้าพร้อมแวะใส่บาตร ก่อนถึง รพ.
(รู้สึกแปลกๆ ว่าวันนี้ฉันจะได้เจอหน้าใครสักคน ที่แสนพิเศษ และก็รอมานานแล้ว)



ไปถึงโรงพยาบาล ตรวจและทำความสะอาดร่างกาย พร้อมรอคุณหมอมาทำคลอด
จะเข้าห้องผ่าตัด เวลาประมาณ 8.45 น. นอนรออยู่หน้าห้องผ่าตัดกับคุณแม่สามี
ที่มาเป็นกำลังใจให้


นี่คือทางเข้าห้องผ่าตัด อีกเดี๋ยวคุณพยาบาลก็จะมาเข็นเข้าไป


คุณสะมี มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ทาง รพ. อนุญาตให้คุณพ่อเท่านั้น
ที่เข้าไปเป็นเพื่อนได้เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่และเก็บภาพได้
แต่ว่าคุณสะมีก็ยังแอบหวั่นๆกลัวเลือดนิด..นิด เราก็ขอร้องตั้งนาน
จนวินาทีสุดท้าย
ทีมพยาบาล มาออกันที่เตียงจะเข็นเข้าไป
เห็นอาการคุณพ่อหน้าเจื่อนๆ เลยบอกว่า
"ถ้าคุณพ่อไม่แน่ใจก็ไม่ต้องเข้าไปนะคะ
เพราะว่าถ้าเกิดเป็นลมขึ้นมาในห้องผ่าตัดไม่มีคนช่วยนะคะ
วันก่อนก็มีคุณพ่อท่านนึงเกือบเป็นลมค่ะ"
อืม (คิด...คิด...คิด) ตัดสินใจอยู่สักพักก็ ...OK... ค่ะ

 
เข้าไปถึงก็โดนยาบล๊อคหลังไปหนึ่งเข็ม เพื่อให้เรา ชาและไม่รู้สึกเจ็บ
ตั้งแต่ช่วงใต้หน้าอกลงไป แต่เราจะสามารถรับรู้และได้ยินเสียงลูกได้
(ถ้าสมัยก่อนจะดมยาสลบ แต่สมัยนี้เค้าไม่ดมกันแล้ว เพราะแม่ดมยาสลบ
ลูกก็จะสลบไปด้วย ซึ่งมีผลทั้งแม่และลูก) คุณหมอจะผ่าบริเวณหน้าท้อง
ที่ไฟส่องอยู่นั่นแหละ ตามแนวขวาง หมอเรียกว่า แนว "Bikini"


คุณหมอเริ่มผ่า แต่ตัวเองไม่รู้สึกเจ็บอะไรสักนิด รู้แต่ว่ามีคนกำลังจัดการอะไร
กับหน้าท้องเราตั้งหลายคน อุตส่าห์หันไปถามคุณสะมีว่า "เค้าลงมือผ่าหรือยัง?"
ไอ้คนของเราก็ไม่ตอบ ไม่รู้ว่ากลัวเรา..จะกังวล หรือ กลัวซะเอง
เราแค่อยากรู้ว่ายาบล๊อคหลังเนี่ยะ มันออกฤทธิ์แล้วรึยัง แค่นั้น
(แต่ก็ชาไปแล้ว) สักพัก หมอบอกว่า เอาล่ะนะ หมอจะกดหน้าท้อง
เพื่อให้เด็กออกมาแล้วนะคะ  หน้าเหมือนเจ็บ แต่ไม่เจ็บเลย
เพราะแค่อึดอัดมันหายใจลำบากอะค่ะ ที่เค้าต้องกดท้องเพื่อให้หัวน้องโผล่มา
และให้การผ่าตัดคลอดมีกระบวนการใกล้เคียงกับวิธีการคลอดธรรมชาติมากที่สุด
ปรากฎว่าลูกเราหัวใหญ่ค่ะ หมอกดอยู่ 3 ครั้งใหญ่ๆ กว่าจะออกมา


คุณหมอบอกว่า "เอาล่ะ น้องกำลังจะออกมาแล้วนะคะ" แต่คุณแม่มองไม่เห็นค่ะ
เพราะมีม่านกั้นท่อนล่างเอาไว้ สักพักก็ได้ยินเสียงร้อง...อุแว๊ ของคุณลูกออกมา
วินาทีนั้นน้ำตามันซึมออกมาเองค่ะ แอบหันไปมองหน้าคุณพ่อน้ำตาก็ซึมเหมือนกัน
ตื้นตันที่ลูกปลอดภัย และรู้เลยว่าวินาทีของการเป็น "แม่" ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
(เนี่ยะนะซึ้งเลยที่มีหลายๆ คนเคยบอกไว้ว่า
พอเรามีลูกเป็นของตัวเองแล้วจะเข้าใจว่าแม่นั้นรักเราขนาดไหน มันไม่มีข้อจำกัดจริงๆ นะ)


คุณหมอก็นำน้องมาให้คุณแม่เห็นหน้าใกล้ๆ ค่ะ ดีใจสุดๆ
ได้เห็นหน้าน้องเป็นครั้งแรก ส่วนคุณพ่อก็เก็บภาพเรา แม่-ลูก เป็นการใหญ่


แล้วคุณหมอก็นำน้องกลับไปติดชื่อ ก่อนที่จะแยกคุณแม่ไปที่ห้องสำหรับ
รอดูอาการประมาณ 2 ชม. ส่วนคุณลูกก็เข้าตู้อบเพื่อออกไปห้องเด็ก


ห่อตัวน้องก่อนเข้าตู้อบ


คุณย่า กะ คุณยาย ยืนรอลุ้นเห็นหน้าหลาน กันอยู่หน้าห้องคลอด


คุณแม่ไปพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยปกติ ตามโปรแกรม ถ้าผ่าตัดคลอด
ต้องพักฟื้น 4 วัน 3 คืน แต่สองวันแรกก็เจ็บแผลเลยไม่สามารถ
ลงไปให้นมลูกที่ห้องเด็กได้ ทำให้ไม่เห็นหน้าน้องมา 2 วัน
เลยให้คุณพ่อไปเก็บภาพน้องมาให้ดูว่าออกจากตู้อบแล้ว ลูกเราเป็นไงบ้าง


วันที่ 3 ของการพักฟื้น วันนี้เดินไหวไม่หน้ามืด และคิดว่าแข็งแรงพอจะ
ลงไปให้นมลูกได้ แต่ก็ยังตึงแผลอยู่ใช่ย่อย ตอนคลอดไม่เจ็บเลย
แต่พอหมดฤทธิ์ยาก็ปวดบ้าง แต่แค่ทานยาแก้ปวดก็หาย มันเจ็บก็จริงแต่ว่าทนได้
อีกอย่างก็คิดถึงและอยากเห็นหน้าลูกมากกว่า ทำให้รู้สึกว่าต้องแข็งแรงเร็วๆ
จะได้ลงไปเจอลูก และวันต่อมาก็แข็งแรงพร้อมกลับบ้านกันทั้งแม่และลูก


หวัดดีค่ะ ขอแนะนำตัวนะคะ หนูชื่อ ด.ญ.ณิชาภัทร (จีจี้) เกิดเวลา 9.22 น.
น้ำหนักแรกคลอด 3,900 กรัม ค่ะ

**โปรดติดตามตอนต่อไป**




 

Create Date : 22 กันยายน 2552
0 comments
Last Update : 23 กันยายน 2552 11:55:16 น.
Counter : 3810 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


mob.keng
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Friends' blogs
[Add mob.keng's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.